Divine Card Creator – ตอนที่ 27 ลู่หยาน
การ์ดใบนี้ …
เขามองการ์ดในมือด้วยความตื่นเต้น
มันคือของที่ล้ำค่าที่สุดในเหมือง!
ตัวการ์ดยังไม่เสียหาย
เยี่ยม! ไม่มีรอยแตกจากฟันของพี่แมว
มีเพียงรอยขีดข่วนจาง ๆ
อืม… ช่างมัน ถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของพี่แมว แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่มีเพียงรอยจาง ๆ ติดอยู่ ไม่มีรอยแตกหรือความเสียหายอื่น ๆ
ส่วนบนสุด…
ลู่หมิงใช้นิ้วแตะเบา ๆ ที่มุมขวาบนของการ์ด เขารู้สึกได้ถึงเนื้อสัมผัสที่แตกต่าง
เห็นได้ชัดว่า …
มันคือการ์ดที่ถูกรับรอง!
การได้รับการรับรองหมายถึงอะไร?
ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสมาคมนักสร้างการ์ด!
เพื่อให้พวกเขาทำการประเมินการ์ดและรับรองมันอย่างครบวงจร มันจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก
สมาคมจะไม่ใช้การ์ดใบนั้นจริงๆ แต่จะใช้วิธีของตัวเองในการประเมินเอฟเฟกต์ของการ์ดใบและสรุปผลขั้นสุดท้าย
ให้คะแนนการ์ด!
จัดประเภทการ์ด!
วัดระดับความสามารถ!
ตั้งชื่อการ์ด!
พวกเขาจะใช้รหัสพลังงานซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คล้ายกับรหัสเลเซอร์ในการฝังข้อมูลที่มุมขวาบนของการ์ด และเมื่อมีพลังงานถูกส่งเข้าไป ข้อมูลก็จะปรากฏขึ้น
ดังนั้นจากราคาและความยุ่งยากของมัน ในสถานการณ์ปกติ นักสร้างการ์ดจะส่งแค่การ์ดที่ทรงพลังมากเพื่อให้ได้รับการรับรองเท่านั้น!
ส่วนถ้าเป็นการ์ดทั่วไปๆ คนส่วนมากก็แค่ทำป้ายไปแปะกำกับที่มุมขวาบนของการ์ดที่สร้างเองเพื่อลดต้นทุนของมัน
“ไหนให้ฉันดูหน่อยสิว่าการ์ดใบนี้คือการ์ดอะไร”
วูซซซ
พลังงานไหลจากมือของลู่หมิงลงสู้การ์ดอย่างเรียบง่าย
เงาเสมือนที่แสดงข้อมูลปรากฏขึ้นที่มุมขวาบนของการ์ดจากสัญลักษณ์รับรอง
——
ชื่อการ์ด: เงาจันทรา
ประเภทการ์ด: การ์ดมรดก
ชุดการ์ด: หนึ่งในเจ็ดชุดการ์ดเงาดวงจันทร์
——
นี่คือ…
ลู่หมิงตกใจ
การ์ดมรดก!
การ์ดชุด!
มีการ์ดแบบนี้จริงๆ!
การ์ดมรดกคืออะไร?
พูดง่ายๆคือมันเป็นการ์ดที่ใช้ส่งต่อให้กับสาวก!
คนที่ทิ้งมรดกจะถ่ายทอดประสบการณ์ทุกอย่างที่เรียนรู้ในชีวิตนั้น พวกเขาจะดึงความรู้ทั้งหมดและมอบหมายให้นักสร้างการ์ด สร้างการ์ดของมัน
การ์ดมรดกเป็นความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้อาวุโสเหล่านั้น โดยปกติแล้วมันจะถูกทิ้งไว้โดยเหล่าผู้อาวุโสเพื่อให้ลูกหลานของเขาได้ใช้งานมัน
มันมีค่ามาก!
