Divine Card Creator – ตอนที่ 5 ธุรกิจมาแรง!
“ดูเหมือนว่าคุณจะต้องกลับมาใหม่ครั้งหน้านะ”
ลู่หมิงยิ้ม “รบกวนคุณทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ แล้วถ้าไม่มีใครทำลายสถิติของคุณที่เก้าสิบเก้าวินาทีผมจะติดต่อไปและคุณจะได้รับเงินหนึ่งหมื่นหยวนในสัปดาห์หน้า”
“ผม… “
ชายวัยกลางคนอยากที่จะเขียนรายละเอียดช่องทางการติดต่อของเขาไว้แต่ก็รู้สึกละอายเกินกว่าจะทำมัน
ทนให้ได้เป็นเวลาหนึ่งร้อยวินาทีหากเป็นลูกผู้ชาย แต่เขาไม่สามารถยืนหยัดได้ถึงหนึ่งร้อยวินาทีด้วยซ้ำ?
แล้วเขาจะเอาความกล้าจากไหนมาเขียนชื่อของตัวเองลงไปกัน? รับรางวัลหรอ?
เฮอะ ๆ คงไม่มีทางที่เขาจะได้มัน!
“นั่น…เอ่อ ผมไม่ต้องการรางวัลหรอก แต่คุณให้ฉันเล่นอีกสักเกมได้ไหม”
ชายวัยกลางคนกล่าวแบบไม่ค่อยพอใจนัก “ผมเกือบจะทำได้แล้ว…จริงๆ นะ เพียงครั้งเดียว ผมจะจ่ายคุณครั้งหน้า ผมน่าจะทนร้อยวินาทีได้ถ้าลองอีกสักครั้ง”
“จริง ๆ ผมไม่มีปัญหาอะไร แต่…”
ลู่หมิงกางมือออกและชี้ไปที่ผู้คนรอบด้าน “คุณต้องถามพวกเขา”
ชายวัยกลางคนหันกลับมา
ตอนนั้นเองที่เขาพบว่าทางเข้าร้านเต็มไปด้วยผู้คน เขาไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ คนเหล่านี้จ้องมองเขาด้วยความเป็นศัตรูที่พร้อมจะทุบตีชายวัยกลางคน
“คุณเล่นมานานเกินไปแล้ว”
ชายร่างกำยำด้านหลังมองมาที่เขาด้วยความดุร้าย
“ถูกต้อง”
เด็กน้อยคนหนึ่งเม้มปาก “ถ้าคุณทนไม่ไหว ก็แปลว่าคุณไม่มีทางทนได้นั่นแหล่ะ ทำไมคุณต้องโกหกและแสร้งทำเป็นทนไหวด้วย?”
“ฉันทนได้จริง ๆ….”
หน้าของชายวัยกลางคนแดงก่ำ “รอฉันก่อน….ฉันจะกลับบ้านไปเอาเงินมาเพิ่ม”
เมื่อพูดจบ…
ชายวัยกลางคนก็จากไปอย่างรวดเร็ว
“คนต่อไป”
“ผม! ผม!”
ทุกคนกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วม
มันทำให้ลู่หมิงพึงพอใจมาก
“หลังจากรอคิวมานานในที่สุดก็ถึงตาฉันซะที”
มีคนรีบเข้ามาในร้านต่อจากชายวัยกลางคน
“ได้เลย”
ลู่หมิงจึงจัดเตรียมภาพลวงตาให้กับเขา
หลังจากฟังคำพูดของชายวัยกลางคนนั้น ทุกคนก็รู้ว่าข้างในเป็นภาพลวงตาที่ดูห่วยแตกมาก ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่ามันจะมีประโยชน์ในการปรับปรุงความเร็วในการตอบสนองของพวกเขา
ดังนั้นพวกเขาจึงทนรอได้นานขึ้นเพื่อทดลองสิ่งนี้….
ทุกคนได้ประสบกับผลไม้นานาชนิดที่หล่นลงใส่พวกเขา
หนึ่งครั้ง!
สองครั้ง!
สามครั้ง!
…
“อีกครั้ง!”
“อีกครั้ง!”
“อีกครั้ง!”
คนจำนวนมากได้สัมผัสกับประสบการณ์นี้และรีบกลับบ้านไปเอาเงินเพิ่มเหมือนชายวัยกลางคน
เก้าสิบหกวินาที!
เก้าสิบเจ็ดวินาที!
เก้าสิบแปดวินาที!
เก้าสิบเก้าวินาที!
…
คนส่วนใหญ่ติดอยู่ที่คอขวดนี้
เหตุผลนั้นง่ายมาก
มันเป็นเพราะลู่หมิงได้เพิ่มระดับความยากขึ้นให้เป็นระดับสูงในวินาทีสุดท้าย โดยที่ความเร็วของผลไม้ไม่เปลี่ยนแปลงไป แต่ปริมาณของพวกมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก และนั่นคือปัญหาที่ผู้เล่นทุกคนเจอ
แน่นอน
ระดับความยากที่เขาตั้งขึ้นมานั้นไม่ได้ยากจนเกินไป มันทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าพวกเขาผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนตราบเท่าที่พวกเขาพยายามให้หนักขึ้นสักหน่อย
พวกเขาคงเพลี่ยงพล้ำจากความประมาท หากเพิ่มความเร็วในการตอบสนองขึ้นสักหน่อยก็คงจะไม่มีปัญหา! และถ้าพวกเขาสามารถเคลียผลไม้ได้เร็วขึ้นเล็กน้อยในวินาทีก่อนหน้านี้ พวกเขาก็อาจจะไม่พบเจอปัญหาในวินาทีถัดไป!
คนส่วนใหญ่มีความคิดแบบนี้
ดังนั้น…
ลู่หมิงได้แต่ยิ้มและมองดูพวกเขาจากไปหลังจากที่ใช้เงินจนหมดและจำใจต้องยอมแพ้อย่างไม่สบอารมณ์นัก
นอกเหนือจากการเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ทำงานเยี่ยงสุนัขในชาติที่แล้ว เขายังเป็นเทพในด้านเกมอีกด้วย ลู่หมิงมีฉายาในเกมอยู่มากมายดั่งเทพแห่งวีดีโอเกม
สำหรับเขา มันง่ายมากที่จะพัฒนา Fruit Ninja ให้เป็นเกมที่ยากจะเอาชนะ
“เจ้าของร้านฉันขอซื้อการ์ดลวงตาพวกนี้ได้ไหม”
มีคนถามขึ้น
โดยปกติร้านค้าที่อนุญาตให้คนลองใช้งานการ์ดก็มักจะขายการ์ดนั้นเองด้วย
“ตอนนี้ยังไม่ขาย”
ลู่หมิงส่ายหัว “คุณก็เห็นด้วยตัวเองแล้วว่า การ์ดที่ผมสร้างนั้นมีจำนวนจำกัด ถ้าขายไปแล้วฉันก็กลัวว่าจะมีคนเหมาไปทั้งหมด แล้วถ้าอย่างนั้นคนอื่นที่เข้าคิวอยู่จะทำอย่างไรกันล่ะ?”
ครืนนนน!
สายตาอันน่ากลัวจำนวนมากมองไปยังทิศทางของชายคนนั้น
“เฮือก”
ชายที่ต้องการซื้อการ์ดก่อนหน้านี้ จึงชิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฮิฮิ”
ลู่หมิงแสยะยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เหตุผลที่เขาไม่ขายการ์ดนั้นง่ายมาก เพราะมันไม่ได้ถูกเข้ารหัสไว้!
การเข้ารหัสเป็นสกิลสำคัญในอุตสาหกรรมการสร้างการ์ดของโลกนี้ ด้วยสกิลการเข้ารหัสจะทำให้คนอื่นไม่สามารถก็อปปี้การ์ดของคุณได้ง่าย ๆ ช่างน่าเสียดายที่เขาไม่มีสกิลนี้
ถ้าเขาขายการ์ดไปตอนนี้ …
ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงร้านค้าทั้งหมดในบริเวณใกล้เคียงก็จะมีการ์ดแบบนี้เกลื่อน!
ถ้าเป็นอย่างนั้นการขายการ์ดจะเป็นตัวเลือกที่ดีได้อย่างไร?
การที่มีคนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อทดลองการ์ดลวงตานั้นเพียงพอแล้ว
ลู่หมิงยิ้ม
เขามั่นใจว่ายอดขายของวันนี้จะต้องสุดยอดมากแน่ ๆ
ในช่วงบ่ายก็เริ่มมีคนมาตามคำแนะนำของเพื่อน
ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะซื่อบื้อ และหลายคนเริ่มตระหนักถึงปัญหา
วิธีการเล่นแบบนี้มัน…ทำไมพวกเขาถึงรู้สึกว่ากำลังตกลงไปในหลุมพรางบางอย่าง?!
บางคนถึงกับใช้เงินไปกว่าหนึ่งพันหยวน!
“มันช่วยบ่มเพาะพลังได้จริงหรือ” มีคนถามด้วยความสงสัย
“แน่นอน”
“งั้นให้ผมถามคุณหน่อย คุณทนอยู่ในเกมครั้งแรกได้นานแค่ไหน?” ลู่หมิงถามด้วยรอยยิ้ม
“ยี่สิบวินาที” คนนั้นตอบกลับ
“แล้วตอนนี้ล่ะ?”
“เอิ่ม…เก้าสิบแปดวินาที” คน ๆ นั้นพูด
“โอ้…มันยอดเยี่ยมมาก” ลู่หมิงชื่นชม
จากนั้นลู่หมิงก็พูดต่อ “เห็นไหม! ไม่ใช่ว่าคุณทนได้นานขึ้นจากการพัฒนาความเร็วในการตอบสนองหรอกหรอ ไม่งั้นทำไมคุณถึงจัดการผลไม้ได้มากขึ้นล่ะ?”
“เอ่อ —-”
เมื่อเขาได้รับคำเยินยอและการยืนยันจากลู่หมิง เขาก็โพล่งออกมา“ งั้น…งั้นความเร็วในการตอบสนองของฉันเร็วขึ้นแล้วใช่ไหม?”
“เป็นคำตอบที่ถูกต้อง!”
ลู่หมิง พอใจมาก
“พวกคุณควรคิดเรื่องนี้ดี ๆ ถ้าคนเรามีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วเป็นพิเศษพวกเขาควรจะจัดการผลไม้เหล่านี้ได้ง่ายกว่าเดิมใช่หรือไม่” เขากล่าว
ผู้ชมรอบข้างพยักหน้าไปโดยสัญชาตญาณ
ใช่…
ถ้าความเร็วในการตอบสนองไวพอก็แปลว่าจะสามารถทำลายผลไม้ทั้งหมดได้อย่างง่ายดายหรอ? งั้นทำไมพวกเขาถึงไม่ผ่านระดับนั้นกันซักที? ง่าย ๆ เลยเป็นเพราะว่าการตอบสนองของพวกเขายังเร็วไม่พออย่างเห็นได้ชัด!
“จำไว้! คุณต้องตอบสนองให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะอยู่ในเกมได้นานขึ้น”
ลู่หมิงพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “แน่นอนถ้าพวกคุณคิดว่าการปรับปรุงแบบนี้ไม่สำคัญละก็ ผมจะขอยกตัวอย่างว่าถ้าหากคุณกำลังต่อสู้กับศัตรูภายนอกละก็ คุณจะไม่ได้หลบผลไม้แต่มันจะเป็นอาวุธแทน”
ทุกคนสูดหายใจอย่างเย็นยะเยือก
ไม่ใช่ว่ามันเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วเหรอ?
ในชีวิตจริงมันจะไม่ใช่ผลไม้ แต่เป็นอาวุธที่ซ่อนอยู่…
พวกเขารู้สึกถึงคลื่นแห่งความกลัว เพียงแค่คิดถึงมันก็ทำให้หนาวสั่น…
“คิดดี ๆ ว่าคุณจะสามารถทำลายมีดบินหรือดาวกระจายได้มากขึ้นหรือไม่? ยิ่งกว่านั้นในกรณีที่คุณจัดการศัตรูลงไม่สำเร็จ คุณคิดว่าจะสามารถหลบอาวุธลับพวกเขาได้ด้วยการตอบสนองแบบนี้หรอ? ในเกมยิ่งคุณทนได้นานเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!”
ลู่หมิงให้ข้อสรุปและทุกคนก็เชื่อมั่นกับคำตอบนี้อย่างสุดหัวใจ
มันดูสมเหตุสมผลมาก
หนุ่มน้อยที่สงสัยในตอนแรกก็เชื่อเขาแล้วเช่นกัน
“ถ้าอย่างนั้น…มาต่อกันเถอะ”
ลู่หมิงยิ้มและมองไปที่พวกเขา “ ใครเป็นคนต่อไป?”
“ผม!”
“ให้ฉันก่อนเถอะ!”
คนจำนวนมากกระตือรือร้นที่จะลองเล่นมัน
วันนี้ลู่หมิงมีความสุขมากจริง ๆ
…
ในจังหวะเดียวกันนั้น …
ร้านค้าที่ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ซอยก็สังเกตเห็นฉากนี้
พวกเขารู้เกี่ยวกับธุรกิจของลู่หมิงเป็นอย่างดีและไม่เห็นลูกค้าเข้าไปในร้านมาหลายเดือนแล้ว
พวกเขาเดิมพันกันด้วยซ้ำว่าร้านนี้จะเจ๊งเมื่อไหร่!
จากการคำนวณ…มันน่าจะใกล้ถึงเวลาแล้ว
ดังนั้น…
เมื่อพวกเขาเห็นฝูงชนจำนวนมากในตอนเช้า พวกเขาคิดว่าลู่หมิงกำลังล้างสต็อกสินค้าในโกดังของเขาเพื่อเลิกกิจการ
อย่างไรก็ตามเรื่องราวกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ดูเหมือนลู่หมิงจะพยายามสร้างการ์ดภาพลวงตาและทดลองขายมัน
ในช่วงแรกมันไม่คุ้มค่านักที่จะสนใจเรื่องแบบนี้เพราะลู่หมิงเป็นเพียงนักสร้างการ์ดรายเล็ก ๆ และเขาก็เป็นเพียงมือใหม่ เขาจะคุกคามใครได้บ้าง?
จะใช้การ์ดพลังงานระดับเริ่มต้นแบบใช้ได้ครั้งเดียวมาเพื่อคุกคามร้านค้าใหญ่ ๆ แบบพวกเขาหรือ?
ฉะนั้นพวกเขาก็เลยไม่ได้ให้ความสนใจกับมัน อย่างไรก็ตามสถานการณ์เป็นเช่นนี้ตลอดทั้งเช้า คนกระจุกตัวกันแน่นในร้านนั่นไม่หยุด!
นี่อาจสร้างปัญหาให้พวกเขาได้!
“พวกแกไปดูสถานการณ์หน่อย”
เจ้าของร้านบางรายส่งลูกน้องไปตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปสองชั่วโมงพวกเขากลับมาและบอกว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าไปต่อคิวได้?!
ใช่
เข้าไปต่อคิวไม่ได้!
มันเป็นคำตอบที่พิลึกชะมัด
สิ่งเดียวที่พวกเขานำกลับมาได้คือเรื่องราวแสนน่าตกใจจากเนื้อหาในโปสเตอร์ และปฎิกิริยาของฝูงชนรอบ ๆ
“การ์ดเพื่อการบ่มเพาะ…”
“เพื่อปรับปรุงความเร็วในการตอบสนอง…”
“ผลไม้…”
“เก้าสิบเก้าวินาที?”
“ของพวกนี้มันจริงหรือ?”
บางคนไม่สนใจ แต่บางคนก็เคร่งเครียด
ในเวลาต่อมาเจ้าของร้านและนักสร้างการ์ดบางคนตัดสินใจที่จะไปดูที่หน้าร้านของลู่หมิงด้วยตัวเอง…ว่าลู่หมิงใช้กลเม็ดอะไรลงไปกันแน่!?
…
“หนึ่งร้อยหยวนต่อครั้ง! จากการคำนวณเบื้องต้นจำนวนครั้งที่มีคนทดลองเล่นในปัจจุบันน่าจะเกินพันครั้งไปแล้ว…”
คราวนี้ร้านค้าโดยรอบสงบใจกันไม่ลงจริงๆ แล้ว
เริ่มแรกพวกเขาไม่ได้ใส่ใจและตั้งใจรอดูความสนุกเพียงเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดแล้วการ์ดภาพลวงตาใหม่นี้อาศัยจินตนาการของคน ๆ เดียว ในการสร้างผลกำไรจำนวนมาก
แม้ว่าพวกเขาจะคาดเดาไว้แล้ว แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะทำเงินได้ในปริมาณที่น่ากลัวขนาดนี้!
มากกว่าพันครั้งนั่นไม่ใช่แสนหยวนเหรอ!
“ลู่หมิงกำลังทำอะไรอยู่กัน?!”
พวกเขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
หาเงินได้วันละแสนหยวน เขาใช้แนวคิดแบบไหนมาทำเงินมากมายขนาดนี้?
มันน่าตกใจเกินไป!
“เร็วเข้า! เราต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”
เฉียนเจิ้งไค่ เจ้าของร้านค้าในเครือเย่ซีกรุ๊ปมีสีหน้าเคร่งขรึม “พาคนจากร้านเราไปสังเกตการณ์ที่นั่น ไม่ว่าจะใช้วิธีใดเราก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ร้านของเขาเป็นร้านขายการ์ดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชิงหมิง!
พวกเขาไม่สามารถสูญเสียตำแหน่งนี้ไปให้คนอื่นได้
“บอส…เราเข้าไปต่อคิวไม่ได้!” ผู้ช่วยร้านกล่าวพร้อมความรู้สึกผิด
“??” เฉียนเจิ้งไค่ รู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย “แกโง่หรือเปล่า? แกจะไปลองเล่นเองทำเพื่อ? ทำไมแกไม่ไปสอบถามจากคนที่เคยเล่นมาก่อน…แค่ยอมจ่ายในราคาสูงเพื่อซื้อข้อมูลของพวกเขามา! ฉันมั่นใจว่าพวกเขาเต็มใจที่จะแลกเปลี่ยนด้วยข้อเสนอนี้”
ในขณะนี้…ในร้านขายการ์ดอีกแห่ง
“น่าสนใจ เจ้าของร้านเหล่านี้หาข้อมูลกันได้เร็วมาก”
จางชุน เจ้าของร้านชุนปิ่นการ์ดรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ในพื้นที่นี้ ร้านค้าของเครือเย่ซีกรุ๊ปถือเป็นคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุด พวกเขาทำงานกันมีประสิทธิภาพกว่าร้านชุนปิ่นการ์ดซึ่งเดิมทีเป็นผู้นำตลาดในพื้นที่นี้!
พวกเขายิ่งใหญ่และมีทรัพยากรมากมาย!
โดยปกติร้านขนาดใหญ่เช่นนี้จะไม่สนใจร้านค้าเล็ก ๆ แต่เมื่อพิจารณาแล้ว สถานการณ์นี้อาจจะน่าสนใจกว่าที่เขาจินตนาการไว้
“ลู่หมิง…”
จางชุนเคาะโต๊ะ
“ติดตามคนของเย่ซีไว้ และทำตามทุกอย่างที่พวกเขากำลังจะทำ”
“นอกจากนี้ไปตรวจสอบดูว่าลู่หมิงได้ติดต่อกับนักสร้างภาพมายาคนไหนในสองวันที่ผ่านมานี้หรือเปล่า…”
…
เมื่อความนิยมในร้านของลู่หมิงเพิ่มขึ้น ความตึงเครียดก็เกิดขึ้นทั่วทั้งถนน สายตานับไม่ถ้วนจ้องมองไปที่ร้านของเขา
เมื่อ Fruit Ninja เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นยอดขายก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นอย่างน่ากลัว
มันทำให้ฝูงชนอยากรู้อยากเห็นตามไปด้วย!
สำหรับสาเหตุนั้นไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากผลกำไรจากการ์ดใบนี้น่าตกใจจนเกินไป!
แนวคิดแบบไหนกันที่มีค่าเท่ากับกำไรหนึ่งแสนหยวน?
ถ้ามันเป็นการ์ดคุณภาพสูงใช้ได้สามครั้งใบนึงก็อาจจะทำกำไรได้มาก แต่ตอนนี้ลู่หมิงประสบความสำเร็จด้วยการ์ดภาพลวงตาระดับต่ำที่ใช้เพียงครั้งเดียว!
เขาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการการ์ดอย่างมาก!
นี่มันหมายความว่ายังไงนะเหรอ?
การครอบครองการ์ดใบนี้ก็หมายถึงการครอบครองผลกำไรมหาศาล!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเฉียนเจิ้งไค่จากร้านค้าในเครือเย่ซีกรุ๊ป
“จางชุน…แผนการของไองั่งนั่น น่าจะจำกัดอยู่แค่ที่เมืองชิงหมิงเท่านั้น
“เนื่องจากการ์ดใบนี้สามารถสร้างกระแสที่นี่ได้ ตามธรรมชาติแล้วก็ควรจะสามารถทำให้เกิดเป็นกระแสที่เมืองอื่นได้เช่นกัน ถ้าพบว่าอะไรทำให้การ์ดใบนี้พิเศษและส่งมอบมันให้สำนักงานใหญ่ พวกเขาก็จะสามารถกระจายการ์ดใบนี้ไปได้ทุกสาขา…”
เพียงแค่คิดก็ทำให้เฉียนเจิ้งไค่รู้สึกตื่นเต้น
เขาตั้งใจว่าจะเอาวิธีสร้างการ์ดใบนี้มาครอบครองให้ได้!
คอมเม้นต์