เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย – Chapter 116 -ออกเดินทาง (จบภาค 1)
Chapter 116 -ออกเดินทาง
เสียงของเขาหนาวเย็นและเต็มไปด้วยจิตสังหาร.
ตาของหลี่ซูเอ๋อร์หรี่ลงจ้องมองไปที่มู่หรงหวันจิง“เจ้าได้ลองแล้วแต่เขาทำไม่สำเร็จ.”
“มันคงเป็นเจ้าที่สั่งให้พี่สาวซวงไม่ให้เคลื่อนไหว ใช่ไหม?”
มู่หรงหวันจิงมีท่าทีตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะหายไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏออกมา เขาไม่ได้ปฏิเสธคำกล่าวหาพร้อมกับพูดว่า “ซูเอ๋อร์ฉลาดมาก”
เมื่อได้ยินคำพูดว่าซูเอ๋อร์ คิ้วของเธอขมวดลงและท่าทางของหลี่ซูเอ๋อร์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งหมดนี้มู่หรงหวั่นจิงสามารถที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน.
อีกด้านนึงในใจเขา เต็มไปด้วยความโกรธเกรี๊ยว.
จากนั้นหลี่ซูเอ๋อร์ก็พูด “หลังจากที่ทุกอย่างของพี่สาวซวงเป็นคนจากเมืองนภาแยกและหัวใจเธอก็ให้ความสำคัญกับเจ้าเท่านั้น ถึงแม้ว่าข้าจะปฏิบัติต่อเธอดั่งพี่สาวมาหลายปี แต่เธอก็ยังเชื่อฟังคำพูดของเจ้าในท้ายที่สุด ในหัวใจของพี่สาวซวง เธอทำจริงๆ…”
มู่หรงหวังจิงไม่รอให้หลี่ซูเอ๋อร์พูดเสร็จและขัดจังหวะ “เธอเป็นเพียงคนรับใช้ของเมืองนภาแยก ดังนั้นเธอจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะทำในสิ่งที่เธอต้องการ.”
“ขณะที่เธอเกิดมา ชีวิตก็ไม่ใช่ของเธอแล้ว.”
ในสายตาของมู่หรงหวันจิง หลิงหานซวงไม่ต่างอะไรไปจากข้าทาส.
เขาได้คาดเดาเอาไว้แล้วว่าคำพูดที่เหลือของหลี่ซูเอ๋อร์จะพูดอะไรต่อ เขารู้สึกว่าถ้าคำพูดเหล่านั้นถูกพูดออกมา มันจะถือว่าเป็นการดูถูกต่อเขาอย่างแน่นอน นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องขัดจังหวะนาง.
เขาเป็นคนที่มีสายเลือดชั้นสูง.
เขามีความมั่งคั่งและสถานะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือที่เขาครอบครองอยู่คือสายเลือดในตำนาน-สานเลือดมังกรที่แท้จริง.
เขาเกิดมาพร้อมกับมัน!
นั่นเป็นเหตุผลที่เขารู้สึกเหมือนกับจักรพรรดิที่ดูถูกคนทั้งโลกได้.
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหัวใจของหลี่ซูเอ๋อร์ที่อยู่ตรงหน้าเขา.
ยกเว้น…
เขารู้สึกเหมือนกว่าหลี่ซูเอ๋อร์ล่องลอนห่างจากเขาไปมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไปกับเด็กบางคนที่อยู่ในตระกูลลั่วในเมืองภูเขาหยก เขารู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังเดินจากไปไกล.
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจลึกๆ!
ความไม่พอใจนี้ถูกเก็บเอาไว้ภายในใจของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าของเขา ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลี่ซูเอ๋อร์ที่อยู่เบื้องหน้าของเขา.
หลี่ซูเอ๋อร์หัวเราะอย่างขมขื่นและส่ายหัว“ข้าสงสารเจ้ามาก แม้กระทั้งสาวงามที่สมบูรณ์แบบอย่างพี่สาวซวงก็ไม่อาจทำให้เจ้าเป็นห่วงได้ ถูกมั๊ย.”