บางทีภายในการ์ดอาจมีกระทั่งความทรงจำ แรงบันดาลใจ และทักษะการสร้างการ์ดตลอดชีวิตของผู้อาวุโสคนนั้น!
หลังจากการสืบทอด คนๆ หนึ่งอาจใช้เวลาเรียนรู้และไตร่ตรองภายในการ์ดจนกว่าจะมีพลังและความแข็งแกร่งด้วยซ้ำ
เห็นได้ชัดว่าวิธีนี้ปลอดภัยกว่าการเสริมพลังหรือการใช้วิธีการอื่นๆ ที่คล้ายกันมาก!
นี่…
ลู่หมิงรู้ดีว่าการ์ดในมือของเขามีค่าแค่ไหน
อย่างไรก็ตามมันยังเป็นเพียงหนึ่งในชุดการ์ดทั้งหมด!
ชุดการ์ดหมายถึงอะไร?
เนื่องจากข้อจำกัดของการ์ดหรือความสามารถของนักสร้างการ์ด ทำให้ไม่สามารถวาดเส้นพลังและ ใส่ความทรงจำทั้งหมดลงบนการ์ดใบเดียวได้สำเร็จ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้เทคนิคพิเศษ
ซึ่งเทคนิคนี้นั้นน่าสะพรึงมาก!
ลองคิดดูว่าพวกเขาต้องแบ่งเส้นเป็นพันๆ เส้นออกเป็นส่วนต่างๆ ทั้งยังต้องการันตีได้ว่าการ์ดจะยังสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองหลังจากแยกออกเป็นหลายส่วนและการ์ดจะไม่สลายตัวหากพลังงานไม่เสถียร หลังจากนั้นพวกเขาต้องสลักเส้นลงในการ์ดต่างๆ และใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสผนึกซ้ำอีกที!
ดังนั้นระดับความยากจึงสูงมาก!
มันต้องเป็นการ์ดที่ล้ำค่ามากๆ ถึงขนาดที่ต้องใช้เทคนิคการปิดผนึกระดับสูง
นี่…
ลู่หมิงตะลึง
ไม่น่าแปลกใจที่ฟู่หงหมิงถึงกับใช้การ์ดเทเลพอร์ต!
ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาเต็มใจที่จะปลอมตัวเป็นคนงานเหมืองและขุดอย่างเอาเป็นเอาตาย ที่แท้พวกเขาทำทั้งหมดเพื่อการ์ดใบนี้!
ไม่!
บางทีฟู่หงหมิงอาจไม่ใช่คนวางแผนนี้เอง
ด้วยความสามารถของฟู่หงหมิง เขาไม่สมควรจะมีการ์ดเทเลพอร์ตในครอบครอง แถมยังรู้ว่าในถ้ำแห่งนั้นมีสมบัติอยู่ ฉะนั้นมันเป็นไปได้สูงว่าเขากำลังทำงานให้กับคนอื่นอยู่!
ความคิดของลู่หมิงกระโดดไปมาอย่างลื่นไหลและได้ข้อสรุปว่า
ในกรณีนี้…ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับการ์ดใบนี้ได้
เพราะมันอันตรายเกินไป!
แถมมันยังยุ่งยากเกินไปด้วย!
ยังไม่ได้พูดถึงว่าเขาต้องรวบรวมการ์ดทั้งหมดเจ็ดใบเพื่อให้ครบชุดอีกด้วย
ลู่หมิงไม่มีเวลาหรือเงินในการรวบรวมการ์ดเหล่านี้!
แน่นอน
ประเด็นสำคัญที่สุดคือ …
เขาไม่รู้จะใช้ประโยชน์จากมรดกของผู้อาวุโสเงาจันทรายังไง!
ตามข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตผู้อาวุโสท่านนี้ ดูเหมือนจะเป็นนักดาบที่ทรงพลังและอาชีพนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักสร้างการ์ดเลย!
เขาเป็นนักสร้างการ์ด! ฉะนั้นแม้ว่าเขาจะรวบรวมการ์ดเจ็ดใบ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเขา งั้นเขาจะเก็บมันไว้กับตัวทำไม
หรือเขาควรเรียกสัตว์เทพสุดหยิ่งในตัวเขาออกมาดี?
“เอิ่ม..พี่แมวคร้าบ!?”
ลู่หมิงแอบกลับเข้าไปในทะเลแห่งจิตสำนึกของเขา
เอ่อ…
“พี่อยากได้การ์ดคืนไหมพี่แมว?”
ลู่หมิงยิ้มอย่างขมขื่น
แมวดำมองเขาอย่างเย็นชาก่อนที่มันจะกลับไปแทะการ์ดต้นฉบับอีกครั้ง
พี่แมวไม่ต้องการการ์ดใบนี้แล้วหรอ?
ลู่หมิงพูดไม่ออก
เห็นได้ชัดว่าเมื่อมันหลุดออกจากกรงเล็บของมัน พี่แมวก็ไม่ต้องการมันอีกแล้ว…..
เขาจะทำยังไงดี?
ลู่หมิงรู้สึกราวกับสมองจะระเบิด
เขาไม่คิดเลยว่าการ์ดใบนี้จะทำให้เขาวุ่นวายได้ขนาดนี้
ขายมัน?
ไม่มีทาง
ถ้าคนอื่นรู้ว่าเขามีการ์ดเงาจันทรา เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน! เขาต้องพิจาราณาอย่างระมัดระวัง! เขาไม่อยากเสี่ยงขนาดนั้น!
อย่างไรก็ตาม…
ลู่หมิงสั่นสะท้านเล็กน้อย
การ์ดนั้นทำให้เขาปวดหัว แต่สำหรับคนอื่นมันอาจมีประโยชน์ก็ได้!
ตัวอย่างเช่น…
พี่สาวของเขาไง!
ตามความทรงจำของลู่หมิงน้อย พี่สาวของเขาเป็นคนที่ดื้อรั้นมากๆ เธอมีพรสวรรค์มากราวกับว่าเธอเป็นบัคของโลกมนุษย์มาตั้งแต่ยังเด็ก เธอทำได้ดีมากในทุกๆ ด้านและไม่มีใครมีความสามารถเทียบได้กับเธอ
นอกจากนี้อาจารย์ของเธอยังเป็นผู้บ่มเพาะพลังในตำนานซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่มีรูปถ่ายแขวนอยู่บนผนังวิทยาลัย!
เธอแข็งแกร่งมาก!
ถ้าการ์ดใบนี้มอบให้เธอ … มันอาจจะใช้ได้
…
ณ ที่แห่งหนึ่ง
มีเสียงการโต้เถียงกันในห้องประชุมดังออกมา
“ปล่อยให้พวกเด็ก ๆ จัดการเรื่องของตัวเองไป”
“ถูกต้อง”
“เราต้องไม่ยอมให้เขาเข้าร่วม!” ใครบางคนกล่าวด้วยความหนักแน่น
คนๆ นั้นคืออู่หงเฟย ผู้จัดงานสืบทอดตำแหน่ง พวกเขาจ่ายราคาสูงสำหรับเรื่องในคราวนี้ และพวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีปัญหามากขนาดนี้
“จะเป็นยังไง ถ้าฉันขอคัดค้าน”
เสียงที่ดูเย็นชาดังก้องภายในห้อง
บรรยากาศทั่วทั้งห้องประชุมเริ่มเย็นยะเยือก
บนที่นั่งด้านในสุดของโต๊ะประชุมยาวมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ เธอแต่งกายด้วยชุดฝึกสีขาวเรียบง่าย ดูเหมือนเธอจะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่กลับไม่มีใครกล้าดูถูกเธอ
เพราะชื่อของเธอคือลู่หยาน
เพราะเธอมีพลังและทักษะที่แข็งแกร่ง
คุณ…
อู่หงเฟยปวดหัว
เรื่องของมรดกของเหล่าอาวุโสไม่มีทางเป็นเรื่องง่ายๆ ธรรมดาๆ อยู่แล้ว แม้ว่าจะมีโอกาสมากมายแต่ก็เต็มไปด้วยวิกฤตและปัญหา แถมมันยังมีพันธนาการและเงื่อนไขในการรับอยู่ทุกหนทุกแห่งบนมรดกอีก นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องที่มันมีทั้งหมดเจ็ดคนที่จะต้องมาแข่งกัน!
