Divine Card Creator – ตอนที่ 39 เทคนิคระดับเทพ
Divine Card Creator ตอนที่ 39 เทคนิคระดับเทพ
“ไหนขอดูหน่อยสิ”
ลู่หมิงพลิกเอกสารขึ้นมาดู ปกของมันเขียนว่าเทคนิคการเข้ารหัสภายนอก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเทคนิคการเข้ารหัสภายนอกเป็นประเภทที่พบบ่อยที่สุดในหมู่เทคนิคเข้ารหัสทั้งหมด
การเข้ารหัสภายนอกคืออะไร?
มันคือวิธีเข้ารหัสที่จะไม่สร้างความขัดแย้งกับเส้นพลังงานบนการ์ดใบนั้นๆ เพราะหลังจากสร้างการ์ดแล้วนักสร้างการ์ดจึงค่อยใช้เทคนิคเข้ารหัสบนการ์ดจากภายนอกผนึกเอาไว้บนการ์ด และด้วยเหตุผลนี้เองทําให้นักสร้างการ์ดจํานวนมากนิยมชมชอบเทคนิคการเข้ารหัสภายนอก
แต่ก็แน่นอนว่ายิ่งระดับของเทคนิคนั้นสูง ราคาของมันก็จะสูงเป็นเงาตามตัว
ด้วยเหตุนี้อุตสาหกรรมการเข้ารหัสจึงเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจํานวนมาก บางคนถึงกับกระทั่งใช้เวลาทั้งชีวิตในการสร้างเทคนิคการเข้ารหัสขันสุดยอดอันหนึ่งออกมา!
แต่สําหรับลู่หมิงในตอนนี้ เขาคงไม่มีปัญญาสร้างเทคนิคเหล่านี้ขึ้นมาเองแน่ๆ
“ลายเส้นพวกนี้”
ลู่หมิงเหลือบมองมันดูธรรมดามาก!
เทคนิคการเข้ารหัส D เป็นเทคนิคการเข้ารหัสระดับต่ําสุดที่นักสร้างการ์ดระดับ 1-2 ทั่วๆไปใช้กัน
มันง่ายมาก
สําหรับลู่หมิงในตอนนี้ การวาดมันไม่ใช่ปัญหาสําหรับเขาเลยแม้แต่น้อย
ลู่หมิงครุ่นคิด “ฉันควรลองวาดมันสักหน่อย”
เทคนิคการเข้ารหัส D มีทั้งหมด 92 ลายเส้น
ลายเส้นทั้งหมดนั้นเรียบง่าย
วิธีการวาดโครงสร้างถูกเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน
และหากถ้าเขามองในมุมของโปรแกรมเมอร์ โครงสร้างของมันจะถูกแบ่งออกเป็น 3 โมดูล
- โมดูลพลังงาน- มีหน้าที่รับผิดชอบการไหลของพลังงาน
- โมดูลการเข้ารหัส – รับผิดชอบอัลกอริทึมการเข้ารหัส
- โมดูลการปลดล็อค – รับผิดชอบในการปลดล็อคใช้งาน
สําหรับส่วนที่ 1 และ 3 ลู่หมิงเข้าใจพวกมันเป็นอย่างดี เพราะในความเป็นจริง หลักการของมันก็เหมือนกับการถ่ายโอนพลังงานและการสั่งการให้การ์ดโจมตี
จุดสําคัญที่ยากที่สุดคือโมดูลการเข้ารหัส
หลังจากที่ลู่หมิงค้นคว้ามาระยะหนึ่ง เขาก็พบว่าเส้นเหล่านี้บางส่วนยังคงเชื่อมต่อกับการไหลของพลังงาน
ฉะนั้นแล้ว
“ลายเส้นนี้น่าจะเป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสที่ถูกเติมเข้ามา”
ลู่หมิงคาดเดา
เป็นเพราะลายเส้นเหล่านี้ทําหน้าที่ดั่งประตูนิรภัย มันทํางานเหมือนกับตู้เซฟที่ไม่มีวันเปิดออก!
กล่าวคือถ้าการ์ดมีการเข้ารหัสไว้ เวลาใช้การ์ดก็จะสามารถใช้ได้ตามปกติ แต่หากมีใครพยายามเจาะระบบเข้ามาดูลายเส้นหลังการ์ดแล้ว มันจะทําลายตัวเองโดยอัตโนมัติ!
หรือพูดง่ายๆ ว่าลายเส้นเหล่านี้คือหัวใจสําคัญของเทคนิคการเข้ารหัสนั่นเอง!
“อ่า เริ่มกันเลยดีกว่า”
ลู่หมิงเริ่มทดลองของตน
เนื่องจากระดับความยากของมันไม่สูงนัก เขาจึงทําสําเร็จอย่างรวดเร็ว
จู่ ๆ !
ลู่หมิงมองไปที่ผลงานการเข้ารหัสของตน
เมื่อก่อนเวลาที่เขาใช้งานการ์ดของตน ลายเส้นจะถูกแสดงผลออกมาตลอด แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว! ด้านหลังการ์ดทั้งหมดราวกับถูกคลุมด้วยแผ่นสีดําขนาดเท่ากับพื้นผิว
“การเข้ารหัสสัมฤทธิ์ผล”
ลู่หมิงเห็นปั๊บก็รู้ในทันที
เขาจดจํากระบวนการทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว!
ตราบใดที่เขาวาดเส้นตามนี้ เขาก็สามารถเข้ารหัสได้อย่างง่ายดาย!
แต่กระนั้น
ทําไมมันถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?
แม้ลู่หมิงจะจําวิธีการได้ แต่เขากลับยังไม่เข้าใจกระบวนการของมันมากนัก
และแม้ว่าลู่หมิงจะอ่านคําแนะนําของเทคนิค แต่มันก็ไม่ได้บอกอะไรเขามากนัก มันเขียนไว้แค่ว่า “ยิ่งคุณเข้าใจทักษะเชิงลึกเท่าไหร่ คุณก็จะใช้งานทักษะเข้ารหัสได้แย่ลงเท่านั้น”
หรือเป็นเพราะในทางทฤษฎี มันขัดแย้งกับการปฏิบัติ?
ลู่หมิงขมวดคิ้ว
กรณีนี้ก็คล้ายๆ กับวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตก่อนหน้าของลู่หมิง
ความรู้ทางคณิตศาสตร์หลายอย่างที่เขาเคยเรียนสมัยเด็ก มักจะถูกหักล้างเมื่อเขาขึ้นมาเรียนในมหาวิทยาลัย และหากคุณเรียนทั้งทฤษฎี และทฤษฎีหักล้างในเวลาเดียวกันมันคงสับสนวุ่นวายแน่ๆ
ดังนั้นเพื่อให้นักเรียน นักศึกษาเข้าใจได้ง่ายขึ้น เนื้อหาที่ซับซ้อนบางอย่างจึงถูกแบ่งออกและจําเป็นต้องค่อยๆเรียนรู้ไปอย่างเป็นขั้นตอน มิฉะนั้นบางทีเนื้อหาบางเรื่องก็ไม่อาจเข้าใจไปชั่วชีวิต
เป็นได้ว่าบางทีเทคนิคการเข้ารหัสก็อาจจะมีปัญหาเดีย วกัน!
แต่เดี๋ยวก่อนนะ ไม่ใช่ว่ามาตรฐานของลายเส้นเหล่านี้ต่ําเกินไปหน่อยหรอ? แถมสิ่งที่นักสร้างการ์ดที่ซื้อทักษะไป ทําได้ก็มีแค่ก็อปปี้วิธีวาดเส้นและลงมือวาดมันโดยไร้ซึ่งความเข้าใจใดๆ โดยให้ข้ออ้างว่ายิ่งอธิบายยิ่งใช้งานยากเนี่ยนะ?
ถ้างั้น
มันเป็นส่วนไหนกันที่พวกเขาไม่อยากอธิบาย?
“การ์ดใบนี้”
ลู่หมิงมองไปที่การ์ดที่ถูกเข้ารหัสอย่างสมบูรณ์ในมือของตน และเริ่มคิดวิเคราะห์…ลายเส้นของมัน
เนื้อหา
คําอธิบาย
ลู่หมิงขมวดคิ้ว
เขาไม่ชอบความรู้สึกคลุมเครือแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าทักษะการเข้ารหัสนั้นเกี่ยวข้องกับเทคนิคการสร้างการ์ดระดับสูง แต่ความรู้ความเข้าใจพวกนี้กลับถูกปกปิดไว้อย่างเงียบๆ
แน่นอน
สําหรับนักสร้างการ์ดระดับ 1 แล้ว
การเรียนทักษะเหล่านี้ก็เหมือนกับการให้เด็กอนุบาลเรียนแคลคูลัส ทั้งๆที่บวกลบคูณหารก็ยังไม่คล่องเลยด้วยซ้ํา
เขาไม่สามารถเข้าใจมันได้เลยแม้แต่น้อย
นี่มันช่างห่างไกลเหลือเกิน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลู่หมิงเป็นคนที่ไม่ชอบความไม่ชัดเจน ฉะนั้นยังไงเขาก็ไม่ยอมแพ้แน่ๆ!
มันคืออะไรกันนะ?
ลู่หมิงจมอยู่ในความคิดของตน
เอาตามจริงลายเส้นเหล่านี้นั้นเรียบง่ายมาก ฉะนั้นเจ้าของเทคนิคเหล่านี้ย่อมไม่สามารถปกปิดความลับของเทคนิคได้อยู่แล้ว และหากพวกเขาทําได้จริงๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่นักสร้างการ์ดระดับ 1 จะทําสําเร็จ
หรือบางที…
จุดสําคัญของมันอาจไม่ใช่ที่ลายเส้น!
“หรือว่าหัวใจสําคัญของการเข้ารหัสไม่ใช่ลายเส้นแต่เป็นแนวคิด?” ลู่หมิงรู้สึกตัวทันที
แนวคิดของการเข้ารหัส!
และ…
แนวคิดที่แท้จริงในการสร้างการ์ด!
“การเข้ารหัส.”
ลู่หมิงเริ่มประมวลผลในสมองของตนอีกครั้ง
อันที่จริงเขาอยากรู้เกี่ยวกับเทคนิคนี้มาโดยตลอด ว่ามันใช้วิธีการอะไรที่สามารถวาดเส้นเพิ่มเติมลงไปในการ์ดแต่กลับไม่ส่งผลให้เอฟเฟกต์ของการ์ดเปลี่ยนแปลงไป?
การเข้ารหัส …
ลู่หมิงลูบหลังการ์ดที่ถูกเข้ารหัสพร้อมครุ่นคิด การเข้ารหัสทําให้เขาไม่สามารถตรวจสอบลายเส้นได้อย่างสมบูรณ์
เขาสัมผัสถึงลายเส้นไม่ได้แม้แต่น้อย!
นี่อาจเป็นเพราะ
ไม่รู้โว้ยยย พวกเขาทําได้ยังไงกันฟะ?
หรือกวาดทับให้มันโดยใช้หลักการคล้ายๆปกหนังสือหรอ?
มันวาดทับกันได้ตรงๆงี้เลยจริงดิ?
“เอิ่ม ไม่น่าใช่
“เอิ่ม ไม่น่าใช่ แบบนั้นออกจะดูโง่ไปหน่อย ฮ่าๆ”
“แต่ฉันคิดไม่ออกเลยแฮะ”
ลู่หมิงรู้สึกราวกับว่าสมองของเขากําลังจะระเบิด
จริงๆแล้วลู่หมิงมีลางสังหรณ์ว่าข้อสันนิษฐานของเขาเข้าใกล้ความจริงมากแล้ว แต่มันก็ยังดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้ลู่หมิงหัวร้อนกว่าเดิม
“ช่างแม่*งละ!”
ลู่หมิงยิ้มอย่างขมขื่น
“เรื่องนี้อาจเป็นเพราะฉันยังขาดประสบการณ์อยู่?
แม้ว่าตอนนี้พื้นฐานในการสร้างการ์ดของลู่หมิงนั้นจะอยู่ใกล้ความเป็นเลิศแค่เอื้อม แต่อย่าลืมว่าเขาก็ยังเป็นแค่นักสร้างการ์ดระดับ 1 อยู่ดี!
การบ่มเพาะของเขายังอ่อนแอเกินไป!
บางที…
เขาอาจจะเข้าใจได้เองเมื่อกลายเป็นนักสร้างการ์ดระดับ 2?
“บางที่ก่อนอื่น ฉันควรลองศึกษาเทคนิคการเข้ารหัส D อีกสักครั้ง”
ลู่หมิงหายใจเข้าลึกๆ
เขาตั้งใจว่าจะลองทดสอบเอฟเฟกต์ของเทคนิคเข้ารหัส D!
ซึ่งอย่างแรกที่ลู่หมิงทําคือพยายาม Crack การเข้ารหัสที่ตนวาดออกมา เขากระจายพลังงานของตนลงบนพื้นผิวของการ์ดอย่างระมัดระวัง
ปังง!
เกิดคลื่นกระแสพลังงานผันผวนรอบๆตัว!
จากนั้น
การ์ดก็ทําลายตัวเองทันที!
ลายเส้นทั้งหมดสลายหายไป และการ์ดใบนั้นก็กลายเป็นขยะไปเช่นกัน!
“นี่สินะ วิธีทํางานของเทคนิคเข้ารหัส…”
ลู่หมิงเข้าใจมันแล้ว
มิน่าล่ะ มันถึงมีขายสกิล Crack แบบมืออาชีพ ไม่ได้พยายามเจาะเข้าไปซื่อๆ แบบเขา!
ถ้าอย่างงั้นล่ะก็
ความหัวหมอของลู่หมิงเริ่มทํางานอีกครั้ง
สําหรับคนอื่นเทคนิคการเข้ารหัส D อาจทางเลือกเดียวเท่านั้น แต่ว่าสําหรับลู่หมิงนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
แน่นอนว่าเทคนิคการเข้ารหัส D นั้นก็ยังนับว่า “กาก” อยู่ดี แต่ถ้าลู่หมิงกําลังพูดถึงผลลัพธ์หลังจากรวมเทคนิคการเข้ารหัส D 7 ใบเข้าด้วยกันล่ะ?
ได้ว่าเวลาทดสอบแล้วววว!
วูซซ –
ลู่หมิงเริ่มผสมการ์ดเทคนิคเข้ารหัส D ใบที่ 2 ลงไป
แต่ทุกอย่างก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
ลู่หมิงเหลือบมอง และพบว่ามันแค่เพิ่มความบริสุทธิ์ของลายเส้นก็เท่านั้น ซึ่งลายเส้นเหล่านั้นก็น่าจะเป็นอัลกอริทีมของเทคนิคการเข้ารหัส
มันไม่ได้พัฒนาอะไรไปมากนัก!
ไปต่อครับพี่น้อง!
การ์ดใบที่ 3 ใบที่ 4 ใบที่ 5 จนกระทั่งใบที่ 7
ชูวววว !
แสงไฟในห้องกะพริบปริบๆ
การ์ดกําลังเปลี่ยนแปลงไป!
“มาแล้วๆ!”
ดวงตาของลู่หมิงสว่างขึ้น
ใช่แล้ว!
เขาเดาถูก!
“อะฮ่า การ์ดดั้งเดิมสายฟ้านี่พึ่งพาได้จริงๆ!”
“ไหนมาให้ปะป่าดูหน่อย”
ใจของลู่หมิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ลายเส้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเส้นที่เป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสจะดูซับซ้อนขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้พิสดารจากเดิมไปมากนัก อย่างไรก็ตามมันกลับมีชั้นพลังงานปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของการเข้ารหัส
“เอ๊ะ?”
ลู่หมิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อย
การปรากฏของชั้นพลังงานอีกอัน มันหมายความว่าอะไรกัน?
ที่จริงแล้ว
มันแปลกมาก!
ถ้ามองจากด้านหน้าของการ์ดดั้งเดิม เห็นได้ชัดว่ามันก็ยังดูปกติดี
อย่างไรก็ตาม…
ลู่หมิงกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อเขาสัมผัสไปที่การ์ดดั้งเดิมแล้ว เขารู้สึกราวกับกําลังจับตึกสี่เหลี่ยม 2 ชั้น ซึ่งโครงสร้างลายเส้นเองก็คล้ายกับตึก 2 ชั้นขนาดเล็กเหมือนกัน!
นี่มันอะไรกัน?
ลู่หมิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่านี่มันก็พื้นผิวการ์ดธรรมดา แล้วมันเกิดโครงสร้างเชิงมิติขึ้นมาได้ยังไง?
เดี๋ยวก่อน
ด้านหน้าการ์ด
ชั้นที่สอง
ม่านตาของลู่หมิงหดตัวลงอย่างกะทันหัน ตอนนี้เขาเข้าใจแนวคิดของการเข้ารหัสแล้ว!
อย่างนี้นี่เอง!
ลู่หมิงรู้สึกประหลาดใจ
เขาคิดถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเช่นนี้
มีแต่แนวคิดแบบนี้เท่านั้นที่จะทําให้ใช้งานได้สมบูรณ์แบบ!
มีแต่แนวคิดแบบนี้เท่านั้นที่สามารถอธิบายเหตุผลทุกอย่าง
ก่อนหน้านี้ลู่หมิงเคยมีข้อสงสัยอยู่ประการหนึ่ง…
คือพื้นผิวด้านหน้าของการ์ดเปล่ามีขนาดใหญ่มาก แต่มันก็มีขีดจํากัดสําหรับลายเส้นอยู่ที่ประมาณ 100-300 กว่าเส้นเท่านั้น แล้วถ้างั้นมันรองรับสกิลที่ใช้ลายเส้นเป็นล้านๆได้อย่างไร? ใช้เทคนิคจุดตัด? หรือเทคนิคจุดตัดสามแยกหรอ?
ไม่น่าใช่ ไม่ว่าเขาจะใช้เทคนิคการวาดมากเท่าไหร่มันก็ไม่สามารถครอบคลุมลายเส้นทั้งหมดนั้นได้หรอก!
แต่ตอนนี้ลู่หมิงรู้แล้ว ว่าคนเหล่านั้นทํามันได้ยังไง
เพราะตอนนี้มันกลายเป็นเทคนิคการสร้างการ์ดใหม่ล่าสุดของลู่หมิงแลเว – เทคนิคสร้างชั้นการ์ด
หากพื้นผิวของการ์ดเปล่าเปรียบเสมือนรากฐานของอาคาร เขาก็สามารถสร้างชั้นการ์ดอีกหลายๆชั้นขึ้นมาซ้อนทับดั่งตึกระฟ้าได้
ยิ่งการ์ดมีระดับสูงขึ้นเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งมีชั้นพลังงานมากขึ้นเท่านั้น!
นี่เป็นความลับอันลึกซึ้งของการ์ดระดับสูงทั้งหลาย
แต่ตอนนี้
เทคนิคการเข้ารหัสง่อยๆของลู่หมิงกําลังใช้เทคนิคสุดล้ํานี้
ใช่แล้ว! จริงๆการเข้ารหัสก็คือการเพิ่มชั้นพลังงานอีกอันเข้าไปข้างบนลายเส้นเดิมของการ์ดเพื่อผนึกมัน!
อย่างไรก็ตาม…
คนคิดเทคนิคพวกนี้นั้นฉลาดมาก เพราะเวลาใช้เทคนิคเข้ารหัส สิ่งที่เหล่านักสร้างการ์ดหน้าใหม่ทําก็แค่วาดทับเท่านั้น นั่นทําให้ไม่มีใครรู้เลยว่ามันใช้มีแนวคิดแบบนี้! อย่างไรก็ตามมัน ตอนนี้แนวคิดทั้งหมดถูกเปิดเผยโดยการ์ดดั้งเดิมรูปสายฟ้าของลู่หมิงอย่างสมบูรณ์
การผสานของการ์ดดั้งเดิมรูปสายฟ้าช่วยทําให้ชั้นพลังงาน 1 ชั้นกลายเป็น 2 ชั้น!
มันกลายเป็นการเข้ารหัส 2 ครั้ง
มันช่วยให้ลู่หมิงเข้าใจอย่างชัดเจน
“นี่คงเป็นหลักการทั้งหมดของมัน”
ไม่แปลกใจเลยที่เขารู้สึกว่ามันช่างคุ้นเคยยิ่งนัก!
เป็นเพราะมันก็เหมือนกับ Layer ที่ลู่หมิงเคยใช้งานใน Photoshop!
Layer…
ชั้นพลังงานของการ์ด …
มันช่างแยบยลยิ่งนัก!
ลู่หมิงก็รู้ดีเช่นกัน!
ต้องเล่าก่อนว่า
ในอดีตลู่หมิงเคยได้เรียนทักษะการใช้ Photoshop เป็นเวลากว่า 2 ปีเพื่อที่จะไปหลีสาวในวิทยาลัย ซึ่งสิ่งที่ลู่หมิงทําในตอนนั้นคือเขาพยายามทําให้หน้ากลมๆ ของตนกลายเป็น V-shape โดยการใช้ Photoshop!
ต้องกล่าวเสริมว่าตอนนั้นในคณะของเขามีนักศึกษาหญิง เพียง 50 คนจากนักศึกษาทั้งหมด 2000 คน ทําให้เมื่อเทียบอัตราส่วนแล้วจํานวนนักล่านั้นมหาศาล แต่กลับมีเหยื่ออยู่เพียงน้อยนิด เขาจึงทําได้เพียงแค่ยอมแพ้และสูญพันธุ์ไร้ผู้สืบสกุลไปอย่างไม่ยินยอมในที่สุด
หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัยแล้ว
ลู่หมิงก็เตรียมจะใช้ทักษะ Photoshop ที่เขาเก็บตัวซุ่มซ้อมอยู่ 2 ปีในการออกล่าอีกครั้ง แต่ก็ถูกความเทพของฟิลเตอร์กล้องสมัยใหม่แย่งซีนไปจนหมดโอกาสอีกครา ได้แต่ทํางานงกๆ แถมพอรู้ตัวอีกทีก็ไหลตายคาคอมตัวเองไปซะแล้ว
โดยไม่คาดคิด…
เขากลับสามารถนําความรู้นี้มาใช้ประโยชน์ได้ที่นี่!
“ชั้นพลังงาน…”
ลู่หมิงอารมณ์ดีมาก
โว้ววววว
นี่มันโลกอีกใบนึงชัดๆ
ไม่น่าแปลกใจเลย..
ที่พวกระดับสูงจะปิดบังเรื่องพวกนี้ไว้
สําหรับนักสร้างการ์ดระดับ 1 หรือระดับ 2 ทั่วๆไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะเข้าใจลายเส้นธรรมดาๆบนการ์ดได้ด้วยซ้ํา นับประสาอะไรกับทักษะที่อาศัยการซ้อนทับ 3 มิติ แบบนี้?
เอาจริงๆ มันก็ไม่ต่างกับการสอนแคลคูลัสให้เด็กอนุบาล ที่บวกลบคูณหารยังไม่คล่องจริงๆนั่นแหล่ะ!
มันนับเป็นเทคนิคระดับสูงที่เกินขอบเขตปัจจุบันของลู่หมิงไปมาก จริงๆแล้วคนที่จะรู้เรื่องพวกนี้ได้ควรเป็นผู้บ่มเพาะระดับ 4 ขึ้นไปต่างหาก!
นี่มันเทคนิคระดับเทพชัดๆ!
คอมเม้นต์