ราชาเหนือราชัน – ตอนที่ 61 : ท่านผู้สูงวัย ท่านช่างไร้ประโยชน์เสียจริง!
ห้องแห่งขีดจำกัดที่หก
พลังวิญญาณจำนวนมากมาบรรจบกัน เกือบจะทำให้พลังวิญญาณในอากาศบริเวณนี้แทบจะหมดไป แม้แต่เมืองอู่เอวก็ได้รับผลกระทบนี้ ในขณะนั้นเองผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพจำนวนมากในเมืองเริ่มเพ่งเล็งมาที่ตำหนักยุทธ์
“ใครในตำหนักยุทธ์เป็นผู้บรรลุเช่นนี้กัน? การบรรลุที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้”
“ดูนั่น พลังจากดวงดาวส่องสว่างบนฟากฟ้าเหนือตำหนักยุทธ์! มีใครสักคนจุดประกายดวงดาวแห่งโชคชะตา!”
“อะไรกัน? นั่นคงมิใช่สัญญาณของผู้ที่บรรลุอันดับราชันหรอกนะ?”
“บางทีเจ้าตำหนักเพิ่งได้รับมุมมองใหม่ และสามารถบรรลุไปอีกระดับกระมัง?
…
นามดั้งเดิมของระดับราชันคือ ‘ระดับล่องนภา’ ซึ่งเป็นระดับเหนือกว่าระดับแปรสภาพ เป็นระดับที่เริ่มจะสามารถหยิบยืมพลังแห่งดวงดาว และได้รับความสามารถในการทะยาน ซึ่งสามารถบินไปบนท้องฟ้าได้อย่างอิสระ มนุษย์ผู้ที่สามารถบรรลุถึงระดับนี้เปรียบได้กับปลาคาร์ฟที่กลายเป็นมังกร เป็นช่วงเวลาที่ผู้ฝึกยุทธ์จะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของการฝึกยุทธ์
ราชาไม่อาจปรากฏตัวที่เมืองเล็ก ๆ เช่นนี้เป็นพันปี และในวันนี้ ราชาคนใหม่ได้ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักยุทธ์ ด้วยสิ่งนี้ทำให้เหล่ายอดฝีมือแห่งเมืองอู่ต้องเต็มไปด้วยความตกใน และริษยา
ผู้คนมากมายพุ่งตัวมาที่ตำหนักยุทธ์ ด้วยต้องการมาเป็นสักขีพยานถึงช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์เช่นนี้ และแน่นอนที่สุด มันเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง พวกเขาหวังจะได้รับเคล็ดลับสำหรับการฝึกยุทธ์ของตน ผ่านการร่วมเป็นสักขีพยานการเกิดใหม่ของราชา
แต่พวกเขาแทบมิอาจเข้าใกล้ตำหนักได้เลย เมื่อพบกว่าทางตำหนักได้ถูกปิดล็อคอย่างเข้มงวด เหล่าผู้อาวุโสมากมายต่างยืนคุ้มกันด้วยตนเอง ไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ได้ ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ตำหนักอย่างแน่นอน หากมีสิ่งใดไปรบกวนการจุติของราชา สิ่งนั้นจะต้องชดใช้ด้วยความตายเท่านั้นจึงจะสาสม
ภายในห้องแห่งขีดจำกัดที่หก ชายสูงวัยกำลังประสบกับการบรรลุขั้นถัดไป พลังที่สะสมมาเป็นเวลาหลายปีได้เริ่มปะทุขึ้น ทำงานควบคู่กับพลังวิญญาณภายนอกเพื่อทำให้วิญญาณของเขาพุ่งทะยานไปบนท้องฟ้า เวลาเดียวกันนั้น ดวงดาวภายในร่างกายปั่นป่วนขณะที่พวกเขาดึงพลังแห่งดวงดาวจากท้องฟ้าทั้งเก้าด้านบน ด้วยความหว่างจะจุดประกายดวงดาวแห่งโชคชะตา
ชายสูงวัยได้มาถึงช่วงเวลาสำคัญหลักงจากฝึกยุทธ์มาอย่างยาวนาน และได้มาถึงจุดที่จะสามารถกลายมาเป็นราชา แต่อนิจจา เขาไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยปัญหาทางจิตของตนเอง ความปรารถนาในความแข็งแกร่งนั้นไม่มั่นคงพอ และสิ่งนั้นทำให้พลังต่อสู้ในตัวค่อยจางลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผลักดันโอกาสในการพัฒนาให้ไกลออกไปจากตนเอง
หลังจากทั้งหมดนั้น การจุดประกายของดวงดาวแห่งโชคชะตานั้นมิใช่เรื่องง่านเลย หากไม่จัดการกับผลของการกระทำให้ดี และผู้ฝึกยุทธ์อาจได้รับผลกระทบแทน และผลกระทบนั้นสามารถทำให้บางสิ่งด้อยลงไป เช่นเดียวกับความแข็งแกร่งที่ลดลงหรือสิ่งที่สำคัญพอกันกับการระเบิดของดวงดาว
จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดยอดฝีมือทั้งหลายต่างติดอยู่ที่ระดับนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าพอจะบรรลุไปสู่ระดับราชา
เหนือท้องฟ้าทั้งเก้า จิตสำนึกของชายสูงวัย และพลังดวงดาวกำลังเข้าใกล้ดวงดาวแห่งโชคชะตา เขาอยู่ห่างเพียงเล็กน้อยจากการจุดประกายดวงดาวแห่งโชคชะตาของตน ยกระดับตนเองไปสู่ระดับถัดไป และเข้าสู่สิ่งที่สูงขึ้นไปอีก
แต่ระหว่างช่วงสุดท้ายของการผลักดัน พลังของชายสูงวัยเริ่มขาดช่วง ร่างกายเริ่มสั่นเท่า สติและพลังดวงดาวเริ่มผ่อนลง หากล้มเหลว ชายสูงวัยจะต้องยืนหยัดที่จะสูญเสียชีวิตของตน ช่างโชคร้าย การพัฒนานั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจมีผู้ใดช่วยได้ เขาทำได้เพียงช่วยเหลือตนเองเท่านั้น
“ท่านผู้เฒ่า ท่านช่างไร้ประโยชน์! หากท่านไม่สามารถบรรลุระดับที่ต่ำกว่าระดับราชาได้ ท่านจะฝันหวานถึงการพิชิตคุณชายผู้นี้ได้เช่นไร?” เสียงของเซี่ยงเส้าหยุนดังขึ้นราวกับฟ้าผ่า
การรบกวนผู้ที่กำลังเข้าสู่ช่วงแห่งการบรรลุนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม ด้วยบางเหตุผล การเย้ยหยัยของเด็กหนุ่มกลับช่วยเหลือเขา ด้วยคำพูดเหล่านั้นทำให้ชายสูงวัยกระตุ้นพลังการต่อสู้สุดท้ายที่เหลือน้อยนิดในตัว
“เวรเอ้ย! เจ้าคือดวงดาวของข้า และนี่คือชีวิตของข้า! เผ้าไหม้เสีย!” ชายสูงวัยผลักดันพลังเฮือกสุดท้าย และคำรามออก ดูเหมือนเขาจะเติมพลังจิตและพลังดวงดาวของตน ก้วยการผลักดันในที่สุดก็เข้าถึงดวงดาวของตน
ชิ้ง! ชิ้ง!
ทันใดนั้นเอง ลำแสงสี่ลำจากแสงแห่งดวงดาวได้ฉีกท้องฟ้าเหนือพวกเขา และพุ่งลงมาที่ห้องแห่งขีดจำกัดที่หก โดยนำเอาพลังดวงดาวจำนวนมหาศาลติดตัวลงมาด้วย ดวงดาวทั้งสี่ภายในผังจักรราศีของชายสูงวัยทำปฏิกิริยา และดูดซับพลังดวงดาวใหม่เข้าไป ร่างกายของเขาเริ่มส่องแสงสุกสกาวราวกับดวงดาว ห้องแห่งขีดจำกัดที่หกเต็มไปด้วยแสงจากชายสูงวัย
แสงนั้นสว่างจ้ามากจนเซี่ยงเส้าหยุนไม่อาจเลิกตาขึ้นได้ เขารู้สึกได้เพียงคลุมเครือว่าความแข็งแกร่งของชายสูงวัยนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนท่านผู้เฒ่าจะติดอยู่ที่ระดับนี้นานหลายปี ด้วยการบรรลุนี้ เขาอาจไปถึงระดับล่องนภาขั้นสองได้ทีเดียว” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคำเบากับตนเอง
ด้วยบางเหตุผล หลังจากเข้าใจพลังแห่งการเผยตัวตน การเผยตัวตนแห่งราชา เขาได้รับความสามารถในการมองเห็นว่าชายสูงวัยได้บรรลุช่วงสุดท้ายของระดับแปรสภาพ ข้อเท็จจริงที่ว่า ชายสูงวัยสามารถบรรลุไปสู่ระดับถัดไปได้แล้ว
จึงเป็นเหตุผลที่เซี่ยงเส้าหยุนเดิมพัน และตัดสินใจช่วยเหลือชายสูงวัยโกยกระตุ้นให้เขาเข้าสู่การบรรลุ แม้เซี่ยงเส้าหยุนจะยังอ่อนแอ แต่เขากลับเข้าใจความแตกต่างของระดับต่าง ๆ ซึ่งไร้ผู้เทียบเคียงได้ในเมืองอู่ เป็นผลมาจากความจริงที่เขามีรากฐานที่แตกต่างจากผู้อื่นในที่แห่งนี้อย่างสิ้นเชิง
หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง พลังดวงดาวบนฟากฟ้าก็เริ่มค่อยจางลงก่อนจะหายไป เช่นเดียวกันกับพลังดวงดาวภายในห้องแห่งขีดจำกัดที่หก ร่างกายของชายสูงวัยได้ดูดซับอย่างเต็มที่ ความสงบกลับคืนมาอีกครั้ง
ตู้ม!
ชายสูงวัยบินขึ้นไปบนหลังคาของห้อง ลอยอยู่บนท้องฟ้า และคำรามเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่า ฮ่า ข้าได้บรรลุระดับล่องนภาแล้ว! ฮ่า ฮ่า!”
อารมณ์ของชายสูงวัยที่เก็บกดมาตลอดหลายปีได้ถูกปลดปล่อยราวกับภูเขาไฟระเบิด ทุกคนในตำหนักยุทธ์มองเห็นเขาบินอยู่เหนือท้องฟ้า และทั้งหมดต่างร้องออกด้วยความตื่นเต้น
“นั่นมันผู้อาวุโสเจิ้นเผิงนี่! เขาบรรลุระดับราชาแล้ว! สมควรแก่การฉลอง!”
“นั้นมันผู้อาวุโสเจิ้นเผิง! เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เป็นผู้อาวุโสจากรุ่นสองชั่วอายุคนที่ผ่านมา เขาวันนี้เขาสามารถบรรลุถึงขั้นนี้แล้ว! สรวงสวรรค์จะต้องอวยพรแก่ตำหนักยุทธ์ของพวกเรา!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ตำหนักยุทธ์ของเราในที่สุดก็มียอดฝีมือระดับล่องนภาเสียที! มันช่างเป็นหนทางอันยาวนานเสียเหลือเกิน!”
“มันมิได้นานหรอก ใช่ไหม? ข้าหมายถึง สักสิบปีผ่านไปที่รองเจ้าตำหนักได้บรรลุเช่นกัน”
“แต่สำหรับคนผู้นั้นไม่สามารถอยู่ที่ตำหนักยุทธ์ได้! ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงนั้นต่างกัน เขายังคงอยู่ที่นี่และปกป้องตำหนักยุทธ์ของพวกเรา! หากเราได้รับคำแนะนำจากขำเพียงสักนิดในภายภาคหน้า คงจะดีไม่น้อย”
…
“ขอแสดงความยินดี ท่านอาวุโสเจิ้นเผิงได้บรรลุสู่ระดับราชาแล้ว” เสียงของหยางเกาฉวนซึ่งแสดงความเคารพดังขึ้นในอากาศ แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าตำหนัก และยังแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสท่านนี้มาก่อน แต่ในตอนนี้ เขาจะต้องเคารพต่อผู้อาวุโสอย่างที่เขาสมควรได้รับ
บางทีทั้งพระเจ้าทั้งเก้ารวมกัน ยอดฝีมือระดับราชานั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่ทรงพลังนัก แต่ในเมืองเล็ก ๆ เช่นนี้ ยอดฝีมือระดับราชานั้นแข็งแกร่งพอที่จะครอบงำทุกผู้ และทุกสิ่ง
ผู้อาวุโสคนอื่นทักทายต่อผู้อาวุโสเจิ้นเผิง “ขอแสดงความยินดี ต่อท่านอาวุโสเจิ้นเผิงสามารถบรรลุระดับราชา”
เหล่าผู้ดูและ และเหล่าศิษย์ก็เช่นกัน มิมีผู้ใดกล้าดูถูกผู้อาวุโส แม้จะอยู่นอกตำหนัก ข้อความแสดงความปิติยินดีดังไม่ขาดสาย
“พวกเจ้าทั้งหมดไปเสีย” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงกล่าวหลังจากจ้องมองฝูงชนด้านล่าง ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงในตอนนี้ไม่เหมือนกับชายชราก่อนหน้า ในความเป็นจริงแล้ว เขาดูราวกับอายุถดถอยลงไปยี่สิบปี ซึ่งเป็นรูปักษณืของเขาตอนวัยกลางคน พลังกระเพื่อมไปทั่งทั้งร่างกายด้วยพลังอันล้นเหลือ
“ผู้อาวุโสเจิ้นเผิง ได้โปรด…” หยางเกาฉวนกำลังจะกล่าวบางสิ่ง แต่ยังไม่ทันจะกล่าวจบก็ถูกขัดโดยการตะโกนของผู้อาวุโสเจิ้นเผิง ที่ตะโกนไปยังตำแหน่งหนึ่ง
“เจ้าเด็กน้อย! มายืนตรงนี้!”
คอมเม้นต์