ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – ตอนที่ 72 หลี่ชงซานใกล้ตายอีกครั้ง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ ตอนที่ ตอนที่ 72 หลี่ชงซานใกล้ตายอีกครั้ง อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“ไสหัวไปซะ!”

อวี้ฮ่าวหราน ตะโกนไล่พวกแก็งค์นักเลงที่นอนร้องโอดโอยด้วยสีหน้าเย็นชา

อู่ปิง และบรรดาลูกน้องของเขาทั้งหวาดกลัวทั้งประหลาดใจกับการที่ อวี้ฮ่าวหราน ยอมปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้ แต่ในเมื่อฝั่งตรงข้ามยอมปล่อยพวกเขาไปพวกเขาจึงรีบกระเสือกกระสนลุกขึ้น และพากันหิ้วปีกกันและกันวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ไปเร็ว! พวกเรารีบถอย ๆ”

พวกเขาไม่อยากที่จะรั้งอยู่ต่อไปอีกแม้เพียงเสี้ยววินาที

ฝั่งตรงข้ามน่ากลัวเกินไปสำหรับพวกเขา การที่ อวี้ฮ่าวหราน อัดพวกเขาจนราบคาบได้ภายในเวลาไม่เกิน1นาทีมันทำให้พวกเขาคิดว่า อวี้ฮ่าวหราน เป็นปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรก

แต่แล้วก่อนที่ อู่ปิง จะหนีไปไดไกล มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นในหัวของ อวี้ฮ่าวหราน เขารีบพุ่งตัวตามทัน อู่ปิง ในพริบตาไปขวางอยู่ตรงหน้าและคว้าคอเอาไว้ด้วยสีหน้าเย็นชา

“ฉันเปลี่ยนใจ ก่อนที่แกจะไปได้แกจงตอบคำถามของฉันมาก่อน ใครเป็นคนส่งแกมาเล่นงานฉัน?”

ทั้งน้ำเสียงและสายตาของ อวี้ฮ่าวหราน ตอนนี้มันน่ากลัวเป็นอย่างมากจน อู่ปิง สั่นงันงกไม่กล้าต่อต้านแม้แต่น้อย เขารีบตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทันที “น..น้อง..เอ๊ย.ม..ไม่ใช่..พี่ชาย ผมผิดไปแล้ว ลูกพี่เซี่ยเป็นคนส่งผมมา ผมไม่ใช่คนต้นคิด! ได้โปรดยกโทษให้ผมเถอะ!”

สีหน้าของ อู่ปิง ตอนนี้ใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ ความโอหังที่เขามีในตอนแรกมันหายไปหมดไม่หลงเหลืออยู่เลย

ชาตินี้ฉันคงทำบาปมามากสินะ ฉันถึงได้ต้องมาเจอกับปีศาจตนนี้แบบนี้!

“คนแซ่เซี่ย อีกแล้วงั้นเหรอ?”

อวี้ฮ่าวหราน พึมพำกับตัวเอง เขาจำได้ว่าพวกแก็งค์ทวงหนี้ที่เคยมาก่อกวน สวีรุ่ย เคยเอ่ยชื่อนี้มาแล้ว

“พ…พี่ชาย โปรดปล่อยฉันไปได้ไหม?”

เมื่อเห็นว่า อวี้ฮ่าวหราน แสดงสีหน้าพึงพอใจกับคำตอบ อู่ปิง จึงใช้โอกาสนี้ขอร้องให้ปล่อยเขาไปอีกรอบ เขารู้สึกอยากไปจากตรงนี้แทบใจจะขาด

“ไสหัวไปได้แล้ว!”

อวี้ฮ่าวหราน ตวาดขึ้นพร้อมกับโยนร่างของ อู่ปิง ออกไปจากมือราวกับโยนขยะจากนั้นเขาเดินกลับไปหา หลี่หรง และ ถวนถวน

“เย้ ๆ พ่ออัดพวกคนเลวได้หมดเล้ย! พ่อของ ถวนถวน สุดยอดที่สุด!”

ถวนถวน ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบานเมื่อเห็นพ่อของเธอกำลังเดินกลับมาหาพร้อมกับชัยชนะ

“พี่เหนื่อยรึเปล่า? พลาดโดนตีบ้างไหม?”

หลี่หรง เอ่ยถามขึ้นเช่นกัน แต่สีหน้าของเธอไม่ได้กังวลอะไรมากนักและคำถามของเธอก็ออกเป็นแนวแบบรู้อยู่แล้วว่า อวี้ฮ่าวหราน จะต้องจัดการคนพวกนี้ได้แน่นอนแต่เขาเผลอโดนตีไปบ้างสักทีสองทีรึเปล่าก็แค่นั้น

หลังจากที่เธอเห็นความมหัศจรรย์ของพี่เขยของเธอมาหลายรอบเธอจึงมั่นใจว่าต่อให้ฝั่งตรงข้ามมีคนมากกว่านี้เท่าตัว พี่เขย ของเธอก็สามารถจัดการได้อย่างสบาย ๆ

หลังจากพวกของ อู่ปิง จากไปบรรดาพวกนักท่องเที่ยวที่ถูกไล่ออกไปก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ เดินกลับมาดูสถานการณ์เพราะพวกเขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เมื่อครู่พวกเขาเห็นเต็มสองตาว่าพวกกลุ่มนักเลงที่ดูน่ากลัวในตอนแรก กลับพากันหนีออกไปด้วยสภาพสะบักสะบอม

อวี้ฮ่าวหราน ไม่ได้สนใจสายตาของฝูงชนที่กลับมาดูสถานการณ์แม้แต่น้อย เขายิ้มให้กับหลี่หรงและตอบกลับว่าเขาไม่เป็นไร จากนั้นเขาเอา ถวนถวนที่อยู่ในอ้อมอกของ หลี่หรงมาอุ้มไว้เอง

“เป็นยังไง ถวนถวน พ่อเก่งไหม?”

“ช่าย! พ่อของหนูเก่งที่สุด!”

“ไปกันเถอะ พวกเราไปดูเสือตัวใหญ่ ๆ ที่ลูกอยากดูกันดีกว่า!”

เมื่อพูดจบ อวี้ฮ่าวหราน พาครอบครัวของเขาเดินตรงดิ่งไปที่ส่วนที่มีแต่กรงเสือชนิดต่าง ๆ

“พ่อ ดูสิเสือตัวนั้นมันกำลังยิงฟันให้หนูด้วย!”

ถวนถวน ตะโกนด้วยสีหน้าตื่นเต้น เด็กน้อยพูดขึ้นมาอย่างไร้เดียงสาไม่รู้ว่าควรใช้คำว่า ‘แยกเขี้ยว’ มันถึงจะถูกต้อง

แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไรเธอเพราะเรื่องการใช้คำผิดมันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยสำหรับเด็กอายุ5ขวบ ทำไมต้องทำลายบรรยากาศดี ๆ กับอีแค่เด็กพูดผิดแค่เพียงเล็กน้อยด้วยล่ะจริงไหม?

หลี่หรง ใช้โอกาสนี้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปหมู่กับ ถวนถวน และ อวี้ฮ่าวหราน

แต่แล้วในทันทีที่เธอกดถ่ายรูปเสร็จ โทรศัพท์ของเธอกลับมีสายเข้า

“กริ๊งง…”

“ฮัลโหล? ฉันหลี่หรง นั่นใคร?”

“หลี่หรง เธอรีบมาที่บ้านหลักเดี๋ยวนี้ พวกเรากำลังมีปัญหาใหญ่!”

“หะ!?”

เมื่อคนที่โทรมาพูดจบประโยคนี้เขาก็วางสายไปโดยไม่อธิบายอะไรต่อซึ่งมันดูเหมือนว่าที่อีกฝั่งน่าจะกำลังมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น จนคนโทรมาตื่นตระหนกสุดขีด

สีหน้าของ หลี่หรง เปลี่ยนเป็นกังวลอย่างรุนแรงทันที เธออดไม่ได้ที่จะเดาไปต่าง ๆนานาว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่บ้านหลักกันแน่

“พวกเราไปกันเดี๋ยวนี้เลยก็แล้วกัน นี่พวกเราก็เดินเที่ยวมาจนแทบจะครบหมดแล้ว และอีกอย่างจากน้ำเสียงของคนที่โทรมาน่าจะเป็นเรื่องด่วน พวกเรารีบไปดูจะดีกว่าว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

อวี้ฮ่าวหราน ซึ่งได้ยินคำพูดของคนที่โทรเข้ามาหา หลี่หรง อย่างชัดเจนเช่นกัน เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลตามไปด้วยเพราะตอนนี้ตระกูลหลี่นับได้ว่าอยู่ภายใต้การดูแลของเขาแล้ว

“อืม!”

หลังจาก หลี่หรง พยักหน้าตกลงทั้งสามคนก็รีบเดินออกจากสวนสัตว์และขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านหลักตระกูลหลี่ทันที

ในระหว่างทาง หลี่หรง ก็โทรกลับไปถามญาติ ๆ ว่าที่บ้านหลักมันเกิดอะไรขึ้นวึ่งต่อมาเธอก็ได้ข้อมูลมาว่าพ่อของเธอล้มป่วยอีกแล้ว

เมื่อได้ยินเช่นนี้มันทำให้ หลี่หรง รู้สึกกังวลจนแทบอยากจะร้องไห้ พร้อมกับภาวนาขอให้พ่อของเธอไม่เป็นอะไรมาก

อวี้ฮ่าวหราน ซึ่งได้ยินเช่นกันเขาก็ยิ่งขับรถเร็วมากขึ้นเพราะความกังวล

1ชั่วโมงต่อมา อวี้ฮ่าวหราน ก็ขับรถไปถึงบ้านหลักตระกูลหลี่

เมื่อไปถึง อวี้ฮ่าวหราน รีบพา หลี่หรง และ ถวนถวน เดินตรงเข้าไปในห้องโถงหลักของคฤหาสน์ ซึ่งเขาก็ได้เห็นว่าตอนนี้มีสมาชิกของตระกูลมารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้วหลายสิบคนด้วยสีหน้ามืดหม่น

อวี้ฮ่าวหราน ขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นภาพนี้

“พ่อของฉันเป็นยังไงบ้างตอนนี้?” หลี่หรง รีบวิ่งเข้าไปถามญาติผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุดทันทีด้วยสีหน้ากังวล

“เฮ้อ ชงซาน ตอนนี้ยังหมดสติอยู่เลย พวกหมอบอกว่าเขามีชีวิตอยู่ได้ไม่พ้นวันนี้!”

“อะไรนะ? พ่อ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่หรง ตะโกนลั่นทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เธอไม่คิดว่าอาการป่วยของพ่อเธอจะรุนแรงถึงขนาดนี้

ทางด้านของ อวี้ฮ่าวหราน ที่ได้ยินก็รู้สึกประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เขาใช้พลังวิญญาณรักษาอาการป่วยของ หลี่ชงซาน ไปแล้วนี่นา ตอนนี้มันกลับมาเป็นใหม่อีกได้ยังไง? มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ไปได้!

“พ่อของฉันอยู่ที่ไหน เร็วเข้ารีบพาฉันไปหาเขาเดี๋ยวนี้!” หลี่หรง ตะโกนขึ้นเสียงดังราวกับคนสติหลุด

“ชงซาน ตอนนี้อยู่ที่ห้องนอนของเขา พวกหมอกำลังดูอาการเขาอยู่ตอนนี้”

เมื่อได้รับคำตอบ หลี่หรง ไม่สนใจแล้วว่าในตอนนี้พวกหมอกำลังทำอะไรกับพ่อเธออยู่ก็ตาม เธอรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองและตรงดิ่งไปที่ห้องนอนของพ่อเธอทันที

อวี้ฮ่าวหราน เมื่อเห็นเช่นนี้ก็รีบวิ่งตามขึ้นไปเหมือนกันพร้อมกับอุ้ม ถวนถวนไปด้วย

อวี้ฮ่าวหราน ยังคงมีคำถามคาใจอยู่มากเพราะเมื่อวันสองวันก่อน หลี่ชงซาน ยังดูปกติดีอยู่เลย แต่พอมาวันนี้ไหงเขากลับกำลังจะตายอย่างกระทันหัน?

ที่ด้านในห้องนอน

หลี่ชงซาน นอนหมดสติอยู่บนเตียงด้วยลมหายใจแผ่วเบาราวกับใกล้จะตายอยู่รอมร่อ

หลี่จิงเทียน และคนอื่น ๆ ที่อยู่ในห้องต่างแสดงสีหน้าหดหู่กันหมด

“พ่อ!”

หลี่หรง รีบโผตัวเข้าไปหาพ่อเธอที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงทันทีพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเธอย่างไม่ขาดสาย

“พ่อ! พ่อ ฟื้นขึ้นมาตอบหนูหน่อย! พ่อเป็นอะไร! พ่อจะทิ้งหนูไปแบบนี้ไม่ได้นะ!”

เธอทำใจไม่ได้จริง ๆ เมื่อสองวันก่อนนี้พ่อของเธอยังดี ๆ อยู่เลยแถมเธอเพิ่งจะคืนดีกับพ่อเธอได้ไม่นานมานี้ซึ่งเธอมีความสุขมาก ๆ แต่ตอนนี้พ่อของเธอกลับกำลังจะตาย

เรื่องแบบนี้เธอจะรับมันได้ยังไง!

“หมอ! พวกคุณทำอะไรกันอยู่ทำไมถึงไม่รักษาพ่อของฉันให้หาย!”

ด้วยความสิ้นหวัง หลี่หรง หันมาจ้องเขม็งที่พวกหมอ3คนที่ยืนเรียงแถวกันด้วยสีหน้ามืดหม่น

“พวก…พวกเราพยายามที่สุดแล้ว พวกเราใช้วิธีการตรวจทุกอย่างแล้วแต่พวกเราก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ประธานหลี่เจ็บป่วยด้วยโรคอะไร!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่หรง ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม

ในเวลาเดียวกัน อวี้ฮ่าวหราน ซึ่งกำลังมองดูร่างของ หลี่ชงซานอยู่ด้วยเนตรเทวะ เขาขมวดคิ้วแน่นทันที

ดูเหมือนมีบางอย่างปิดกั้นช่องทางหลอดลมของ หลี่ชงซาน ซึ่งถ้าปล่อยไว้อีกสักชั่วโมงหลอดลมของ หลี่ชงซาน คงถูกอุดจนมิดและเขาจะขาดใจตายในที่สุด

เห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหราน สรุปได้อย่างรวดเร็วว่านี่ไม่ใช่อาการป่วยอะไรทั้งนั้น!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด