ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) – ตอนที่ 54 : การ์ฟิลด์(ระดับลอร์ด)
ตอนที่ 54 : การ์ฟิลด์(ระดับลอร์ด)
อำเภอไนลอนอยู่ห่างจากเมืองอรุณไม่มากนัก พวกเขาตั้งแคมป์กันในป่า 1 คืน ก่อนจะเดินทางมาถึงเมืองอรุณได้
ยิ่งไปกว่านั้นการที่นักเรียนและครูทุกคนต่างก็จับกลุ่มรวมกัน ก็ทำให้ไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนกล้าเข้ามาใกล้พวกเขา แม้ว่าจะพบกับสัตว์อสูร แต่พวกมันก็จะถูกฆ่าภายในพริบตา
กองกำลังที่แข็งแกร่งแบบนี้แม้แต่สัตว์อสูรที่เป็นหัวหน้าฝูงก็ไม่กล้าจะเผชิญหน้า
ที่นี่แบ่งระดับของสัตว์อสูรได้ดังนี้
เลเวล 1 – 9 ระดับทั่วไป
เลเวล 10 – 19 ระดับสูง
เลเวล 20 – 29 ระดับผู้นำ
เลเวล 30 – 39 ระดับลอร์ด
เลเวล 40 – 49 ระดับราชา
หมีป่าและงูเลือดนั้นเป็นสัตว์อสูรระดับราชา มันสามารถจัดการกับกลุ่มทหารรับจ้างหรือขับไล่สัตว์อสูรตัวอื่น ๆ ไปได้ ถึงจะมีทหารกว่าร้อยนาย แต่พวกเขาก็ต้องหนีหากเจอมัน
ดังนั้นนอกจากว่าจะพบกับอสูรเลเวล 50 – 59 กลุ่มของพวกเขาก็ไม่มีทางตกอยู่ในอันตราย
แต่ในเขตเมืองอรุณนั้นมีระยะหลายร้อยไมล์ สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งนั้นถูกกำจัดไปหมดแล้ว แม้แต่สัตว์อสูรระดับราชาก็ไม่ได้ปรากฏตัวที่นี่ นอกซะจากว่าจะมีสัตว์อสูรที่ลนลานจนหนีมาถึงที่นี่
พวกเขาเดินทางได้อย่างราบรื่น เสบียงอาหารต่าง ๆ ที่เตรียมมาก็หมดไปครึ่งหนึ่งแล้ว ดังนั้นการเดินทางกลับจึงง่ายกว่าเดิม พวกเขาถึงกับใช้สกิลของอสูร สุดท้ายก็กลับมาถึงเมืองอรุณในตอนเย็น
ตอนนั้นทุกคนต่างก็พากันโล่งอก พวกเขามองไปยังเส้นทางด้านหลังด้วยความตื่นเต้น
“ครูครับ รออยู่ที่นี่สักสองสามนาทีก่อนจะเข้าไปในเมืองได้ไหม ? ”
ตอนนั้นสีหน้าของหวังเย่าได้สะท้อนความสุขออกมา เขารีบเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าครูประจำชั้น
“มีอะไรงั้นหรือ ? ” ครูประจำชั้นที่กำลังจะพาเด็ก ๆ เข้าไปในเมืองก็ถามขึ้นมา
เหลิ่งจื่อมู่เห็นแบบนั้นก็พูดขึ้น “ หวังเย่า แกคิดจะทำอะไรอีก ? ”
หวังเย่ายักไหล่แล้วพูดขึ้น “แกสนใจฉันด้วยรึไง ? ”
ตอนนั้นเอง เหลิ่งจื่อมู่ก็เผยสีหน้ากวน ๆ ออกมา “ ฉันจะสนใจแกทำไม ? แกอย่าปากดีให้มากนัก ระวังฉันจะฆ่าแก”
ตอนนั้นเองเด็กคนอื่น ๆ ต่างก็มองมาที่พวกเขา
จ้าวเมิ่งซีขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา การที่ทั้งสองทะเลาะกันแบบนี้ทุกคนชินแล้ว พวกเขาคิดจะให้ทั้งสองจัดการกันเอง
ในขณะที่ความแข็งแกร่งของหวังเย่าเพิ่มขึ้นนั้น เขาก็ตอบกลับทันที “ก็เอาสิ แล้วมาดูกันว่านายจะถูกฉันคว่ำภายในกี่กระบวนท่า”
สีหน้าของเหลิ่งจื่อมู่บิดเบี้ยวไป ในความคิดของเขาแล้ว ตระกูลของเขาโดดเด่น ไม่ว่าใครก็มักจะประจบประแจงเขากันทั้งนั้น แต่หวังเย่ากลับไม่กลัวเขาเลยและถึงกับหยามเขาด้วยซ้ำ
ถ้าสามารถทำได้จริง ๆ ก็คงมีการลงไม้ลงมือกันไปแล้ว แต่เหลิ่งจื่อมู่ไม่กล้ามองข้ามครูที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาจะอวดดีและหยิ่งผยองสักแค่ไหน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเกินเลยต่อหน้าครู
และนี่ก็คือเหตุผลที่เหลิ่งจื่อมู่คิดจะติดสินบนครู ให้เขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ
เหลิ่งจื่อมู่แค้นจนแทบกระอักเลือด เขาอยากจะฆ่าอีกฝ่ายเสียตรงนี้
ครูประจำชั้นเห็นแบบนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกนายสองคนอย่าก่อเรื่องต่อหน้าฉัน ไม่อย่างงั้นแล้วฉันคงไม่ใจดีกับพวกนายแน่”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทั้งสองก็เงียบไปทันที
