Perfect Superstar – ตอนที่ 104 จุดเริ่มต้นใหม่
ตอนที่ 104 จุดเริ่มต้นใหม่
เวลาดึกสงัด
ในห้องนอน โคมไฟบนหัวเตียงยังเปิดสว่างอยู่
ตำรา ‘ดนตรีตะวันตกยุคใหม่’ เล่มหนาเปิดวางอยู่บนอก ลู่เฉินปิดตาหลับลึก แสงไฟสีส้มส่องต้องใบหน้าของเขา เกิดเป็นแสงเงาที่ดูราวกับรูปปั้นปูนปลาสเตอร์
ตี๊ด!
โทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่ข้างเตียงดังขึ้นหนึ่งครั้ง พร้อมกับสั่นเตือน
ลู่เฉินสะดุ้งตื่น
เขาผุดลุกขึ้นนั่ง ในดวงตาคู่นั้นทั้งหมดที่ดำมืดค่อยๆ กลับมาสว่างชัดเจนขึ้น
ลู่เฉินเพิ่งฝัน ในฝันเขากลับไปสู่โลกใบนั้นอีกครั้ง แต่ยังแยกไม่ออกว่าตัวเขาเองเป็นสวีป๋อ โม่หราน ฟางหมิงอี้ หรือไม่ใช่เลยสักคน
ในความฝัน เขาเป็นคนหนึ่งที่โดดเดี่ยวในโลกของกาลเวลา ในสายตาของผู้เฝ้ามองด้วยกิเลส ไม่ว่าจะอายุที่ล่วงไปหรือการเปลี่ยนแปลงวงจรของโลก ต่างไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่น้อย เขาเพียงเฝ้าดูโลกที่มีแต่สุข ทุกข์ พบ และพรากจากด้วยแววตาที่เฉยเมย
ลู่เฉินคิดว่าตัวเองจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว จนกว่าโลกนี้จะดับสูญ!
โชคดีที่นี่เป็นเพียงแค่ความฝัน
เขายืนขึ้นและลุกไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาแล้วเขาก็ตื่นเต็มที่
เมื่อกลับมาในห้องนอนอีกครั้ง เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา ตีหนึ่งสามสิบสองนาที
ลู่เฉินฝืนยิ้ม พร้อมกับเลื่อนเปิดข้อความที่เพิ่งเข้ามาในแอพพลิเคชั่นอี้ฟู่เป่า แล้วก็ต้องตกใจ
ข้อความนี้แจ้งเตือนลู่เฉินว่า ในบัญชีของเขามีคนโอนเงินเข้ามาสองแสนหยวน!
เป็นผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
ผีหลอกเหรอ
ลู่เฉินขยี้ตาอย่างไม่อยากเชื่อ รีบเปิดดูแอพพลิเคชั่นอี้ฟู่เป่าของตัวเอง เป็นเรื่องจริง!
ใครกันที่ใจป้ำแจกเงิน ทั้งยังเป็นจำนวนเงินที่มากมายขนาดนี้?
เขาสับสนงุนงงไปหมด
ด้านล่างของหลักฐานการโอนเงินมีข้อความสั้นๆ เนื้อหาเรียบง่ายว่า…ขอบคุณ
เป็นสองพยางค์ที่ทำให้ลู่เฉินค่อยๆ เข้าใจบางอย่างขึ้นมา
ในบรรดาผู้คนที่เขารู้จัก คนที่มีความสามารถและมีกำลังที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้ เกรงว่ามีแค่คนคนนั้นคนเดียว
แต่ลู่เฉินก็โทรศัพท์หาเขาเพื่อยืนยันอีกครั้ง ผลคือข้อความอัตโนมัติตอบกลับ แสดงว่าปิดโทรศัพท์ไปแล้ว
…
วันรุ่งขึ้น ลู่เฉินมาถึงที่สตูดิโอเนี่ยผาน
การทำเพลงในอัลบั้มชุดแรกของลู่เฉินให้สตูดิโอแห่งนี้เป็นผู้จัดทำ และเขาเองยังได้เซ็นสัญญากับฝ่ายนี้อย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้นในช่วงเวลานี้ พักใหญ่ๆ เขาต้องมาที่นี่อีกบ่อยครั้ง
โดยเฉพาะเพลงหลายเพลงที่จะนำไปใช้ประกวดในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ยิ่งต้องดำเนินการแต่งทำนอง เรียบเรียงเพลงให้เสร็จก่อน
ผู้ที่ต้อนรับลู่เฉินยังคงป็นหวังฉางเซิง ผู้ที่เป็นผู้จัดการของสตูดิโอเนี่ยผาน เมื่อได้พบกับลู่เฉินแล้วก็มีเรื่องทำให้เขาประหลาดใจทันที
“คุณลู่ ผมหาสถานที่สำหรับเป็นสำนักงานที่เหมาะสมให้กับคุณได้แล้ว!”
