เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] – ตอนที่ 24 ถ้าผมชนะ อาจารย์จะช่วยสอนวิชาแพทย์แผนจีนแบบส่วนตัวให้ผมได้รึเปล่า? (ตอนปลาย)
บทที่ 24 ถ้าผมชนะ อาจารย์จะช่วยสอนวิชาแพทย์แผนจีนแบบส่วนตัวให้ผมได้รึเปล่า? (ตอนปลาย)
ลั่วกังรู้สึกปลื้มปิติอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่คิดว่าการเผชิญหน้าเพื่อท้าประลองจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เกินตาดขนาดนี้!
ซูเย่พยักหน้ารับทราบ ก่อนจะหันกลับไปมองลั่วกัง
“เราจะแข่งกันยังไง?”
“ง่ายมาก ก็แค่ถามมาตอบไปเท่านั้นเอง!”
ลั่วกังกล่าวอย่างขึงขัง “เริ่มด้วยเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งในหนังสือ และตอบด้วยประโยคที่ต่อจากนั้นในหนังสือเล่มเดียวกัน เป็นจำนวนทั้งหมดสิบข้อ”
“เข้าใจแล้ว”
ซูเย่พยักหน้าเข้าใจ
“เราเข้าไปในห้องเรียนกันก่อนเถอะ คนเยอะขนาดนี้จะได้ไม่ลำบากใครเขา”
อาจารย์หลี่เคอหมิงกล่าว
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็เดินตามหลังอาจารย์หลี่เคอหมิงเข้าไปในห้องเรียน และเริ่มนั่งตามโต๊ะเก้าอี้ที่ว่างอยู่อย่างรู้งาน
ในขณะที่ซูเย่และลั่วกังยืนประจันหน้ากันที่โพเดียมหน้าห้อง
“ใครจะเป็นคนเริ่มดีล่ะ?”
เมื่อทุกคนเข้าประจำที่กันหมดแล้ว อาจารย์หลี่เคอหมิงก็ทำการปิดประตูให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินไปยังโพเดียมที่ลั่วกังและซูเย่ยืนประจำอยู่คนละฝั่ง
“ผมขอเริ่มก่อน ในฐานะที่ผมเป็นคนเริ่มท้าเขาก่อน”
ลั่วกังตอบในทันที ขณะที่มองซูเย่ด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ
“ส่วนผมยังไงก็ได้” ซูเย่ยกยิ้มมุมปาก เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก
“โอเค มาเริ่มกันเลย ” อาจารย์หลี่เคอหมิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากสิ้นคำประกาศ ทุกคนแทบกลั้นหายใจอย่างตื่นเต้น
ขณะที่มองนักศึกษาหนุ่มทั้งสองคนพร้อมสำหรับทำศึกตรงหน้า
“สู้ๆ นะเว้ย เสี่ยวเย่ ต้องชนะให้ได้นะเว้ย!”
ซูชือและจินฟานเชียร์เพื่อนรักอย่างลับ ๆ ในใจขณะที่ยืนมองจากในฝูงชน
“เอาล่ะ ตั้งใจฟังให้ดีนะ “
ลั่วกังจ้องมองซูเย่ก่อนจะเริ่มคำถาม “โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatism) มีลักษณะอาการปวดตามข้อหรืออวัยวะต่าง ๆ ลักษณะของการอักเสบมักเป็นมากสลับน้อย สามารถรักษาเบื้องต้นได้ด้วยการขับเหงื่อ อาการนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อฝนตกหรืออยู่ในช่วงหน้าฝนเนื่องจากมีอากาศชื้น: หากไม่สามารถรักษาเบื้องต้นด้วยการขับเหงื่อได้ เนื่องจาก…? ประโยคต่อไปคืออะไร!”
ทันทีที่ประโยคจบลง สายตาของเด็กใหม่ทุกคนก็เลื่อนไปจับจ้องยังซูเย่ทันที
ลั่วกังมีความรู้เกี่ยวกับหนังสือโบราณเป็นอย่างดี เขารู้จุดนั้นดีตั้งแต่ทุกคนได้ก้าวเข้ามายังในมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว และนั่นก็เป็นเหตุผลที่พวกเขาต่างเชียร์และเชื่อมั่นในตัวลั่วกังอย่างสุดหัวใจ
จินฟาน และซูชือ รวมถึงเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ต่างขมวดคิ้วแน่น
พวกเขาไม่เข้าใจถึงคำถามด้วยซ้ำ
สองหนุ่มเพื่อนซี้เพิ่งจะเริ่มเรียนเกี่ยวกับวิชาแพทย์แผนจีนได้ไม่นาน และไม่ได้อ่านหนังสือมามากขนาดนั้น
พวกเขาแทบไม่เข้าใจถึงคำถามที่ลั่วกังถาม ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนที่มั่นใจและเริ่มท้าทายก่อน แสดงว่าต้องมั่นใจในความรู้ของตนเองพอตัวเลยทีเดียว
แต่คำถามที่สองหนุ่มนักร้องสงสัยมากที่สุดตอนนี้ก็คือ….ซูเย่จะทำอย่างไร?
ภายใต้ความสนใจของทุกคน..
ซูเย่แสยะยิ้มขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “สำหรับผู้ที่เกิดอาการเหงื่อออก เหงื่อท่วม แม้ว่าสายลมหรือฝนจะผ่านไปแล้ว แต่ความชื้นในอาการนั้นก็ยังคงอยู่ ด้วยเหตุนั้นต่อให้ขับเหงื่อก็จะไม่ช่วยให้อาการปวดดีขึ้นแต่อย่างใด หากต้องการจะบรรเทาอาการก็ต้องทำให้ความชื้นลดลงเสียก่อน จึงจะทำให้วิธีขับเหงื่อได้ผลและช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้”
ทุกคนรีบหันไปมองที่อาจารย์หลี่เคอหมิงในทันทีเพื่อรอฟังคำตัดสินว่านั่นใช่คำตอบที่ถูกต้องหรือไม่..
“จากหนังสือ “ตำรารักษาโรคไข้ ” นี่เอง…นั่นเป็นคำตอบที่ถูกต้อง”
อาจารย์หลี่เคอหมิงกล่าวด้วยความพึงพอใจ
ดูเหมือนว่านักศึกษาทั้งสองจะมีพื้นฐานความรู้จากหนังสือเล่มนี้ดีทีเดียว…
“ยอดไปเลย!”
ซูชือและจินฟานต่างโห่ร้องและกำหมัดอย่างดีใจอยู่ในใจ
พวกเขาต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก
ดูเหมือนว่าซูเย่ที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของพวกเขานั้นจะไม่ได้คุยโวเรื่องหนังสือจริงๆ
ร่องรอยของความผิดหวังฉายในดวงตาของเหล่าเด็กใหม่ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถทำลายกำลังใจของฝ่ายตรงข้ามได้ในคำถามเดียว ช่างน่าเสียดายนัก…
“ข้อที่สอง…”
ลั่วกังไม่ทันจะให้เวลาซูเย่ได้หายใจ เขาเริ่มคำถามที่สองในทันที “สมุนไพรไดฟูช่วยสลายไต ช่วยเรื่องม้ามและกระเพาะอาหาร จะต้องเป็นสมุนไพรไดฟูที่ใสสะอาด ช่วยรักษาอาการปวดหัว สลายการหมักหมมด้วยการใช้ขมิ้น… ประโยคต่อไปก็คือ..!”
ซูเย่ยิ้มพร้อมตอบ “ใช้ถ่านเพื่อบรรเทาอาการอาเจียนและอาการท้องร่วง เป็นตัวนำในการบรรเทาฤทธิ์แอลกอฮอล์และช่วยย่อยอาหาร ดอกฟู่จื่อช่วยรักษาอาการบกพร่องและอาการคลื่นไส้ และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย”
“สุดยอด!”
ซูชือและจินฟานเผลอหลุดตะโกนออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะรู้ตัวรีบเอามือปิดปากตัวเองในทันที
ทุกคนจ้องมองพวกเขาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองอาจารย์หลี่เคอหมิงเพื่อรอฟังคำยืนยัน
เพื่อน ๆ ของพวกเขาไม่กล้าออกอาการอะไรมากนัก แต่ทุกคนต่างมองที่อาจารย์หลี่เคอหมิงอย่างสงสัย
ซูชือและจินฟานไม่ได้สนใจอะไรนัก แน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้หรอกว่าคำตอบนั้นเป็นคำตอบที่ถูกต้องหรือไม่ แค่ซูเย่สามารถตอบคำถามแรกได้ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาก็มีศักยภาพพอที่จะสู้ได้อย่างแน่นอนแล้ว!
