Divine Card Creator – ตอนที่ 20 อาณาเขตเร้นลับ
“เกิดอะไรขึ้น?”
เหล่านักศึกษาต่างตื่นตระหนก
พวกเขาไม่เคยเห็นฉากที่น่าตกใจเช่นนี้มาก่อน แต่ในทางตรงกันข้ามเหล่าอาจารย์กลับสงบลงอย่างรวดเร็ว
“เงียบ!”
“มันก็แค่แผ่นดินไหว”
“ฉันอันมู่เฟิงเป็นอาจารย์ของพวกคุณ เพื่อความปลอดภัยกรุณาทำตามคำสั่งของฉันอย่างเคร่งครัด”
“ให้นักศึกษาทั้งหมดจับคู่ 2 คนและดูแลกันเอง ส่วนคนที่มีความสามารถในการป้องกันสูงเตรียมพร้อมรับมือกับอันตรายทุกอย่างเผื่อไว้ตลอดเวลา!”
อาจารย์คนหนึ่งตะโกนเสียงดังว่า “ไม่ต้องห่วงทุกคน เหมืองแห่งนี้มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งมาก มันจะไม่ถล่มลงมาและเราควรจะได้กลับไปที่วิทยาลัยในคืนนี้”
“ตามเวลาที่กำหนดรถบัสควรมาถึงในเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง และเมื่อพวกเขาติดต่อเราไม่ได้พวกเขาจะส่งคนมาช่วยเราทันที…ในกรณีที่แย่ที่สุด…ก็คงจะมีคนมาช่วยเราภายในคืนวันนี้ ดังนั้นเราต้องสงบสติอารมณ์ เข้าใจไหม? ให้ทุกคนคิดวะว่าเราได้พักผ่อนที่นี่สักสองสามชั่วโมง”
อาจารย์อันปลอบทุกคนทำให้ในที่สุดเหล่านักศึกษาที่สติแตกก็กลับมาใจเย็นลง
แผ่นดินไหวไม่ใช่ปัญหาใหญ่
แต่มันจะวุ่นวายมากหากนักศึกษาเหล่านี้ยังสติแตกกันอยู่
“อาจารย์หวังมีใครบาดเจ็บล้มตายบ้างไหม”
อาจารย์อันมองอาจารย์อีกคน
“ไม่มีใครเป็นอะไรมาก”อาจารย์หวังตอบ
“ยอดเขานั้นลอยค้างอยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะตกลงมาทำให้ทุกคนหนีจากมันได้ทัน มีคนบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่มีใครตายหรือบาดเจ็บสาหัส”
“ฟู่ว โชคดีจริงๆ”
อาจารย์อันถอนหายใจอย่างโล่งอก
หากชีวิตของนักศึกษาสักคนถูกพรากไป พวกเขาต้องแบกรับความรับผิดชอบในส่วนนี้!
“ไม่รู้ว่ายังมีทางออกเหลืออยู่รึเปล่า”
อาจารย์อันสำรวจสภาพแวดล้อม ทางเข้าหลักทั้งหมดของเหมืองถล่มลงทำให้ทางออกทั้งหมดถูกปิด
นอกจากนี้ภายในเหมืองยังเต็มไปด้วยสัญญาณรบกวนจากแร่พลังงานซึ่งทำให้โทรศัพท์มือถือรับสัญญาณไม่ได้
ภายในเหมือง ณ จุดที่พวกเขาอยู่ไม่มีแสงอาทิตย์ลอดเข้ามาให้เห็นเลย มันมีเพียงแสงจากหลอดไฟสลัวๆ
จี๊ซซ –
จิ๊ซซซ—
ทันใดนั้นหลอดไฟก็กะพริบ
พรึบบ
ทันใดนั้นหลอดไฟก็ดับสนิท…ภายในถ้ำเต็มไปด้วยความมืดมิด
“ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย!”นักศึกษาตะโกนด้วยความตกใจอีกครั้ง
เกิดความวุ่นวายภายใต้ความมืด ทำให้เหล่านักศึกษาต่างก็ใส่นัวกันมั่วไปหมด
“นักเวทย์พลังธาตุอยู่ที่ไหน!”