การ์ดเจ็ดเงาจันทรา เจ็ดร่องรอยมรดก!
เจ็ดคนที่ถือการ์ดจะมีคุณสมบัติในการเข้าแข่งขันแย่งชิงมรดก และผู้ที่ถือครองการ์ดในชุดทุกคนสามารถนำเพื่อนร่วมทางไปด้วยได้เพียงคนเดียวเพื่อช่วยให้พวกเขาชนะการต่อสู้
เนื่องจากอาวุโสเงาจันทราใช้การ์ดเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วม ดังนั้นข้อจำกัด พันธนการและผนึกบนมรดก จึงน่าจะเกี่ยวข้องกับการ์ด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเลือกนักสร้างการ์ดไปเป็นเพื่อนร่วมทาง!
สำหรับอู่หงเฟยนะเหรอ?
เพื่อที่จะทำลายผนึกมรดกเหล่านั้นและรับมรดกให้เร็วที่สุด เขาจึงตัดสินใจเลือกนักสร้างการ์ดที่แข็งแกร่งจากภายนอกวิทยาลัยเพื่อช่วยเหลือเขาแทน
ดังนั้นเขาจึงจัดงานร่วมกับสมาคมนักสร้างการ์ด โดยที่ผู้สมัครที่ได้รับเลือกจะได้รับการยอมรับจากทั้งเขาและสมาคมนักสร้างการ์ด
ข้อกำหนดคือ:
1: เป็นที่รู้จักของทุกคน
2: ต้องมีผลงานอัตลักษณ์ตัวแทน
3: ต้องได้รับการแนะนำจากใครบางคนจากวิทยาลัยเอกกะ
พวกเขาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งสามนี้ ดังนั้นการคัดกรองจึงเข้มงวดมาก ส่วนสาเหตุที่ต้องได้รับการยินยอมจากวิทยาลัยเอกกะ ก็เนื่องจากวิทยาลัยเอกกะนั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นวิทยาลัยแห่งแรกของโลก!
แม้กระทั่งยามที่นั่นก็ล้วนเป็นผู้บ่มเพาะพลังระดับ 4!
ฉะนั้นหากนักสร้างการ์ดคนนั้นถูกวิทยาลัยเอกกะยอมรับก็คงจะไม่มีอะไรต้องกังวล!
หลังจากปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งสามข้อแล้วผู้สมัครจะต้องผ่านการลงคะแนน โดยผู้สมัครที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจะเป็นผู้ชนะและจะสามารถเข้าร่วมในปฏิบัติการสืบทอดตำแหน่งกับเขาได้!
เงื่อนไขนั้นค่อนข้างยุ่งยาก
อย่างน้อยที่สุดนั่นคือสิ่งที่อู่หงเฟยคิด
อย่างไรก็ตาม…
หลังจากเริ่มงาน…
ก็มีไอโง่บางคนแนะนำคนสร้างการ์ด Fruit Ninja และมันก็บังเอิญว่าการ์ด Fruit Ninja ได้รับความนิยมอย่างมากดังนั้น …
ส่วนผู้สมัครที่ได้รับเลือกจากเหตุการณ์นี้กลับกลายเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักชื่อว่า ลู่หมิง
ไอหมอนี่มันเป็นใคร?
อู่หงเฟยหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาสังเกตเห็นรายละเอียดหลังชื่อ ‘นักสร้างการ์ด ระดับ 1’ ที่ส่องแสงแพรวพราว
นี่ แม่*ม บ้าไปแล้ว
ถ้าเขาให้คนแบบนี้ผ่านเกณฑ์ด้วยจริงๆ เขาคงไม่มีทางทำลายผนึกและพันธนาการบนมรดกและได้มันมาครอบครองแน่ๆ!
ดังนั้นแม้ว่างานนี้จะได้รับการรับรองจากสมาคมนักสร้างการ์ด แต่ถ้าบังเอิญว่าคนเช่นลู่หมิงถูกเลือกออกมา เขาก็จะตัดสินใจที่จะทำลายสัญญาทิ้งทันที!
เขาไม่สามารถรับความเสี่ยงได้
กรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเขาต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อชดเชยสัญญาฉบับนี้!
แต่นี่พึ่งผ่านมา 2 วันและเหล่าแม่งานก็เริ่มสร้างปัญหาให้กับเขาแล้ว!
ใครจะคาดคิดว่านักสร้างการ์ดระดับ 1 ที่สร้าง Fruit Ninja จะเป็นน้องชายของลู่หยาน อัจฉริยะที่ดื้อรั้นและมีพรสวรรค์จากวิทยาลัยของพวกเขา!
“ลู่หยาน!”
อู่หงเฟยหายใจเข้าลึก ๆ “เธอรู้รึเปล่าว่าการ์ดเงาจันทรานั้นล้ำค่าแค่ไหน?”
“ฉันรู้” ลู่หยาน พูดเบา ๆ
“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอยากให้เขาไป เพราะที่นั่นคือดินแดนแห่งมรดกที่ปิดผนึกด้วยการ์ด และนักสร้างการ์ดสามารถเรียนรู้หลายอย่างได้ที่นั่น”
“แล้วเธอรู้ไหมว่าน้องชายเธอเป็นยังไง”
“ฮืม?”
“ความสามารถของเขาต่ำเกินไป! เขาเป็นเพียงนักสร้างการ์ดระดับ 1และเขาเพิ่งเริ่มต้นการบ่มเพาะ! ด้วยระดับปัจจุบันความสามารถของเขาควรจะอยู่ระดับพื้นๆ เท่านั้น แล้วเขาจะเข้าร่วมการแย่งชิงแบบนี้ได้ยังไง?”
“ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาเป็นตัวถ่วงของฉันแน่ๆ!” อู่หงเฟยกล่าวอย่างหงุดหงิด
วูบบ!
ทั้งห้องเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
พลังงานทั้งหมดรวมตัวกันกลายเป็นดาบน้ำแข็ง มันปรากฏขึ้นมาจากอากาศบาง ๆ และจ่ออยู่ตรงหน้าคิ้วของเขาและกำลังรอจังหวะที่จะโจมตี การปรากฏของมันทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดลงหลายสิบองศาทันที!
ห้องประชุมทั้งห้องเงียบเป็นเป่าสาก
เกิดน้ำค้างแข็งบนต้นไม้ที่กำลังเหี่ยวเฉาซึ่งวางอยู่บนขอบหน้าต่าง
“ว่าต่อ” ลู่หยานพูดอย่างใจเย็น
อู่หงเฟยรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เย็นยะเยือกต่อหน้าเขา มันทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไร
“นายเป็นคนที่จัดงาน” ลู่หยาน พูดช้าๆ “นายเป็นคนที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาคมนักสร้างการ์ด การจัดงานระดับนี้น่าจะต้องมีสัญญาที่โหดร้ายพอตัว นายแน่ใจหรือว่าต้องการทำลายสัญญา”
“ฉัน…”
อู่หงเฟยอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ
แน่นอนว่าเขาต้องการทำลายสัญญา!
