Divine Card Creator – ตอนที่ 2 สร้างการ์ดเวทมนตร์
เมืองชิงหมิง
ณ ร้านค้าในเมืองที่คึกคัก
ลู่หมิงถือปากกาสำหรับสร้างการ์ดไว้ในมือ เขาวาดลายเส้นต่าง ๆ อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
มีแปลนการออกแบบการ์ดอยู่ตรงหน้าเขา
“มันคือเทมเพลตการสร้างการ์ดพลังงานแบบใช้ได้ครั้งเดียว”
มันเป็นแปลนการออกแบบตามมาตรฐานสำหรับการสร้างการ์ด
ในมือของเขาคือการ์ดเปล่าที่ใช้เป็นตัวรับพลัง
สามสิบหกจังหวะ!
ทุกจังหวะวาดด้วยลายเส้นพื้นฐาน!
ตราบใดที่เขาวาดเส้นตามแปลนการออกแบบ เขาก็จะสามารถสร้างการ์ดพลังงานได้ นี่เป็นการ์ดใบแรกที่นักสร้างการ์ดทุกคนต้องเรียนรู้
เฮอะๆ แต่มันเป็นการ์ดใบเดียวที่ลู่หมิงรู้วิธีสร้างในตอนนี้
วูชชชช!
เขาวางปากกาสร้างการ์ดไว้ข้าง ๆ
ลู่หมิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังงานในร่างกายของเขาค่อย ๆ ไหลเข้าสู่ปลายปากกาลงไปที่การ์ด
ทันใดนั้นการ์ดก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเส้นสีเข้ม
ปรากฎว่า …
… นี่คือขั้นตอนการสร้างการ์ด!
“มันช่างเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย … “
ลู่หมิงจมอยู่ในความคิดของเขา
เขามีความรู้สึกแปลก ๆ
รูปแบบที่ด้านหลังของการ์ดดูเหมือนกับภาษาโปรแกรมมิ่ง
แต่เขากลับไม่เข้าใจหลักการที่อยู่เบื้องหลังพวกมัน
อย่างไรก็ตาม…
หากเขาเปรียบเทียบการ์ดกับโปรแกรม มันคล้ายคลึงกันอย่างมาก
เพราะในชีวิตก่อนหน้านี้เขาเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อนโดยใช้ภาษาโปรแกรมง่าย ๆ และตอนนี้เขาใช้เส้นในการวาดการ์ดแทนการโปรแกรมมิ่ง
“บัตรพลังงานเทียบเท่ากับโปรแกรมขนาดเล็กธรรมดา มันเหมือนกับโปรแกรมการบวกลบคูณหารขนาดเล็กที่มือใหม่ฝึกเขียนโปรแกรมเรียนรู้ ซึ่งมันง่ายมาก”
ดังนั้นการวาดเส้นพวกนี้จึงง่ายมาก! เส้นเหล่านี้เป็นหัวใจหลักในการสร้างการ์ด
ถ้าเขาเรียนรู้ที่จะวาดเส้นเหล่านี้ เขาจะเข้าใจพื้นฐานของการสร้างการ์ดทั้งหมด อย่างน้อยสำหรับเขาการสร้างการ์ดก็เทียบเท่ากับการเขียนโปรแกรมในโลกที่แล้ว!
ลู่หมิงรู้สึกตื่นเต้น
ความรู้สึกนี้มันยอดเยี่ยมจริง ๆ
หลังจากรวบรวมความทรงจำของลู่หมิงน้อยเข้าด้วยกัน เขาก็เริ่มสร้างการ์ดได้อย่างมั่นคงพอสมควร
การ์ดพลังงานที่เขาวาดมานับครั้งไม่ถ้วนค่อย ๆ ปรากฎเป็นรูปเป็นร่างในมือของลู่หมิง
ใกล้แล้ว …
ลู่หมิงวาดลายเส้นสุดท้ายที่ด้านหลังของการ์ดเปล่า
ซึซซซ —-
แสงเปล่งประกายไปทั่วทั้งห้อง
ทุกลายเส้นบนการ์ดปรากฏขึ้นทันใด จากนั้นบางส่วนของการ์ดก็กลายเป็นรูปร่างที่พอจะมองเห็นได้ ด้านหน้าของการ์ดที่เคยว่างเปล่ามีสัญลักษณ์รูปแบบของเพชรเรียงตัวกันอยู่
นั่นคือหินพลังงาน!
การ์ดเปล่าได้กลายเป็นการ์ดพลังงานใบใหม่แล้ว!
