Divine Card Creator – ตอนที่ 31 กระทิงคลั่งหายไป?!
การ์ดวงล้อมกระทิงคลั่งทั้งเจ็ดใบจะรวมกันออกมาเป็นอะไรกัน?
อาจจะแค่มีกระทิงคลั่งมากขึ้น?
หรือบางที…
มันจะพัฒนาร่างกลายเป็นมิโนทอร์?
ลู่หมิงคาดเดาไว้หลายอย่าง ดังนั้นเขาจะไม่แปลกใจต่อให้มีมิโนทอร์หรือกระทั่งจางเสี่ยวปังปรากฏตัวออกมาจากการ์ด เพราะยังไงจากความซื่อบื้อของหมอนี่ก็ควรจะนับเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับมิโนทอร์ได้อยู่
อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์ที่แสดงบนการ์ดดั้งเดิมในตอนนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ในเป็นภาพของทุ่งร้างอันไร้ขอบเขตที่มีเทือกเขาถล่มอยู่ข้างๆ
มันดูราวกับพื้นที่รกร้าง ที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต
และนั่นคือภาพทั้งหมดที่เขาเห็นบนการ์ดดั้งเดิม
“แค่นี้เหรอ?”
ลู่หมิงถึงกับนั่งไม่ติด
เฮ้ย กระทิงคลั่งของฉันมันหายไปไหน?!
กระทิงคลั่งของฉันไปอยู่ที่ไหนกันฟะ!?
ปกติแล้วภาพที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าของการ์ดเกิดจากการแสดงผลของลายเส้นต่างๆ ดังนั้นตามตำหรับตำราที่เรียนมาทุกเล่ม ภาพที่ปรากฎควรบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของสกิลนั้นๆ …
แต่แล้วกระทิงคลั่งมันหายไปอยู่ส่วนไหน?!
นี่มันอะไรกัน? ”หรือกระทิงคลั่งบ้าพวกนี้หนีไปหลังกินหญ้าจากแอบกินหญ้าอ่อนจนอิ่มเรอะ”
บ้ารึเปล่าลู่หมิง เพ้อไปใหญ่แล้ว!
“ใจเย็น ๆ! เราต้องใจเย็น ๆ!”
ลู่หมิงหายใจเข้าลึก ๆ และสงบสติอารมณ์
ภาพบนการ์ดที่ดูรกร้างและรอยแตกรูปสายฟ้าที่สลักอยู่บนการ์ดทำให้การ์ดดั้งเดิมของเขาดูแปลกเป็นพิเศษ มันทำให้ลู่หมิงรู้สึกราวกับว่ากระทิงคลั่งของเขาถูกฟ้าผ่าตายไปหมดโขยงเลยเหลือแต่ทุ่งร้างๆ…
“ลืมมันไปก่อน”
ลู่หมิงสงบลง
ไม่ว่ามันจะออกมาเป็นอะไรก็ตามเขาจะลองสร้างการ์ดดูก่อน!
เขาไม่เชื่อว่ากระทิงคลั่ง 49 ตัวนี้จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
นอกจากนี้สิ่งที่เขาควรกังวลมากที่สุดคือเรื่องเทคนิคการสร้างการ์ด!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ลู่หมิงก็พลิกการ์ดดั้งเดิมเพื่อศึกษาลายเส้นที่ด้านหลังอย่างตั้งใจ
ต้องการพลังงานเท่าไหร่?
มีกระทิงคลั่งอยู่กี่ตัว?