อาจารย์อันตะโกนเสียงดัง “มีนักเวทย์ธาตุแสงไหม”
วู้บ!
ทันใดนั้นแสงอันงดงามก็ปรากฏขึ้น
ในถ้ำกลับสว่างอีกครั้ง
ทุกคนมองไปที่แหล่งกำเนิดของแสง
พวกเขาต่างรู้สึกทึ่งที่พบว่าแท้จริงแล้วเป็นเด็กวัยรุ่นหัวโล้นคนหนึ่ง
เอ่อ…หัวของเขา…
สว่างจ้าเหลือเกิน!
“เธอคือ?”
อาจารย์อันตกใจมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นใครบางคนใช้หัวของตัวเองในการร่ายเวทย์
แม้ว่าในทางทฤษฎีเมื่อพลังงานไหลเวียนในร่างกาย ทุกส่วนของมันสามารถใช้ในการร่ายพลังได้ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วทุกคนมักเลือกใช้มือของพวกเขาเนื่องจากมันมีประสิทธิภาพและควบคุมได้ง่ายกว่า
เพราะถ้าใช้มือไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมพลังงานหรือสั่งการโจมตีก็ทำได้สะดวกมาก
แต่ใช้หัวร่ายเวทย์นี่มัน…
พวกเขาไม่เคยเห็นใครทำแบบนี้มาก่อน!
“ผมฉางเหลียง ผมฝึกฝนศาสตร์เวทย์ธาตุแสง”
หนุ่มหัวโล้นคนนั้นพูดอย่างอายๆ ว่า “มือทั้งสองข้างของผมได้รับบาดเจ็บทำให้พลังงานไม่สามารถไหลผ่านพวกมันได้ ดังนั้นผมจึงต้องคิดหาวิธีที่จะใช้ส่วนอื่นๆ ของร่างกายเพื่อร่ายเวทย์แทน”
“งั้นเธอสร้างแสงนี่ได้นานแค่ไหน?” อาจารย์อันอุทานด้วยความประหลาดใจ
“อืม…อัตราการเผาผลาญพลังงานไม่สูงนัก”
หลังจากคิดแล้วฉางเหลียงก็พูดขึ้นว่า ”ตราบใดที่ยังมีพลังงานเหลือมันก็จะยังสว่างอยู่เรื่อยๆ”
“งั้นต้องรบกวนเธอแล้ว”
อาจารย์อันพอใจมาก
“ไม่มีปัญหาครับ”
ฉางเหลียงรู้สึกยินดีที่เขาได้รับความสนใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เป็นคนสำคัญเหมือนเซเลบบ้าง เพราะปกติแล้วพลังของเขาไม่ค่อยโดดเด่นนัก
วูซซ—
แสงไฟจางๆ ส่องแสง
เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้โลกที่มืดมิดเต็มไปด้วยสว่างไสว
…
เมื่อมีแสงสว่างควบคู่ไปกับความพยายามของอาจารย์ทั้งสอง ในที่สุดนักศึกษาก็สงบลงอีกครั้ง
หลังจากผ่านการทำเหมืองมาก็ทำให้ความสามารถในการทนความลำบากของนักศึกษาสูงขึ้น พวกเขาไม่รู้สึกรังเกียจที่จะต้องนอนรอบนหินแข็งๆ สัก 2-3 ชั่วโมง
ในขณะเดียวกันนี้…
ลู่หมิงแฝงตัวอยู่ในฝูงชน
สายตาของเขาจับจ้องไปที่จุดสำรวจแร่ เขาสงสัยมากว่าการสั่นสะเทือนก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่แผ่นดินไหวจริงนะเหรอ?
“พี่ชาย คุณรู้อะไรอีกงั้นหรอ”
จู่ๆ เซี่ยหยูก็โผล่ออกมาพร้อมเอามือมาตบไหล่ของลู่หมิงจากด้านหลัง
“นายหาฉันเจอในฝูงชนเยอะขนาดนี้ได้ยังไง?”
ลู่หมิงเหลือบมองเขา
“เพราะคุณเป็นคนที่ดูจะใจเย็นที่สุด”
เซี่ยหยูกล่าว ”ในฐานะนักแม่นปืน การมีทักษะการสังเกตที่ยอดเยี่ยมเป็นส่วนหนึ่งของรากฐาน การแสดงออกของคุณบอกผมว่าคุณน่าจะรู้บางสิ่งบางอย่างแน่ๆ”
“งั้นนายรู้สึกได้ไหมว่าแผ่นดินไหวมีต้นกำเนิดมาจากไหน” ลู่หมิงก็พูดขึ้น
“ให้ฉันลองดู”
เซี่ยหยูย่อตัวลงแล้วลูบพื้นเบาๆ เพื่อทดสอบ ”ที่มาของแผ่นดินไหว…ดูเหมือนจะอยู่ลึกลงไปใต้ดิน”
เขาชี้ไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง
ทิศทางนั้น…เห็นได้ชัดว่าเขากำลังชี้ไปที่จุดสำรวจแร่!
“คนงานพวกนั้น…คงจะไม่”
ลู่หมิงเล่าเรื่องในคืนนั้นให้เซี่ยหยูฟังอย่างลับๆ
“จากที่คุณเล่า ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะกำลังขุดหาอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แร่พลังงาน”
”แต่เนื่องจากเราไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าพวกเขาเป็นต้นเหตุ ต่อให้พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อพวกเรา”
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ” ลู่หมิงยักไหล่
เขาอ่อนแอเกินไป เขาเป็นเพียงนักสร้างการ์ดระดับเริ่มต้นขั้นที่ 1
มันคงไม่เหมาะที่จะให้เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้นัก
แต่ตอนนี้…
เหมืองถล่มลงมา และทุกคนก็ถูกขังอยู่ที่นี่
ลู่หมิงรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้
แต่ก็แค่นั้น …
ในขณะที่เขาลุกขึ้นก็มีเสียงฝีเท้าที่ดูชุลมุนดังขึ้น ร่างของชายสามคนปรากฎออกจากส่วนลึกของถ้ำ
“ข้างใน…มันถล่มลงมา…”
ทั้งสามคนพูดด้วยท่าทางหวาดกลัว
สามคนนี้…
ดวงตาของลู่หมิงหดตัวลงเพราะทั้งสามคนนี้เป็นคนงานที่ทำงานล่วงเวลาในช่วงดึกของคืนนั้น!
ต้นเหตุกลับกล้าโผล่หน้าออกมาเอง!
เซี่ยหยูมองไปที่ลู่หมิง และเมื่อเห็นการแสดงออกของลู่หมิง เขาก็คว้าธนูจากข้างหลังโดยสัญชาตญาณ เขารวบรวมพลังงานบางส่วนไว้ในมือเพื่อเตรียมรับมือกับเหตุไม่คาดฝัน
“พวกคุณเป็นใครกัน?”
อาจารย์อันเดินออกมาและพูดว่า ”ผมอันมู่เฟิงเป็นผู้อาจารย์ของนักศึกษาฝึกงานในครั้งนี้”
“สวัสดีครับอาจารย์อัน”
“ผมฟู่หงหมิง พวกเราคือ…เอ่อ เราเป็นคนงานจากจุดสำรวจสายแร่”
จุดสำรวจแร่…
อาจารย์อันนึกออกในทันที
เขาจำได้แล้ว….ในเวลานั้นเขาได้อธิบายเรื่องนี้ให้กับนักศึกษาคนหนึ่งฟัง เขามองดูคนงานสามคนนี้อย่างใกล้ชิด และปรากฎว่าพวกเขาก็คือคนงานกลุ่มนั้นจริงๆ
“ขะ ขอโทษจริงๆ ครับ”
ฟู่หงหมิงตื่นตระหนก เขากล่าวต่อว่า ”เราได้รับคำสั่งให้ทำงานล่วงเวลาเพื่อขุดเจาะและสำรวจแร่ แต่เราไม่รู้ว่าทำไมหัวหน้าถึงบังคับให้เราขุดมันจากพื้นที่ตรงนั้นแม้ว่าการทดสอบความปลอดภัยจะไม่ผ่านก็ตาม … หลังจากนั้นเราก็ไม่รู้ว่าไปสัมผัสกับอะไรเข้า…และจู่ๆ ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว”
“ถล่ม”
“พวกผมทำให้เหมืองทั้งหมดถล่มลงมา…”
ฟู่หงหมิงเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาออกมา
“คุณคือคนที่ทำให้เหมืองถล่ม?”
อาจารย์อันตะลึง
“ผมขอโทษ”
ฟู่หงหมิงรู้สึกผิดมากๆ ”มีเพียงพวกเราสามคนเท่านั้นที่หนีออกมาได้…เพื่อนร่วมงานของผม…คนที่หนีออกมาช้ากว่าพวกเราเล็กน้อย…พวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตจากการที่เหมืองถล่ม”
ทุกคนนิ่งเงียบ
“แม่*ง โรงงานนี้มีแต่ปัญหาและการคอร์รัปชั่นกันหรือยังไง!?”
อาจารย์หวังกล่าวอย่างขุ่นเคือง
ทุกคนก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน
แต่เรื่องแบบนี้…
พวกเขาจะตำหนิคนงานได้อย่างไร?
พวกเขาเพียงแค่ทำตามคำแนะนำจากหัวหน้าและต้องทำงานล่วงเวลาทุกวัน
ปกติคงไม่มีใครอยากให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้น
“ไม่เป็นไร”
อันมู่เฟิงปลอบใจ ”วิทยาลัยจะส่งคนมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเราในไม่ช้า คุณสามารถตามเราออกมาได้”
“ขอบคุณมากครับ”
ฟู่หงหมิงรู้สึกขอบคุณมาก
ลู่หมิงเงียบ
“คุณคิดอย่างไร?”
เซี่ยหยูมองไปที่เขา
อืม…เรื่องที่เขาเล่ามาไขข้อสงสัยของลู่หมิงได้ทั้งหมด
แม้แต่ลู่หมิงเองก็รู้สึกว่าเขาเข้าใจคนงานเหล่านี้ผิดไป
บางทีพวกเขาอาจเป็นเพียงคนงานที่ถูกบังคับให้ทำงานและโดนเอาเปรียบจากเจ้านายที่ขี้โกง
แม้มันจะทำให้นิสัยของพวกเขาน่ารังเกียจเพราะดูเป็นพวกอารมณ์ร้าย
อย่างไรก็ตาม…
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังเป็นเพียงคนงานธรรมดาๆ
“ตอนนี้คุณยังสงสัยพวกเขาอยู่หรือเปล่า” เซี่ยหยูถาม
“ใช่”
ลู่หมิงไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว
“ทำไม?”
เซี่ยหยูรู้สึกประหลาดใจ
“สัญชาตญาณ!”
สายตาของลู่หมิงนั้นดูเฉียบคมและสว่างไสว
ภายใต้สถานการณ์ที่เขาไม่สามารถไขกระจ่างความจริงได้ เขาทำได้แค่เพียงเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเสียงและท่าทีของคนงานเหล่านี้ในค่ำคืนนั้น …
เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิดแน่นอน
บางที…
พวกเขาอาจจะรู้มานานแล้วว่ามีนักศึกษาเข้าไปในจุดสำรวจแร่โดยบังเอิญ ไม่ก็มีบางคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎและแอบเข้าไปในจุดสำรวจแร่ ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมเรื่องเล่ามาอย่างดี
“ผมจะเชื่อคุณ”
เซี่ยหยูยกธนูขึ้น
“ทำไม?”
ลู่หมิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เขาสงสัยคนเหล่านี้เนื่องจากเขามีโอกาสได้แอบฟังคนงานเหล่านี้ไปแล้ว
“สัญชาตญาณ!”
เซี่ยหยูยิ้มเบาๆ ”สัญชาตญาณของนักแม่นปืนแม่นยำกว่าที่คุณคิด”
ฮิฮิ
ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้ม
ในกรณีนี้พวกเขาต้องคิดหาวิธีจัดการกับสามคนนี้อย่างรวดเร็ว
คนพวกนี้ฉลาดมากดังนั้นความสามารถของพวกเขาก็คงจะไม่อ่อนแอเช่นกัน
หากพวกเขาถูกเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งอาจเกิดการต่อสู้ขึ้น และนักศึกษาที่อ่อนแอเหล่านี้ก็จะกลายเป็นหมูบนเขียงที่รอการเชือดไปโดยปริยาย
จะมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนับไม่ถ้วน!
“ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะพยายามขุดเจาะอะไรบางอย่าง และได้รับมันมาขณะที่เหมืองถล่ม แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่าพวกเขากลับต้องติดอยู่ที่นี่และไม่สามารถออกไปได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม…”
“พวกเขาถึงต้องรอหน่วยกู้ภัยกับเรา”
“แล้ว…”
“ไม่มีแล้ว…”
“พวกเขาจะจากไปตั้งแต่ได้ของที่ต้องการแล้ว”
“พวกเราจะรอให้หน่วยกู้ภัยของวิทยาลัยช่วยเหลือพวกเรา แล้วออกไปจากที่แห่งนี้อย่างเงียบๆ”
“วิธีนี้น่าจะดีกับส่วนรวมที่สุด” เซี่ยหยูวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น
ความคิดของเขาตรงกับที่ลู่หมิงคิดในปัจจุบัน เขาก็คิดว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดเช่นกัน
เปิดเผยพวกเขาตอนนี้เลยไหม?
ถ้าทำอย่างนั้นสงครามเกิดแน่ๆ!
ไอพวกนักศึกษาปี 1 ที่กระจอกราวกับตัวกีกี้นี่ต้องตายเป็นเบือแน่ๆ!
“บางที”
“เราอาจสามารถเปิดโปงพวกเขาตอนที่วิทยาลัยส่งคนมาช่วยเราได้เช่นกัน” ลู่หมิงตอบ
หากเป็นการช่วยเหลือจากวิทยาลัย รองประธานหรือคนที่มีตำแหน่งเทียบเท่าจะมาที่นี่แน่นอนและนั่นคือผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งและทรงพลังอย่างแท้จริง!
ในเวลานั้น…
คนงานไม่กี่คนเหล่านี้คงเปรียบได้กับไรฝุ่น!
การเปิดเผยพวกเขาในเวลานั้นจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“อื้ม” เซี่ยหยูเห็นด้วย
ทันใดนั้นฟู่หงหมิงซึ่งอยู่ห่างออกไปก็พูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าเหมืองถล่มลงมาเพราะมีบางอย่างถูกขุดออกไป ฉันได้ยินเพื่อนร่วมงานของพวกคุณที่หนีไม่พ้นตะโกนว่าอาณาเขตเร้นลับหรืออะไรสักอย่าง…”
อะไร?
อาจารย์ทั้งสองร้องด้วยความตกใจ
นักศึกษาใกล้เคียงที่ได้ยินเขาเบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ
อาณาเขตเร้นลับ?
ต้องล้อกันเล่นแน่ๆ!
อาณาเขตเร้นลับจะปรากฏตัวขึ้นในสถานที่กากๆ เช่นนี้จริงหรือ!
ใช่!
มันเป็นไปได้สูงมาก!
ไม่งั้นทำไมจู่ๆ เหมืองถึงถล่มลงมากันล่ะ?
การปรากฏตัวของอาณาเขตเร้นลับเท่านั้นที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้!
มีแค่อาณาเขตเร้นลับเท่านั้นที่ทำให้ทั้งเหมืองพังทลายลงมาได้!
คอมเม้นต์