“เร็วขนาดนั้นเชียว?”
ลู่เฉินตะลึง “อยู่ที่ไหนครับ”
เขาเตรียมตัวจะเปิดสตูดิโอ ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ความคิดสร้างสรรค์หลันเทียน ที่นี่แม้จะห่างจากตัวเมืองมาก แต่สภาพแวดล้อมไม่เลว รอบด้านมีศูนย์การค้าครบครัน ทั้งยังค่าเช่ารายเดือนค่อนข้างต่ำ
ด้วยเหตุนี้ลู่เฉินจึงไหว้วานหวังฉางเซิงให้ช่วยหาออฟฟิศที่เหมาะสมให้เขาหน่อย ไม่คิดว่าวันนี้จะได้ข่าวแล้ว
ประสิทธิภาพการทำงานดีมากเกินไปหน่อย!
หวังฉางเซิงหัวเราะ
“บังเอิญเมื่อวานผมได้พบกับนักเรียนที่ทำงานอยู่ในกลุ่มคณะกรรมการจัดการของศูนย์ ถามข่าวคราวจากเขาถึงรู้ว่าตึก A8 มีหลายชั้นที่กำลังประกาศให้เช่าอยู่ ออฟฟิศมีพื้นที่ตั้งแต่หนึ่งร้อยถึงหนึ่งพันห้าร้อยตารางเมตร!”
คณะกรรมการบริหารภาครัฐภายใต้ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์หลันเทียนเป็นเจ้าของอาคารสำนักงานหลายแห่ง ตำแหน่งของตึก A7 และ A8 ดีที่สุด อยู่ตรงหน้าทางเข้าทิศเหนือและทิศใต้ ห่างจากทางออกสถานีรถไฟใต้ดินไม่กี่เมตร
แต่เดิมสำนักงานในอาคารทั้งสองแห่งมีคนเช่าหมดแล้ว แต่ช่วงนี้มีบริษัทหลายแห่งในอาคาร A8 ย้ายออกไปอยู่ตึกใหม่ใกล้ๆ กัน ด้วยเหตุนี้จึงมีหลายชั้นที่ว่างลงเตรียมเปิดให้เช่า
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริง ถ้าหวังฉางเซิงไม่ได้พบกับนักเรียนคนนั้น อีกไม่กี่วันคงไม่เหลือแล้ว
ตามที่นักเรียนคนนั้นบอกมา มีหลายแห่งถูกจองออกไปก่อนแล้ว
“เมื่อเช้าผมอยากติดต่อหาคุณ ตอนนี้คุณมาได้เวลาพอดี!”
ลู่เฉินทำความเข้าใจแล้ว รู้สึกสนใจในทันที “ถ้าอย่างนั้นรบกวนผู้จัดการหวังไปดูเป็นเพื่อนผมได้หรือเปล่าครับ”
“ไม่มีปัญหา!”
หวังฉางเซิงหัวเราะตอบว่า “เรื่องการทำอัลบั้มคุณวางใจได้ เมื่อวานหวังจิ้งเริ่มลงมือทำแล้ว รับรองว่าจะไม่ทำให้การแข่งขันของคุณล้าช้า และรับรองคุณภาพงานด้วย!”
“ตอนนี้ผมจะโทรนัดนักเรียนคนนั้นของผมออกมานะครับ”
นี่เรียกว่ารู้จักคนมีเส้นสายที่ทำงานอยู่ภายในนั้นทำให้เรื่องง่ายขึ้น ทรัพย์สินของคณะกรรมการมีคนภายในคอยให้ความช่วยเหลือ เรื่องก็ง่ายดายขึ้นมาก
นักเรียนที่หวังฉางเซิงเรียกออกมาอายุสามสิบกว่า แซ่สวี เป็นหัวหน้าแผนกในแผนกหนึ่งในคณะกรรมการ
หลังจากพบปะทำความรู้จักกันแล้วเขาใจดีกับลู่เฉินมาก กล่าวชมไม่หยุดปากว่าเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถ
ทำให้ลู่เฉินเก้อเขินเล็กน้อย
ด้วยการแนะนำของหัวหน้าสวี ลู่เฉินได้รู้ว่าศูนย์ความคิดสร้างสรรค์หลันเทียนตึก A8 มี 32 ชั้น ชั้น 1 2 3 ให้เช่ากับธนาคาร ร้านอาหาร ฟิตเนสเป็นต้น ส่วนชั้น 3 ขึ้นไปเป็นสำนักงาน ตอนนี้ชั้น 15 19 26 มีพื้นที่ว่างให้เช่าอยู่
ภายใต้การนำของเขา ลู่เฉินและหวังฉางเซิงมาถึงตึก A8 แยกชมทั้งสามชั้น
ส่วนเงื่อนไขการเช่าของสำนักงานที่นี่ ลู่เฉินพอใจมาก
ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นเริ่มต้น ขอบเขตความต้องการยังไม่สูง ถ้าไม่โชคดีคงจะไม่ได้พบเจอ
โอกาสหายาก เมื่อได้พบแล้วอย่าให้หลุดมือไป!
สิ่งเดียวที่ทำให้ลู่เฉินลังเลตัดสินใจไม่ได้คือ สำนักงานขนาด 200 ตารางเมตรบนชั้น 19 กับสำนักงานขนาด 150ตารางเมตรบนชั้น 26 ต่างมีเงื่อนไขดีทั้งคู่ ไม่รู้จะเลือกที่ไหนดี
หวังฉางเซิงมีประสบการณ์สูง ช่วยลู่เฉินวิเคราะห์
“คุณลู่ ถ้าคุณมีทุนทรัพย์มากพอ เลือกเช่าห้องขนาดสองร้อยตารางเมตรเถอะ! ห้องของคณะกรรมการไม่ค่อยขึ้นราคาง่ายๆ คุณเช่าได้หลายปีอย่างวางใจ มีพื้นที่มากหน่อย อนาคตจะขยายกิจการได้สะดวกขึ้น”
ถ้าเป็นเรื่องขนาด ขนาดใหญ่ต้องดีกว่าอยู่แล้ว ลู่เฉินเพียงอยากจะประหยัดค่าเช่าสักหน่อย แต่หวังฉางเซิงพูดมีเหตุผล ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ครุ่นคิดนานนัก ตัดสินใจเช่าห้องสำนักงานขนาด 200 ตารางเมตรบนชั้น 19
สำนักงานชุดนี้ถูกผู้เช่าคนก่อนตกแต่งอย่างเรียบง่าย แบ่งออกเป็นห้องรับรอง เขตห้องสำนักงาน ยังมีห้องสำนักงานขนาดเล็กอีกสองห้อง กับห้องพักผ่อนอีกห้องหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีห้องน้ำที่แยกชายหญิง พื้นที่กว้างขวางสะดวกสบาย
แม้ว่าข้าวของภายในห้องจะถูกย้ายออกไปแล้ว แต่ถ้าทำความสะอาดสักรอบ จัดวางอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ลงไป ห้องนี้ก็จะเปิดกิจการได้อย่างรวดเร็ว
ค่าเช่าคิดตารางเมตรละ 3.5 หยวนต่อตารางเมตรต่อวัน สองร้อยตารางเมตรทุกเดือนต้องจ่าย 21,000 หยวน ไม่ถือว่าถูก แต่หากเทียบกับทำเลและเงื่อนไขแล้วคุ้มค่ามาก
นอกจากนี้ทุกปียังต้องจ่ายค่าส่วนกลางในการให้บริการอีกประมาณสองหมื่น
ตอนนี้ลู่เฉินจะมีรายได้หลักที่แน่นอนแล้ว ไม่เช่นนั้นหากคิดจะเปิดออฟฟิศขึ้นสักแห่ง อย่างมากก็เช่าได้แค่ห้องเล็กๆ ไม่กี่สิบตารางเมตร มีหรือจะเช่าห้องใหญ่ขนาดนี้ไหว?
ต้องรู้ว่านอกจากเรื่องค่าเช่าแล้ว ยังต้องจ้างพนักงาน ให้เงินเดือน จ่ายภาษี ค่าน้ำ ค่าไฟเป็นต้น ซึ่งเป็นค่าใช่จ่ายไม่น้อย
เลือกสถานที่ทำออฟฟิศแล้ว ลู่เฉินกลัวจะยืดเยื้อ รีบให้หัวหน้าสวีทำเรื่องเซ็นสัญญากับคณะกรรมการโดยตรง
คณะกรรมการในศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ทำงานอย่างรวดเร็ว ร่วมกับความช่วยเหลือของหัวหน้าสวี ดังนั้นก่อนเที่ยงเขาได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ได้รับสิทธิ์ในการใช้สำนักงาน สัญญาเช่าเป็นเวลา 2 ปี
ตามเงื่อนไขต้องมัดจำสามเดือนและมีค่าเช่าอีกสามเดือนที่ต้องจ่ายทันที ลู่เฉินจ่ายเงินออกไปหนึ่งแสนสองหมื่นหกพันหยวน
“คุณลู่ ยินดีด้วยครับ!”
เซ็นสัญญาเสร็จแล้ว ทางกรรมการผู้รับผิดชอบจับมือกับลู่เฉินพูดว่า “ขอให้คุณประสบความสำเร็จในศูนย์ความคิดสร้างสรรค์หลันเทียน มีความก้าวหน้าราบรื่น!”
ลู่เฉินยิ้ม “ขอบคุณครับ!”
เดิมทีเขาคิดจะเลี้ยงอาหารกลางวันฝ่ายนั้นและหัวหน้าสวีสักมื้อ สุดท้ายถูกทั้งคู่ปฎิเสธ
กรรมการของศูนย์รักษากฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด
ตอนบ่ายลู่เฉินกลับมาถึงบ้าน เรื่องแรกที่ทำคือโทรศัพท์หาหลี่เฟยอวี่
สำนักงานเช่าเรียบร้อยแล้ว แต่จากนี้ไปยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก เช่นการทำความสะอาด จัดซื้ออุปกรณ์สำนักงาน ออกแบบ จัดวาง ทำเอกสารใบอนุญาตขอเปิดกิจการ รับสมัครพนักงาน เขาต้องการให้หลี่เฟยอวี่ช่วยเหลือ
ยังมีลู่ซีที่ต้องให้เธอมาปักกิ่งก่อนกำหนด!
ลู่เฉินคาดเดาได้ว่าอีกไม่นานเขาจะต้องยุ่งมาก ข้างกายเขาไม่มีคนที่เชื่อใจได้คอยช่วยเหลือ
หลังจากคุยโทรศัพท์กับหลี่เฟยอวี่แล้ว ลู่เฉินเปิดคอมพิวเตอร์ ลงทะเบียนเข้าเว็บไซต์หลางเฉาป๋อเค่อ
ในบล็อกไซต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เขาลงทะเบียนบัญชีใหม่ ใช้ชื่อไอดีว่า ลู่เฉิน FMX
ลู่เฉินคือตัวเขาเอง FMX เป็นคำแทนของฟางหมิงอี้ โม่หรานและสวีป๋อ
การตั้งบัญชีนี้ขึ้นเสมือนกับการที่เขาได้ยืนอยู่ในจุดเริ่มต้นของชีวิตและอาชีพใหม่
มีข้อมูลส่วนตัว ลู่เฉินกรอกข้อมูลลงไปสองสามคำ
เขารู้ว่านี่เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ อนาคตค่อยเพิ่มอาชีพลงไปว่าเป็นนักแสดง นักเขียนอิสระ…
หรืออาจจะมากกว่านั้น!
เวลาที่ลงทะเบียนคือวันที่ 13 กรกฎาคม 2015 เวลา16.27น.
ก่อนการแข่งขันคัดเลือกรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ รอบคัดเลือก 32 คนเหลือ16 คน จะเริ่มต้นขึ้น เหลืออีก 267 ชั่วโมง 3 นาที
…………………………………………..
คอมเม้นต์