ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา – ตอนที่ 42 ใช้งานให้ถูกคน
ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา
ตอนที่ 42 ใช้งานให้ถูกคน
ทันใดนั้นการแสดงออกของเด็กชายผู้งดงามที่ทํากิริยาแข็งกระด้างเป็นอาจิณ ก็พลันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าหลังจากได้ยินคําพูดของจี้เฟิงเยี่ยน ดวงตาของเขาแสดงความตกใจเป็นครั้งแรก เขาจ้องมองไปที่อี้เฟิงเยี่ยน ผู้ซึ่งพูดอะไรบางอย่างที่น่าประหลาดใจราวกับว่าเขาเจอกับผีร้ายที่น่ากลัว
จี้เฟิงเยี่ยนรู้สึกยินดีกับปฏิกิริยาหลุดเด็กของเด็กชาย ชั่วชีวิตของจี้เฟิงเยี่ยนเติบโตด้วยตนเองจึงไม่มีมาตรฐานนิสัยเหมือนผู้หญิงปกติทั่วไฟคนอื่นๆ ถ้าไม่ใช่เพราะการควบคุมสั่งสอนของอาจารย์ ไม่รู้ว่าชีวิตของนางนี้จะต้องพังพินาศไปแล้วขนาดไหน
แต่ตอนนี้ มันเปลี่ยนไปแล้ว อาจารย์ตายจากไป แม้กระทั่งนางเองยังตายจากร่างเดิมในโลกเก่ามาแล้ว ดังนั้นตอนนี้ ณ ที่นี้ไม่มีใครควบคุมนางได้อีก..ตลอดไป
ยิ่งไปกว่านั้นรูปลักษณ์ของเด็กชายที่มีความหล่อเหลางดงาม เพียงแค่มองก็ทําให้จี้เฟิงเยี่ยนหัวใจกระชุ่มกระชวยนางสามารถมองเขาได้ไม่มีวันเบื่อ ไม่ว่าเขาจะอารมณ์เสีย เฉยเมย หรืออารมณ์ใดๆก็ตาม..นางสามารถยิ้มให้เขาและรับได้ทั้งหมด
“ทําไม ข้าพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ? ” จี้เฟิงเยี่ยนมองไปยังเด็กชายที่นั่งนิ่งและพยายามทําให้หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน
คิ้วของเด็กชายที่แสนงดงามขมวดมากจนแทบจะพันกันเขามองไปที่อี้เฟิงเยี่ยนอย่างงุนงงโดยไม่มีใครรู้ว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่
จี้เฟิงเยี่ยนเห็นเด็กชายมีท่าทีว่าจะหลงกลคําลวงหยอกเย้าของนาง เห็นท่าทางแบบนั้นของเด็กชาย จี้เฟิงเยี่ยนก็เกือบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาถ้าไม่ติดที่เด็กชายกําลังปั้นหน้าโมโหเหมือนยักษ์ขมุขี นางจึงกระแอมไอและสงบสติอารมณ์ของตนเองเล็กน้อย
การกลั่นแกล้งเด็กชายสุดหล่อผู้ได้รับบาดเจ็บ…ดูท่าทางแบบนั้นของเขาสิ อ่าห์ หรือวันข้าทํากับเขามากเกินไป..
“นี่คือยาของเจ้า กินมันวันละสามครั้ง และก็ถ้าเจ้าขาดเหลืออะไร ก็ให้ไปบอกเหล่าพี่ชายที่อาศัยอยู่ห้องข้างๆนะ เขาจะดูแลเจ้าเอง.อย่าทําหน้าแบบนั้นสิ หลิวอ่าวตัวน้อย?” จี้เพิ่งเยี่ยนยิ้มและเอื้อมมือไปหยิกแก้มที่ขาวนุ่มนิ่มและแลดูสะอาดสะอ้านของเด็กชาย
ร่างกายของเด็กชายที่สง่างามราวรูปปั้นหยกแน่นิ่งราวกับเป็นรูปปั้นจริงๆ ผู้หญิงแปลกประหลาดคนนี้ พยายามยัดเยียดชื่อ “หลิวอ่าวให้แก่ตัวเขา และแม้กระทั่งบีบเขาให้แต่งงานกับนางโดยที่ไม่คิดจะไถ่ถามใดสักคํา
ก่อนที่หลิวอ่าวจะเอ่ยปากพูดอะไร จี้เฟิงเยี่ยนก็หลบลี้หนีออกจากห้องไปแล้วพร้อมกับหันมามอบรอยยิ้มหวานๆ ให้หลิวอ่าวได้แต่นั่งมองอยู่ข้างหน้าต่างด้วยท่าทางงุนงง
และ หลิงเหอที่เฝ้าดูเหตุการ์ทั้งหมดจากทางนอกประตู เขารู้สึกถึงมากหลังจากที่เห็นขี้เฟิงเยี่ยนเดินออกจากห้องด้วยรอยยิ้มที่มีร่องรอยของความงดงามที่ฉาบอยู่บนใบหน้า
ในตอนแรกพบ เขานั้นไม่เคยคิดว่าคุณหนูของตนเองนั้นเป็นผู้” กล้าหาญ”! เห็นได้ชัดว่าเขาเดาผิดอย่างแรงในตอนนี้หลิงเหออดไม่ได้ที่จะสงสารเจ้าหนูหลิวฮาว ดูสิ ปานนี้เด็กนั่นยังคงแน่นิ่งเพราะความตกใจ
“ พี่ชายหลิง” จี้เฟิงเยี่ยนเดินออกจากห้องก็เห็นหลิงเหอแอบมองอยู่ข้างๆประตู ร่างกายของหลิงเหอกระตุกอย่างรุนแรงเพราะตื่นตัวโดยสัญชาตญาณ เขารีบพูดทันทีว่า“ข้าน้อยไม่ได้ยินอะไรเลย! ไม่เห็นอะไรด้วยขอรับ!”
“ ” ปากของจี้เฟิงเยี่ยนกระตุก หา?? แอบดูโต้งๆแล้วก็ยืนพูดทั้งๆที่ปากสั่น ท่าทางแบบนี้ใครเขาจะเชื่อถือ ขนาดคนอ่อนต่อโลกอย่างนางยังมองออกเลย
“ พี่ชายหลิง ก่อนหน้านี้ข้าได้สั่งซื้อสมุนไพรชุดหนึ่งจากตลาดไว้น่ะ หากคนของร้านส่งมาให้ในภายหลัง ช่วยจัดการดูแลให้เรียบร้อยด้วย” จี้เฟิงเยี่ยนตัดสินใจที่จะทําเฉยต่อระดับสติปัญญาที่น่าสมเพชกว่าลิงอุรังอุตั้งของหลิงเหอชั่วคราว
หลิงเหอพยักหน้าหมึกๆ ตอบรับคําสั่งและพอเห็นคุณหนูกําลังจะออกไป เขาจึงรีบถามนางอีกครั้ง..ใช่ ทําไมนางไม่อยู่จัดการเอง? “ คุณหนู ท่านจะไปไหน?”
จี้เฟิงเยี่ยนยิ้มเล็กน้อย “ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก ข้าจะออกไปข้างนอกสักพัก พอดีข้า ลืมของไว้ข้างนอกและต้องรีบไปเอามันกลับมาน่ะ”
“ อะไรกัน? งั้นข้าน้อยจะไปตามลูกน้องร่างกายแข็งแรงสักสองสามคนให้ไปเอาของที่คุณหนูลืมดี ไหมขอรับ!?” หลิงเหอไต่ถาม
จี้เฟิงเยี่ยนส่ายหัวในขณะที่รอยยิ้มบนใบหน้าของนางยิ้มกว้างขึ้น
“ไม่ได้หรอก เพราะข้าไม่ได้แค่ไปเอาของอย่างเดียว…ข้ายังต้องจัดการ จัดการตอบแทนพวกคนที่รับฝากของๆข้าเอาไว้อีก” หลิงเหอเข้าใจเนื้อหาในประโยคแค่ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่จี้เฟิงเยี่ยนเอ่ยพูด และดูเหมือนนางจะไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดกับหลิงเหอมากกว่านี้ นางเดินฮัมเพลงสบายใจและค่อยๆเดินออกจากจวน..อย่างรื่นรมณ์
หลิวอ่าวอยู่ในห้องด้วยความงุนงง หลังจากนั้นไม่นานเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อมองไปที่ร่างเล็กที่ค่อยๆห่างออกไปจากสายตาของเขา และดวงตาของเขามองจี้เฟิงเยี่ยนด้วยความซับซ้อนเกินที่จะเข้าใจ
เกือบจะในเวลาเดียวกัน เลยมินอุ้มซูหลิงเฉิง สตรีผู้ซึ่งคุกเข่าเกือบครึ่งวันกลับไปที่จวนจ้าวเมือง และร้านพนันหินที่เหตุการณ์เกิดขึ้นก็ปิดเร็วกว่าปกติ เจ้าของร้านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดมีใบหน้าสลดใจ
ท่าทางโมโหหงุดหงิดจนน่ากลัวของเลยมินที่มีให้เขาก่อนที่จะพาซูหลิงเฉิงจากไป ทําให้ผมของเจ้าของร้านชั้โด่ตั้งฉากกับพื้นโลกแทบทั้งหัว
“ เถ้าแก่ จะปิดร้านเร็วขนาดนี้เลยเหรอเลยหรือขอรับ!?” คนงานของร้านบ่นพึมพําขณะปิดประตูร้าน
เจ้าของร้านพูดด้วยความโกรธป็นหงุดหงิดว่า“ ไม่ปิดแล้วจะให้ทําอะไร? จะเปิดรอให้นายน้อยว่าที่เจ้าเมืองมาต่อว่าพวกเราหรือ?”
คอมเม้นต์