เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 18 ใช่…ข้าเองนี่แหละที่ได้ 100 คะแนน

อ่านนิยายจีนเรื่อง เซียนกระบี่มาแล้ว!剑仙在此 ตอนที่ 18 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 18 ใช่…ข้าเองนี่แหละที่ได้ 100 คะแนน

ทั้งห้องสอบเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ

ในความคิดของอาจารย์ฉู่ ข้อสอบนั่นต้องเป็นชื่อของอู๋เสี่ยวฟางแน่นอน และเขาก็อดขำออกมาไม่ได้ “ฮะฮ่า ต้องเป็นอู๋เสี่ยวฟางแน่นอนเลยล่ะ ตอนข้าเข้าไปถามเขา เขาถึงกับพูดเองเลยว่าเขาอาจจะได้ 100 คะแนนเลยก็เป็นได้หากเขาโชคดี เอาน่า…เปิดชื่อออกดูเถอะ”

ต่อให้นี่จะเป็นเพียงการทดสอบความรู้เท่านั้น แต่คะแนนเต็ม 100  ก็ยังเป็นเรื่องน่าอวดอยู่ดี

อาจารย์โหวเปิดชื่อออกจากม่านพลังในขณะที่เคาะนิ้วไปด้วย และเมื่อเห็นชื่อบนกระดาษนั่น

สีหน้าแปลกใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

“ไม่…ไม่ใช่อู๋เสี่ยวฟาง”

อาจารย์โหวมองไปยังอาจารย์ฉู่

“หืม?” ฉู่เหินเบิกตาโต “ถ้างั้นเป็นใครกันล่ะ”

อาจารย์โหวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “อาจารย์ฉู่…ท่าน…ท่านน่าจะมาดูนี่ด้วยตัวเอง”

อาจารย์ฉู่รู้สึกประหลาดใจ และเมื่อเขาเห็นชื่อบนกระดาษ ก็ถึงกับค้างอยู่ในอาการตกตะลึง

เมื่อเห็นชื่อนั้น อาจารย์ท่านอื่น ๆ ก็ถึงกับประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก

“เกิดอะไรขึ้น!”

“ถ้านั่นไม่ใช่อู๋เสี่ยวฟาง ไม่งั้นก็ต้องเป็นมู่ซินเยว่หรืออู่สี่แน่ ๆ ไม่ก็พวกศิษย์มากความสามารถคนอื่น ๆ แต่…ทำไมอาจารย์ฉู่ถึงทำหน้าแบบนั้นกันล่ะ”

“ผลสอบออกมาแล้ว! มาดูกันเร็วเข้า!” บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างก็พากันตะโกนก้อง

เหล่าศิษย์นับร้อยต่างกรูกันเข้ามายังแท่นประกาศคะแนนเพื่อดูผลสอบ

คลื่นพลังสีฟ้ากะพริบอยู่บนแท่นหิน

พวกเขาต่างพากันเอื้อมมือไปยังแท่นหิน อดใจแทบไม่ไหวที่จะวางมือลงไปเพื่อดูผลสอบ

“โหวเสี่ยวเชา ชั้นปีที่ 2 ห้อง 2 68 คะแนน”

รายชื่อของคนผู้นั้นถูกประกาศขึ้นบนแผ่นหิน

“ฮ่า ๆ ข้าสอบผ่าน วู้! ข้าสอบผ่านแล้ว”

ศิษย์นามโหวเสี่ยวเชาร้องออกมาด้วยความดีใจ พร้อมมองขึ้นไปยังท้องฟ้าและหัวเราะลั่น

บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างพากันทยอยอ่านรายชื่อและผลสอบของตนเอง

ในขณะที่บางคนผิดหวัง บางคนกลับดีใจ

หลังจากเหล่าศิษย์โดยรอบได้รับผลสอบของตนกันเกือบหมดแล้ว บรรดาศิษย์ระดับหัวกะทิก็พากันเดินมายังใต้แท่นหิน

เหลิงเย่ ชั้นปีที่ 2 ห้อง 1 81 คะแนน

รายชื่อปรากฏขึ้นบนแท่นหิน

“โอ้โห…81 คะแนนงั้นรึ? นี่เป็นคนแรกเลยนะที่ได้คะแนนเกิน 80”

“ต้องเก่งแค่ไหนกันเนี่ยถึงจะได้คะแนนตั้ง 81 คะแนนในข้อสอบที่ยากขนาดนี้”

“เจ้านั่นต้องเป็นอัจฉริยะแหง ๆ นี่มันสุดยอดไปเลย”

เสียงฮือฮาด้วยความตื่นเต้นดังขึ้น

เหลิงเย่ชักมือกลับด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

เขาหันไปยังอู๋เสี่ยวฟางและเอ่ยว่า “พี่อู๋ ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำในการสอบ ข้าได้คะแนนยอดจริง ๆ ท่านต้องทำได้ดีกว่านี้มากแน่ ๆ ทำไมไม่เปิดคะแนนก่อนพวกเราล่ะ”