เขาไม่สามารถเข้าใจลายเส้นพวกนี้ได้อีกต่อไป
ลายเส้นนี้เกินพื้นฐานความเข้าใจของตัวเขา แถมเส้นเหล่านี้ยังพัวพันกันจนลู่หมิงสับสนและไม่สามารถบอกทิศทางหรือแยกมันออกจากกันได้
“ตรงนี้คือจุดตัด”
ลู่หมิงมองไปที่ส่วนหนึ่งของการ์ด
ตรงจุดนั้นมีเส้นสองเส้นตัดกัน แต่มันกลับไม่ขัดแย้งกันเอง
“ส่วนที่อื่น…”
ลู่หมิงเริ่มเข้าใจลายเส้นพวกนี้อย่างคร่าวๆ
การ์ดใบใหม่นี้ใช้เทคนิคการสร้างจุดตัดในทุกส่วนที่จำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ออกมาสูงที่สุด
ดังนั้นความยากในการวาดการ์ดใบนี้จึงสูงมาก!
“เทคนิคการสร้างการ์ด…”
ลู่หมิงตื่นเต้น
“ฉันจะเรียนรู้พวกมันทั้งหมด!”
“แต่ฉันต้องเชี่ยวชาญเทคนิคนี้ก่อน!”
ลู่หมิงมุ่งมั่น
สำหรับเขา เทคนิคนี้มีความสำคัญพอ ๆ กับการจดจำฟังก์ชันและการใช้ library ในการเขียนโปรแกรม
เมื่อก่อน แม้เขาอยากจะเรียนรู้เทคนิคนี้แต่เขาไม่มีทางเรียนรู้พวกมันได้ เนื่องจากเขาไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมสมาคมนักสร้างการ์ด แถมเขายังไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อมันในตลาดมืดอีกด้วย
แต่ตอนนี้…
วูซซซ –
ลู่หมิงลากเส้นบนการ์ดดั้งเดิมของตนอย่างเบามือ
เขาลากผ่านทุกเส้นและสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ในเส้นเหล่านี้
มันทำให้เขาสามารถ ‘เห็น’ ได้ว่าทุกลายเส้นนั้นมีลักษณะอย่างไร
โดยที่จุดตัดของเส้นเหล่านี้คือจุดที่ลายเส้น 2 ลายเคลื่อนที่ตัดกันพอดี
โดยธรรมชาติในบริเวณที่มีจุดตัดเกิดขึ้น นักสร้างการ์ดต้องมั่นใจให้ได้ว่าพลังงานจะมีการไหลที่สม่ำเสมอและมันจะไม่ก่อให้เกิดการรั่วไหลของพลังงาน
ซึ่งเทคนิคการวาดเส้นทั่วๆ ไปไม่สามารถทำมันได้
มันจำเป็นจะต้องฝึกฝนเทคนิคนี้ในการวาดแทน!
สำหรับลู่หมิง มันนับเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้ฝึกฝนเทคนิคดังกล่าวจากการ์ดดั้งเดิม อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดมันก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและความพยายามของลู่หมิงว่าเขาสามารถเข้าใจและเชี่ยวชาญมันได้รึเปล่า
หวืดด!
หวืดดด!
ลู่หมิงรู้สึกได้ถึงการไหลเวียนของพลังงาน
โชคดีที่ลักษณะเฉพาะของการ์ดดั้งเดิมคือไม่ว่าพลังงานจะถูกกระตุ้นมากแค่ไหน มันก็จะไม่เปิดใช้สกิลของการ์ดนั้นๆ อย่างแน่นอนจนกว่าเขาจะสร้างมันออกมาได้สำเร็จ
ดังนั้นลู่หมิงจึงรู้สึกได้ถึงกระบวนการไหลเวียนของพลังงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เขามีโอกาสได้ตรวจจับและสังเกตความแตกต่างของทุกพื้นที่ที่เส้นตัดกัน
1 ครั้ง!
2 ครั้ง!
10 ครั้ง!
100 ครั้ง!
…
สำหรับลู่หมิงแล้ว แม้ปัจจุบันเขาจะสามารถมองเห็นได้เพียงเส้น 2 เส้นที่ตัดกันเท่านั้น แต่พลังงานที่ไหลเวียนบนเส้นทั้ง 2 กลับเริ่มที่จะชัดเจนขึ้นและและเกี่ยวพันกันในที่สุด
อย่างนี้นี่เอง!
จู่ๆ ลู่หมิงก็สะดุ้งขึ้นมาเมื่อเขาเริ่มเข้าใจหลักการทำงานของมัน
เขาเคยไตร่ตรองหลายครั้งแล้วว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี
แยกลายเส้นเป็นชั้นบนและชั้นล่าง?
เพิ่มสัญญาณไฟจราจรไว้บังคับการไหลเวียนของพลังงาน?
ในที่สุดเขาก็รู้คำตอบแล้ว
ทั้งสองเส้นตัดกันและกลายเป็นจุดตัดขนาดใหญ่ในที่สุด มันทำให้เขาต้องสังเกตอย่างรอบคอบและพบว่าบริเวณที่มีจุดตัดนั้นจะมีเส้นที่หนากว่าบรรดาลายเส้นธรรมดาๆ
ซึ่งทำให้พลังงานที่ไหลผ่านจุดตัดไหลเวียนโดยปกติ
ผิด!
ผิดทั้งหมด!
วิธีคิดในอดีตของเขาทำให้เขามองปัญหาในระดับกายภาพมากเกินไป แต่เมื่อเขาเห็นวิธีการในตอนนี้ มันกลับเป็นวิธีง่ายๆ และตรงไปตรงมา!
อย่าลืมสิว่าลายเส้นนี่เปรียบเหมือนท่อส่งผ่านพลังงาน!
ฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องใช้ตรรกะของคอมพิวเตอร์เมื่อชาติที่แล้ว!
เขารู้สึกได้ถึงการไหลเวียนของพลังงานจากจิตสำนึกของตน ปกติพลังงานจะไหลไปเป็นเส้นตรง แต่มันจะเปลี่ยนไปเมื่อเส้นมีความกว้างมากขึ้น!
มันมีคุณสมบัติคล้ายกับการไหลของน้ำ!
การไหลของน้ำในท่อน้ำขนาดเล็กนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อไหลไปยังท่อที่ใหญ่กว่าเดิมสองเท่า น้ำจะถูกถ่ายเทออกไปโดยธรรมชาติโดยที่ปริมาตรโดยรวมยังคงที่
มันก็เหมือนกับการไหลของพลังงาน
ด้วยเหตุนี้จะทำให้เขาสามารถควบคุมความเร็วในการไหลของมันด้วยลายเส้นได้ด้วยซ้ำ!
ดังนั้น…
มันจึงทำให้ลู่หมิงเข้าใจเรื่องทั้งหมดอย่างแจ่มแจ้ง …
ปริมาณพลังงานทั้งหมดในลายเส้นไม่ได้เปลี่ยนไปเมื่อมันไหลไปสู่ลายเส้นที่ใหญ่กว่าเดิม มันแค่เปลี่ยนจาการไหลแนวนอนไปเป็นการไหลแบบออกข้างเท่านั้น ด้วยเหตุนี้มันจึงเหลือพื้นที่ว่างภายในลายเส้นให้พลังงานอีกสายมาเติมเต็มได้
ใช่แล้ว!
เมื่อพลังงานจากลายเส้นที่สองไหลผ่าน มันก็สามารถพุ่งทะลุช่องว่างพวกนี้ได้
สมบูรณ์แบบ!
และหลังจากจุดตัดนั้นลายเส้นก็จะกลับมาแคบลงอีกครั้ง
นี่คือเทคนิคการวาดจุดตัด!
มันคือศูนย์กลางการไหลเวียนของพลังงาน !!!
ลู่หมิงเข้าใจแล้ว….
จริงๆ แล้วถ้าเขาใช้การควบคุมไฟจราจรมาเทียบกันมันก็ถือว่ามีความคล้ายคลึงกันอยู่ เพราะความสำคัญของสัญญาณไฟจราจรคือการหยุดและควบคุมการเคลื่อนที่ของรถ
แต่ในเมื่อวัตถุที่เคลื่อนที่นี้ไม่ใช่รถแต่เป็นพลังงานที่จับต้องไม่ได้…
มันก็สามารถใช้เทคนิคแบบนี้ได้ไง!
