เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 136 : คนๆนี้ถูกระบุได้เลยว่ามีปัญหาทางสมอง
ตอนที่ 136 : คนๆนี้ถูกระบุได้เลยว่ามีปัญหาทางสมอง
ตํารวจของสถานนีตํารวจหมิงเฉิงต่างมองดูด้วยความมึนงง!
เจียงเฉินเดินก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อมาเอาสร้อยคอกลับไป
“อ้าก– อย่าเข้ามานะ!”
หัวขโมยอาเฟยตื่นตระหนกเขาระเบิดน้ําตาออกมาและกอดตํารวจชราแน่นพร้อมกับตัวของเขาที่สั่นเป็นลูกนก!
คนที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ไม่รู้ว่าไปกลัวอะไรมาถึงได้ออกอาการขนานี้?
ตํารวจชราเดินก้าวออกมาก่อนจะถามเจียงเฉิน“นายจะไม่เกรงกลัวกฎหมายหน่อยหรอถึงได้กล้าทําการปล้นกลางสถานนําตรวจอย่างนี้”
เจียงเฉินพูดเบาๆ “ผมมาที่นี่เพื่อเอาสร้อยคอของผู้โดยสารของผมคืน”
ตํารวจชรามองไปที่สร้อยคอด้วยความสงสัย
หัวขโมยอาเฟยตะโกนออกมา “เป็นผมเอง!ผมขโมยสร้อยคอของเธอมาเองผมเป็นขโมย!”
“นายเป็นขโมย?!”
ตํารวจทั้งสถานนีตกตะลึง!
สรุปว่าพวกเขาเข้าใจผิดงั้นหรอ? แล้วเป็นเขาที่ไปขโมย ของคนอื่นมา?!
ต้องเป็นหัวขโมยที่โง่ขนาดไหนกัน? ถึงได้มายอมมอบตัวแบบนี้?
แต่สิ่งที่สําคัญคือเขาไปเจออะไรมาถึงได้กลัวขนาดนี้?
ในที่สุดการเดินทางอันแสนเจ็บปวดของเขาก็จบลง
สร้อยคอเพรชถูกส่งคืนสู่เจ้าของ
ตํารวจชราจ้องไปที่อาเฟยด้วยความเย็นชา “แกกล้าหลอกฉันหรอ!นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!”
“ผมยอมแล้ว! เอาผมไปขังเถอะ ผมไม่อยากเจอเขาอีกแล้ว!”
อาเฟยพูดออกมาราวกับตัวเองมีอาการทางจิต “เฮลิคอปเตอร์ 3 ลํา! เรือลาดตระเวนเร็ว! หน่วยรบพิเศษกําลังไล่ตามผมมา! ผมเกือบตายไปแล้วสหายตํารวจช่วยผมด้วยเถอะ-
ตํารวจ “”
พวกเขารู้สึกว่าอีกฝ่ายกําลังพูดเรื่องไร้สาระออกมา
คนๆนี้ถูกระบุได้เลยว่ามีปัญหาทางสมองแน่ๆ!
ฉ่หลิงเหยาหัวเราะจนตัวเองเจ็บท้องน้อย
“สหาย ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ตํารวจชรามองไปที่เจียงเฉิน”
“มันเป็นแบบนี้”
เจียงเฉินสรุปเรื่องทั้งหมดให้ฟัง “ผมเป็นคนขับรถรับจ้างเขาก็เข้ามาขโมยสร้อยคอเพรชของลูกค้าของผท ผมเองก็กล้าหาญพอที่จะไล่ตามเขามาเขาที่ไม่รู้จะทํายัง ไงก็เลยเข้ามามอบตัวเรื่องมันก็เป็นแบบนี้!”
“การกระทําของผมมันเป็นสิ่งที่ชอบธรรมแล้วใช่ ไหมล่ะ?”
หัวขโมยอาเฟยรู้สึกเสียใจเขาทรุดตัวลงกับพื้น “นายส่งทั้งเฮลิคอปเตอร์ หน่วยรบพิเศษแล้วก็เรือเร็วลาดตระเวนมาไล่ตามฉันนายยังกล้าพูดคําว่าชอบธรรมอีกหรอ? นาย มันไม่ใช่คนแล้ว!”
หัวขโมยอาเฟยร้องออกมา ฉ่หลิงเหยาที่เห็นก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
เขาตลกจังเลย!
แต่มันก็จริง!
เจียงเฉินเรียกหน่วยรบพิเศษมาเพื่อจัดการกับเขา!วิ่งไล่ล่าเขาจนไม่มีที่ซ่อน!
นี่ยังเรียกว่ากล้าหาญได้อีกหรอ?
ถ้ากล้าหาญจริงก็ต้องมาสู้เองตัวต่อตัวไม่ใช่หรอ?
ดวงตาของฉ่หลิงเหยาบิดจนโค้งเป็นพระจันทร์
ตํารวจชรามองดูด้วยความตกตะลึง “ที่เขาพูดจริงหรอ? เฮลิคอปเตอร์เรือลาดตระเวน?”
เจียงเฉินโบกมือ “ไม่ต้องไปฟังเรื่องไร้สาระหรอกครับตอนนี้ผมขับแค่รถ Audi ไม่มีมากกว่านี้อีกแล้ว!”
หัวขโมยอาเฟยประท้วงออกมา“นายโกหก!นายโกหก!”
สิ่งที่ตัวเขาพูดต่างหากที่จริง
แต่โชคไม่ดีที่ไม่มีใครเชื่อเขาเลย!
ตํารวจพากันมองไปที่อาเฟย หัวขโมยที่กําลังบ้าไปแล้ว
แน่นอนแล้วว่า…คนๆนี้มีปัญหาทางสมอง
หัวขโมยอาเฟยรู้สึกขมขึ้นแต่ก็พูดออะไรออกไปไม่ได้!
ทันใดนั้นตํารวจคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมา “เอ๋! ไม่นะ! เขาคืออาชญากรระดับ A+ หัวขโมยอาเฟย!”
“อะไรนะ?!”
ตํารวจทั้งสถานนีตกตะลึง!
“กว่าจะจําฉันกันได้นะ!”
หัวขโมยอาเฟยปาดน้ําตาออก “ขอร้องล่ะเอาฉันเข้าไป
ตํารวจชรา “เอาเขาเข้าไป!”
หัวขโมยอาเฟยถอนหายใจออกมาในที่สุดเขาก็หนีอีกฝ่ายพ้นแล้ว
ในเวลานี้เองตํารวจชราก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง เพราะเขานั้นรู้ฝีมือของหัวขโมยอาเฟยดี!
ตํารวจชราถามเจียงเฉิน “คุณคงไม่ใช่คนขับรถธรรมดาๆใช่ไหม? คนเมื่อกี้น่ะฝีมือไม่เบาเลยนะ!”
เจียงเฉินคิดอยู่ซักพักก่อนจะพูดออกมา “ลืมไปเถอะ ผมไม่อยากเปิดเผยตัวจริงๆแล้วผมเป็นตํารวจอาชญากรรม!
บ้าไปแล้ว ตํารวจอาชญากรรมงั้นหรอ?
ต้องเป็นตํารวจแบบไหนกันถึงเก่งได้ขนาดนี้ กรมตํารวจยังขาดแคลนคนแบบนี้อยู่มากจริงๆ!
ตํารวจพากันตกตะลึงไปซักพักก่อนที่จะพากันเริ่มชื่นชมอีกฝ่าย
ตํารวจชราจับมือของเจียงเฉินอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณสําหรับความร่วมมือของคุณมากจริงๆ ผมจะมอบโล่แห่งความกล้าหาญให้คุณเองช่วยทิ้งข้อมูลติดต่อไว้ให้หน่อยได้ไหมผมจะได้ติดต่อกลับไป!”
เจียงเฉินไม่ได้ปฏิเสธเขาทิ้งข้อมูลการติดต่อเอาไว้
ในเวลานี้เอง ตํารวจที่ดูกล้าหาญคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาก่อนจะพูดอย่างกังวล“ผมได้รับรายงานมาจากเพื่อนร่วมงานจากหลงเฉิงว่ามีอาชญากรระดับ A+ ได้เข้ามาที่เขตหมิงเฉิง รีบออกจากไปจับเขากันเร็วเข้า!”
ตํารวจชราพูดอย่างใจเย็น “ซูหยิง อย่าเอะอะแบบนี้ เราจับเขาได้แล้ว!”
ดวงตาของซูหยิ่งเบิกกว้าง “จับได้แล้ว? ใครจับเขาได้กัน?”