นี่คือชายที่ไม่เคยแสดงความแข็งแกร่งของตนเองออกมา หมาป่าที่มากประสบการณ์จะไม่ต่อสู้กับการต่อสู้ที่ไม่มีวันชนะ
และในเมื่อเขาตอบตกลงที่จะสู้…ก็หมายความว่าซูเย่มั่นใจแล้วว่าตนเองจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้นี้!
อาจารย์หลี่เคอหมิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“จากหนังสือ “ประโยชน์ของแพทย์ศาสตร์” ประโยคนั้นเป็นคำตอบที่ถูกต้อง” ทันทีที่สิ้นคำประกาศ เพื่อนร่วมห้องของซูเย่ต่างพร้อมใจกันปรบมือให้ในทันที
ตอบถูกอีกแล้วงั้นเหรอ?
ทั้งเด็กใหม่และลั่วกังต่างมองซูเย่อย่างไม่เชื่อสายตา
พวกเขาไม่ได้ไร้ความรับผิดชอบ หรือไม่สนใจเรื่องเรียนเหมือนกับที่ข่าวลือบอกไว้เลยนี่นา..
“คำถามข้อที่สามนั้นกล่าวโดยผู้ที่เคยได้พบเจอกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ได้กล่าวถึงรูปแบบของลมปราณเอาไว้ว่า พลังลมปราณที่แท้จริงนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ผู้ที่ทำงานในด้านนี้ต่างสัมผัสถึงได้ ด้วยความหนาวเย็นและความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ ความว่างเปล่าของดวงจันทร์ และการผันแปรไปตามพลังงานของฤดูกาลทั้งสี่ สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยการผสมร่วมรวมกันของเทคนิคต่าง ๆ เมื่อมีประสบการณ์ที่มากขึ้น ก็จะสามารถจับทิศทางได้ แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าราวกับจ้องมองไปยังในความมืดมิดก็ตาม!”
ลั่วกังจ้องซูเย่เขม็งหลังจากที่พูดจบ
“ผู้ที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับความเป็นอนันต์ได้ จะสามารถส่งต่อไปสู่ผู้คนในรุ่นหลัง นั่นคือสาเหตุที่วิธีการต่าง ๆ นั้นจึงได้มีความแตกต่างกัน และเนื่องจากว่าไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก หรือสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ปราศจากรสให้รับ พลังงานชนิดนี้จึงถูกเรียกว่าพลังลมปราณตั้งแต่ครั้งโบราณกาลเป็นต้นมา”
ซูเย่ยังคงตอบได้แบบสบาย ๆ
“เยี่ยม!” ซูชือและจินฟานตบมือฉาดใหญ่
เพื่อน ๆ คนอื่นต่างก็ปรบมือให้เช่นกัน
“นั่นเป็นคำตอบที่ถูกต้อง… นี่คือเนื้อหาจากหนังสือ “ยาอายุรศาสตร์ของจักรพรรดิเหลือง”
อาจารย์หลี่เคอหมิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากที่ถามความรู้จากหนังสือโบราณถึงสามเล่มไปแล้วด้วยกัน.. ก็ทำให้รู้ว่าความรู้ของนักศึกษาทั้งสองนั้น มีมากกว่าที่ใคร ๆ คาดเอาไว้เสียอีก เดิมทีเขาคาดหวังว่าจะพบเนื้อหาของหนังสือโบราณแบบระดับเริ่มต้นอย่าง “คู่มือแพทย์ฉบับโบราณ” หรือ “แพทยศาสตร์ทั้งสามระดับฉบับดั้งเดิม”
เนื้อหาพวกนี้ล้วนมาจากหนังสือโบราณที่ทั้งเก่าแก่และเข้าใจยาก
ลั่วกังที่เป็นคนเริ่มถามนั้นช่างเก่งเหลือเกิน แต่ซูเย่ที่ตอบคำถามเหล่านั้นกลับเก่งยิ่งกว่า
“ข้อที่สี่ !…”
“เป็นคำตอบที่ถูกต้อง”
คอมเม้นต์