ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – ตอนที่ 140 สินค้าลอกเลียนแบบ
เมื่อเห็นโลโก้เฉพาะของบริษัทตัวเองบนฮาร์ดดิสก์ อวี้ฮ่าวหรานก็อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิด
“ฮึ่ม! สารเลวจริงๆ”
ครั้งนี้เจิ้งเหวยกัวเกือบสร้างวิกฤตครั้งใหญ่ให้กับบริษัทของเขาได้สำเร็จแล้ว!
“นี่คุณหยุดเดี๋ยวนี้! ใครให้คุณยุ่งกับข้อมูลบริษัทของเรา!”
ในขณะเดียวกัน จู่ๆ เสียงของผู้หญิงที่สูงแหลมจนน่ารำคาญหูก็ดังขึ้นไม่ไกลจากอวี้ฮ่าวหราน
“หืม?”
อวี้ฮ่าวหรานหันไปมองและพบว่าฝั่งตรงข้ามเป็นหญิงวัยหมดประจำเดือนที่แต่งหน้าหนาเตอะ
“คุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องสิ่งของทุกอย่างในนี้ทั้งนั้นถ้าคุณไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ออกไปซะไม่งั้นฉันจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย!”
กิริยาของหญิงปากจัดคนนี้ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับการออกคำสั่งเป็นอย่างมาก หลังจากตวาดเสียงดังเสร็จแล้วเธอยังเดินเข้ามาหาทำท่าทางว่าจะจับคอเสื้ออวี้ฮ่าวหรานแล้วลากเขาออกไปอีกต่างหาก!
เพี๊ยะ!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ อวี้ฮ่าวหรานโต้ตอบทันทีด้วยหลังมือ!
วันนี้เขาจะไม่อดทนกับคนในบริษัทนี้แม้แต่คนเดียว!
“ฮ่า! สะใจจริงๆ ที่มีคนตบยัยแม่มดแก่สักที!”
“พระเจ้า ชายหนุ่มคนนี้มาจากไหนกัน เขาไม่กลัวยัยแม่มดนั่นเลยแหะ สุดยอดไปเลย!”
“เมื่อวานนังแก่นั่นก็เพิ่งดุฉันไป สมควรแล้วที่มันโดนตบสั่งสอนซะบ้าง!”
พนักงานที่อยู่ในแผนกหลายที่มองเห็นเหตุการณ์นี้ต่างยิ่มร่าอย่างพึงพอใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะตกตะลึงที่จู่ๆ อวี้ฮ๋าวหรานก็บุกเข้ามา แต่พวกเขาก็ได้สติอย่างรวดเร็วจากเหตุการณ์ที่คนที่พวกเขาเกลียดโดนตบสั่งสอน
“…”
หลังจากโดนอวี้ฮ่าวหรานตบไปเต็มๆ จนล้มลงไปกับพื้น ผู้หญิงปากจัดพลันตวาดลั่นทันทีด้วยสีหน้าเดือดดาล
“นี่แกกล้าดียังไงถึงตีฉันแบบนี้ไอ้สารเลว! ฉัน…ฉัน…จะฉีกแกออกเป็นชิ้นๆ ให้ได้คอยดู!”
ผู้หญิงปากจัดคนนี้ดูเหมือนจะไม่เคยถูกสั่งสอนมาก่อน ดังนั้นเธอจึงรู้สึกอับอายจนสติหลุด เธอลุกขึ้นพรวดพุ่งเข้าไปหาอวี้ฮ่าวหราน ต้องการจะข่วนหน้าเขาให้ยับคามือ!
โครม!
อวี้ฮ่าวหรานแสดงสีหน้ารังเกียจพร้อมกับถีบหญิงปากจัดที่กำลังขาดสติกระเด็นออกไปไกลหลายเมตร
ปากของหญิงปากจัดคนนี้มันน่ารังเกียจเกินไปจนเขาไม่ได้อยากจะได้ยินอะไรหลุดมาจากปากเหม็นๆ แบบนี้อีก เขาจึงตัดสินใจจบปัญหาน็อคอีกฝ่ายให้หมดสติไปให้สิ้นๆ เรื่อง
“เสี่ยวลี่! เป็นอะไรไป เสี่ยวลี่!”