แม้ว่าความแข็งแกร่งของครูประจำชั้นจะไม่ได้มากนัก แต่เขาก็เป็นครูมาหลายปี ถ้ากล้ามีเรื่องกับครูก็เท่ากับการสร้างความไม่พอใจให้กับอีกหลายคน การเคารพครูนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
“หวังเย่า นายให้ฉันรอทำไม ? ” เมื่อเห็นทั้งสองเงียบไป ครูประจำชั้นจึงถามขึ้นมา
หวังเย่ามองไปที่เหลิ่งจื่อมู่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะเชิดหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ครูครับ ผม เหลิ่งจื่อมู่และจ้าวซื่อ พวกเราสามคนได้พนันกันไว้ และยังไม่รู้ผลลัพธ์ แต่ตอนนี้ได้เวลาตัดสินแล้ว”
“หวังเย่า นายหมายถึงอะไร เรื่องนี้รอกลับไปที่เมืองก่อนแล้วค่อยจัดการไม่ได้รึไง ? ” ครูประจำชั้นไม่พอใจ
“ครูครับ อย่าเพิ่งใจร้อน เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับครูด้วยเพราะครูก็เป็นพยาน เมื่อผมชนะพนัน ครูก็จะได้ส่วนแบ่งไปด้วย” หวังเย่ายิ้มกว้างออกมา
เหลิ่งจื่อมู่และจ้าวซื่อมองหน้ากัน ทั้งสองต่างก็พากันสังหรณ์ใจไม่ดี คำพูดของหวังเย่านั้นหมายถึง….อสูรของเขาขึ้นไปถึงเลเวล 30 แล้วงั้นหรือ ?
เป็นไปไม่ได้ !
ไม่มีทาง !
ทั้งสองต่างก็ใจเต้นรัว
แต่ตอนนั้นเอง หวังเย่ากลับยกมือขึ้นแล้วตะโกนออกมา จากนั้นก็มีสัตว์อสูรตัวยาวกว่า 3 เมตรปรากฏตัวขึ้นมา แล้ววิ่งมาข้าง ๆ เขา
“การ์ฟิลด์หรือ ? ”
หลายคนพากันหันกลับไปมองและพบว่าสัตว์อสูรที่วิ่งมานี้คือแมวที่หวังเย่าปล่อยไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
แต่มันดูแปลกไป ขนาดของมันโตขึ้นหลายเท่า ก่อนหน้านี้มันตัวยาวแค่ 2 เมตร แต่ตอนนี้กลับตัวยาวถึง 3 เมตรและดูแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก
เมื่อมันเข้ามาใกล้ ทุกคนก็รับรู้ได้ถึงพลังของสัตว์อสูรระดับลอร์ด
เมื่อเห็นแบบนั้น สีหน้าของจ้าวซื่อและเหลิ่งจื่อมู่ก็บิดเบี้ยวไปในทันที
“เป็นไปได้ยังไงกัน ? เป็นไปไม่ได้ ? มันขึ้นจากเลเวล 22 เป็น 30 ภายในเวลาไม่กี่วันได้ยังไง ? ” เหลิ่งจื่อมู่ตะโกนออกมา
จ้าวซื่อเองก็เบิกตากว้างมองไปที่การ์ฟิลด์ ก่อนจะกัดฟันแน่นและพูดขึ้น “ไม่ นี่ไม่ใช่อสูรของแก มันแค่ดูเหมือนกัน แกหลอกฉันไม่ได้หรอก”
แต่หวังเย่าก็ไม่ได้สนใจทั้งคู่ เขาเรียกชื่อการ์ฟิลด์ ก่อนที่มันจะเดินมาหาเขาแล้วเดินวนรอบตัวหวังเย่า ความสูงของมันประมาณอกของหวังเย่า และดูเหมือนว่าตอนนี้จะสามารถใช้มันเป็นพาหนะได้ด้วยซ้ำ
หวังเย่าได้ตรวจสอบสถานะของมันทันที
***
ชื่อ การ์ฟิลด์
ระดับ ทองขั้นสูง
เลเวล 30 (ระดับลอร์ด)
***
แม้ว่าจะไม่มีสกิลใหม่เพิ่มขึ้นมา แต่สกิลเดิมนั้นก็พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก ความสามารถในการต่อสู้ก็เพิ่มขึ้นเกือบถึงหนึ่งพัน เดาว่าสัตว์อสูรระดับลอร์ดทั่วไปคงไม่อาจจะเป็นคู่มือให้กับการ์ฟิลด์ได้
หวังเย่าได้สื่อสารทางจิตกับมันก่อนที่การ์ฟิลด์จะคำรามใส่เหลิ่งจื่อมู่และจ้าวซื่อ ทำให้ทั้งสองคนช็อกจนหน้าซีดไปทันที
คลื่นพลังของสัตว์อสูรระดับลอร์ดทำให้พวกอสูรระดับทองแดงและเงินที่อยู่ใกล้ ๆ ได้แต่ถอยออกไปด้วยความกลัว
“ครู ผมคิดว่าอสูรของผมขึ้นไปถึงระดับลอร์ดเลเวล 30 แล้ว”
“ตอนนี้อสูรของเหลิ่งจื่อมู่และจ้าวซื่อยังไม่ถึงเลเวล 30 งั้นก็เท่ากับว่าพวกเขาแพ้พนันให้กับผม ผมขอให้ครูเป็นพยานและตัดสินด้วย” หวังเย่าพูดขึ้นมา
คอมเม้นต์