“การ์ดพลังงานระดับเริ่มต้น แบบใช้ได้ครั้งเดียว!”
ลู่หมิงตื่นเต้น
แม้ว่าจากความทรงจำของลู่หมิงน้อยจะเคยสร้างการ์ดสำเร็จไปหลายครั้งแล้ว แต่สำหรับลู่หมิงมันเป็นครั้งแรกที่เขาประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง
ความรู้สึกนี้ยังคงมีความขลังและพิศวงอยู่มาก
แน่นอน
เขาประสบความสำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากแปลนการออกแบบ งั้นจะเป็นอย่างไรหากเขาไม่มีแปลนนี้?
หากเขาไม่มีมัน เขาก็จะต้องใช้การ์ดดั้งเดิม
การ์ดดั้งเดิมนั้นสามารถปิดผนึกความสามารถทุกประเภทและเปลี่ยนพลังเหล่านั้นเป็นการ์ดได้ จากนั้นผู้ใช้ก็จะสามารถวาดตามเส้นที่ด้านหลังของการ์ดดั้งเดิมเพื่อสร้างการ์ดนั้น ๆ ขึ้นมา!
นี่คือพลังของผู้สร้างการ์ด!
“การ์ดดั้งเดิม”
ลู่หมิงยกมือขึ้น
หวืด!
แสงไฟกะพริบ
การ์ดปรากฏบนมือของเขามันเป็นการ์ดที่เต็มไปด้วยพลังงาน
ซึซซซซ —-
ไฟส่องแสงระยับอ่อน ๆ
การ์ดใสหมุนอยู่ตรงหน้าเขา มีแสงจาง ๆ เป็นประกายที่ตัวการ์ด
นี่คือการ์ดดั้งเดิมของเขาและมันเป็นความสามารถพื้นฐานของผู้สร้างการ์ดทุกคน!
โดยในทางทฤษฎี
เราสามารถใช้การ์ดดั้งเดิมเพื่อปิดผนึกความสามารถต่าง ๆ
จากนั้นด้านหลังของการ์ดดั้งเดิมจะแสดงเส้นให้วาดตาม ตราบใดที่คน ๆ นั้นสามารถวาดตามเส้นเหล่านั้นได้ คน ๆ นั้นก็จะสามารถสร้างการ์ดใหม่หนึ่งใบและจะมีพลังที่มากขึ้นตามลำดับ
แต่น่าเสียดาย …
ลู่หมิงน้อยยังไม่เคยใช้งานการ์ดดั้งเดิมเลยสักครั้งเดียว
เหตุผลนั้นง่ายมาก – ระดับพลังงานของเขาต่ำเกินไป!
ข้อกำหนดขั้นต่ำของความสามารถในการปิดผนึกด้วยการ์ดดั้งเดิมคือ พลังงานที่มีอยู่ในการ์ดดั้งเดิมต้องสูงกว่าพลังงานที่ต้องการปิดผนึก นี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการผนึก!
หากมีใครพยายามใช้การ์ดดั้งเดิมที่มีระดับพลังงานหนึ่งร้อย เพื่อปิดผนึกพลังระดับพลังงานสองร้อย …
…คน ๆ นั้นตายแน่!
ระดับพลังงานของการ์ดดั้งเดิมของลู่หมิงอยู่ที่สี่สิบแปดแต้มเท่านั้น!
การ์ดพลังงานมีหนึ่งร้อยแต้ม กล่าวคือหากลู่หมิงไม่มีแปลนการออกแบบเขาจะไม่สามารถสร้างการ์ดพลังงานได้เลย!
เขามีพลังงานเพียงสี่สิบแปดแต้มนี้เท่านั้น
ช่างน่าเวทนา!
สำหรับการ์ดพลังงานทุกใบที่เขาสร้าง เขามักจะใช้หินพลังงานเพื่อช่วยในการสร้างการ์ด!
กล่าวอย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้งานของเขาคือการแปลงรูปแบบพลังงาน เขารับผิดชอบในการแปลงหินพลังงานเป็นการ์ดพลังงานและนั่นคือทั้งหมดที่เขาทำได้
งานของเขาเป็นงานที่หนักที่สุด และในเรื่องนี้เขาถูกจัดว่าเจองานที่ยากและหยาบเป็นอันดับต้น ๆ ของแก๊งค์
นั่นคือสิ่งที่เขาจำได้
อย่างน้อยก็จากความทรงจำอันจำกัดของลู่หมิงน้อย
ครั้งหนึ่งเขาขอให้เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ในระดับต่ำเช่นเดียวกัน โยนสกิล Fireball ใส่เขาในขณะที่เขาพยายามปิดผนึกมัน ในท้ายที่สุดเขาต้องนอนเป็นซากอยู่บนเตียงเกือบหนึ่งเดือนก่อนที่จะลุกขึ้นได้อีกครั้ง
เขาล้มเหลวในการปิดผนึกพลังงานและลูกไฟก็ระเบิดใส่เขา
Fireball เป็นหนึ่งในทักษะที่ระดับต่ำที่สุด แต่ต้องใช้พลังงานห้าสิบแต้ม
เขาไม่สามารถปิดผนึกมันได้
พูดง่าย ๆ คือความสามารถของเขาไม่ถึง
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบันทึกหนังแอคชั่นโรแมนติก 8G ลงบนแผ่นดิสก์ 4G! แต่เขาสามารถซื้อแปลนการออกแบบสำหรับ Fireball และใช้หินพลังงานเพื่อชดเชยปัญหาเรื่องระดับพลังงานสำหรับการวาดได้ …
แต่เขาไม่มีเงิน!
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ Fireball เป็นหนึ่งในทักษะพื้นฐานที่สุด มีการ์ดที่ถูกผนึกวางขายอยู่จำนวนมาก ร้านการ์ดไหน ๆ ก็มีการ์ด Fireball เป็นกอง
มันไม่มีประโยชน์ที่จะซื้อมัน!
มีร้านค้าอย่างน้อยสิบร้านที่ขายมันบนถนนข้างร้านของเขา!
หารายได้?
ไม่มีทางทำเช่นนั้นได้
ดังนั้น …
ลู่หมิงน้อยผู้น่าสงสารจึงตัดสินใจหารายได้จากการ์ดพลังงาน
เขาสามารถสร้างการ์ดพลังงานจำนวนมากได้ ในมุมนึงถือว่าเขาสามารถหารายได้เพิ่มนิดหน่อย และในทางกลับกันมันก็ช่วยเขาเพิ่มระดับพลังได้ เมื่อพลังงานของเขาเพิ่มขึ้นเขาจะสามารถปิดผนึกพลังต่าง ๆ เพิ่มเติมได้มากขึ้นและสร้างการ์ดใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ของตน
ในความจริง การตัดสินใจของลู่หมิงน้อยก็สมเหตุสมผล
น่าเสียดาย…
เขาไม่สามารถหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยจากหนี้ของเขาได้
“เงินกู้…”
ลู่หมิงจ้องไปที่เวลาการนับถอยหลังที่มุมขวาบน “สิบห้าวัน”
หากเขาไม่ชำระหนี้ภายในสิบห้าวันเขาอาจถูกบังคับให้ร้องเพลงเศร้า “ลานดอกเบญจมาศ” จากการที่ต้องติดต่อพ่อแม่และพี่สาว …
TL: [1. Chrysanthemum Terrace เป็นเพลง Mandopop ที่มีชื่อเสียงจากการร้องโดย Jay Chou ซึ่งสื่อถึงความเศร้าโศกและความรู้สึกเสียใจ]
สำหรับการติดต่อกับพ่อแม่และพี่สาวของเขา …
เอิ่ม…
ลืมมันไปซะ
มันจะแย่กว่านี้ถ้าพวกเขาค้นพบความจริง
ลู่หมิงจะไม่มีวันทำมัน เว้นแต่เขาจะไม่มีทางเลือกจริง ๆ
“หนึ่งแสนหยวน”
ลู่หมิงมองไปยังสมุดบัญชีเล่มเล็กบนโต๊ะ
สำหรับร้านของเขานั้น เขาตั้งใจจะมีไว้เพียงเพื่อหลอกพี่สาว เขาเช่ามันแค่สองเดือน นอกเหนือจากการ์ดที่เขาซื้อเพื่อให้ทันเวลาที่พี่สาวมาเยี่ยม เขาก็ใช้เงินไปทั้งหมดสองหมื่นหยวน
ถ้าเขาทำงานหนักพอ เขาก็ควรจะจ่ายหนี้ไหว
ถึงอย่างนั้นปัญหาหลักอยู่ที่ดอกเบี้ย โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้
เฮอะ เฮอะ…เมื่อเจ้าหนี้มาคราวก่อน เงินสองหมื่นหยวนที่เขาเป็นหนี้ได้พุ่งไปเป็นห้าหมื่นหยวนแล้ว
โอ้วว ชิท
เมื่อพวกมันมาครั้งต่อไป อาจจะกลายเป็นหนึ่งแสนหยวน
“น่าจะลำบากมากทีเดียว”
ลู่หมิงถอนหายใจ
พวกนักเลงที่คุมพื้นที่ท้องถิ่นนั้นร้ายกาจ โดยเฉพาะกับลู่หมิงที่ไม่มีความกล้าหาญในการต่อสู้ มันไม่ใช่ตัวเลือกแรกของเขาในการตอบโต้ด้วยการใช้กำลังเข้าต่อสู้
อย่างน้อยก็ไม่ใช่สำหรับตอนนี้
ดังนั้น…
ปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาคือการคิดว่าเขาจะหาเงินหนึ่งแสนหยวนได้อย่างไรภายในสิบห้าวัน
“หาเงิน…”
“การ์ด…”
ลู่หมิง จมอยู่กับความคิดของตัวเองอีกครั้ง
ทักษะเดียวที่เขามีคือการสร้างการ์ด นอกจากนี้เขายังมีเพียงการ์ดพลังงานขั้นพื้นฐานเท่านั้น เขายังไม่มีคุณสมบัติที่จะใช้ผนึกการ์ดใบอื่น ๆ
ถึงอย่างนั้นแม้ว่าเขาจะใช้มันได้ แต่ก็มีค่าไม่มากนัก
หรือบางที…
ลู่หมิงสำรวจร้านค้า
ในตอนนั้นเขาซื้อการ์ดจำนวนมากเพื่อใช้หลอกพี่สาวของเขา และมันก็ยังขายไม่ออกอยู่หลายใบ ส่วนมากเป็นการ์ดโจมตีระดับต่ำ แต่เขาแทบจะไม่มีคุณสมบัติที่ใช้ในก็อปปี้การ์ดเหล่านั้นเลย
เขามีพลังงานไม่เพียงพอ
เดี๋ยวก่อนนะ…
ลู่หมิง จ้องมองไปที่การ์ดใบใดใบหนึ่ง
“การ์ดภาพลวงตา…”
เกิดประกายขึ้นในดวงตาของลู่หมิง
โดยปกติแล้วมีการ์ดอยู่ทุกประเภท
เนื่องจากการ์ดสามารถปิดผนึกคุณสมบัติได้หลากหลาย ดังนั้นในทางทฤษฎีตราบใดที่การ์ดสามารถผนึกพลังงานได้ การ์ดใบนั้นก็อาจกลายเป็นอะไรบางอย่างที่น่าสนใจได้!
ดังนั้นการ์ดใบเดียวก็สามารถครอบคลุมทั้งอาชีพและความสามารถได้เกือบทุกรูปแบบ!
การ์ดภาพลวงตาเป็นการ์ดที่สร้างขึ้นจากการปิดผนึกภาพลวงตาลงไปในการ์ดอย่างสมบูรณ์!
ตัวอย่างเช่น…
การ์ดตรงหน้าเขา
มันเป็นการ์ดภาพลวงตาเริ่มต้นที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว สามารถใช้สร้างกรงลวงตาเพื่อดักจับศัตรู มันมีความแม่นยำต่ำและเสถียรภาพที่ไม่ค่อยดีนัก การ์ดใบนี้เป็นหนึ่งในการ์ดภาพลวงตาที่ธรรมดาที่สุด
ระดับพลังงานที่ใช้คือหกสิบแต้ม
อันดับแรกคือเขาต้องมีระดับพลังงานอย่างน้อยหกสิบแต้มเพื่อก็อปปี้การ์ดใบนี้
แต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะก็อปปี้การ์ดใบนี้เพราะเขามีพลังงานไม่เพียงพอ และถึงแม้ว่าเขาจะก็อปปี้การ์ดมามันก็ไร้ค่า! เพราะโดยทั่วไปมีการ์ดระดับต่ำวางขายอยู่จำนวนมากอยู่แล้ว
จังหวะนั้นลู่หมิงก็นึกอะไรบางอย่างออก
ตามความทรงจำของลู่หมิงน้อย ความเสถียรของภาพลวงตานั้นเกี่ยวข้องกับพลังงาน ยิ่งภาพลวงตามีพลังความเสมือนมากเท่าไหร่ระดับพลังงานก็ยิ่งสูงขึ้นและความเสถียรก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยซึ่งทำให้พวกมันมีอานุภาพที่รุนแรงขึ้น
ยังไงก็ตาม…
มันจะไม่เกิดขึ้นในเมื่อเขาไม่มีพลังงานอยู่แล้ว!
งั้นจะเป็นอย่างไรถ้าเขาสามารถสร้างภาพลวงตาที่เรียบง่ายและใช้เพียงพื้นฐานได้?
ถ้าเขาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่างที่ไม่ต้องใช้พลังงานมากนัก? พลังงานที่ต้องการก็ควรจะลดลงอย่างมาก!
นี่เป็นความรู้พื้นฐานและทฤษฎี และในกรณีนี้…เขาจะสามารถสร้างภาพลวงตาอะไรที่ไม่ต้องใช้พลังงานอะไรมากได้หรือ?
“แต่มันก็คุ้มค่าที่จะลอง”
ลู่หมิงเชื่อมั่นในความคิดของเขา
เขาไม่กังวลเกี่ยวกับการตามหานักสร้างภาพลวงตาเพราะมีนักศึกษาศาสตร์ลวงตาจำนวนมากในวิทยาลัยเทคนิค ลู่หมิงรู้สึกว่าเขาสามารถหาคนเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ลู่หมิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา
ในโลกนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นเนื่องจากการมีอยู่ของพลังบ่มเพาะและหินพลังงานก็ทำให้การพัฒนายังถือว่าก้าวหน้าอยู่มาก
โดยทั่วไปแล้วเทคโนโลยีในโลกนี้ถือว่าก้าวหน้ากว่าในชีวิตก่อนหน้าของเขามาก
“จางเสี่ยวปัง ฉันมีงานมาเสนอ นายสนใจที่จะรับมันไหม?” ลู่หมิง ถาม
จางเสี่ยวปัง เป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของเขา
ลู่หมิงเลือกเขาด้วยเหตุผลง่าย ๆ จากนักวาดภาพลวงตาทุกคนที่เขารู้จัก หมอนี่ห่วยและคิดราคาถูกที่สุด
“งานอะไรหรอ” จางเสี่ยวปังทำเสียงสูง
“ภาพลวงตาธรรมดา ๆ นายสร้างมันขึ้นมา ในขณะที่ฉันจะปิดผนึกมัน — ให้แปดร้อยหยวน” ลู่หมิงพูดต่อ
“ต่ำเกินไป” จางเสี่ยวปังไม่เห็นด้วยกับราคานี้
“ราคานี้ไม่คุ้มกับพลังงานที่ฉันต้องใช้”
“งั้นลืมมันไปซะ” ลู่หมิงวางโทรศัพท์มือถือ
จากนั้นโทรศัพท์มือถือของลู่หมิงก็ดังขึ้นในหนึ่งวินาทีต่อมา และเสียงของจางเสี่ยวปังก็ดังลั่นออกมาจากโทรศัพท์
“พี่ชายตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ฉันจะไปทันที แต่พี่ต้องเพิ่มเงินให้ฉันเป็นค่ารถสักสองหยวนนะ”
“แม่*ง!” ลู่หมิงไม่ได้พูดจากับหมอนี่ดีเท่าไหร่นัก
ถ้าเขาอะลุ่มอะล่วยไป จางเสี่ยวปังจะต้องเรียกราคาสูงขึ้นแน่ ๆ
“ฉันอยู่ที่ร้าน” ลู่หมิงตอบอย่างดุร้าย
สำหรับจางเสี่ยวปังแปดร้อยหยวนนั้นถือเป็นรายได้เสริม ท้ายที่สุดแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับค่าตอบแทนแต่เขาก็ควรถือว่ามันเป็นโอกาสที่ได้ฝึกฝนการสร้างภาพลวงตา
ซึ่งก่อนอื่นนั้น…
ลู่หมิงควรตรวจสอบก่อนว่าแผนของเขาจะใช้ได้ผลหรือไม่
เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วหยิบปากกากับกระดาษออกมาและเริ่มร่างความคิดของเขา
จางเสี่ยวปังมาถึงพร้อมกับการหอบหายใจอย่างหนัก
“นายต้องการภาพลวงตาอะไร? สุดยอดพี่สาวหรือโลลิต้า? นางเอกซีรีส์หรือแอร์โฮสเตสสุดสวย?”
จางเสี่ยวปังดูเหมือนจะรู้(มาก) เกี่ยวกับภาพลวงตาอยู่พอสมควร
ลู่หมิง:“ ??? เอิ่ม… เดี๋ยวนะ ปกตินักศึกษาศาสตร์ภาพลวงตาทำอะไรเป็นงานพาร์ทไทม์กันเนี่ย ?!!!”
คอมเม้นต์