ในขณะเดียวกัน ผู้จัดการอ้วนที่เมื่อครู่วิ่งออกไปตามพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็กลับมา และเมื่อเขาพบว่าหญิงปากจัดนอนหมดสติอยู่ที่พื้น เขาก็รีบเข้ามาประคองด้วยสีหน้าตื่นตระหนกทันที
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้จัดการอ้วนที่เคยเป็นคนขี้ขลาดก็โมโหจนมีความกล้ามากขึ้น เขายืนขึ้นประจันหน้ากับอวี้ฮ่าวหรานอย่างดุดัน
“นี่แกอย่ากำแหงให้มากนักนะ! ฉันบอกแกเอาไว้เลยว่าวันนี้แก…”
“ไสหัวออกไปให้พ้นทาง!”
อวี้ฮ่าวหรานไม่ต้องการที่จะพัวพันกับอีกฝ่ายให้เสียเวลา เขามองฝั่งตรงข้ามอย่างเย็นชาและเดินออกแผนกวิจัยไปอย่างรวดเร็ว
“ก…แกรอก่อนเถอะ!”
ผู้จัดการอ้วนหวาดกลัวกับสายตาของอวี้ฮ่าวหรานเป็นอย่างมากจนไม่กล้าขยับไปขวาง เขารอจนฝั่งตรงข้ามจากไปถึงจะกล้าพอที่จะตะโกนขู่ไล่หลัง
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหราน ขณะนี้ในเมื่อเขาได้ฮาร์ดดิสก์ข้อมูลของบริษัทตัวเองมาแล้ว เขาก็คิดได้ว่าบริษัทซานมูตอนนี้ต้องผลิตสินค้าแบบเดียวกับของเขาอยู่แน่นอน ดังนั้นเขาจึงตั้งใจว่าจะไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่แผนกการผลิตและแปรรูป
ในเวลาเดียวกัน จางเซิน ประธานบริษัทซานมู ซึ่งกำลังคุยกับ เจิ้งเหวยกัวอยู่ก็ได้รับการแจ้งจากหน่วยรักษาความปลอดภัยว่าบริษัทของเขาถูกบุกรุกและเมื่อครู่ฝ่ายวิจัยก็เพิ่งถล่มจนเละ แถมตอนนี้ผู้บุกรุกกำลังมุ่งหน้าไปที่ฝ่ายการผลิตอีกต่างหาก!
ข่าวนี้ทำให้เขากับเจิ้งเหวยกัวตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญของแผนการของเขา แต่ตอนนี้กลับมีคนบุกเข้ามาซะแล้ว!
เมื่อได้ยินข่าวนี้ เจิ้งเหวยกัวพลันรีบพูดขึ้นอย่างเร่งร้อน “ประธานจาง พวกเรารีบไปดูกันก่อนดีกว่า!”
“บ้าเอ๊ย! กับอีกแค่คนๆ เดียวไอ้พวกรปภ.ขยะนั่นกลับกันเอาไว้อยู่! นี่ฉันยอมจ่ายพวกมันแพงๆ ไปทำบ้าอะไรกัน! หลังจากนี้ฉันจะต้องไล่พวกมันทุกตัวออกไปให้หมด!”
สีหน้าของจางเซินมืดหม่นอย่างมาก เขาสบถด่าหน่วยรักษาความปลอดภัยราวกับขยะ
อย่างไรก็ตาม แม้ปากจะผรุสวาทแต่คำก่นด่า ฝีเท้าของเขากลับไม่ได้ช้าลงเลย ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเขาจะต้องไม่ปล่อยให้อวี้ฮ่าวหรานหาหลักฐานได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกจับในคดีขโมยข้อมูลความลับทางการค้ามูลค่าหลายร้อยล้านซึ่งมันเพียงพอทำให้เขาติดคุกหัวโตไปได้เป็นสิบๆ ปี!