“จริงด้วยพี่อู๋ ดูคะแนนสอบของท่านเถอะ”

“มันต้องมากกว่า 90 แน่ ๆ ”

“แน่นอนสิ พี่อู๋น่ะได้คะแนนเป็นที่หนึ่งในปีที่แล้วเลยนะ”

เสียงชื่นชมดังอื้ออึงจากทุกทิศ

อู๋เสี่ยวฟางยิ้มกว้างก่อนจะตอบอย่างเสียมิได้ “เอาล่ะ ๆ ได้เลย จัดให้ตามคำขอ”

เขาวางมือลงบนแท่นหิน

“อู๋เสี่ยวฟาง ปี 2 ห้อง 1 92 คะแนน”

รายชื่อปรากฏขึ้น

ทุกคนต่างตกตะลึงและชื่นชมในตัวเขาไปพร้อมกัน

“สุดยอดมาก”

“โอ้โห…92 คะแนนเนี่ยนะ อีกแค่ 8 คะแนนก็จะได้คะแนนเต็มแล้ว”

“พี่อู๋ ท่านนี่สุดยอดไปเลย ข้าว่าท่านต้องได้ที่ 1 อีกแน่นอนในปีนี้”

ทุกคนล้วนตะลึงพรึงเพริด

“น่ากลัวจริง ๆ ”

“นี่สินะ ความแข็งแกร่งของผู้ชนะเลิศในการสอบปีที่แล้ว”

อู๋เสี่ยวฟางยิ้มเพียงเล็กน้อย

แม้คะแนนจะต่ำกว่าที่เขาคาดเอาไว้ แต่เมื่อเทียบกับความยากของข้อสอบในปีนี้ 92 คะแนนก็นับว่าเป็นคะแนนที่รับได้สำหรับเขา

“แย่จริง ๆ ที่ข้าพลาดไปตั้ง 8 คะแนน ตอนแรกข้าคิดว่าจะได้คะแนนเต็มเสียอีก อ๋า…ข้านี่ประมาทเลินเล่อเสียจริง ข้าจะไม่ยอมกลายเป็นคนเย่อหยิ่งแน่ ข้าต้องตั้งใจทำข้อสอบให้มากกว่านี้ จะทำเล่น ๆ ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ” อู๋เสี่ยวฟางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“พี่อู๋พูดมาได้ยังไง ได้คะแนนสูงปานนั้น ยังจะอุตส่าห์ถ่อมตัวอีก” เหลิงเย่คิดกับตนเอง

อู๋เสี่ยวฟางไม่หุบยิ้มแม้แต่น้อยด้วยความภาคภูมิใจในตนเอง

92 คะแนนน่าจะเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์จักรวรรดิเป่ยไห่แล้ว

เขามองไปยังฝูงชนรอบ ๆ และไปสะดุดตาเข้าที่หลินเป่ยเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พลันคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “อ้า… หลินเป่ยเฉินนี่? ใช่มั้ย? ฮะฮ่า เห็นท่านคณบดีบอกว่าเจ้าส่งข้อสอบเป็นคนแรก แบบนี้แสดงว่าเจ้าต้องได้คะแนนดีมากแน่ ๆ ”

ทุกคนต่างมองไปยังหลินเป่ยเฉินเป็นตาเดียว

หลินเป่ยเฉินแหวกฝูงชนโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ก่อนวางมือลงบนแท่นหิน

รายชื่อคะแนนของเขาค่อย ๆ ปรากฏขึ้น

หลินเป่ยเฉิน ปี 2 ห้อง 9 100 คะแนน

ในชั่วขณะนั้น ทุกอย่างเงียบสงัดไปหมด

ณ บริเวณนั้น ความเงียบได้คืบคลานมาอย่างฉับพลัน

ทุกสิ่งดูราวกับหยุดนิ่ง ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว

ราวกับการวางมือลงบนแผ่นหินนั่นทำให้คนทั้งสถาบันหยุดนิ่งไป

อู๋เสี่ยวฟางนิ่งอึ้งด้วยความประหลาดใจและสับสน

ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาอ่านตัวเลขผิดไป

เขาขยี้ตาและมองดี ๆ อีกรอบหนึ่ง

“100 คะแนน…คะแนนเต็มงั้นรึ เจ้าเศษขยะนี่…ได้คะแนนเต็มงั้นหรือ มันเป็นไปได้ยังไง!”

เขาไม่อยากเชื่อคะแนนที่ตนเองเห็น

หลินเป่ยเฉินแสร้งทำสีหน้าตกใจเกินจริงและกล่าวขึ้นว่า “นี่มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย ข้าหลับตาทำข้อสอบด้วยซ้ำ แต่จู่ ๆ ก็ได้คะแนนเต็มมาซะงั้น อ๋า…น่าเบื่อจริง ก็ข้อสอบมันดันง่ายไปน่ะสิ ไม่เห็นจะท้าทายเลย”

ทุกคนนิ่งอึ้งกับคำพูดของเขา

“นั่น…นั่นเขาพูดอะไรออกมาน่ะ”

หลินเป่ยเฉินมองไปยังอู๋เสี่ยวฟางด้วยรอยยิ้มจาง ๆ และกล่าวว่า “92 คะแนนงั้นหรือ? นั่นเรียกว่าคะแนนดีแล้วงั้นสิ?”

อู๋เสี่ยวฟางพูดตอบอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้า…เจ้าหมายความว่ายังไง”

“ไม่มีอะไรนี่…ข้าแค่ไม่ชอบเวลาเห็นคนทำเป็นอวดดีกับคะแนนแค่ 92 น่ะนะ แถมยังแสร้งทำเป็นพูดว่าตัวเองทำข้อสอบแบบเล่น ๆ อีก นี่เจ้าเป็นเด็กอมมือหรือยังไง เจ้าช่างไร้เดียงสาเสียจริง และก็ยังน่ารังเกียจด้วยที่ทำมาเป็นอวดดีแบบนั้น”

หลินเป่ยเฉินพูดอย่างขวานผ่าซาก ราวกับชักกระบี่ออกมาแทงเสี่ยวฟางเสียตรงนั้น

“เจ้า…เจ้า” อู๋เสี่ยวฟางรู้สึกราวกับถูกแทงเข้าที่ขั้วหัวใจด้วยคำพูดของหลินเป่ยเฉิน ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนสีด้วยความโกรธขึ้ง เขาถึงกับตบะแตกก่อนจะตะโกนออกมาว่า “นี่…นี่เจ้าโกงข้อสอบหรือเปล่า สวะไร้ค่าอย่างเจ้า มันจะ…ได้คะแนนเต็มได้ยังไง”

หลินเป่ยเฉินกล่าวด้วยสีหน้าดูถูกว่า “ทำไมข้าจะต้องโกงข้อสอบง่าย ๆ แบบนั้นด้วยล่ะ”

“เจ้าโกหก คนแบบเจ้ามันจะได้คะแนนเต็มได้ยังไงกัน เจ้าน่ะมันไม่คู่ควรกับคะแนนเต็มหรอก!” อู๋เสี่ยวฟางตะโกนก้องด้วยเสียงเยาะเย้ย “ไม่เอาน่า หลินเป่ยเฉิน เจ้าต้องโกงข้อสอบแน่ ๆ บอกมาเถอะว่าเจ้าโกงข้อสอบยังไง ไปหาอาจารย์แล้วสารภาพมาเสียดี ๆ ใคร ๆ ก็รู้ว่าเจ้าไม่มีปัญญาทำคะแนนเต็มได้หรอก”

“จริงด้วย คนสารเลวนี่มันต้องโกงข้อสอบแน่ ๆ ”

“เจ้านี่มันไร้ค่าจริง ๆ เป็นแค่เศษขยะเท่านั้นจะได้คะแนนเต็มงั้นหรือ เป็นไปไม่ได้หรอกน่า”

“ทุกคนไปร้องเรียนกับคณบดีกันเถอะ”

“ใช่ ไปกันเถอะ”

ทุกคนตะโกนกร้าวด้วยความโกรธ

เสียงตะโกนของบรรดาศิษย์ทั้งหลายดังขึ้นเรื่อย ๆ

แต่หลังจากนั้น

“เขาไม่ได้โกง!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นมา

อาจารย์ผู้เป็นหัวหน้าชั้นปีเดินมายังแท่นหิน

ก่อนที่ทุกคนจะสงบลงทันควัน

ฉู่เหินมองไปยังหลินเป่ยเฉินด้วยแววตายากจะเข้าใจ และกล่าวกับทุกคนว่า “การที่ทุกคนส่งเสียงดังในที่สาธารณะแบบนี้เป็นอะไรที่ไร้มารยาทกันเสียจริง ขณะที่การประลองทดสอบความสามารถกำลังดำเนินอยู่นี่ ไม่มีใครสามารถโกงได้ทั้งนั้น ม่านพลังที่พวกอาจารย์สร้างขึ้นเป็นเครื่องตรวจจับที่ไม่มีข้อบกพร่อง และเราก็ได้ใช้ระบบพวกนั้นตรวจสอบกระบวนการทำข้อสอบของเขาแล้ว ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่หลินเป่ยเฉินจะได้คะแนนมาโดยการโกง เช่นนั้นแล้วคะแนนของหลินเป่ยเฉินถือว่าถูกต้องและเป็นของแท้อย่างแน่นอน”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด