Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา – บทที่ 14 ความตั้งใจแน่วแน่

อ่านนิยายจีนเรื่อง Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา ตอนที่ 14 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
บทที่ 14 ความตั้งใจแน่วแน่

อันธพาลผู้ที่ระเบิดประตูบ้านของลูเซียนเห็นว่าไม่มีปฏิกิริยาจากข้างใน เขาจึงรีบเข้าไปตรวจสอบ จากนั้นก็กลับออกมารายงานเจ้านายผู้มีใบหน้าธรรมดาไม่โดดเด่นสะดุดตา “ท่านแจ็คสันขอรับ ข้างในนั้นไม่มีใครเลย ทุกอย่างก็เก็บไว้เรียบร้อยมาก”

แจ็คสันตอบด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร “เราเสียเวลาไปมากกับการเค้นข้อมูลของเจ้าหนุ่มนี่จากเจ้าเฒ่าโคเฮ็น แต่ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้มาช้าไป ฮ่าๆ แม้ว่าแม็กกับอังเดรจะเป็นแค่เศษสวะโง่ๆ แต่พวกมันก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง”

คนอื่นๆ ได้ยินเขาพูดถึงแม็กกับอังเดร ก็พลันคิดถึงสภาพอเนจอนาถยามแม็กกุมส่วนล่าง และรู้สึกว่ามีสายลมเย็นเยียบวูบผ่านกลางหว่างขาพวกเขาอย่างไรชอบกล ส่วนอังเดรที่ยืนอยู่หน้าสุด แอบดีใจอยู่เงียบๆ เพราะถ้าเจ้าเด็กนั่นมีของดีๆ แล้วหอบเงินหนีไป จุดจบของเขาคงเลวร้ายน่าดู แต่แน่นอนว่า มันย่อมดีกว่าแม็กที่หมอบอกว่าเขาต้องนอนอยู่บนเตียงไปหนึ่งสัปดาห์

“อังเดร เจ้าเข้าไปดูว่ามีอะไรแปลกๆ หรือไม่” แจ็คสันสั่ง

ถึงเวลาที่อังเดรจะได้แก้ตัว เขาจึงเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นไม่กี่นาที อังเดรก็ออกมาพร้อมกับสีหน้าประหลาดๆ ในมือถือเศษของสิ่งของหลายชิ้น “ท่านแจ็คสันขอรับ ในลังไม้ของเจ้าหนุ่มมี ‘ขยะ’ อยู่เยอะมากขอรับ”

ลูเซียนนึกคร่ำครวญที่ยังมีของอีกหลายชิ้นที่เขาไม่มีเวลาจัดการกับมัน หากมองแวบแรก พวกมันอาจดูเหมือนขยะก็จริง แต่ถ้าพวกเขารู้แล้วว่าลูเซียนนำของไปขายที่ตลาดในหลายๆ วันที่ผ่านมา และถ้าพวกเขาฉลาดสักหน่อย ก็ย่อมนึกออกว่าตนจะหาทางร่ำรวยได้อย่างไร

แต่ว่าเขาตัวคนเดียว และกลัวว่าจะถูกจับได้ แต่ละครั้งที่เขานำของเข้ามาจึงมีไม่มาก และสามารถขายได้ไม่กี่เฟลล์ แต่ถ้าแก๊งอารอนเข้าควบคุมที่ทิ้งขยะข้างแม่น้ำแล้วล่ะก็ ด้วยกำลังคนและความคุ้นเคยกับเขตตลาด มันอาจเป็น ‘ประตู’ ไปสู่รายได้มหาศาล ด้วยเหตุนี้ พวกเขาไม่มีทางยอมปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ ดังนั้นเขาจึงต้องหาลู่ทางทำเงินรูปแบบใหม่

แจ็คสันเหลือบมองขยะในมืออันสั่นเทาของอังเดร “ข้าคิดว่าข้ารู้แล้วล่ะ ว่าเขาไปได้ทองแดงภูเขามาจากที่ใด เฮอะ ทางโบสถ์เป็นคนจัดการกับมันทุกๆ สามวัน เราจึงไม่เคยคิดว่ามันอาจจะมี ‘ขุมทรัพย์’ อยู่ในกองขยะข้างแม่น้ำเบเล็ม ทั้งขยะจากพระราชวัง คฤหาสน์ขุนนางทั้งหลาย เขตปกครองนอกเมือง สมาคมนักดนตรี สมาคมช่างตีเหล็ก และจากสมาพันธ์ทหารรับจ้าง ทั้งหมดนั้นจะไปรวมกันอยู่ข้างแม่น้ำเบเล็ม ฮ่าๆ ขยะในสายตาของพวกชนชั้นสูงอาจไม่ใช่ขยะเสมอไป”