อายุของเขาเองก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว หากติดคุกเป็นสิบปีมันก็ไม่ต่างอะไรกับโดนโทษประหารชีวิต
ในเวลาเดียวกัน อวี้ฮ่าวหรานก็เดินไปถึงแผนกการผลิตเรียบร้อย
มีผู้คนจำนวนมากอยู่ด้านในนั้น พวกเขากำลังใช้งานเครื่องจักรทุกเครื่องอย่างเต็มประสิทธิภาพ
อวี้ฮ่าวหรานที่เห็นแบบนั้นขมวดคิ้วแน่นในขณะที่เขาหยิบสินค้าที่เพิ่งผลิตเสร็จในสายการผลิตออกมา เขาพบว่าไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือคุณภาพ สินค้าเหล่านี้มันเหมือนกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทเขา 99%!
หากสินค้าพวกนี้ถูกวางขายในตลาด มันจะมีผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของเครือฮ่าวหราน!
“หยุดทุกอย่างเดี๋ยวนี้!!”
อวี้ฮ่าวหรานตะโกนขึ้นเสียงกังลั่น เขาโกรธจนควันแทบออกหูเมื่อคิดย้อนไปว่ารอบนี้เจิ้งเหวยกัวเกือบทำให้บริษัทของเขาเสียหายอย่างใหญ่หลวง!
น่าเสียดายที่เขาเป็นเพียงคนนอก ดังนั้นพวกพนักงานจึงไม่สนใจคำสั่งของเขาเลย
พนักงานยังคงทำงานของตัวเองไปพลางมองอวี้ฮ่าวหรานเหมือนคนปัญญาอ่อนคนหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจตัวเอง อวี้ฮ่าวหรานจึงเดินเข้าไปที่เครื่องจักรตัวหนึ่งที่อยู่ที่สุดแล้วกระชากสายไฟของมันออก ซึ่งการกระทำนี้ในที่สุดก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้สำเร็จ
“อวี้ฮ่าวหราน!”
แต่ในขณะเดียวกันนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดดังขึ้นไล่หลังมา!
เสียงตะโกนนั้นไม่ใช่ของใครอื่นนอกจากเป็นของจางเซิน ประธานบริษัทซานมู และเจิ้งเหวยกัวที่เพิ่งมาถึง!
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหราน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นหน้าจางเซินมาก่อน แต่เมื่อเห็นเจิ้งเหวยกัวเดินตามหลังอีกฝ่ายมา เขาก็พอเดาได้แล้วว่าชายแก่คนนี้เป็นใคร
“ฮึ่ม! อวี้ฮ่าวหราน วันนี้ฉันจะเอาแกเข้าตาราง! แกบุกเข้ามาในบริษัทของฉัน ขโมยเอกสารลับของบริษัทฉัน แถมแกยังทำลายทรัพย์สินของบริษัทฉันอีกต่างหาก วันนี้แกไม่รอดแน่!” จางเซินพ่นลมหายใจด้วยความเดือดดาล
อวี้ฮ่าวหรานที่ได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ไอ้แก่คนนี้นี่มันไร้ยางอายไม่ต่างอะไรกับเจิ้งเหวยกัวเลย!
“นี่ไอ้แก่? แกลืมไปแล้วรึไงว่าฮาร์ดดิสก์นี่มันมีโลโก้บริษัทของฉันประทับอยู่? และนี่ยังไม่รวมไปถึงสินค้าพวกนี้ที่แกเพิ่งผลิตซึ่งมันเป็นแบบเดียวกับของบริษัทของฉันเป๊ะๆ แกคิดว่าถ้าตำรวจมา แกหรือฉันใครจะโดนจับก่อนกันล่ะ?”
คอมเม้นต์