หากเปรียบเม็ดพลังงานแต่ละเม็ดเป็นยานพาหนะ เราไม่เพียงควบคุมความเร็วของมันได้ แต่ยังปรับความกว้างของถนนได้ด้วย ถ้างั้นจะมีอะไรที่เราทำไม่ได้อีก!?
ลู่หมิงไม่เคยนึกถึงคำอธิบายแบบนี้มาก่อน
ถ้าเป็นอย่างนี้…
ถ้าเป็นจุดตัด 3 หรือกระทั่ง 4 ทางล่ะ?
เทคนิคทั้งสองนี้ถือเป็นเทคนิคขั้นสูงของวิชาจุดตัด เขาเคยคิดว่ามันลึกลับมาก แต่ดูเหมือนว่าโดยพื้นฐานแล้ว มันก็แค่ควบคุมการไหลของพลังงานโดยการหยุดการไหลไว้ในเวลาอันสั้น!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทุกอย่างก็ดูเรียบง่ายขึ้นมาทันใด
“มาทดลองกันดีกว่า”
ลู่หมิงหายใจเข้าลึก ๆ และตัดสินใจที่จะเริ่มลงมือ
ชู่ววววๆ !
ลู่หมิงเริ่มจากการวาดเส้น 2 เส้น หนึ่งแนวนอนและอีกหนึ่งในแนวตั้ง จากนั้นเขาก็ควบคุมพลังงานให้ไหลมาถึงจุดตัดของทั้งสองเส้น
แล้วก็หยุดการไหลเวียนไว้ชั่วคราว จากนั้นก็เริ่มวาดจุดตัดอย่างระมัดระวัง
เขาขีดเส้นแนวนอนก่อน เขาวาดให้มันกว้างกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด มันละเอียดอ่อนกว่าเดิมทำให้ความเร็วของพลังงานในส่วนนี้ไหลเร็วกว่าเดิมมาก!
หลังจากที่ลู่หมิงวาดเส้นตามแนวยาวเสร็จและพยายามทดลองการไหลเวียนดู เขาก็ตระหนักได้ว่าพลังงานจากทั้งสองฝ่ายได้กระจายออกไปและเหลือช่องว่างเอาไว้ แต่สุดท้ายพลังงานเหล่านี้ก็ยังคงลงเอยด้วยการตีกันเองอยู่ดี!
น่าจะเป็นเพราะการทับซ้อนของเวลาในขณะที่เกิดการไหลเวียน!
เขาสร้างช่องว่างในเวลาเดียวกันและปล่อยให้มันไหลผ่านไปในเวลาเดียวกัน!
“อืมม…
คงจะดีกว่าถ้าฉันปรับการเหลื่อมของเวลาการปล่อยพลังงาน มันจะได้ไม่ชนกันและทำให้เกิดความผิดปกติในการไหลเวียน
จะดีมากถ้าพลังงานทั้ง 2 สายมีความเร็วเท่ากันจะได้ไม่เกิดการชนท้ายกระบะเกิดขึ้น”
ลู่หมิงพยายามอีกครั้ง
ครั้งที่ 2!
สำเร็จ!
เกิดเป็นลายเส้น 2 ลายบนการ์ดเปล่าที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบหลังถูกกระตุ้นด้วยพลังงาน
“สำเร็จ!”
ลู่หมิงกระดี๊กระด๊าอย่างถึงที่สุด
เห็นได้ชัดว่า …
เขาไม่รู้เลยว่าเขาอัจฉริยะขนาดไหน
จากสถิติของสมาคมนักสร้างการ์ด เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการเรียนรู้เทคนิคจุดตัดคือสิบวัน! ขนาดคนที่เรียนมันได้เร็วที่สุดยังต้องใช้เวลาถึงสองวัน!
เทคนิคจุดตัดยากตรงไหนน่ะเหรอ?
ต้องการความเข้าใจอย่างมาก?
ไม่ใช่อย่างแน่นอน
สำหรับคนที่มีวิธีและเงินในการซื้อแบบฝึกหัด โดยปกติพวกเขาก็มักจะมีอาจารย์ หรือติวเตอร์ชั้นเซียนที่สามารถสอนให้เข้าใจแนวคิดได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม…
ความคืบหน้าในการเรียนรู้ของพวกเขาก็ยังช้ามาก!
นั่นเป็นเพราะส่วนที่ยากที่สุดคือการวาดจุดตัดออกมา!
การวาดจุดศูนย์กลางการไหลเวียนถือเป็นเรื่องที่ยากที่สุด!
ความเร็วของพลังงาน?
เส้นทางของพลังงาน?
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะควบคุมมันไว้!
ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจทำให้ล้มเหลวได้ตลอดเวลา?!
แต่มันกลับต่างออกไปสำหรับลู่หมิง
เขาได้เรียนรู้พื้นฐานพวกนี้ผ่านการวาดเส้นขั้นสูงทั้ง 300 เส้นบนการ์ดวงล้อมกระทิงคลั่งมานับไม่ถ้วนแล้ว ทำให้ลายเส้นพื้นฐานของเขาพัฒนาขึ้นก้าวกระโดดและเก่งไปไกลเกินกว่าปกติมาก ด้วยเหตุนี้คนทั่วไปอาจพบว่ามันยากที่จะควบคุมและวาดจุดตัดขึ้น แต่สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องกล้วยๆ
ก็เพียงแค่ควบคุมความเร็วของพลังงานและการไหลบนลายเส้น
มันง่ายเกินไปแล้ว!
นี่มันยากตรงไหนกัน?
หวืดด!
ลู่หมิงจับปากกาและเริ่มวาดลงบนกระดาษอีกครั้ง และทยอยวาดลายเส้นไปจนกว่าจะครบทั้งหมด
ลู่หมิงเริ่มเชี่ยวชาญเทคนิคการสร้างการ์ดด้วยจุดตัด แถมหลังจากนั้นเขายังตั้งใจจะเริ่มทดลองวาดจุดตัด 3 ทางขึ้นมาอีกด้วย!
แต่หลังจากการทดลอง เขาก็รู้สึกได้ว่าเขายังมีส่วนที่ต้องปรับปรุงในด้านการควบคุมพลังงานอยู่
กว้างกว่านี้!
เร็วกว่านี้!
ขยายพื้นที่ได้มากกว่าเดิม!
เขาจะลองมันไปเรื่อยๆ!
ชู่วว!
ฟู่ววววว!
“เอาล่ะ รอบนี้ลองวาดจุดตัดสามทาง…..เริ่มลงมือได้”
ลู่หมิงเริ่มวาดจุดตัดอย่างจริงจัง โดยเขาจงใจปล่อยให้เหลือพื้นที่ช่องว่างสำหรับพลังงานเพื่อให้มั่นใจได้ว่าพลังงานจะไหลผ่านลายเส้นได้อย่างสมบูรณ์
แน่นอน
ระดับความยากในการสร้างการ์ดใบนี้สูงกว่าเดิมมาก
ลู่หมิงรู้สึกได้ถึงความสั่นสะท้านเล็กน้อยในร่างกายของตน
“นี่เป็นขีดจำกัดของฉันแล้ว แต่ก็ยังพอทนต่อไปไหวอยู่”
ท้ายที่สุดเขาก็ล้มเหลวในการทดลองครั้งแรก
แต่ขณะทดลอง เขาสังเกตอย่างรอบคอบและตระหนักได้ว่าพื้นที่ที่เขาเหลือไว้นั้นมากเกินไป ทำให้การไหลของพลังงานไม่ต่อเนื่องจากการชะลอตัวของการไหลเวียนผ่านจุดตัด และเกิดเป็นความล้มเหลวในครานี้
หลังจากนั้นเขาก็ทดลองซ้ำ และปรากฏว่าครั้งที่ 2 ก็ยังล้มเหลว
“พื้นที่ช่องว่างกำลังพอดีแล้ว แต่กระแสพลังงานไหลมาชนกันเนื่องจากปัญหาของมุมของเส้นขาดความโค้งเว้า”
ครั้งที่ 3 เขาก็ยังล้มเหลวอยู่!
…
สุดท้ายลู่หมิงตัดสินใจหยุดในที่สุด
ระดับความยากของการสร้างจุดตัด 3 ทางนั้นเกินจินตนาการของเขาไปมาก
ตัวอย่างเช่นเขาต้องเช็คให้แน่ใจว่าเส้นทั้งสามเส้น จาก มุมและทิศทางที่แตกต่างกันจะสามารถไหลผ่านจุดตัดเดียวกันได้อย่างราบรื่น โดยไม่มีการชนกันและไม่ทำให้กระแสพลังงานถูกตัดขาด …
ระดับความยากของเทคนิคนี้จากความสามารถปัจจุบันของลู่หมิง นับได้ว่าเป็นการฝึกระดับนรกแล้ว!
“ตอนนี้ความสามารถในการควบคุมของฉันยังดีไม่พอ”
ลู่หมิงมั่นใจในเรื่องนี้มาก
เขาต้องรอจนกว่าเขาจะชำนาญกว่านี้จึงจะกลับมาวาดมันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะยังไม่เชี่ยวชาญเทคนิคนี้ แต่ลู่หมิงก็สามารถเข้าใจระบบการไหวเวียนของพลังงานทั้งหมดในเทคนิคนี้แล้ว!
“ใช่จริงๆ การเดาของฉันถูกต้อง การแลกเปลี่ยนพลังงานทั้งหมดเกิดขึ้นตรงจุดตัด ฉะนั้นตราบใดที่ความสามารถในการสร้างการ์ดของฉันสูงเพียงพอฉันก็จะสามารถสร้างการ์ดที่แข็งแกร่งขึ้นได้”
แรงบันดาลใจของลู่หมิงพลุ่งพล่าน
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมปรมาจารย์นักสร้างการ์ดจำนวนมากจึงดูถูกเขา
นั่นก็เพราะไม่ว่ายังไงรากฐานก็สำคัญที่สุด!
ถ้ารากฐานมั่นคง เขาจะสามารถเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างได้รวดเร็ว
เหตุผลที่เขาสามารถฝึกเทคนิคจุดตัดได้อย่างง่ายดายในวันนี้เป็นเพราะรากฐานที่แข็งแกร่งของเขา แต่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้…
ลู่หมิงก็อยากจะดูถูกตัวเองในอดีตเช่นกัน
เพราะตอนนั้นต่อให้มีปรมาจารย์มาสอนทักษะให้กับเขาเป็นการส่วนตัว เขาก็จะติดอยู่ตรงนั้นและคงวาดออกมาไม่ได้เป็นเวลาหลายเดือน
นี่คือต้นตอของปัญหา
โชคดี…
ที่เขาผ่านมันมาแล้ว
ตอนนี้ลู่หมิงเชี่ยวชาญเทคนิคนี้แล้ว!
ในอนาคตการใช้เทคนิควาดจุดตัดจะไม่เป็นปัญหาให้กับเขาอีกต่อไป! ตราบที่เขาพัฒนาทักษะการวาดนี้ต่อไป สักวันเขาก็น่าจะสามารถจัดการกับจุดตัดเส้น 3 ทาง 4 ทางหรือกระทั้ง 10 ทางได้!
“เยี่ยม!”
ลู่หมิงรู้สึกพอใจมาก
และในกรณีนั้น…
เขาก็จะสามารถสร้างการ์ดใบนี้ออกมาได้แล้ว
และแน่นอนว่าในไม่ช้าเขาก็จะพบว่ากระทิงคลั่งพวกนั้นมันไปอยู่ที่ไหน !!!
คอมเม้นต์