มู่หรงหวันจิงรำคาญอย่างมาก เขาคิดว่าถ้าเขาขัดจังหวะคำพูดของหลี่ซูเอ๋อร์ เธอก็จะหยุดพูดถึงเรื่องนี้และเขาก็ไม่คิดว่าเธอยังคงวนเวียนอยู่ในหัวข้อนี้อีก
เขาถอนหายใจออกอย่างเงียบๆก่อนที่จะพูดว่า“ซูเอ๋อร์ ในสายตาของข้า เจ้าคือโลกสำหรับข้า.”
หลี่ซูเอ๋อร์ไม่รำคัาญและเป็นคนฉลาด เธอพูดว่า “ข้าเสียใจ ไม่มีเจ้าอยู่ในโลกของข้า โลกของข้ามีแต่พี่ใหญ่ลั่วเทียนเท่านั้น.”
ตาของมู่หรงหวันจิงเบิกกว้าง.
และกลิ่นอายที่มองไม่เห็นก็ออกจากร่างของเขา! ภายในสวรรค์ทั้งเก้าปั่นป่วน เสียงที่ดังออกมาราวกับมังกรแท้ๆที่กำลังโกรธ!
เขาโกรธ!
โกรธอย่างแท้จริง!
เมื่อท่าทีของมู่หรงหวังจิงราวกับจะระเบิดออกมา เขาก็เก็บกลิ่นอายของเขาและยิ้มอย่างเย็นชา “เจ้าไม่กลัวข้าฆ่าเขา?”
หลี่ซูเอ๋อร์ตอบ “เจ้าไม่กล้ส.”
“โอ้?”
มู่หรงหวันจิงรู้สึกเป็นเรื่องตลกและพูดว่า “มีอะไรบ้างในโลกนี้ที่ข้า มู่หรงหวันจิง ไม่กล้า?”
หลี่ซูเอ๋อร์ “นี่คือบางอย่างที่เจ้าไม่กล้า.”
ใบหน้าของเธอยังคงสงบและมีร่องรอยแห่งอารมณ์ปรากฏออกมา.
เธอรู้สึกกังวลในใจ แต่เธอก็สามารถปกปิดได้ดี แม้กระทั่งมู่หรงหวันจิงก็ไม่อาจรู้สึกได้.
มู่หรงหวันจิงมองไปที่หลี่ซูเอ๋อร์โดยไม่เคลื่อนไหว.
หลี่ซูเอ๋อร์ก็มองกลับไปที่มู่หรงหวันจิงกลับไปโดยไม่เคลื่อนไหวเช่นกัน.
ไม่นาน…
ร่างกายของหลี่ซูเอ๋อร์เริ่มโงนเงนและมีเงาร่างของนกปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของเธอซึ่งส่องสว่างราวกับเป็นดวงอาทิตย์ที่อยู่บนฟ้า ฟินิกซ์ในตำนาน!
ดวงแสงเริ่มกระจัดกระจายและหน้าอกของหลี่ซูเอ๋อร์ดูเหมือนว่าจะหายใจเร็วขึ้น.
มู่หรงหวันจิงมองอย่างสงบและพูด “ซูเอ๋อร์ดูเหมือนว่าการบ่มเพาะของเจ้ายังไม่เท่าไร.”
หลี่ซูเอ๋อร์ไม่ได้ตอบและมองไปที่มู่หรงหวันจิงเพียงเท่านั้น.
เวลาได้ผ่านไปอีกครั้ง…
มู่หรงหวันจิงก้าวเท้าถอยออกมาและเดินออกจากลานจากนั้นเขาก็พูดว่า “ตามข้ากลับไป.”
หลี่ซูเอ๋อร์ตอบ “ข้าจะกลับ แต่ข้าจะไม่ตามเจ้ากลับไป!”
มู่หรงหวันจิงมีรอยยิ้มที่เย็นชาก่อนที่จะหายไปในพริบตา.
ครึ่งชั่วโมงต่อมา…
ภายในนิกายเมฆคราม บนยอดเขาของนอกายเมฆคราม…
ตาของมู่หรงหวันจิงเต็มไปด้วยความโกรธ ดาบของเขาถูกชักออกมาและนิกายเมฆครามก็เต็มไปด้วยดาบที่เปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร.
ในคืนเดียว เลือดของนิกายเมฆครามก็ไหลราวกับแม่น้ำ.
ในคืนเดียวสาวกนับพันของนิกายเมฆครามก็ไม่มีแม้แต่ชีวิตเดียวที่รอด
ในคืนเดียว มู่หรงหวันจิงได้กลายเป็บบ้าและไล่ฆ่าทุกคนดั่งปีศาจ.
ในคืนเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สูญเสียเหตุผลทั้งหมดของเขาไป.
————-
เช้าตรู่ มู่หรงวันจิงนั่งอยู่บนบันไดระหว่างทางขึ้นเขาของนิกายเมฆคราม รอบๆของเขาเต็มไปด้วยซากศพที่ตายในดาบเดียวของเขา เขาจ้องมองอย่างเย็นชาและมืดหม่นจนแสงจากดวงตะวันส่องเข้าตาของเขา จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเองว่า “ไม่มีใครที่จะเอาผู้หญิงของข้าไปได้.”
“ลั่วเทียน เมื่อถึงเวลา ข้าจะฆ่าเจ้า.”
“แต่ครั้งต่อไป เมื่อข้าเจอเจ้า มันจะเป็นวันตายของเจ้า!”
หลังจากนั้น…
ผู้นำนิกายสาวกเมฆครามได้คุกเข่าลงด้านหน้าของเขา พร้อมกับหน้าอกที่เป็นรูขนาดใหญ่ เขายังไม่ตายและถามกลับมาว่า “ทำไม?”
มู่หรงหวันจิงเหลือบมองไปที่เขาและพูดว่า“เพราะว่าหนึ่งในผู้อาวุโสของเจ้าสมควรตายเพราะพูดหยาบคายกับผู้หญิงของข้า เพราะว่าเจ้าอยู่ที่นี่ในรัสมีหนึ่งแสนกิโลเมตรนี้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ บิดา อารมณ์ไม่ดี!”
———–
ตระกูลลั่วในเมืองภูเขาหยก.
ใบหน้าของหลี่ซูเอ๋อร์ซีดจางหลังจากที่มู่หรงหวันจิงหายไป เธอก็แทบจะล้มลงเหมือนกับไม่มีแรง.
โชคดีที่ได้รับการประคองจากเจียนหนู่อย่างรวดเร็ว.
เจียนหนู่ที่อยู่ในชุดคลุมดำถามเบาๆ “มันคุ้มค่าที่จะทำเพื่อเขางั้นรึ?”
มีรอยยิ้มอยู่บนหน้าของหลี่ซูเอ๋อร์และเธอก็ตอบว่า“มันคุ้มค่า.”
เจียนหนู่ดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หยุดลง.
หลี่ซูเอ๋อร์ยังคงพูดต่อด้วยรอยยิ้ม“ลุงเจียนหนู่ เมื่อข้าอายุได้ 4 ขวบ พี่ใหญ่ลั่วเทียนได้บอกว่าจะแต่งงานกับข้าและบอกว่าเขาจะปกป้องข้าไปตลอดชีวิตของเขา เราจึงได้ทำการสาบานด้วยกัน”
“พี่ใหญ่ลั่วเทียนสัญญาว่าจะให้ความสุขแก่ข้า.”
“พี่ใหญ่ลั่วเทียนพูดว่า ตราบเท่าที่เขาอยู่ เขาจะไม่ทำให้ข้าเป็นอันตราย.”
“พี่ใหญ่ลั่วเทียนพูด…”
ยิ่งหลี่ซูเอ๋อร์พูด เธอก็ยิ่งยิ้มขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดน้ำตาของเธอก็เริ่มไหลลง แต่เธอก็จับมือตัวเองไว้ไม่ให้ร้องไห้ออกมา.
แม้ว่าเขาจะมีหัวใจที่ไร้ความรู้สึก แต่ความรู้สึกที่เธอแสดงออกก็ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นเจ็บปวด.
คืนนั้น…
ลั่วเทียนนอนบนเตียงขณะที่มองเพดาน น้ำตาของเขาไหลออกตลอดเวลา.
เขากำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อของเขา เลือดเริ่มไหลออกมา แต่ความเจ็บปวดในหัวใจของเขามันเจ็บจนไม่รู้สึกใดๆจากทุกส่วนในร่างกายของเขาอีก.
คืนนั้น…
ความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งของเขารุนแรงอย่างมากตั้งแต่ที่เขารู้สึกมา.
ต้องแข็งแกร่งขึ้น!
บิดาต้องกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นให้ได้!
