ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 785 ถือกำเนิดกระบี่ชั่วร้าย
จุดสีฟ้าครามนั้นโดดเด่นละลานตายิ่ง สว่างถึงขีดสุด ทำให้ที่ว่างซึ่งมีแต่แสงสีเลือดถูกย้อมเป็นสีฟ้าครึ่งหนึ่ง
นั่นคือเลือดหัวใจหยดสุดท้ายของเทาเที่ย มาจากส่วนลึกที่สุดในหลอดเลือดของมัน จับตัวกันในระดับสูง เพื่อการฟื้นคืนชีพของตัวเอง
นี่คือผลที่ยากจะได้จากการใช้วิชาลับของคนนอก ต่อให้สูบเลือดของเทาเที่ยจนเหือดแห้งก็ไม่อาจทำได้
มีแต่ในสถานการณ์พิเศษเช่นนี้เท่านั้น จึงอาจจะปรากฏขึ้นมาได้
เลือดหัวใจครั้นโผล่ออกมา ฝักกระบี่กลืนฟ้าก็พลันสั่นไหวอย่างรุนแรงกว่าเดิม
กระบี่โบราณสำริดด้านในฝักกระบี่ แทบไม่อาจสะกดวิญญาณปีศาจด้านในตัวกระบี่ได้อีก
เสียงคำรามของเทาเที่ยงดังสนั่นจนเกือบทำให้แก้วหูฉีกขาด
เงาแสงบนผิวฝักกระบี่ ศีรษะที่เทาเที่ยยื่นออกมา เกือบจะกลายเป็นของจริง พุ่งออกจากฝักกระบี่ กระโจนเข้าไปในบ่อเลือด หมายประสานกับเลือดหัวใจหยดนั้นและกายเนื้อที่กลายเป็นวังศิลา
แต่ว่าในตอนนั้นเอง ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็พลันลงมือ!
เตากลืนดินถูกร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเหวี่ยงใส่ฝักกระบี่กลืนฟ้า
เตาที่เหมือนกับเตาเครื่องหอมสีดำตั้งอยู่บนปลายฝักกระบี่ ขาหยั่งของมันค่อยๆ ผสมกับผิวนอกของฝักกระบี่
ในขณะนั้น ฝักกระบี่กลืนฟ้ากับเตากลืนดินก็รวมกันเป็นหนึ่ง
เตากลืนดินมองไปเหมือนกับเครื่องประดับที่มีอยู่บนฝักกระบี่อยู่แล้ว
ด้านในเตาเครื่องหอมสีดำพลันมีแสงไฟพุ่งออกมา เหมือนกับถ่านไฟที่ยังคุ เถ้าลุกไหม้ขึ้นอีกครั้ง
วิญญาณของเทาเที่ยที่คิดจะพุ่งออกจากฝักกระบี่กลืนฟ้า ร่างพลันหยุดนิ่งลง ก่อนจะส่งเสียงคำรามโมโหโกรธา
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกแบมือ ตวาดเสียงเบา “พ่านพ่าน!”
แสงสว่างกะพริบใจกลางฝ่ามือของมัน เงากลมๆ สีดำขาวกระโจนออกมาจากด้านใน ส่งเสียงขานรับ ก่อนจะกระโดดเข้าไปในบ่อเลือด!
เป็นพ่านพ่านนั่นเอง
มันก่อนหน้านี้ออกมาจากในวังฝูงมังกร อยู่ที่บ่อเลือด ไม่ได้ตามเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงไปด้วย เตรียมตัวไว้อยู่นานแล้ว
เมื่อเข้าในบ่อเลือด พ่านพ่านก็กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะม้วนลิ้นครั้งหนึ่ง แล้วกลืนเลือดหัวใจของเทาเที่ยที่เหมือนกับอัญมณีสีฟ้าครามเข้าไป
พริบตานั้น บนร่างของพ่านพ่านพลันมีแสงสีฟ้าชั้นหนึ่งลอยขึ้น แต่ดวงตาสองดวงของมันเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด
กลิ่นอายที่บ้าคลั่งดุร้ายลอยออกมาจากตัวพ่านพ่าน ร่างกายของมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
