Perfect Superstar – ตอนที่ 160 แวดวงของนายวุ่นวายจริงๆ
ตอนที่ 160 แวดวงของนายวุ่นวายจริงๆ
วันที่ 5 เดือนกันยายน อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ของลู่เฉิน ได้มีการโฆษณาอุ่นเครื่องในเฟยซวิ่นมิวสิคแล้ว
ใช้เวลาถึงสองเดือนกว่าอัลบั้มจะเสร็จสมบูรณ์ มันกลายเป็นงานหลักอย่างแท้จริงหลังจากที่สตูดิโอลู่เฉินก่อตั้งขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย ความสำเร็จหรือล้มเหลวในการจำหน่ายของมันมีผลกระทบต่อตำแหน่งในวงการเพลงป็อปของลู่เฉินเป็นอย่างมาก
ไม่มีศิลปินอิสระคนไหน สามารถทำอัลบั้มแรกของตัวเองออกมาหลังจากที่เพิ่งเดบิวต์ได้เร็วขนาดนี้
ในฐานะนักร้องนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างรวดเร็วคนหนึ่ง จึงไม่ต้องสงสัยถึงความสามารถของลู่เฉิน ผลงานเพลงของเขาติดชาร์ตหลายเพลง และผลงานเพลงเวอร์ชั่นร้องสดที่แสดงในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ก็ติดชาร์ตในเฟยซวิ่นมิวสิคหลายครั้ง
เพราะฉะนั้นจึงมีคนในวงการจำนวนไม่น้อยคอยติดตามคนที่จำหน่ายอัลบั้มนี้ทางออนไลน์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมองว่าดี เพราะยอดจำหน่ายของอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ มีการพูดในทางที่ไม่ดีในบล็อกล่างฉาว
อย่างแรกคือลู่เฉินไม่ได้ใช้พลังอย่างมากในการสร้างกระแสโปรโมทของอัลบั้มชุดนี้ เขาแค่โฆษณาในบล็อกของตัวเอง และตำแหน่งของการโปรโมทของเว็บไซต์เฟยซวิ่นก็ธรรมดามาก ซึ่งทำให้คนรู้สึกอายและเสียดายที่จะทุ่มเงินลงไป
ศิลปินในตอนนี้ถ้าอยากจะดังโดยไม่มีการทำโฆษณาเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ ส่วนใหญ่แล้วเหมือนเป็นความฝันเพ้อเจ้อ อัลบั้มของนักร้องใหม่ถ้าหากไม่ใช้ความพยายามในการสร้างกระแสโปรโมท ปริมาณการจำหน่ายมักจะแย่มาก
เกี่ยวกับด้านผลประโยชน์ อย่างเช่นเว็บไซต์ยอดนิยมของเฟยซวิ่นมิวสิคกับสื่อมีเดียหลายสำนัก ก็มักจะมองข้ามเหมือนจะตั้งใจแต่ไม่ตั้งใจ และไม่ช่วยโปรโมทแหล่งข้อมูลให้ง่ายๆ ทุกอย่างล้วนเป็นกฎลับของวงการไปแล้ว
และผลงานเพลงเหล่านี้ของลู่เฉินในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ มีหลายเพลงที่มียอดกดไลค์และดาวน์โหลดในเฟยซวิ่นมิวสิคหลายเพลง แต่หลังจากรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ สิ้นสุดลงยอดติดชาร์ตก็ตกลงฮวบฮาบหายเข้ากลีบเมฆ
เหตุผลง่ายมาก เพราะว่าลู่เฉินไม่ได้จ่ายเงินโฆษณาให้กับเฟยซวิ่นมิวสิค แหล่งทรัพยากรของการโฆษณาที่สำคัญแบบนี้จะปล่อยให้เขามายึดฟรีๆ ได้อย่างไร สามารถโผล่หน้ามาติดชาร์ตได้ก็ถือว่าไว้หน้ามากแล้ว
ถ้าหากเฟยซวิ่นมิวสิคไม่ได้ร่วมงานกับรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง เกรงว่าคงไม่มีโอกาสได้ขึ้นติดชาร์ตเลยด้วยซ้ำ!
ครั้งนี้ลู่เฟยร่วมงานกับเฟยซวิ่นมิวสิคอย่างเป็นทางการ ซึ่งคนหลังก็ได้สิทธิ์ในการจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว และพื้นที่โฆษณาเล็กๆ ก็ยังคงต้องจ่ายเงินหนึ่งแสนหยวนอยู่ดี
โดยปกติทั่วไปแล้ว ด้วยอิทธิพลจากรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ อัลบั้มนี้ของลู่เฉินควรค่าที่จะทำเลยทีเดียว
แต่เขาดันมาเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งสองสามคนพอดี!
คู่แข่งคนแรกคือชุยเจิ้งจื้อ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศในรายการ ‘ซูเปอร์เมลวอยซ์ (Super Male Voice)’ ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานในปี 2014 เขาเซ็นสัญญากับบริษัทเฉิงเถียนเอนเตอร์เทนเมนต์ และโฆษณาอุ่นเครื่องอัลบั้ม ‘Pantera (แพนเทอร่า)’ ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกของตัวเองในวันที่ 1 เดือนกันยายน
นักร้องไอดอลลูกครึ่งชาวจีน-เกาหลีคนนี้ เป็นศิลปินหน้าใหม่ตัวหลักที่ถูกผลักดันโดยบริษัทเฉิงเถียนเอนเตอร์เทนเมนต์อย่างเต็มที่
อัลบั้มของเขาใช้เวลาบ่มเพาะเกือบหนึ่งปี จึงเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน เพลงหลักของอัลบั้มคือ ‘Pantera’ ตอนนี้ถูกจัดให้ติดอันดับแรกของชาร์ตเฟยซวิ่นมิวสิคไปแล้ว แสดงว่ามีแนวโน้วที่สุดยอดมาก!
คู่แข่งคนที่สองคือโจวเป้ย ได้รับแชมป์ในรายการวาไรตี้โชว์ชื่อดัง ‘National Idols’ ของสถานีโทรทัศน์เซินไห่ในปี 2015 เธอเซ็นสัญญากับบริษัทซิงกวงมีเดีย และบังเอิญบริษัทซิงกวงมีเดียก็ถือหุ้นบริษัทของรายการ ‘สตาร์โชว์’ อีกด้วย
โจวเป้ยเรียนจบจากสถาบันดนตรีฮู่อิน เป็นผู้หญิงมากความสามารถ เช่นเดียวกันเธอก็มาพร้อมกับอัลบั้มแรกของเธอ ‘Bloomig Flowers’ และเริ่มโฆษณาอุ่นเครื่องในเฟยซวิ่นมิวสิคในวันที่ 2 เดือนกันยายน
ส่วนคู่แข่งคนที่สาม คือคนคุ้นเคยของลู่เฉินอย่างไม่ต้องสงสัย…หลิงเสี่ยวเซียว
หลิงเสี่ยวเซียว แสดงพลาดในรอบชิงชนะเลิศ เป็นผลให้ได้เพียงอันดับที่ห้า
ความพ่ายแพ้ของเขาหากจะพูดอย่างจริงจังแล้วก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับลู่เฉินอยู่นิดหน่อย กลุ่มแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายเคยทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายในบล็อกล่างฉาว สุดท้ายก็เป็นฝ่ายของลู่เฉินที่ได้รับชัยชนะ
ครั้งนี้หลิงเสี่ยวเซียวมาพร้อมกับอัลบั้มแรกของตัวเอง ‘True Love Invincible’ แลนดิ้งบนเฟยซวิ่นมิวสิคคู่กับลู่เฉิน มาพร้อมกับกลิ่นอายของการแก้แค้นที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย
บริษัทที่หลิงเสี่ยวเซียวเซ็นสัญญาคือบริษัทจวี่ซิงของจินหงเหว่ย!
อัลบั้มส่วนตัวของเขานี้น่าจะใช้เวลาทำพอๆ กับของลู่เฉิน และเริ่มโฆษณาอุ่นเครื่องในวันที่ 3 เดือนกันยายน
นักร้องศิลปินใหม่ทั้งสี่คนปล่อยอัลบั้มแรกของตัวเองในเฟยซวิ่นมิวสิคพร้อมกัน และเวลาของการโฆษณาอุ่นเครื่องก็ดำเนินการโปรโมทได้อย่างเข้มข้นมาก เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของเฟยซวิ่นมิวสิค
โดยทั่วไปแล้วเว้นเสียแต่เป็นศัตรูคู่อาฆาต หรือไม่ก็จงใจสร้างกระแส ไม่อย่างนั้นก็เป็นอันเข้าใจกันทั้งสองฝ่ายระหว่างบริษัทบันเทิงกับบริษัทเอเจนซี่จัดหานักแสดง การปล่อยอัลบั้มแรกของศิลปินในสังกัดมักจะสับหลีกช่วงของการโปรโมท เพื่อหลีกเลี่ยงปรากฏการณ์การแสดงประชันกัน
การแข่งขันของวงการเพลงป็อปก็ดุเดือดมากเช่นกัน ทุกปีจะมีนักร้องหน้าใหม่ทะลักออกมาปริมาณมาก คนที่มีคุณสมบัติออกอัลบั้ม ล้วนถูกผลักดันบทบาทที่โดดเด่นจากบริษัทต่างๆ ไม่มีใครอยากชักมีดสู้กับคู่ต่อสู้ในเวลาที่คับขันแบบนี้
ฆ่าศัตรูนับพัน แต่ตัวเองก็บาดเจ็บเกือบแปดร้อยคน!
และเฉิงเถียนเอนเตอร์เทนเมนต์ ซิงกวงมีเดียและบริษัทจวี่ซิง ล้วนเป็นบริษัทใหญ่ระดับชั้นนำหรือไม่ก็อันดับหนึ่งของวงการ
สามารถจินตนาการได้เลยว่าเวลาที่พวกเขาทั้งสามฝ่ายมาอยู่ด้วยกัน ฉากการต่อสู้จะดุเดือดขนาดไหน
ความจริงตอนนี้พื้นที่โฆษณาหลักของเว็บไซต์เฟยซวิ่นมิวสิค ส่วนใหญ่แล้วถูกแบ่งโดยสามบริษัท นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ในบล็อก ฟอรัม กระทู้อื่นๆ เป็นต้น การโปรโมทโฆษณาของพวกเขามีความโหดเหี้ยมรุนแรงมาก!
เมื่อเทียบกันแล้ว ของลู่เฉินดูอ่อนกำลังอย่างน่าสงสาร!
หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ หลังจากลู่เฉินเดบิวต์ในรายการ “ขับร้องให้ก้องจีน” ได้รับแชมป์ไปแล้ว เขาก็ไม่ได้ร่วมงานอื่นๆ อีกเลย ไม่มีงานโฆษณาไม่มีการจัดงานแฟนมีตติ้ง ถ่อมตัวและเงียบมากไม่เหมือนศิลปินเลย
ชุยเจิ้งจื้อ โจวเป้ยและหลิงเสี่ยวเซียว มีคนไหนบ้างที่ไม่โปรโมทตัวเองไปทั่ว ในยุคที่จังหวะชีวิตเร่งรีบทุกวันนี้ มีดาราไอดอลขึ้นๆ ลงๆ มากมาย พวกแฟนคลับก็รักง่ายหน่ายเร็ว ศิลปินดาราที่ไม่ค่อยได้ออกข่าวบันเทิง ก็จะถูกคนลืมในไม่ช้า
ลู่เฉินมีความสามารถ แต่เขาไม่ออกรายการไม่อยากสร้างกระแสแบบนี้ ความนิยมที่สะสมมาก็ไม่ง่าย และจะถูกใช้จนหมดลงในเวลาอันสั้น
สมัยนี้ไม่ใช่ยุค 80-90 แล้ว พอร้องเพลงหนึ่งดังก็ดังยาวไปสิบยี่สิบปี!
“ปัญหาใหญ่ของพวกเรา ก็ยังเป็นเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้ม ที่มีแหล่งข้อมูลอยู่บนอินเทอร์เน็ตแล้ว…”
สตูดิโอลู่เฉิน ออฟฟิศของผู้จัดการลู่ซีจัดประชุมเล็กๆ ชั่วคราว
นอกจากเฉินเสี่ยวเหม่ยที่อยู่ฝ่ายต้อนรับแล้ว สมาชิกคนอื่นของสตูดิโอที่คุ้นเคยกันก็อยู่ครบทุกคน นอกจากนี้ยังเพิ่มหลี่มู่ไป๋อีกหนึ่งคน
พี่สาวนวดคลึงคิ้วที่ขมวดกัน แล้วพูดอย่างจนใจว่า “ดังนั้นความต้องการในการซื้อของแฟนคลับจึงไม่แข็งแรงพอ”
เมื่อเทียบกับอัลบั้มของคู่ต่อสู้ทั้งสามคนอย่างชุยเจิ้งจื้อ โจวเป้ยและหลิงเสี่ยวเซียวแล้ว อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ของลู่เฉิน มีระดับความโปร่งใสสูงมาก ทั้งหมดสิบเพลงสามารถค้นหาแหล่งข้อมูลฟรีบนอินเทอร์เน็ตได้ขาดความลึกลับและความรู้สึกรอคอย ดังนั้นจึงลดความต้องการในการซื้อลงไปอย่างมาก
โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่ดุเดือด มีความเป็นไปได้ที่แฟนเพลงของเพลงป็อปมากมายหลังจากที่รอให้อัลบั้มของลู่เฉินออกจำหน่ายแล้ว ก็อาจจะไปค้นหาเพลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์ในอินเทอร์เน็ต แล้วยอมเสียเงินซื้ออัลบั้มใหม่ของบุคคลที่สามแทน
ลู่ซีในตอนนี้ เข้าสู่บทบาทของผู้จัดการศิลปินและผู้จัดการสตูดิโอมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันเธอจะใช้เวลาจำนวนมากทำความเข้าใจเกี่ยวกับข่าวความเคลื่อนไหวในวงการและอินเทอร์เน็ต แล้วคิดวางแผนให้ลู่เฉินอย่างสุดความสามารถ
เธอกล่าวว่า “เมื่อครู่ฉันได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้ากิจการเพลงของเฟยซวิ่นมิวสิค ถามพวกเราว่าจะเลื่อนเวลาการวางจำหน่ายอัลบั้มออกไปก่อนไหม เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกับชุยเจิ้งจื้อ”
ตามสัญญาข้อตกลงของสตูดิโอกับเฟยซวิ่นมิวสิค อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ จะโฆษณาอุ่นเครื่องในวันที่ 5 เดือนกันยายน และจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 เดือนกันยายน
อัลบั้ม ‘Pantera’ ของชุยเจิ้งจื้อ ก็ดันเปิดตัวในวันเดียวกัน!
ไอดอลคนใหม่ของวงการบันเทิงคนนี้ไม่ธรรมดา พ่อของเขาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน แม่ของเขาก็เป็นนักแสดงชื่อดังของประเทศเกาหลี ฉะนั้นจึงมีเส้นสายที่กว้างขวาง มีผู้สนับสนุนมากมาย
เขาเซ็นสัญญากับบริษัทเฉิงเถียนเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ระดับแถวหน้าของวงการ มีศิลปินดาราในสังกัดมากมาย นอกจากนี้มีการร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์เซียงหนานอย่างเหนียวแน่น ขาดแค่เพียงใส่กางเกงตัวเดียวกัน
มีเส้นสายมีคนคอยหนุนหลัง แถมยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ระดับชั้นนำ และชุยเจิ้งจื้อก็มีหน้าตาหล่อเหลาแต่งตัวสไตล์แฟชั่น ซึ่งกำลังได้รับความนิยมให้เป็นตัวอย่างของหนุ่มวัยละอ่อนสไตล์เกาหลี และยังมีแฟนคลับในบล็อกล่างฉาวเกือบสิบล้านคน!
ไม่ว่าในนี้จะเป็นแฟนคลับแท้หรือแฟนคลับปลอม แค่ความนิยมเพียงอย่างเดียว ก็สามารถบดขยี้ลู่เฉินได้แน่นอน!
อัลบั้มแรกของชุยเจิ้งจื้อ เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่จับตามอง
แต่ดันมาชนกับลู่เฉินพอดิบพอดี อย่างนั้นก็มีความหมายลึกซึ้งควรค่าแก่การพิจารณาอย่างระมัดระวังมาก
ควรทราบว่าโดยปกติทั่วไปแล้ว ระยะเวลาของการโฆษณาอุ่นเครื่องบนเฟยซวิ่นมิวสิคกับการเปิดตัวอัลบั้มนั้นไม่ห่างกันมาก สามสี่วันคือช่วงที่ดีที่สุด ห้าวันก็ได้ และการโฆษณาอุ่นเครื่องของชุยเจิ้งจื้อก็เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 แล้ว!
อัลบั้มของโจวเป้ยเปิดตัวไปเมื่อวาน อัลบั้มของหลิงเสี่ยวเซียวเปิดตัววันนี้
ทุกคนที่อยู่ในนี้ได้กลิ่นรุนแรงของแผนชั่วร้ายอย่างลับๆ หลี่เฟยอวี่กับเฉินซินและคนอื่นๆ เผยสีหน้าเป็นกังวลออกมา แม้แต่หลี่มู่ไป๋ที่ไม่ยี่หระต่อสิ่งใดก็ยังยืดเอวนั่งหลังตรง
คุณชายสามคนนี้เดิมทีแค่มานั่งให้คุ้นหน้าคุ้นตาเท่านั้น แต่การปล่อยอัลบั้มแรกของลู่เฉินก็เกี่ยวข้องกับเขาอยู่นิดหน่อย
เพราะว่าพวกเขาเป็นหัวใจหลักของกลุ่มแฟนคลับลู่เฉิน จะขาดไปไม่ได้เด็ดขาด
ทว่าหลี่มู่ไป๋กลับคาดไม่ถึงว่าการออกอัลบั้มจะยุ่งยากขนาดนี้ แถมยังเจอปัญหาตั้งมากมาย
เขาจึงอดบ่นไม่ได้ “แวดวงของนายวุ่นวายจริงๆ”
ใช่ ลู่เฉินเคยเป็นคนบอกประโยคนี้กับเขา
ทุกคนก็ไม่ใช่คนโง่ ไม่มีใครลืมบุญคุณความแค้นระหว่างลู่เฉินกับสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน ถ้าจะพูดว่าบังเอิญจริงๆ อย่างนั้นก็คงดูถูกไอคิวของพวกเขานิดหน่อย
แน่นอนว่าสถานีโทรทัศน์เซียงหนานที่เป็นบุคคลตัวใหญ่ขนาดนี้ คงไม่ถือสาอะไรลู่เฉิน แต่เฉิงเถียนเอนเตอร์เทนเมนต์ที่เป็นฝ่ายร่วมงานด้วยใช่ว่าจะไม่คิด พวกเขาจะต้องมีความสุขมากถ้าชุยเจิ้งจื้อเหยียบลู่เฉินขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าสูง
แต่หลิงเสี่ยวเซียวที่เคยมีประเด็นกับลู่เฉินโดยตรง ตรงข้ามกลับไม่มีอิทธิพลอะไรมากนัก เพราะทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน คุณภาพของอัลบั้มคาดว่าคงไม่น่าจะสูงมาก
ลู่ซีวิเคราะห์การเข้ามาของหลิงเสี่ยวเซียวแล้ว แปดหรือเก้าในสิบส่วนคืออาศัยการสร้างกระแส
นักร้องนักแต่งเพลงหน้าใหม่ทั้งสี่คนเปิดตัวอัลบั้มแรกติดๆ กันในเฟยซวิ่นมิวสิค คือการสร้างกระแสที่ดีมากอย่างไม่ต้องสงสัย
จินหงเหว่ยก็คือราชาผู้สร้างกระแสที่มีชื่อเสียงในวงการ
คนเลวทยอยกันเข้ามาไม่หยุด อย่างนั้นลู่เฉินควรจะท้ารบกับพวกเขาอย่างไร
ดังนั้นสายตาของทุกคน จึงจ้องมาที่ตัวเขาทั้งหมด
ลู่เฉินกลับนิ่งเกินความคาดหมาย แล้วยิ้มพูดว่า “ความจริงทุกคนคิดถึงปัญหาที่ร้ายแรงจนเกินไป”
รอยยิ้มของเขา ยังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจ
…………………………………………………………………………
ไอคอนเหรียญทอง
คอมเม้นต์