แต่เขาจะทำเช่นนั้นหลังจากได้รับมรดกแล้วเท่านั้น! เมื่อถึงตอนนั้นเรื่องทั้งหมดก็จบหมดแล้ว และสิ่งที่เขาต้องทำคือจ่ายแค่ค่าชดเชยบางส่วนแล้วชิ่งหนีไป แต่ถ้าเขาผิดสัญญาตอนนี้เขาอาจถูกบังคับให้ชดเชยเต็มมูลค่า!
จะให้เขาพาคนอย่างลู่หมิงไปทำไม?
เพื่ออะไร?
หมอนี่เป็นแค่คนสร้างการ์ดที่ทำได้แค่สับผลไม้เองนะ?!
ให้ตายเถอะสวรรค์ ทำไมพวกคุณถึงเลือกคนแบบนี้มาให้ผมกัน?
“เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่”
จากนั้นอาจารย์ที่อยู่ข้างๆ อู่หงเฟยก็พูดขึ้น “มรดกในครั้งนี้ไม่ใช่มรดกของนักสร้างการ์ด ! นี่คือมรดกของนักดาบ! นักสร้างการ์ดมีประโยชน์แค่ใช้ในการทำลายพันธนาการและผนึกต่างๆ !”
“น้องชายของเธอ…”
“เขาไม่มีทางทำลายพันธนาการพวกนั้นได้ มันเกินความสามารถของเขา!”
“แล้วมันสำคัญตรงไหน?” ลู่หยานถาม
เมือ่ได้ยินเช่นนี้อาจารย์คนนั้นก็รู้สึกหมดหนทางทันที
“ฉันแค่อยากให้เขาได้เห็นโลกความจริงสักหน่อย”
ลู่หยานกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก!
“แต่นั่นก็เท่ากับปิดโอกาสของฉัน!” อู่หงเฟยตะโกน “เส้นทางแห่งมรดกเต็มไปด้วยผนึกพันธนาการ เขาไม่มีทางผ่านมันไปได้ เธอรู้ราคาที่ฉันต้องจ่ายเพื่อให้ได้การ์ดใบนี้มาไหม?”
“เรื่องนั้นมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?” ลู่หยานตอกกลับอีกที
ลู่หยานยิ้มให้เขา “ตอนนี้ฉันขอแค่ให้นายทำตามสัญญาเท่านั้น ถ้านายเป็นลูกผู้ชายจริง นายก็ต้องปฏิบัติตามกฎที่ตั้งไว้”
“เธอ…”
อู่หงเฟยโกรธมาก
เขาทำได้เพียงมองไปยังอาจารย์ของเขาที่อยู่ข้างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ
“เฮ้อ เอาอย่างนี้ไหม” อาจารย์ของเขาถอนหายใจ
“ฉันจะช่วยสั่งสอนลู่หมิงสักหน่อย โอเคไหม? ฉันจะหาปรมาจารย์ด้านการสร้างการ์ดมาสอนน้องชายของเธอ ให้เขาเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างการ์ดเป็นเวลาหนึ่งเดือน! ฉันรับรองได้ว่าสิ่งที่เขาเรียนรู้จะดีพอ ๆ กับสิ่งที่เขาจะได้เรียนรู้ในดินแดนแห่งมรดก รับรองได้ว่าเขาจะมีอนาคตที่ดีขึ้นเธอคิดว่ายังไง?”
เขาคงต้องประนีประนอมเอา
มันคงไม่มีทางอื่นเพราะเขาสู้ลู่หยานไม่ได้
นอกเหนือจากความจริงที่ว่าอาจารย์ไม่ควรจะต่อสู้กับนักศึกษาแล้ว มันยังมีปัญหาอีกอย่างหนึ่งว่าเขาจะเอาชนะเธอได้รึเปล่าด้วย!
คอมเม้นต์