ปกติแล้วพ่านพ่านจะหดร่างเล็กและสงวนท่าทีเอาไว้ แต่ว่ามันในตอนนี้ควบคุมร่างของตัวเองไม่ได้อีก กลับคืนสู่ขนาดดั้งเดิมอย่างรวดเร็ว มหึมาราวกับภูเขาลูกหนึ่ง
แม้จะเป็นเช่นนั้น บนผิวของมันก็ยังคงมีลำแสงสีแดงเลือดหลายสายกระเพื่อมไม่หยุด เหมือนกับเส้นเลือดกำลังพอง ใกล้จะพุ่งออกมานอกร่าง
เทาเที่ยที่ตายไปแล้วตัวนี้มีพลังฝึกปรือแข็งแกร่งเกินไป แม้ร่างจะตายไปแล้ว แต่ว่าเลือดหัวใจหยดหนึ่งกลับเป็นการรวมตัวของสสารเลือดปีศาจทั่วร่าง ความแข็งกล้าของพลังมากเกินกว่าที่พ่านพ่านในตอนนี้จะสามารถกลืนกินดูดซับได้อย่างสบายๆ
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเตรียมตัวไว้แต่แรก ยกฝักกระบี่กลืนฟ้า แล้ววางไว้บนศีรษะของพ่านพ่าน
ไฟเตาบนปลายฝักกระบี่ส่องแสง พลันส่งแรงดึงดูดมมหาศาลมา ช่วยพ่านพ่านรับแรงกดดัน
ความเจ็บปวดคลุ้มคลั่งในดวงตาของพ่านพ่านหายไป นิ่งสงบลงอีกครั้ง ร่างกายขนาดมหึมาไม่หดลง แต่พุ่งเข้าไปในบ่อเลือดตรงๆ
เลือดปีศาจที่เหลืออยู่ในหัวใจปีศาจของเทาเที่ยเริ่มถูกพ่านพ่านดูดซับไปเป็นปริมาณมาก
หลังจากฝักกระบี่กลืนฟ้ากับเตากลืนกินรวมกันโดยสมบูรณ์ วิญญาณปีศาจของเทาเที่ยที่ขาดอีกก้าวเดียวจะหลุดออกมาได้ พลันดูดเก็บกลับไปอีกครั้ง
บนผิวกระบี่สำริดมีลำแสงหลายสายกะพริบ ม้วนใส่วิญญาณปีสาจที่ร้องคำรามอย่างไม่ยอม ให้กลับไปด้านในตัวกระบี่
ลำแสงกลายเป็นจุดหนึ่ง ซัดสาดอยู่ด้านบนคมกระบี่ไม่หยุด
เสียงกรีดร้องที่เหมือนกับเสียงทารกร่ำไห้ เริ่มกลายเป็นเสียงร้องของกระบี่ ดังออกมาจากในฝักกระบี่ แล้วขยายออกรอบๆ อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายก็สะท้อนอยู่ด้านในวังศิลา
กลิ่นอายของพลังอันกล้าแข็งพุ่งขึ้นท้องฟ้า สั่นสะท้านจิตใจของผู้คน
พวกคังผิงกับกู้หงต่างงงงัน ‘นี่…นี่เป็นการกำเนิดของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง นอกจากนี้ยังเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดด้วย เป็นตัวตนระดับสุดยอดในหมู่อาวุธศักดิ์สิทธิ์หรือ?!’
บ่อเลือดแห้งเหือด หัวใจปีศาจกับส่วนอื่นๆ ของกายเนื้อของเทาเที่ยค่อยๆ แยกออกจากกัน
ส่วนที่เหลือของกายเนื้อเทาเที่ย ตอนนี้กลายเป็นหลุมอันสับสนสีดำทั้งหมด!
หลุมอันสับสนสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนค่อยๆ รวมกันกลายเป็นหนึ่ง เปลี่ยนเป็นหุบเหวหลุมดำที่สมบูรณ์แบบ กลืนกินสิ่งมีชีวิตและสิ่งของทั้งหมดที่อยู่ด้านใน
พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดกำลังพัดกรรโชกอยู่ในน่านน้ำของดินแดนสุทธทัศน์บนทะเลหวงเจีย
กระนั้นในตอนนี้เอง พายุถึงกับค่อยๆ สงบลง
แต่ว่าทุกสิ่งเป็นแค่จุดเริ่มต้นของมหาภัยพิบัติเท่านั้น
ดินแดนสุทธทัศน์ทั้งผืน หรือแม้แต่สถานที่ที่อยู่รอบๆ เช่นดินแดนภูผาสงัด ผิวน้ำเริ่มเว้าลึกลงด้านล่าง!
ที่ก้นมหาสมุทร ปรากฏหลุมดำขนาดมหึมาหลุมหนึ่ง พลังแห่งการกลืนกินอันน่ากลัวที่ส่งออกมาจากข้างใน กลืนกินทุกสิ่งด้านบนอย่างต่อเนื่อง
วังศิลาก้นทะเลหายไปโดยสิ้นเชิงแล้ว คนที่อยู่ในวังศิลาเมื่อก่อนหน้า ครั้งนี้ถูกหลุมดำดูดไว้ ลากพวกเขาลงด้านล่าง
พลังอันน่ากลัวนั้นอยู่ในขั้นที่พวกคังผิงซึ่งเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน รู้สึกตึงมืด ไม่อาจสลัดหลุดได้
ไม่ว่าจะเป็นพวกคังผิง เฮ่อตงเฉิง กู้จาง หรือหลัวจื้อเทา กู้หง กงซุนอู่ ยามนี้ต่างไม่มีเวลาสนใจคู่ต่อสู้ก่อนหน้าแล้ว
ทุกคนต่างใช้กำลังทั้งหมดพุ่งขึ้นด้านบน คิดสลัดจากพันธนาการของหลุมดำ
เทาเที่ยคืนชีพขึ้นมาไม่ได้ วิญญาณปีศาจกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบี่วิเศษโดยสมบูรณ์ ทำให้กระบี่อันดุร้ายถือกำเนิดขึ้นสำเร็จ
แต่ว่าพลังแห่งกายเนื้อและเลือดเนื้อที่เหลืออยู่ของมันถูกกระตุ้นโดยสิ้นเชิง
ในตอนนี้ไม่มีวิญญาณปีศาจสิงร่าง พลังพลันสูญเสียการควบคุมโดยสมบูรณ์ ติดอยู่ในความบ้าคลั่งสุดท้าย
เลือดเนื้อของมันลุกไหม้ขึ้นมา กลายเป็นหลุมดำอันน่าพรั่นพรึง หลังจากกลืนกินทุกสรรพสิ่ง ก็กำลังจะพังทลายลง
เมื่อถึงเวลา สิ่งมีชีวิตที่ถูกหลุมดำกลืนกินก็จะกลายเป็นฝุ่นกลับสู่ฝุ่น ดินกลับสู่ดิน
สถานที่ที่ผลกระทบค่อนข้างอ่อนแอเพียงที่เดียว ก็คือหัวใจปีศาจของเทาเที่ยที่ยังเหลืออยู่
หัวใจปีศาจรวมถึงมุมหนึ่งของซากวังศิลาที่เกิดจากเลือดเนื้อก้อนหนึ่ง ฝืนรักษาลักษณะเดิมไว้ มีความสามารถป้องกันที่แข็งแกร่งต่อการกลืนกินจากหลุมดำเช่นกัน
ด้านในวังที่อยู่ใกล้กับบ่อเลือด หงส์เพลิงตัวนั้นได้พุ่งมาถึงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดอย่างกระทันหันทำให้เขางงงันเช่นกัน ‘วังศิลาแห่งนี้เกิดจากซากศพของเทาเที่ยตัวหนึ่ง ด้านในมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงซ่อนอยู่หรือ?
‘ไม่ถูกต้อง อาวุธศักดิ์สิทธิ์เพิ่งสร้างเสร็จ เฮยจู่สมควรตายไปแล้ว ที่นี่คือพิธีกรรมที่เขาเหลือไว้ตอนยังอยู่ดำเนินมาถึงปัจจุบันหรือ?’
ด้านในหงส์เพลิง ปรากฏเงาร่างของบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง เขาขมวดคิ้ว ‘คิดไม่ถึงเลยว่านอกจากกระดูกหงส์เพลิงแล้ว เฮยจู่จะยังทิ้งสิ่งของเช่นนี้ไว้อีก ถ้าหากรู้แต่แรกคงไม่ต้องลำบากถึงเพียงนี้’
สายตาของเขาหันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอกับถังหย่งฮ่าว คิ้วคลายออก ‘ดีที่ที่นี่ยังเสถียรอยู่ เอากระดูกหงส์เพลิงก่อน ค่อยไปดูอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนั้น’
เขามองรอบๆ ยื่นมือออกมาคนว้าใส่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ
หงส์เพลิงสยายปีก เปลวไฟเทียมฟ้าม้วนพัด
ตราประทับตะวันส่องแสงระยิบระยับ บนร่างของอีกฝ่ายกลับมีประกายแสงสีแดงก่ำสว่างขึ้น หยุดยั้งตราประทับตะวันไว้
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของเขาแม้จะสู้ตราประทับตะวันไม่ได้ แต่ว่าตัวเขามีพลังฝึกปรือสูงกว่าเยี่ยนจ้าวเกอ ย่อมแสดงอานุภาพของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ได้มากกว่า
แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับมีสีหน้ามั่นคง
วินาทีถัดมา กลิ่นอายที่ชั่วร้ายถึงขีดสุดนั้นก็ลอยมา
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกแบกฝักกระบี่สีดำขนาดยักษ์ไว้บนหลัง ปรากฏขึ้นต่อหน้าคนทุกคน
เปลวเพลิงลุกโชนที่เกิดจากการกระพือปีกของหงส์เพลิงตัวนั้น มาถึงตรงหน้าฝักกระบี่ ถูกดูดเข้าไปด้านใน แล้วหายไปในชั่วพริบตา
อีกฝ่ายเลิกคิ้ว หงส์เพลิงพุ่งลง สภาวะน่าตกตะลึง
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกวางฝักกระบี่ ใช้แรงตบลงบนตัวฝัก
ฝักกระบี่เปิดออก ปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดทะลักออกมา!
ปราณกระบี่ปะทะกับเพลิงโหมกลางอากาศไม่หยุด ปราณกระบี่ทำลายเปลวเพลิง อัคคีเผาไหม้ปราณกระบี่ กระแทกกันเป็นพัลวัน
แต่ตามหลังปราณกระบี่ ประกายกระบี่แถบหนึ่งก็ค่อยๆ ลอยขึ้นจากด้านในฝักกระบี่
คอมเม้นต์