บิดาผู้นี้จะทุบตีไอ้มู่หรงหวันจิงจนกลายเป็นอึหมา บืดาผู้นี้ขอสาบานต่อพระเจ้าและพุทธะทั้งหลายในสวรรค์ ถ้าข้าไม่อาจทุบตีเขาเหมือนหมาใกล้ตาย นอนน้อยของข้าจะไม่ชูหัวขึ้นตลอดไป!
คำสัญญานี้ขอให้ส่งผลทันที!
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว.
3 วันหลังจากนั้น…
ลั่วเทียนยังคงแกล้งทำเป็นไม่ได้สติเพราะว่าเขาไม่รู้ว่าจะสู้หน้าหลี่ซูเอ๋อร์อย่างไร.
หลี่ซูเอ๋อร์ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้สังเกตเห็นและอยู่เฝ้าเขาเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน เธอเล่าต่อว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อตอนี่พวกเขาอายุ 4 ขวบในคฤหาสน์ของตระกูลลั่ว.
เธอยิ้มทุกครั้งที่เธอพูดถึง รอยยิ้มของเธอดูคล้ายกับเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกับชายในฝัน.
หนึ่งวันผ่านไป…
หลี่ซูเอ๋อร์ก็จากไป.
ตอนที่เธอจากไป ลั่วเทียนได้ลุกขึ้นและแอบวิ่งขึ้นไปบนกำแพงเพื่อดูว่าเธอหายไปแล้ว.
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่…
หลิงฮานซานได้ปรากฏตัวขึ้นอยู่เบื้องหลังเขา.
คราวนี้เธอไม่ได้สวมชุดคลุมดำตามปกติ แต่สวมชุดสีฟ้าอ่อน เธอดูเย็นชาเล็กน้อยและงดงามยิ่งกว่าปกติ ร่างกายของเธอดูเร่าร้อนเกินกว่าจะเปรียบ!
หลิงหานซานหยิบรุปปั้นบุคคลหนึ่งออกมาและพูดว่า“นี่คือบางอย่างที่นายหญิงของข้าต้องการให้ท่าน.”
ลั่วเทียนหยิบมันขึ้นมาและยิ้ม นี่คือสิ่งที่หลี่ซูเอ๋อร์บอกกับเขาว่านี่เป็นของขวัญที่เขามอบให้กับเธอเมื่อครั้งยังเยาว์วัย.
หลิงหานซานมองไปยังทิศทางของเมืองดาบสวรรค์ เธอก็เริ่มขุ่นเคืองและการแสดงออกของเธอก็มืดมนลงและพูดว่า “สามปีนับจากนี้ในเมืองนภาแยกจะเป็นวันแต่งงานของนายหญิงกับมู่หรงหวันจิง.”
ลั่วเทียนเก็บหุ่นดินไว้ที่กระเป๋าใกล้กับหัวใจมากที่สุด จากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจัง “ข้าจะไปที่นั่นเพื่อลักพาตัวเจ้าสาวเอง!”
หลิงหานซานยิ้ม.
งดงามอย่างมาก มันเหมือนกับดอกไม้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง.
จากนั้นเธอก็กระโจนออกไปยังทิศทางที่หลี่ซูเอ๋อร์ไป.
ลั่วเทียนหัวเราะเสียงดัง “ครั้งหน้าที่เราเจอกัน ข้าจะตีก้นเจ้าจนบานเป็นดอกไม้เลยคอยดู!”
หลิงหานซานก็หยุดชะงักและหันกลับมามองลั่วเทียนที่อยู่บนกำแพงเมือง มือของเธอเท้าเอวขณะที่เธอแอ่นอกขึ้น ก้อมทั้งสองชูขึ้นและสั่นไหวน้อยๆ ขณะที่เธอเผยรอยยิ้มที่น่าหลงใหลและน่าลุ่มหลงพูด“ข้าจะจำไว้ บนเตียงใช่ไหม? ข้าจะรอวันนั้น!”
———–
บัณทึกผู้แต่ง:บทนี้ทำให้แม้กระทั่งวัวเฒ่าก็รู้สึกอึดอัดและใบหน้าของฉันก็เกือบจะเต็มไปด้วยน้ำตา ตาพี่น้องเพื่อที่จะระเบิดลงในอีกสามปี เมื่อลั่วเทียนได้รับเวทย์โบราณ,เพิ่มเลเวล, 3 ปีหลังจากนั้นเขาจะทุบตีมู่หรงหวันจิงจนกลายเป็นกองอึ.
คอมเม้นต์