แม่ครัวยอดเซียน – ตอนที่ 63 มังกรน้อยช่างน่ารักเหลือเกิน

อ่านนิยายจีนเรื่อง แม่ครัวยอดเซียน ตอนที่ 64 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“แม่มังกรน้อย เจ้าตื่นแล้วหรือ เจ้าเก่งมากจริงๆ” หลิวหลีไม่รู้ว่าเป็นเพราะนาง จึงทำให้มังกรน้อยกลุ่มนี้พยายามผลักดันตัวเองทำให้ผู้นำเผ่ามังกรรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

“แม่มังกรน้อย เจ้าหมายถึงข้าหรือ?” หลิวหลีถามขึ้นพลางเอามือชี้ไปที่จมูกของตัวเอง

“ใช่สิ เจ้ามาจากสกุลไหน? ไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อนเลย”

“ข้ามากับเอ๋าเลี่ยชื่อหลิวหลี” หลิวหลีไม่ได้โกรธ แถมยังพูดคุยอย่างสนิทสนม มังกรเยอะจริงๆ อยากจะลูบๆคลำๆเสียเหลือเกิน

“บ้านท่านเอ๋าเลี่ยน่ะหรือ ชื่อหลิวหลีนี่ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน” มังกรตัวน้อยสีทองเอียงคอพูดขึ้น

“พวกเจ้าชื่ออะไรกันบ้าง?” มีมังกรเยอะแยะเลย หลิวหลีรู้สึกวาตาตนเองคงจะเยิ้มหยดย้อยไปแล้ว

“เอ๋าเทียนขวง” มังกรสีทอง

“เอ๋าเทียนชื่อ” มังกรสีเขียว

“เอ๋าเทียนสวิน” มังกรสีดำ

“เอ๋าเทียนป้า” มังกรสีแดง

“เอ๋าเทียนไป่” มังกรสีฟ้า

“เอ๋าเทียนอี” มังกรตัวเมียสีฟ้า

“สวัสดีทุกท่าน ข้าชื่อหลิวหลี เป็นคู่พันธสัญญาของเอ๋าเลี่ย”

“เมื่อครู่เหมือนนางพูดว่า นางเป็นคู่พันธสัญญาของท่านเอ๋าเลี่ย” มังกรน้อยนิ่งไปชั่วครู่ รู้สึกไม่เชื่อหูตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนทำพันธสัญญากับท่านเอ๋าเลี่ยผู้โหดเหี้ยม น่านับถือยิ่งนัก

“หลิวหลีสุดยอดจริงๆ ถึงกับได้ผูกพันธสัญญากับท่านเอ๋าเลี่ยเชียว” เอ๋าเทียนขวงพูดด้วยความนับถือ

“นั่นสิ ท่านเอ๋าเลี่ยดุมากเลยนะ” เอ๋าเทียนอีพูดด้วยท่าทีหวาดกลัว

“ใช่ เวลาข้าดื้อ ท่านแม่จะบอกข้าว่าจะส่งข้าไปอยู่กับท่านเอ๋าเลี่ย” เอ๋าเทียนสวินก็พูดด้วยสีหน้าหวาดกลัวเช่นกัน ทุกครั้งที่ท่านแม่พูดเช่นนั้น เขาก็จะว่านอนสอนง่ายทันที

“ไม่นะ อาเลี่ยไม่ดุสักหน่อย พวกเจ้าเข้าใจเขาผิดแล้ว เขาดีกับพวกเจ้ามากเลยนะ” หลิวหลีอธิบาย เพียงแต่ว่าพวกเขาจะมาคุยเรื่องนี้กันในสระมังกรโลหิตอันเป็นสถานที่ประหลาดเช่นนี้จริงหรือ

“จะว่าไปแล้ว พวกเราออกไปคุยกันที่อื่นดีไหม” หลิวหลีเสนอขึ้นพลางทอดสายตามองเหล่ามังกรน้อย

แสงสว่างวาบพาดผ่าน ก็มีเจ้าสัปปะรดตัวน้อยทั้ง 6 ตัวยืนเรียงกันอยู่ริมฝั่ง ดูจากสีเสื้อที่ใส่แล้ว หลิวหลีก็พอจะจำได้บ้างว่าใครเป็นใคร น่าเสียดาย ทำไมถึงไม่ได้อยู่ในร่างมังกร

“ให้พวกเจ้านะ” หลิวหลีนำถุงเก็บของทั้ง 6 ใบออกมา หลิวหลีก็เพิ่งจะรู้ตัวว่านางมีถุงเก็บของเยอะมากจริงๆ

“ของขวัญเหรอ ขอบคุณนะ” พวกมังกรตัวน้อยนับว่ามีมารยาทมาก

“ใช่แล้ว พวกเจ้าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่เเหรอ?”

“บำเพ็ญเพียรไง มังกรเด็กของเผ่ามังกรต้องมาแช่สระมังกรโลหิต คราวนี้เพราะเจ้า ทำให้พวกเราบำเพ็ญฝึกฝนในสระมังโลหิตสำเร็จเร็วกว่าที่กำหนดไว้” เอ๋าเทียนขวงกล่าว

“ข้าหรือ? ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” หลิวหลีพูดพลางชี้ตัวเอง นางทำอะไรลงไปตอนที่นางไม่รู้ตัวเช่นนั้นหรือ?

“ใช่สิ แต่ก่อนเราอยู่ได้ไม่กี่วันเท่านั้นเอง คิดไม่ถึงเลยว่า ครั้งนี้พวกเรายอมอดทน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดกลับมา พวกเราแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย ท่านพ่อกับท่านแม่ถึงกับอึ้งไปเลย” เอ๋าเทียนขวงกล่าว ท่านอาของเขาเป็นผู้นำเผ่า ครั้งนี้ตัวเองกลับไปถึงขนาดทำให้ท่านอาตกตะลึงไปเลย

“เมื่อวานท่านแม่ชมข้าด้วยนะ” เอ๋าเทียนไป่พูดด้วยท่าทีเขินอาย

“ข้าก็เหมือนกัน ท่านพ่อบอกว่าข้าโตขึ้นแล้ว” เอ๋าเทียนป้ากล่าว

ฟังคำพูดของเหล่ามังกรตัวน้อย หลิวหลีก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น เอ่อ นางก็อยากมีแม่คอยชื่นชมนางบ้าง

“เอาล่ะ ข้าจะต้องไปแล้ว ถ้ามีโอกาสจะมาเล่นกับพวกเจ้าใหม่” หลิวหลีบอกลามังกรตัวน้อย และส่งกระแสจิตไปบอกเอ๋าเลี่ยว่านางออกจากบำเพ็ญเพียรแล้ว

บรรดามังกรน้อยกลับบ้าน นำถุงเก็บของมาอวดให้บิดามารดาดู คนในครอบครัวถึงกับตกตะลึง เพื่อนคนนี้ทำไมถึงได้ใจกว้างขนาดนี้ ยาผงหลายรสชาติเป็นร้อยขวด แล้วก็ยังมียาเม็ดศักดิ์สิทธ์ระดับ 1 คุณภาพชั้นเลิศ 10 เม็ด ยาระดับ 2 คุณภาพชั้นเลิศ 5 เม็ด ยาระดับ 3 คุณภาพชั้นเลิศ 1 เม็ด คนคนนี้สุดยอดมาก ของขวัญที่ให้มีแต่ยาศักดิ์สิทธิ์คุณภาพชั้นเลิศทั้งนั้น

เมื่อเอ๋าป๋อเหวินได้ยินเรื่องนี้ ทำได้เพียงเอามือกุมอก เขาเกือบจะทำให้นักปรุงยาผู้ถูกเลือกต้องโมโหแล้ว จากนั้นก็จับไปที่แหวนเก็บของ ถุงเก็บของที่ท่านปรมาจารย์เอ๋าเลี่ยให้มา อีกทั้งป้ายหยกที่ท่านปรมาจารย์มอบให้ เฮ้อ ท่านปรมาจารย์ช่างสายตาเฉียบแหลม

เมื่อเห็นพลังบำเพ็ญของหลิวหลีเริ่มคงที่ เอ๋าเลี่ยก็พาหลิวหลีไปที่ค่ายกลขนส่งระหว่างเผ่ามังกรกับบ้านสกุลหลงเพื่อจะไปสกุลหลง

อนึ่งจื่อฉีกับหงหลินได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจื่อฉี เจ้ากิเลนกลายพันธุ์ตัวนี้ ทำให้เผ่ามังกรประหลาดใจกันไม่น้อย ทว่า พวกเขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเผ่ากิเลน  อย่างไรเสียไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีกิเลนที่หลุดออกมานอกเผ่า ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่กิเลน แต่เรื่องที่จื่อฉีควรจะบำเพ็ญเพียรอย่างไรนั้น พวกเขาก็พอจะให้คำแนะนำได้บ้าง จื่อฉีก็มีความก้าวหน้าขึ้นไม่น้อย ส่วนหงหลิน เดิมเป็นเชื้อสายที่ใกล้เคียงกับมังกร พอได้ฝึกบำเพ็ญก็ไม่ลดละ หงหลินนับวันรอการปรากฏตัวของหลิวหลี พอหลิวหลีปรากฏตัวขึ้น ทันทีที่หงหลินมาถึงรีบกลายร่างเป็นกำไลข้อมือที่แข็งค้างไร้ชีวิตอย่างไม่ลังเล จื่อฉีโตขึ้นไม่น้อย แถมยังเข้ากันได้ดีกับเหล่ามังกรน้อย เอ๋าเลี่ยจึงตัดสินใจให้จื่อฉีอยู่ที่เผ่ามังกร รอจนหลิวหลีผ่านพ้นการประลองระหว่างสกุลแล้วค่อยมารับอีกฝ่าย ส่วนหลิวหลีเองตระเตรียมถุงเก็บของใบใหญ่ให้กับจื่อฉี จนมังกรน้อยต่างก็พากันรู้สึกอิจฉาอย่างมาก

หลิวหลีค้างแข็งอยู่ในอ้อมแขนเอ๋าเลี่ย ด้วยกลัวว่าถ้ายุกยิกแล้วตนจะหลุดไปอยู่ที่ไหนไม่รู้ เช่นนั้นคงประหลาดเอาการ พอมาถึง หลิวหลีก็รู้สึกแข้งขาอ่อน นางแอบตัดสินใจว่าต่อไปจะต้องเพิ่มพลังบำเพ็ญเพียร แบบนี้มันน่าอายเกินไป

ค่ายกลขนส่งบ้านสกุลหลงสว่างวาบ แล้วจึงปรากฏร่างชายหญิงคู่หนี่ง หลิวหลีปราายตามอง ที่นี่คือบ้านสกุลหลง ลูกศิษย์ที่เฝ้าอยู่เห็นว่ามีคนมา อีกทั้งยังมาจากค่ายกลขนส่งบ้านสกุลหลงกับเผ่ามังกร จึงรีบไปรายงานให้กับผู้นำสกุลทราบ

หลงเหวินเซวียนได้ยินรายงานจากลูกศิษย์ก็ขมวดคิ้ว ไม่เห็นได้ยินผู้นำเผ่ามังกรบอกว่าจะมีคนมา แต่เขาก็ยังยอมให้เข้ามาพบ หลงเหวินเซวียนมองดูคนทั้งสอง สูงหนึ่งเตี้ยหนึ่งเดินเข้ามา โดดเด่นทั้งคู่ เพียงแต่ว่าคนที่ตัวเตี้ยคนนั้น

“ซินเยว่” หลงเหวินเซวียนพึมพำ

“ข้าน้อยหลิวหลี คารวะหัวหน้าสกุล” หลิวหลีไม่รู้ว่าควรจะต้องเรียกอะไร จึงเรียกแบบเป็นทางการออกไป

“นังหนู ไหนลองเรียกท่านตาสิ” หลงเหวินเซวียนตื่นเต้นเล็กน้อย ถึงแม้จะไม่ใช้สัมผัสทางสายโลหิต เขาก็มั่นใจว่านี่คือลูกของหลงซินเยว่ ลูกสาวของเขา

“ไม่ดีกระมังเจ้าคะ” หลิวหลีลูบจมูกอย่างกระอักกระอ่วน

“ก็จริง พวกเราไม่ได้มีส่วนร่วมในการเติบโตของเจ้า ไม่เป็นไร ค่อยเป็นค่อยไปเถอะ” หลงเหวินเซวียนผิดหวังเล็กน้อย

“ให้เวลาข้าหน่อยเถอะ” หลิวหลีย่อมสัมผัสได้ถึงความผิดหวังของหลงเหวินเซวียน แต่นางต้องการเวลาจริงๆ นางนับพ่อแม่ผิดมาแล้วถึงสองครั้ง นางรู้สึกว่าถ้ามารดาของนางไม่ฟื้นคืนชีพกลับมา นางก็คงยากที่จะยอมรับคนในครอบครัวใหม่อีกครั้ง

“นังหนู เจ้ามาได้พอดีเลย การประลองภายในสกุลจะจัดขึ้นภายในอีก 3 วัน เจ้าไปพักอยู่ในเรือนที่แม่เจ้าเคยอยู่ในอดีตเถอะ ตอนกลางคืนค่อยไปพบท่านลุงทั้ง 3 ของเจ้าดีไหม” หลงเหวินเซวียนมองหลิวหลีอย่างวาดหวัง

“เจ้าค่ะ” หลิวหลีพยักหน้า ดูเหมือนนางจะไม่อาจปฏิเสธได้

“จริงสิ ท่านผู้นี้คือ” ช่างน่าเกรงขามจริงๆ อีกทั้งยังไม่สามารถอ่านพลังบำเพ็ญเพียรของคนผู้นี้ได้

“ท่านนี้คือคู่พันธสัญญาของข้า เอ๋าเลี่ยจากเผ่ามังกร” หลิวหลีแนะนำ

หลงเหวินเซวียนรู้สึกเหมือนตัวเองจะได้ยินผิด นังหนูบอกว่าคู่พันธสัญญาของตนคือเทพแห่งสงครามของเผ่ามังกร ท่านเอ๋าเลี่ย

“ท่านเอ๋าเลี่ย ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านสกุลหลง” หลงเหวินเซวียนทำได้เพียงเคารพด้วยความนอมน้อมเมื่ออยู่ต่อหน้าเอ๋าเลี่ย อ่อ ทำไมถึงมีเทพที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาได้ นังหนูไม่ต้องลงมืออะไร เทพผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ยืนเฉยๆ คนอื่นก็คงจะยอมแพ้ไปเอง

 ……………………………………..

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด