เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 46 : เหล่าจือหลี่ปู่ฟานคนนี้ถูกกำหนดให้เป็นคนพิเศษ!
ตอนที่ 46 : เหล่าจือหลี่ปู่ฟานคนนี้ถูกกำหนดให้เป็นคนพิเศษ!
เรือนจำเหลียนเฉิง
ห้องเยี่ยมผู้ต้องหา
ทุกคนกำลังรอเวลาเพื่อเข้าเยี่ยมคนรู้จักของตัวเอง
มีเด็กสาวคนหนึ่งท่ามกลางฝูงชน เธอดูสวยมากจนเตะตาคนรอบๆ!
แต่ในเวลานี้ เธอกำลังร้องไห้และดวงตาของเธอก็แดงก่ำราว
เธอคือหยางยี่ยี่ลูกสาวของครูหยาง และเธอก็คือเด็กสาวที่ชอบร้องไห้ออกมาเพื่อให้เจียงเฉินพาเธอออกไปเล่นทุกๆวันเมื่อ 8 ปีก่อน
แต่ในชั่วพริบตา เวลาก็ไหลผ่านไป ในตอนนี้เธอกลับกลายเป็นเทพธิดาสุดสวยไปแล้ว
เธอมีร่างกายที่สูงถึง 170 ซม. รอบเอวบางราวกับกระดาษ A4 ขาที่เรียวยาว หน้าตาที่สวยงามเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบสุดๆ
แถมผิวของเธอก็ขาวราวกับหิมะ ดวงตากลมโตและใสเหมือนสายน้ำจากบนภูเขาในฤดูใบไม้ผลิ
สว่าง สดใส บริสุทธิ์ ไร้ที่ติ
ตอนนี้เธอมีอายุ 18 แล้วและได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียนที่โรงเรียนสตีซากุระและเธอก็มีความได้เปรียบทางด้านรูปร่างและหน้าตาดั่งนางฟ้าทำให้เธอได้กลายเป็นดอกไม้ประจำโรงเรียน และได้คะแนนไปถึง 95 คะแนน!
แต่หลังจากการตัดสินคดีจากศาลชั้นต้น ก็ปรากฏออกมาว่าพ่อของเธอถูกศาลพิพากษาจำคุกหกปีในข้อหาฆ่าคนตาย
เธอนอนไม่หลับเกือบทุกวัน ดวงตาจากที่เคยสดใสก็ค่อยๆหมองลง ทั้งๆที่วัยนี้เธอควรมีแต่ความเพลิดเพลินกับชีวิตวัยเด็กอย่างมีความสุข
แต่สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่เป็นใจ
มันเหมือนกับมีทัณฑ์สวรรค์ผ่าลงมาที่หัวของเธอ ทำให้เธอในเวลานี้มีแต่น้ำตาตลอดทั้งวัน จมอยู่กับความเศร้าและสิ้นหวัง
เมื่อเห็นหยางยี่ยี่ ลี่ปู้ฟานก็ปรากฏประกายแสงในดวงตาและน้ำลายไหลออกมา!
โอ้พระเจ้า!
ตอนแรกก็แค่ต้องการหักหน้าเจียงเฉิน แต่ดันมาเจอลูกสาวของครูหยางทำให้แผนของเขาต้องเปลี่ยนแผนทันที!
น่ารักจริงๆ!
หลี่ปู้ฟานรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก!
บังเอิญจริงๆ ถ้าเขาสามารถประกันตัวครูหยางออกมาได้และจ้างทนายดีๆเพื่อยื่นอุทธรณ์ครั้งที่สอง!
เขาก็จะมีโอกาศได้เป็นสามีของเธอและได้เสวยสุขกับร่างกายอันสวยงามของเธอ!
ฮ่าๆๆๆ!
หลี่ปู้ฟานคนนี้ถูกสวรรค์กำหนดให้เป็นคนพิเศษแล้ว!
หลี่ปู้ฟานก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อปรอบเธอทันที “ยี่ยี่ อย่าร้องไห้ไปเลย วันนี้พี่ปู้ฟานอยู่ที่นี่ครูหยางต้องได้รับการประกันตัวแน่นอน ไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้พี่ปู้ฟานของเธอน่าทึ่งมากนะ”
“ค่ะ”
ยี่ยี่พยักหน้าตอบอย่างสุภาพ
เธอไม่ได้มีความรู้สึกใดๆต่อหลี่ปู้ฟานเธอรู้เพียงแค่ว่าเขานั้นเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของพ่อตัวเอง
ในเวลานี้เองก็มีชายหนุ่มสองคนเดินเข้ามาทางประตู และทำให้ทุกคนต่างหันมามอง
หัวใจของหยางยี่ยี่สั่นไหวและได้กลิ่นที่คุ้นเคย
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาดูเธอก็พบกับพี่เจียงเฉินของเธอ!
“พี่เจียงเฉิน~”
หยางยี่ยี่วิ่งไปทางเจียงเฉินราวกับเด็กน้อยคนหนึ่งและลอยเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและร้องไห้ออกมา
“ฮือออ~ พี่เจียงเฉิน พ่อ… พ่อถูกจับและเขาจะต้องติดคุกถึงหกปีหนูจะไม่ได้เจอหน้าเขาหกปีเลย หนูควรทำยังไงดี~ ฮือ…”
o(╥﹏╥)o~
เจียงเฉินก็รู้สึกไม่ดีไม่แพ้กัน เขายกมือขึ้นมาก่อนจะลูบหัวของเธอเหมือนที่เขาเคยทำเป็นประจำ ลูบเบาๆและยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
“เธอคือยี่ยี่สินะ โตขึ้นมามากแล้วพี่แทบจะอุ้มไม่ได้แล้วมั้ง”
หยางยี่ยี่เดิมที่มีตึความเศร้า แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกขบขันเล็กน้อยและหน้าแดงออกมา
“พี่เจียงเฉิน พี่คิดอะไรอยู่ หนูกำลังเศร้าอยู่นะ แถมยังน่ารักขนาดนี้และหนูก็ไม่ได้อ้วนด้วย~”
“โอเคๆ เลิกร้องไห้ก่อนนะ”
เจียงเฉินปาดนิ้วไปบริเวณจมูกของหยางยี่ยี่ที่มีแต่น้ำตา เขาไม่รู้เลยว่าหลายวันมานี้เธอร้องไห้ไปมากแค่ไหนจากสิ่งที่เกิดขึ้น
หยางยี่ยี่ที่ได้ยินก็หยุดร้องไห้ทันที คำพูดของเจียงเฉินดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพมากกว่าสิ่งใด
หลี่ปู้ฟานที่เห็นก็ดูมืดมนทันที
แม่งเอ้ย!
แกเจียงเฉินครั้งนี้แกยังกล้ามาแย่งผู้หญิงไปจากบิดาคนนี้อีก แต่คราวนี้ยังไงแกก็แพ้แน่นอน!
เพราะบิดาคนนี้มีความสามารถมากพอในการดึงครูหยางออกมาจากคุกยังไงล่ะ!
ส่วนแกทำได้งั้นหรอ?
แน่นอนว่าไม่!
ส่วนผู้หญิงบิดาจะให้แกได้ดอมดมไปก่อนละกัน!
นางฟ้าตัวน้อยหยางยี่ยี่ก็เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะคว้าแขนของเจียงเฉิน
“ค่ะพี่เจียงเฉิน หนูจะไม่ร้องไห้แล้ว แล้วก็พ่อเขาอยากจะเจอพี่อีกครั้ง พี่ช่วยไปเจอเขาหน่อยนะ พ่อคงจะมีความสุขมากที่ได้เจอพี่”
“ยี่ยี่”
พี่สาวหลิวหยานเตือนออกมาเบาๆ “ลูกไม่ใช่เด็กแล้วนะ อย่าทำตัวติดกับเจียงเฉินมากเกินไปสิ พวกเธอไม่ใช่เด็กแบบเมื่อก่อนแล้ว”
“โอ้….”
หยางยี่ยี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยมือแม้ในใจจะไม่ยินยอมก็ตาม
หลี่ปู้ฟานสูดหายใจอย่างเย็นชา
ฮึฮึ
เจียงเฉินแกจงภูมิใจซะเถอะที่เคยเหนือกว่าฉันคนนี้ แต่ตอนนี้ฉันเหนือกว่าแกแล้ว!
บิดาคนนี้สามารถปล่อยครูหยางออกจากคุกด้วยการทีเพียงครั้งเดียว!
เมื่อถึงเวลา แกจะได้รู้ว่าใครไม่สมควรแตะต้อง!
……
ในเวลานี้เอง
ตำรวจนายหนึ่งเดินมาพร้อมกับสมุดอีกหนึ่งเล่ม
“พวกคุณคนไหนเป็นสมาชิกในครอบครัวของ หยางตงเหิง จัดการตกลงกันให้ดีเข้าไปได้แค่สามคนและมีเวลาแค่คนละสามนาทีนะครับ”
“ฉันค่ะ”
พี่สาวหลิวหยานยืนขึ้น “สหายตำรวจ ฉันเป็นภรรยาของเขาคนที่จะเข้าไปมีลูกสาวของฉันแล้วก็ลูก”
“โอเค มากับผม”
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดจบ เขาก็พาทั้งสามไปที่พื้นที่เยี่ยมญาติ
ณห้องเยี่ยมญาติ
เจียงเฉินเข้าไปก่อน
ชายชราคนหนึ่งอายุประมาณห้าสิบปีกำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของกระจกใส เขามีใบหน้าที่ซัดเซียว ท้ายที่สุดใครก็ตามที่ต้องเข้ามาในคุกก็ล้วนแต่ไม่สบายใจทั้งนั้น
เมื่อชายชราเห็นเจียงเฉินเดินเข้ามาแววตาที่หม่นหมองก็สว่างขึ้นทันที
เจียงเฉินนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู
หยางตงเหิงน้ำตาไหลออกมาแต่เขาก็ยังยิ้ม “เจียงเฉิน นายมาแล้ว ครูทำให้นายต้องผิดหวังจริงๆแถมยังกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีด้วย”
เจียงเฉินที่ได้ยินก็รู้สึกหดหู่ “ครูอย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ในใจของผมครูก็เป็นเหมือนกับญาติที่ใกล้ชิดคนหนึ่งของผมเสมอ แล้วเรื่องทั้งหมดมันเป็นมายังไงกันแน่ครูบอกผมได้ไหมครับ?”
“อย่างนั้นสินะ….”
ปรากฏว่าในคืนนั้นหยางตงเหิงกำลังขี่จักรยานออกจากที่ทำงาน ทันใดนั้นก็มีคนคนหนึ่งออกมาหยุดเขาไว้เป็นชายหัวโล้นมีรอยสักเขาเดินลงมาจากรถก่อนจะเดินเอามีดปอกผลไม้มาฟันใส่เขา ครูหยางตงเหิงก็ใช้จังหวะที่ชายหัวโล้นไม่ระมัดระวังตัวแย่งมีดและแทงสวนกลับไป ชายหัวโล้นที่ถูกแทงก็วิ่งหนีกลับไปที่รถทันที
และในท้ายที่สุด ชายหัวล้านก็เสียชีวิตจากการขาดเลือดมากเกินไป
และสุดท้ายแม้ศาลจะเห็นว่าหยางตงเหิงแม้จะทำผิดเป็นครั้งแรก แต่ว่าเหตุการณืนี้ร้ายแรงมากเขาจึงต้องจำคุกถึงหกปี
หลังจากที่หยางตงเหิงเล่าจบ เขาก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยและถามออกไป “เจียงเฉิน นายเชื่อครูไหมครูไม่ได้ตั้งใจฆ่าเขาจริงๆ”
เจียงเฉินยื้ม “ผมรู้ครับครู มันไม่ใช่ความผิดของครูแน่นอน ผมจะหาวิธีที่ดีที่สุดในการนำตัวครูออกมานะครับ”
หยางตงเหิงยิ้มออกมาด้วยความสุด “เจียงเฉินในใจฉันนายคือนักเรียนที่ดีที่สุดของฉันเสมอ”
เมื่อการพูดคุยมาถึงจุดนี้แล้ว เวลาสามนาทีก็ถูกใช้จนหมดไปเจียงเฉินจึงต้องหันหลังและเดินออกมาจากห้องเยี่ยมทันที
……
สิบห้านาทีต่อมา
ห้องรอเยี่ยมญาติ
หยางยี่ยี่และแม่ของเธอหลิวหยานก็ได้กลับมาพร้อมกับเจียงเฉินที่ทุกคนไม่ได้เจอมานาน
จึงทำให้ทุกคนต่างเข้ามารุมถามคำถามกัน
หลิวหยานถอนหายใจออกมาและตอบไปว่า “เจ้าหน้าที่บอกว่าพวกเขาไม่อนุญาติให้ประกันตัวได้ แต่ว่าทางพวกเราสามารถหาทนายความมาเพื่ออุทธรณ์ครั้งที่สองได้ เราต้องรีบหน่อยยิ่งเขาอยู่ข้างในนานเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งรู้สึกแย่มากเท่านั้น”
เธอเคยลองถามจากทนายความหลายๆคนมาก่อน แต่พวกเขาก็บอกเหมือนๆกันว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้คือการลดโทษเท่านั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพ้นโทษโดยสมบูรณ์
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ยอมแพ้และเลือกที่จะสู้ต่อไปเพื่อให้สามีของเธอได้รับการปล่อยตัวเร็วที่สุด
หยางยี่ยี่เข้าไปสวมกอดแม่ของเธอ พร้อมกับหยดน้ำตาหยดเล็กๆที่ไหลออกมาอีกครั้ง “แม่…”
ในเวลานี้เพื่อนนักเรียนหลายๆคนต่านึกถึงสิ่งที่หลี่ปู้ฟานได้พูดไว้ในกลุ่มแชทไว้ได้
“ปู้ฟาน นายไม่ได้บอกว่าพ่อของนายมีอนาจมากงั้นหรอ นายขอให้พ่อของนายใช้เส้นสายเพื่อให้ครูหยางได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก่อนได้ไหม การที่ปล่อยเขาอยู่ในคุกมันน่าเจ็บปวดเกินไปนะ”
“ใช่ ตอนนั้นายบอกว่าไม่มีปัญหาใช่ไหม”
“…”
หลี่ปู้ฟานยิ้มออกมา ได้เวลาของเขาแล้ว ถึงเวลาที่บิดาคนนี้จะได้เริ่มการแสดงแล้ว
ตราบใดที่เขาทำให้ครูหยางถูกปล่อยตัวออกมาได้ ไม่เพียงเขาอาจจะชนะใจของหยางยี่ยี่ได้ แต่ยังได้อวดพลังของตัวเองต่อหน้าเพื่อนๆได้ด้วย!
มีแตเจียงเฉินที่เขาไม่รู้ว่าหายหัวไปไหนแล้วก็เท่านั้น
แต่ในเมื่อถึงเวลาแล้วก็ไม่ต้องไปใส่ใจ
ไม่ต้องรอมันแล้ว
หลี่ปู้ฟานยิ้มอย่างมั่นใจ “คุณแม่ไม่ต้องเศร้าไปนะครับ ความเมตตาของครูหยางยิ่งใหญ่เท่าภูเขา ผมจะโทรหาพ่อของผมขอให้เขาช่วยใช้เส้นสายทั้งหมดเพื่อช่วยครูหยางให้ได้รับการประกันตัวเอง! สำหรับทนายผมจะหาทนายที่เก่งที่สุดในเมืองหลวงมาให้!”
ดวงตาของหลิวหยานเป็นประกาย เธอมองตรงไปที่หลี่ปู้ฟานและจับมือของเขาไว้
“จริงๆงั้นหรอ? นายสามารถเอาเขาออกมาได้จริงๆใช่ไหม ถ้าทำได้จริงๆครอยครัวของฉันต้องขอบคุณนายมากๆแล้ว”
หลี่ปู้ฟานพยักหน้า “พวกเราต่างเป็นคนกันเองครับ ต่อให้บอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร”
หลิวหยานที่มองเห็นโอกาศที่จะช่วยสามีของเธอได้ก็ตื่นเต้นและพูดออกมา “ใช่ๆฉันไม่ปฏิเสธเลย เราเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว”
หลี่ปู้ฟานแอบมองไปที่นางฟ้าหยางยี่ยี่ที่อยู่ข้างๆเธอมันก็เกือบจะทำให้จิตใจของเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาก่อนจะกดโทรไปหาพ่อของเขา
คอมเม้นต์