ตํารวจชรายิ้มออกมา “ใช่แล้วจับได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตํารวจคนนี้เป็นคนบีบให้เขาเข้ามาที่สถานนีตํารวจของเรา”
ซูหยิงมองไปที่เจียงเฉินมันใดนั้นดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยประกาย!
ว้าว— หนุ่มหล่อราวกับเทพบุตรคนนี้เป็นตํารวจจริงๆหรอ?!
อีกฝ่ายเป็นถึงอาชญากรระดับ A+ เชียวนะ!
ต่อให้ทีมตํารวจอาชญากรรมก็คงทําอะไรเขาไม่ได้มาก!แต่ก็ยังโดนเขาจับ?
ถ้าฉันได้แฟนที่เก่งแบบนี้ไม่แน่ว่าฉันซูหยิงคนนี้อาจจะ ได้เลื่อนขั้นแบบรวดเร็วก็ได้?!
ตกหลุมรักแล้ว
ซูหยิงถามด้วยน้ําเสียงหวานๆแบบสาวน้อย “คุณตํารวจคะ- คุณชื่ออะไรหรอ?”
เจียงเฉินตอบเบาๆ “ผมแซ่เจียงครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”
“งั้นให้ฉันไปส่งไหมคะ?”
ซูหยิงกระตือรือร้นมากแต่เธอก็ยังโดนเจียงเฉินปฏิเสธ!
เจียงเฉินและนุ่หลิงเหยาออกจากสถานนีตํารวจไปด้วยกัน
ลู่เหยาหลิงถือสร้อยเพรชไว้ในมือของเธอและอดยิ้มออกมาไม่ได้
เธอมองไปที่เจียงเฉินด้วยความอยากรู้
ผู้หญิงแบบไหนกันนะที่คนลึกลับอย่างเจียงเฉินจะชอบ?
ขนาดตํารวจที่เป็นดอกไม้งามพยายามช่วยเขาเขาก็ยังปฏิเสธอย่างเย็นชาเลย
และที่มากไปกว่านั้นเขานั้นไม่กลัวอันตรายอะไรทั้งนั้นในขณะที่เขาจับกุมคนร้าย!
นี้มันจะหล่อเกินไปแล้ว!
ขับรถกลับมาที่หลงเฉิง เขาขับไปส่งลู่หลิงเหยาที่ถังเฉินผินฮวาการ์เด้นก่อน
เธอดูไม่ค่อยเต็มใจที่จะกลับเข้าไปในบ้าน
เจียงเฉินฟังเพลงเบาเพื่อนผ่อนคลายอารมณ์สัน
รู่หลิงเหยาส่งข้อความมาทาง Wechat
“เจียงเฉิน ขอบคุณมากนะที่ช่วยฉันเอาสร้อยกลับมาฉันรู้สึกปลอดภัยมากๆเลยเวลาที่ได้อยู่ข้างๆนาย!”
“ครั้งหน้าเราไปเดทกันไหม?”
ฉ่หลิงเหยารีบเปลี่ยนคําพูดของเธออย่างรวดเร็ว “ไม่ ไม่ ไม่ ฉันหมายถึงฉันจะเรียกใช้บริการจากนายอีก!”
เจียงเฉินยิ้ม “ครับ ถ้าผมออกมาทํางานก็ไม่มีปัญหา”
ในเวลานี้เอง ข่าวเรื่องคนขับจับอาชญากรระดับ A+ ที่มีหมายจับก็ได้แพร่ออกไปตามเอเจนซีข่าวมากมาย
สํานักข่าวมากมายก็เร่งรีบพากันมาที่สถานนีตํารวจหมิง เฉิงเพื่อทําข่าวกันทันที!
พวกเขาต่างก็พยายามที่จะเป็นผู้ที่ได้ทําข่าวเรื่องนี้เป็นสํานักข่าวแรก!
คนขับรถตี้ตี้ความกล้าหาญเพื่อความชิบธรรม+อาชญากรระดับ A+!
ข่าวนี้จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่!
เฉาเหว่ยเหลียงหัวหน้าบรรณาธิการของข่าวภาคเย็นของหมิงเฉิงก็เร่งมาที่สถานนีตํารวจหมิงเฉิงโดยที่มีนัก ข่าวตามกันมาไม่หยุดไม่หย่อน!
ในห้องขัง
ซูหยิงกําลังจับตาดูการสัมภาษณ์
เฉาเหว่ยเหลียงกําลังมองไปที่หัวขโมยอาเฟย ดวงตาของเขาเป็นประกาย!
ภาพลักษณ์ภายนอกของคนๆนี้ดูดุร้ายมาก ถ้าสู้กับเขาคงไม่พ้นบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็อาจจะถึงตายเลยก็ได้
ถ้าเป็นคดีแบบนั้น การสีมภาษณ์พิเศษแบบนั้นก็คงไม่พ้นดังระเบิดเป็นพลุแตกแน่!
ทั้งชื่อเสียงและเงินทองกําลังจะไหลมาแล้ว
เขาถมือไปมาอย่างมีความสุขก่อนจะเริ่มสัมภาษณ์!
เฉาเหว่ยเหลียง “อะไรเป็นสาเหตุให้คุณก่ออาชญากรรมครับ?
แรงจูงใจในการก่อเหตุงั้นหรอ?
อาเฟยอึ้งไปครู่หนึ่ง “สร้อยคอของสาวสวยคนนหนึ่งที่มีราคากว่า 5 ล้านหยวน ฉันเป็นโจรฉันก็ต้องไปขโมยอยู่แล้ว!”
โอเค! คําตอบนี้น่าพอใจมาก!
โจรคนนี้เอาเรื่องเลยทีเดียว!
“งั้นคุณช่วยเล่ารายละเอียดหน่อยได้ไหมครับ?”
เฉาเหว่นเหลียงมองอย่างคาดหวัง “คุณใช้มีดสู้กับเขายังไง?แล้วเขาจับคุณได้ยังไงกัน? แล้วตอนเขาสู้กับคุณอย่างกล้าหาญได้ยังไง?”
“กล้าหาญหรอ?”
หัวขโมยอาเฟยโมโหมากเมื่อเขาคิดย้อนกลับไป “เรื่องน่าตลกอะไรกันมันไม่การสู้กันอย่างกล้าหาญอะไรแบบนั้นหรอก!”
“อะไรนะ?”
เฉาเหว่ยเหลียงผิดหวังมาก “คุณไม่ได้สู้กับเขาอย่างกล้าหาญงั้นหรอ? เขาไม่ได้สู้เป็นตายกับคุณด้วยมือเปล่าอย่างกล้าหาญงั้นหรอ?”
“ผายลมอะไรออกมากันหะ!”
หัวขโมยอาเฟยดูเศร้าและขุ่นเคืองจนควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ “เห็นได้ชัดเลยว่าฉันต้องสู้กับหน่วยรบพิเศษมือพระกาฬทั้งกองร้อยที่เขาเรียกมาด้วยมือเพียงข้าง เดียว!ฉันโดนพวกมันเล่นงานจนเกือบตายเลยนะ!”
“???”
เฉาเหว่นเหลียงหันไปมองหน้ากับนักข่าวที่เขาพาเข้ามาด้วยใบหน้าของพวกเขาโง่งม
จู่ๆบรรยากาศก็เงียบลง!
“เป็นไปไม่ได้! อย่าพูดอะไรไร้สาระออกมาหน่อยเลย!”
เฉาเหว่ยเหลียงตบลงบนโต๊ะก่อนจะพูดอย่างโมโห “เขาจะไปหาหน่วยรบพิเศษแบบนั้นมาได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นแค่คนขับรถตี้”
“สิ่งที่ฉันพูดไปคือเรื่องจริง!!”
หัวขโมยอาเฟยเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและขุ่นเคืองเขาร้องไห้ออกมา “ไม่ใช่แค่หน่วยรบพิเศษเท่านั้นแต่ยังมีเฮลิคอปเตอร์อีก 3 ลําเรือเร็วติดอาวุธแถมยังมีหน่วยพิเศษอีกนับโหลที่ติดอาวุธเต็มพิกัดพวกเขาไล่ตามฉันเป็นร้อยกิโลเมตร! ถ้าไม่ใช่เพราะไหวพริบและสายตาที่เฉียบแหลมของฉันที่วิ่งเข้ามามอบตัวฉันคงโดนพวกมันจับไปทรมาณจนตายแล้ว!”
่
เฉาเหว่ยเหลียง “…”
ซูหยิง “”
นักข่าว “…”
ทั้งสามกําลังมึนงง
คนๆนี้คงมีอาการผิดปกติที่สมองใช่ไหมถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมา?
คอมเม้นต์