ความจริงแล้ว หลังได้รู้จากอังเดรกับแม็กว่าลูเซียนเคยเอาขยะของสมาคมนักดนตรีออกไปทิ้งข้างนอกเมือง แจ็คสันก็พอจะเดาเรื่องนี้ออกแล้ว และตอนนี้มันก็เพิ่งพิสูจน์ว่าเขาคิดถูก

หลังจากเขาพูดประโยคถัดไปจบ เขาก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนยิ่งนัก “ต้องขอบใจลูเซียนที่ทำให้เรามีลู่ทางหาเงินอันโชติช่วงงดงาม จงขอบคุณเขาด้วยความกระตือรือร้นทั้งหมดของเรา ไปทำลายทุกอย่างในบ้านเขาซะ หากพบเจอเหรียญเฟลล์หรือนาร์ก็เก็บไว้กับตัวได้เลย ส่วนใครที่พบเขาในภายหลังและ ‘ขอบคุณ’ เขาอย่างสาสม ก็มาหาข้าได้ แล้วข้าจะมอบรางวัลให้อย่างงาม”

ในสายตาแจ็คสัน ลูเซียนยังไม่ได้ก่อเหตุร้ายแรงอะไรจนต้องส่งคนออกไปตามไล่ล่า ในฐานะแก๊งอันธพาลที่น่านับถือ และมีระเบียบวินัยเรียบร้อย พวกเขาจึงมีงานมากมายที่ต้องทำในทุกๆ วัน แล้วเหตุใดพวกเขาจะต้องเสียเวลาและกำลังคนไปกับเด็กหนุ่มตัวเล็กๆ คนหนึ่งด้วยเล่า

เหล่าอันธพาลต่างโห่ร้องดีใจ หากไม่ใช่ว่าบ้านของลูเซียนหลังเล็กเกินไปและรองรับจำนวนคนได้อย่างจำกัด พวกเขาเกรงว่าตนจะรีบโผเข้าไปกันทั้งหมดแล้ว

เสียงข้าวของแตกดังเพล้งๆ และเสียงโครมครามดังติดต่อกันไม่หยุด

ลูเซียนที่อยู่ไม่ไกลออกไปสามารถฟังออก ‘เหยือกดินเผาแตกไปแล้ว…โต๊ะไม้พังไปแล้ว…พวกเขากำลังหาเงินที่ฉันซ่อนไว้…’ ลูเซียนกำหมัดแน่น ขบฟันกรอดและได้แต่สบถอยู่ในใจ

แต่ลูเซียนรู้ดีว่าอันธพาลที่มานั้นมีมากกว่าสิบคน ถ้าเขาคิดจะออกไปหยุดพวกนั้น เขาคงจะถูกซ้อมจนน่วมหรือกระทั่งถูกฆ่าตาย ดังนั้น แม้ว่าเขาจะโกรธ รู้สึกเสียเกียรติ และโทสะพลุ่งพล่านเพียงใด เขาก็ต้องบังคับตัวเองให้อดกลั้นเอาไว้

ในเมื่อไม่มีฐานันดร ไม่มีวิชาต่อสู้ ไม่มีพละกำลังใดๆ ก็ไม่มีทางที่เขาจะไปเผชิญหน้ากับพวกอันธพาลสวะที่กำลังปล้นเขาอยู่ในตอนนี้ได้ ส่วนกฎหมายน่ะหรือ ดูจากท่าทางยโสโอหังของพวกมันแล้ว เป็นไปได้ว่าพวกมันคงคาดว่าเพราะมีหัวหน้ามาด้วย กฎหมายย่อมทำอะไรพวกมันไม่ได้

‘ถ้าแม่มดคนนั้นไม่ออกไปที่สุสานเพื่อขโมยกระดูกแล้วล่ะก็ เธอคงไม่ถูกจบเผาทั้งเป็น’

‘ในเมื่อเวทมนตร์ยังมีอยู่จริง ปีศาจ คนนอกรีต และอื่นๆ ก็ยังมีอยู่จริง มันก็ต้องมีสถานที่ที่เวทมนตร์ไม่ถูกแบ่งแยกและกีดกันออกไปสิ ถ้าฉันจะเรียนเวทมนตร์ ฉันจำเป็นต้องระวังตัวมากๆ และเมื่อไหร่ที่ฉันมีพลังมากพอจะปกป้องตัวเอง ฉันก็จะออกไปหาสถานที่อยู่อาศัยที่แท้จริง’

‘ความเสี่ยงมีสูงมาก แต่สิ่งที่จะได้รับก็ดีเยี่ยมพอกัน ถ้าอยากรวยและมีความสุขแต่ไม่ลองเสี่ยงดู แล้วจะให้ทุกอย่างลื่นไหลและออกผลงดงามได้อย่างไร แม้แต่การทำธุรกิจ ก็ยังต้องอดทนกับการถูกพวกชนชั้นสูงกับแก๊งอันธพาลตักตวงผลประโยชน์ เช่นเดียวกับการแข่งขันกับคู่แข่งทางการค้า ถ้าไม่ระวังตัวมากพอ ก็อาจจะล้มละลายหรือตายได้เลย’

ความคิดมากมายที่ปกติจะถูกลูเซียนฝังไว้ลึกๆ ในใจ ในที่สุดก็ระเบิดออกมาจากกรงและดังก้องสะท้อนอยู่ในหัวของเขา เหมือนกับการล่อลวงของปีศาจที่ไม่ยอมให้เขาคิดถึงเรื่องอื่น นอกจากเรื่องที่เขาคาดเดาว่าต้องมีที่ที่เรียนเวทมนตร์ได้อย่างปลอดภัยเป็นแน่ มิเช่นนั้นแม่มดนางนั้นจะมาที่เมืองอัลโต้ทำไมกันเล่า

ความคิดและความปรารถนานับไม่ถ้วนค่อยๆ มาบรรจบกันตรงกลางใจของลูเซียน แต่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจแน่วแน่ เขาก็ได้ยินเสียงอะลิซ่าดังขึ้นมาเสียก่อน “เจ้าพวกคนชั่ว พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ?!”

เสื้อผ้าจากสมาคมสิ่งทอที่ต้องซัก ต้องไปรวบรวมมาตอนสิบโมง หลังจากสั่งให้ไอเวินไปเก็บเห็ดที่นอกเมืองแล้ว อะลิซ่าก็ได้ยินเสียงของแตกหักก่อนที่นางจะออกจากบ้าน

ในมือนางถือช้อนไม้อันยาวที่โบกไปมาขณะเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับแก๊งอารอน พยายามจะหยุดพวกเขาจากการทำลายกระท่อมของลูเซียน

“พานางออกไป” แจ็คสันชี้ไปทางอะลิซ่า

อันธพาลสองคนที่ไม่ได้เข้าไปในกระท่อมเพื่อปล้นชิงและทำลายข้าวของ ต่างถลกแขนเสื้อขึ้นและเดินตรงเข้าไปหาอะลิซ่า พยายามจะพานางออกไปจากตรงนั้น

ทว่าพวกเขาดูถูกพลังของอะลิซ่าเกินไป มือที่หนักเหมือนอุ้งเท้าหมีเงื้อช้อนไม้ขึ้น และหลังจากฟาดลงไปอย่างแรง อันธพาลคนที่เดินหน้าเข้ามาก็ถูกตีเต็มแรงจนต้องร้องออกมา

แจ็คสันเพียงกวาดสายตามองไปรอบๆ อันธพาลอีกสองคนก็เดินตามไปทันที

แม้ว่าอะลิซ่าจะมีเรี่ยวแรงมากมาย ร่างกายมีน้ำหนักมาก และมีทักษะปัดป้องอันยอดเยี่ยม แต่อีกฝ่ายคืออันธพาลที่ใช้ชีวิตด้วยกำปั้นมาตลอด ดังนั้นหลังจากหลบเลี่ยงปัดป้องอยู่ไม่กี่ครั้ง นางก็ทำช้อนไม้หลุดจากมือและร่วงลงพื้น

หมัดหนักๆ โดนเข้าที่ไหล่อะลิซ่า แม้ว่าชั้นไขมันจะลดแรงปะทะลงแล้ว นางก็ยังกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ทว่านางกลับไม่ยอมถอย และเดินหน้าต่อไป พลางตะโกนว่า “พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ ยามรักษาการณ์จะมาถึงที่นี่แล้ว”

ด้านหลังกำแพงไม่ไกลนั้น ลูเซียนที่เห็นว่าอะลิซ่าถูกทำร้ายร่างกาย ก็อดที่จะก่นด่าตัวเองไม่ได้ ‘ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม?!’

แม้ว่าเพิ่งได้ ‘รู้จัก’ เมื่อไม่กี่วันก่อน และเขายังไม่ได้รู้สึกผูกพันกับอะลิซ่าและโจเอล แต่ ณ ชั่วเวลานั้น ตอนที่เห็นว่าอะลิซ่าถูกทำร้ายเพื่อปกป้องกระท่อมของเขา ในขณะที่เขาเอาแต่ซ่อนตัวไม่กล้าออกไป เขาจึงยอมไม่ได้อีกต่อไป

ดังนั้นลูเซียนจึงกำหมดแน่น เหลือบมองไปทางกระท่อม แล้วส่ายหน้าแรงๆ “แม่งเอ๊ย!”

จากนั้นเขาก็วิ่งพรวดพราดออกไป โดยพุ่งเป้าไปที่แจ็คสันที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง!

ทั่กๆๆ เพราะลูเซียนอยู่ไม่ไกลจากกระท่อมของตน เพียงไม่กี่ก้าว เขาก็เข้าประชิดตัวแจ็คสันแล้ว จากนั้นจึงกระโจนเข้าใส่อย่างเต็มกำลัง

แจ็คสันเพิ่งจะมีปฏิกิริยาในตอนนั้น เขาหันขวับมามองลูเซียนด้วยความประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่มีเวลามากพอจะทำอย่างอื่นก่อนที่ลูเซียนจะโถมเข้าใส่เขาอย่างแรง ทำให้เขาล้มลงไปกองกับพื้น ทั้งสองต่างพยายามปลุกปล้ำอีกฝ่าย

ลูเซียนใช้ร่างกายและมือซ้ายในการตรึงมือทั้งสองของแจ็คสันไว้ เพื่อไม่ให้ดึงกริชที่อาจมีอยู่กับตัวออกมาได้ ส่วนมือขวาของเขาพยายามเอื้อมไปที่ลำคอของแจ็คสัน หากเขาบีบคอและหยุดอีกฝ่ายได้ เขาก็จะเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ได้ชั่วคราว

แต่แจ็คสันไม่ได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งอารอนได้จากการพึ่งพาไหวพริบและความโหดเหี้ยมเท่านั้น เขาเคยเป็นอันธพาลมาก่อน ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย และขณะที่ปลุกปล้ำกันอยู่บนพื้น เขาก็ไม่เปิดโอกาสให้ลูเซียนสอดมือเข้ามาบีบคอเขาได้ พร้อมกับที่เขาขยับแขนให้หลุดจากการตรึงแล้วถองศอกใส่สีข้างลูเซียนครั้งแล้วครั้งเล่า

เนื่องจากมีพื้นที่ให้ขยับไม่มาก ศอกที่โจมตีใส่จึงไม่ได้รุนแรง แต่ถึงอย่างนั้น สีข้างก็เป็นจุดที่อ่อนไหวและบอบบางอยู่แล้ว พอแจ็คสันถองศอกใส่เรื่อยๆ ลูเซียนจึงนิ่วหน้าขบฟันด้วยความเจ็บปวด แต่ด้วยประสบการณ์การรับมือกับแกรี่ ลูเซียนรู้ดีว่าเขาไม่สามารถตื่นตระหนกได้ในตอนนี้ เขาต้องตรึงอีกฝ่ายต่อไป จึงอดทนต่อความเจ็บปวด และในที่สุดมือขวาของเขาก็จับหมับเข้าที่ลำคออีกฝ่ายได้

ในตอนที่เขากำลังจะบีบคออีกฝ่าย สีข้างด้านขวาของเขาก็เจ็บร้าว ตัวเขาลอยขึ้นและตกลงกระแทกพื้นดังตุบ

หลังจากพึ่งพาประสบการณ์อันโชกโชนของตนเอง ในที่สุดลูกน้องของแจ็คสันก็เข้ามาช่วยเตะลูเซียนออกจากตัวเขา

แล้วอันธพาลที่อยู่ในกระท่อมกับคนที่พยายามหยุดอะลิซ่าก็พากันมารวมตัว

ก่อนที่ลูเซียนจะได้ลุกขึ้น หมัดและลูกเตะก็เริ่มตกลงใส่เขาราวกับห่าฝน ไม่ปล่อยโอกาสให้เขาได้ต่อต้าน เขาจึงทำได้เพียงกุมศีรษะไว้ด้วยจิตใจที่สงบนิ่งและงอตัวเป็นกุ้ง ซึ่งจะช่วยป้องกันการโจมตีทำร้ายร่างกายที่เหลือ

เขาถูกรุมซ้อมอยู่กับพื้น และความเจ็บปวดรวดร้าวก็เสียดแทงลึกเข้าไปถึงจิตใจ แต่ลูเซียนยังคงรักษาความสงบนิ่งที่มีเหลืออยู่น้อยนิดและท่างอตัวรับการโจมตีไว้ได้ มิเช่นนั้นเหตุการณ์อาจจะเลวร้ายกว่านี้ได้ถ้าเขาถูกเตะในจุดสำคัญเหมือนแม็ก

ณ เวลานั้น ลูเซียนรู้สึกเหมือนวิญญาณกำลังจะหลุดออกจากร่าง วิงเวียนและคลื่นไส้ ทุกสิ่งรอบกายเขาเริ่มพร่าเลือน เสียงรอบตัวดังซู่ซ่า ดูเหนือจริงคล้ายภาพยนตร์เก่าๆ ที่ภาพแตกและกระตุกไม่หยุด แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของอะลิซ่าที่คล้ายกับว่าดังมาจากโลกอีกใบ “ปล่อยเขานะ…”

ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาไม่มีเวลาจะตัดสินใจอะไร แต่ในสภาวะแวดล้อมเช่นนี้ ในที่สุดลูเซียนก็ตั้งใจแน่วแน่ ‘ฉันจะต้องมีพลังที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ แม้ว่านั่นจะเป็นเวทมนตร์ก็ตาม!’

‘แม้ว่าจะต้องไปกู้ยืมเงินมา ฉันก็ต้องเก็บเงินเรียนหนังสือให้ได้เร็วๆ นี้!’

แจ็คสันเฝ้ามองลูกน้องรุมซ้อมลูเซียน พลางขยับแขนที่ปวดร้าวเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปเตะลูเซียนอย่างจัง จากนั้นจึงหันมาพูดกับบรรดาลูกน้องว่า “เอาล่ะ บทเรียนสำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อน เพื่อนของเจ้าหนุ่มนี่เป็นอัศวินฝึกหัดของเซอร์เวนน์ เราไม่ควรจะทำให้มันตาย”

หากสามารถสังหารผู้คนเพราะเรื่องเล็กๆ เช่นนี้โดยที่ยังคงรักษาสัมพันธ์อันดีกับอัศวินระดับสูงๆ ได้ แก๊งอารอนก็คงจะสังหารผู้คนจนเมืองอัลโต้อาบเลือดไปแล้ว แต่ในความเป็นจริง ที่แก๊งอารอนสามารถควบคุมเขตประตูเมืองและเขตตลาดบางส่วนได้ ก็เพราะพวกเขาไม่กระทำการล้ำเส้น มิเช่นนั้นแล้ว ผู้มีอำนาจควบคุมเมืองอัลโต้ที่แท้จริงอย่างพวกขุนนาง บิช็อป และบาทหลวงผู้มีพลังอำนาจล้นเหลือ คงจะกำจัดพวกเขาให้หายไปนานแล้ว แม้จะมีข่าวลือว่าโรซาน อารอน มีความสัมพันธ์ซับซ้อนกับคนใหญ่คนโตก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

เหล่าอันธพาลหยุดมือและมองลูเซียนด้วยสายตามุ่งร้าย แจ็คสันมองสภาพลูเซียนที่มีเลือดไหลออกทางจมูกและมุมปาก ท่าทางไร้สติ แล้วหัวเราะร่า ก่อนจะเอ่ยว่า “จริงๆ แล้วข้านับถือความคิดของเจ้านะ แต่เจ้าหนุ่ม เจ้ายังเด็กเกินไปจริงๆ อืม ของข้างนอกเมืองนั่นน่ะ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่คิดโลภอีก เพราะมิเช่นนั้นมันอาจไม่จบแค่การทำร้ายร่างกายแน่ ข้าเชื่อว่าแม็กคงจะอยากคุยเรื่องหนี้ชีวิตกับเจ้าเป็นแน่”

เรื่องการควบคุมที่ทิ้งขยะข้างแม่น้ำจะต้องไม่ถูกปกปิด ดังนั้นแจ็คสันจึงไม่คิดสังหารใคร

หลังจากพูดจบ แจ็คสันก็เห็นว่าลูเซียนจ้องมองเขาด้วยใบหน้าอาบเลือด ก่อนจะตอบด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ได้”

คำตอบนั้นทำให้แจ็คสันรู้สึกแปลกนิดๆ แต่เขาก็ไม่คิดอะไรมาก เขากับลูกน้องจากไปพร้อมกับความสุขและสิ่งของที่ลูเซียนไม่มีเวลาจัดการกับมัน และสี่สิบห้าเฟลล์ที่พวกเขาค้นเจอ

————————————————

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด