ตั้งแต่วันที่ 17 ที่หวังปินถูกจับ จนถึงวันที่ 20 ห่างเพียงแค่สามวัน วงการบันเทิงทั่วประเทศเหมือนถูกพายุพัดกวาดล้าง ศิลปินหลายคนถูกขุดออกมาให้เชื่อมโยงกับดาราอาวุโสคนนี้ บางคนถูกตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ ทั้งชื่อเสียงและอนาคตดับสิ้น

ภายในเวลาไม่นาน มรสุมครั้งนี้ทำให้ทุกคนตกอยู่ในอันตราย แม้แต่กระแสต่างๆ ยังลดน้อยลง

ในบล็อกล่างฉาวหมู่มารโลดเต้นไปทั่ว ทั้งเหล่า Vใหญ่ Vเล็ก และคนที่ชอบสร้างกระแส สร้างข่าวซุบซิบนินทา ข่าวโคมลอยเต็มหน้ากระดานไปหมด ทำให้ศิลปินที่บริสุทธิ์หลายคนถูกใส่ความ

แม้แต่สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งถึงจะไม่ใช่สถานีบันเทิง แต่ก็ถูกลูกหลงไปด้วย

ความจริงแล้วสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งไม่ถึงกับถูกใส่ร้าย แต่เป็นเพราะเมื่อครึ่งปีก่อนทางสถานีได้เปิดเผยข่าวว่าจะเชิญหวังปินและเฉินเฟยเอ๋อร์ และพวกซูเปอร์สตาร์ชื่อดังมาร่วมงานในรายการพิเศษในคืนวันชาติจีน ยิ่งกว่านั้นในรายการถึงกับเตรียมการสัมภาษณ์หวังปินโดยเฉพาะด้วย

แล้วใครจะคิดว่า หวังปินทำเรื่องเสียหายหนักหนาเช่นนี้!

แม้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งจะเป็น Vใหญ่ แต่ก็ประกาศในทันทีว่าได้ยกเลิกสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างทางสถานีกับหวังปินแล้ว เปลี่ยนรายการให้เป็นรายการอื่นแทน แต่ก็เกิดผลกระทบแล้วอย่างแน่นอน

เพราะสื่อออกมาบอกว่า ที่หวังปินเสพยาไม่ใช่แค่วันสองวัน แต่เริ่มทำมานานแล้ว

การที่เป็นผู้นำสื่อของเมืองหลวง ทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งกลับไม่รู้เรื่องจริงเหรอ

ในเมื่อรู้เรื่องแล้วยังจะเชิญหวังปินมาร่วมรายการอีก นั่นไม่ยิ่งทำให้วงการแปดเปื้อนขึ้นไปอีกเหรอ

บางคนถึงกับกล่าวโทษสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งว่าซ้ำเติมหวังปิน

การซักถามและการประณามเหล่านี่ส่วนใหญ่ไม่มีมูล แต่โลกออนไลน์ก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีเหตุผลก็ขอปลุกปั่นหน่อย ยังมีคนที่ทำเรื่องชั่วร้ายสกปรกอีก ทำให้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งอดสั่นคลอนไม่ได้

แต่สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งก็ไม่ยอมแพ้ วิพากษ์วิจารณ์และโจมตีกลับอย่างรวดเร็ว

อย่างแรกทางสถานีโจมตีบรรดาบล็อกที่ปล่อยข่าวเท็จ และยังวิจารณ์วินัยในตัวเองของเหล่าดารา

วันที่ 21 ตอน 2 ทุ่ม เมื่อข่าวกระแสของหวังปินเริ่มทุเลาลง บัญชีทางการของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งก็ลงในเว็บบล็อกล่างฉาว เปิดเผยคลิปวิดีโอที่รั่วไหลออกมา

เนื้อหาในคลิปน่าสนใจมาก เป็นการฝึกซ้อมงานเลี้ยงกาล่าของคืนวันชาติในสตูดิโอหมายเลข T1 ที่ถ่ายทำเมื่อวันที่ 17 ช่วงบ่าย

พระเอกในคลิปนั้นคือลู่เฉิน

บัญชีทางการของสถานีตัดแค่คลิปวีดีโอการฝึกซ้อมมาสองช่วง แบ่งเป็นภาพการร้องเพลง “ฉันรักประเทศจีน” ของลู่เฉิน และในโพสต์ที่เชิญชวนให้ผู้ชมลงคะแนนในการให้รางวัล

การให้คะแนนนั้นง่ายมาก… เพลงสองเพลงที่มีชื่อเดียวกันแต่ทำนองไม่เหมือนกัน คุณชอบเพลงไหนมากกว่า?

สุดท้ายบัญชีทางการของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งระบุว่า การคัดเลือกจากการลงคะแนนของผู้ชมจะเป็นสิ่งตัดสินว่าลู่เฉินจะร้องเพลงไหนในงานกาล่าวันชาติจีน!

ใครๆ ก็ดูออกว่าเนื้อหาในโพสต์นี้บ่งบอกว่าสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งกำลังอยู่ในสภาวะวิกฤต จุดประสงค์ของการโพสต์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องของหวังปิน อย่างน้อยก็ไม่ให้เกี่ยวโยงกับทางสถานีมากเกินไป

แต่การเบี่ยงเบนความสนใจนี้ไม่ได้ขัดต่อความรู้สึกของผู้คน กลับยิ่งรู้สึกน่าสนใจมาก

ผลงานเพลงของลู่เฉินทั้งสองเพลงจึงกลายเป็นที่จับตามองอย่างมาก จำนวนการกดเข้าชมและคำวิจารณ์พุ่งสูง

20.24 น. เฉินเฟยเอ๋อร์แชร์โพสต์นี้ และลงคะแนนให้เพลงที่สอง!

นอกจากเฉินเฟยเอ๋อร์ ในวงการก็มีการแชร์และคอมเมนต์มากมาย บวกกับการส่งเสริมจากบัญชีทางการของสถานี ผลลัพธ์คือกลายเป็นกระแสใหม่ขึ้นมา เมื่อถึงเวลาสี่ทุ่ม ยอดการลงคะแนนเกินกว่าสองแสนครั้ง!

ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ เหล่าแฟนคลับของลู่เฉิน

กลุ่มเบื้องหลังเว็บบล็อกลู่เฉินในล่างฉาว…ในกลุ่มบัญชีขุนศึกตระกูลลู่ คอมเมนต์แทบระเบิด

บรรดาแฟนคลับที่สนับสนุนลู่เฉิน ชื่นชมยินดีไปกับคลิปวีดีโอที่ทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งปล่อยออกมา!

“ลูกพี่ลู่เฉินจงเจริญ!”

“เสี่ยวเฉินของเรายิ่งเก่งเข้าไปอีก เพลงดีทั้งสองเพลง คิดไม่ถึงว่าเขายังแต่งทำนองได้ด้วย!”

“เพลงแรกไม่นับว่าเป็นทำนองหลัก เป็นแนวเพลงป็อป เพลงที่สองยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยอมให้เลย!”

“เฉินเฟยเอ๋อร์บอกว่าชอบเพลงที่สอง ฉันก็ชอบ”

“อย่าบอกนะว่าลู่เฉินจะขึ้นมาแทนหวังปิน งานกาล่าวันชาติจีนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งปีนี้ต้องดูแล้ว!”

“ต้องดู+1!”

“สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งแล้วทำไม ลู่เฉินต้องได้ไปร้องเพลงในงานกาล่าคืนขึ้นปีใหม่ฤดูใบไม้ผลิของสถานีวิทยุแห่งประเทศจีน!”

“รอดูงานกาล่าปีใหม่ฤดูใบไม้ผลิของสถานีวิทยุแห่งประเทศจีน”

เทียบกับแฟนคลับทั่วไป คนในวงการหลายคนได้วิจารณ์เอาไว้ ด้วยความเป็นมืออาชีพมากกว่า

เฉินกั๋วต้งที่เคยเขียนบล็อก ‘คนส่วนใหญ่ที่เงียบ’ ชื่นชมอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ของลู่เฉินเอาไว้อย่างสวยงามได้ออกมากล่าวชมเชยในบล็อกของตัวเองว่า “ลู่เฉินมีความสามารถด้านการสร้างสรรค์เพลงโฟล์คซองใครๆ ก็รู้ นึกไม่ถึงว่ายังเขียนเพลงที่มีทำนองไพเราะเช่นนี้ออกมาได้ ความหมายของทำนองที่สมบูรณ์ยิ่งน่านับถือ”

“สำหรับการลงคะแนนในสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ทำให้ผมรู้สึกลำบากใจมาก คิดตั้งนานยังเลือกไม่ได้สักที”

“ถ้าแค่ด้านความพิเศษของทำนอง เพลงที่สองเด่นกว่าเพลงแรก แต่ทำนองเพลงแรกกลับผสมผสานทำนองหลักและเพลงป็อปเข้าด้วยกัน เต็มไปด้วยจิตวิญญาณใหม่ที่สร้างความกล้าหาญออกมา!”

เขาบอกต่อว่า “เพลงทั้งสองเพลงของลู่เฉินนี้ผมชอบมาก ชอบมากๆ ถ้าเป็นไปได้ ผมหวังว่าจะได้นั่งอยู่ที่นั่น แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นผมจึงขอไม่เลือกทั้งสองเพลง”

เฉินกั๋วต้งไม่ได้เลือก แต่ในบล็อกของเขามีคนเลือกเพลงมากมาย

ผลการโหวตเพลง ‘ฉันรักคุณประเทศจีน’ ของลู่เฉินเพลงที่สอง ได้คะแนน 72.89% เอาชนะ 27.11% ของเพลงที่หนึ่ง ภายในเวลาสองวัน

ความสามารถในการแต่งเพลงและร้องเพลงของเขาเป็นที่ยอมรับและชื่นชมของคนจำนวนมาก อาศัยสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งในการสร้างกระแส แฟนคลับติดตามในบล็อกมีมากกว่า 6.5 ล้านคน!

ลู่เฉินมีชื่อเสียงทั้งในและนอกวงการ ด้วยเหตุนี้จึงก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น

อาศัยแรงของกระแสในครั้งนี้ ลู่เฉินวางแผนเปิดตัวระดมทุนออนไลน์ในเว็บบล็อกล่างฉาวออกไปอีกครึ่งเดือน

เครือข่ายระดมทุนออนไลน์จะเริ่มดำเนินการพร้อมกัน!

นอกจากคนไม่กี่คน คำว่าระดมทุนออนไลน์ยังถือว่าใหม่มากกับคนทั้งโลก เพราะลู่เฉินได้อธิบายคร่าวๆ ในบล็อกถึงวิธีการทำงานของการระดมทุนออนไลน์ พร้อมกับเพิ่มที่อยู่ของเว็บไซต์เข้าไป

เมื่อคลิกเข้าไปในเว็บไซต์นั้นจะสามารถลงทะเบียนระดมทุนออนไลน์ได้โดยตรง

สำหรับแฟนคลับของลู่เฉิน พวกเขาไม่สนใจเรื่องระดมทุนออนไลน์นี้นัก หรือคำๆ นี้อาจมีความหมายแฝงอยู่ ไม่อยากรู้ถึงความหมายและมูลค่าทางการตลาดของการระดมทุนออนไลน์

สิ่งที่ดึงดูดแฟนคลับให้สนใจก็คือ ในที่สุดลู่เฉินจะออกอัลบั้มแผ่นเสียงซีดีแล้ว!

แม้จะเป็นโลกยุคใหม่ การออกอัลบั้มแผ่นเสียงทั้งในและต่างประเทศเริ่มถดถอยลงในแต่ละปี

ตอนนี้การซื้อขายอัลบั้มในอินเทอร์เน็ตกลายเป็นเรื่องสำคัญ แม้แต่ระดับการประเมินว่าเป็น ‘แผ่นเสียงทองคำ’ ‘แผ่นเสียงทองคำขาว’ ล้วนนำมาใช้ในตลาดเพลงในอินเทอร์เน็ต แต่ความหมายของแผ่นเสียงที่แท้จริงนั้นไม่เหมือนกัน

การออกอัลบั้มหรือออกเพลงเดี่ยวในออนไลน์เป็นเรื่องง่ายดาย แต่การออกแผ่นเสียงซีดี นั้นไม่ง่ายเลย

อันดับแรกต้นทุนการผลิต การผลิตซีดีต้องใช้ต้นทุนสูงกว่าการทำแผ่นเสียงมาก ต้นทุนในการขายและความยากมีมากกว่าการทำเพลงในออนไลน์ นอกจากนักร้องซูเปอร์สตาร์ อยากจะถอนทุนคืนได้นั้นยากมาก

นักร้องหลายคนดันทุรังทำอัลบั้มซีดีออกมาเพื่อเอาชนะตลาด ข้อมูลยอดขายกลับตกต่ำสุดๆ ขาดทุนหาเงินไม่ได้ ถึงขึ้นไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

อัลบั้มซีดีมากมายที่ขายครึ่งแจกครึ่ง หรือทำเป็นของขวัญมอบให้แฟนคลับ มีบ้างที่เก็บเอาไว้เอง

ดังนั้นนักร้องมากมายฝันอยากจะมีอัลบั้มซีดีของตัวเองสักแผ่น อาศัยสิ่งนี้เพื่อความสำเร็จในการเป็น ‘แผ่นเสียงทองคำ’ หรือ ‘แผ่นเสียงทองคำขาว’ แต่คนที่อยากทำจริงนั้นมีน้อยมาก

แต่สำหรับบริษัทผู้จัดการนักร้องแล้ว นอกเสียจากบริษัทที่ผลักดันนักร้องโดยไม่คำนึงถึงราคาต้นทุน ไม่เช่นนั้นจะไม่ยอมขุดหลุมฝังตัวเอง โดยเฉพาะบริษัทที่ควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวดยิ่งเป็นเช่นนี้

แต่ในตลาด ก็ยังคงมีเรื่องแบบนี้อยู่!

แผ่นเสียงซีดี เป็นแผนที่ลู่เฉินวางไว้นานแล้ว เขาไม่อยากขายหน้า โดยการทุ่มทุนหลายแสนทิ้งไป ดังนั้นวิธีระดมทุนออนไลน์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ยอดขายที่ประสบความสำเร็จของอัลบั้ม “เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน” ในโลกออนไลน์ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลู่เฉิน

จุดมุ่งหมายของการระดมทุนออนไลน์ของอัลบั้มนี้คือห้าแสนหยวน!

ทางเลือกในการสนับสนุนมีสี่ทาง

ทางเลือกที่ 1 : สนับสนุน 1 หยวนจำกัดแค่ 10,000 คน การจับฉลากจะเลือกผู้ชนะขึ้นมาหนึ่งคน รางวัลคือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก

ทางเลือกที่ 2 : สนับสนุน 15 หยวน ไม่จำกัดจำนวนคน ผู้สนับสนุนแต่ละคนจะได้รับ ซีดีอัลบั้ม “เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน” ของแท้ 1 แผ่น

ทางเลือก 3 : สนับสนุน 100 หยวน จำกัดแค่1,000คน ผู้สนับสนุนจะได้รับ ซีดีอัลบั้ม 1แผ่น โปสเตอร์พร้อมลายเซ็นที่ระลึกจากลู่เฉิน ที่เก็บข้อมูลยูเอสบีขนาด 16G ที่สั่งทำพิเศษจากกลุ่มแฟนคลับขุนศึกตระกูลลู่ พวงกุญแจ และนามบัตรทองคำเป็นเซ็ต มีจำนวนจำกัด

ทางเลือกที่ 4 : สนับสนุน188 หยวน จำกัดแค่1,000คน ผู้สนับสนุนจะได้รับ ซีดีอัลบั้มจำนวน 2 แผ่น โปสเตอร์พร้อมลายเซ็นที่ระลึกจากลู่เฉิน ที่เก็บข้อมูลยูเอสบี ขนาด 64G สั่งทำพิเศษจากกลุ่มแฟนคลับขุนศึกตระกูลลู่ พวงกุญแจ และนามบัตรทองคำเป็นเซ็ต มีจำนวนจำกัด

เนี่องจากเป็นการทำการระดมทุนออนไลน์ครั้งแรก ลู่เฉินไม่ได้ทำโครงการนี้อย่างซับซ้อน มีเพียงสี่วิธีให้เลือกสนับสนุน

ตามความจริงแล้วการระดมทุนออนไลน์ออกอัลบั้มครั้งนี้ เขาไม่ค่อยแน่ใจนัก ไม่รู้จะสำเร็จหรือไม่ เมื่อได้ยอดเงินถึงห้าแสนแล้ว ถึงจะสามารถทำซีดีอัลบั้มชุดแรกออกมาได้

แต่ลูกธนูดอกนี้ต้องถูกปล่อยออกไป ระดมทุนออนไลน์จะทำสำเร็จได้หรือไม่ต้องอาศัยโครงการนี้

เพื่อให้การโฆษณาได้ผลดีที่สุด ลู่เฉินนอกจากประกาศในห้องออกอากาศสดออนไลน์ โพสต์กลุ่มเฟยซวิ่นแล้ว ยังมีการติด@ของตัวเองในบัญชีทางการที่รู้จักทั้งหมด เช่น ถานหง เฉินเฟยเอ๋อร์ เป็นนต้น

โชคดีที่โครงการระดมทุนออนไลน์ทำอัลบั้มในครั้งนี้ แฟนคลับของลู่เฉินให้ความสนใจอย่างล้นหลาม เมื่อเขาเปิดตัวการะดมทุนออนไลน์ลงในอินเทอร์เน็ตแล้ว การสอบถามการลงทะเบียนในเว็บไซต์ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นสูงมาก

จากนั้นผู้สนับสนุนคนแรกก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเลือกวิธีแรก มอบเงินสนับสนุนหนึ่งหยวน!

เงินหนึ่งหยวน นี่เป็นเงินสนุบสนุนก้อนแรกที่เข้ามาในการระดมทุนออนไลน์

แม้จะดูน่าสงสาร แต่มันเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ ได้ก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัวแล้ว!

เริ่มต้นจากแผ่นเสียงอัลบั้มแรก

ไม่ว่าสุดท้ายแล้วผลจะชนะหรือแพ้ ลู่เฉินรู้สึกว่าเป็นผู้พลิกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ขึ้นมา