ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – ตอนที่ 232 ครอบครองสำเร็จ
บทที่ 232 ครอบครองสำเร็จ
หลังจากอวี้ฮ่าวหรานกดส่งคำสั่งสู้ราคาออกไป ผู้คนในห้องประมูลก็ฮือฮาขึ้นอีกรอบ
“60 ล้านจากแขกผู้มีเกียรติห้อง VIP หมายเลข 4!”
“บ้าไปแล้ว! นี่ยังมีคนกล้าสู้ราคาขนาดนี้อีกงั้นเหรอ?”
“ช่างเถอะ ฉันพอแล้วก็ได้ ในเมื่อพวกคนที่อยู่ใน VIP อยากได้มันมาขนาดนี้ฉันคงไม่มีโอกาสแน่นอน”
“60 ล้าน! กำไรรวมกันสองปีของบริษัทฉันยังได้ไม่ถึงเงินจำนวนนี้เลยด้วยซ้ำ คนในห้อง VIP น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
“…”
อย่างไรก็ตาม ห้อง VIP หมายเลข 5 ก็ไม่ย่อท้อเช่นกัน
“62 ล้านจากแขกผู้มีเกียรติห้อง VIP หมายเลข 5!”
แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้ กัวหย่งซินเริ่มตึงเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะราคาที่เขาสู้นั้นไม่ได้เขยิบขึ้นไปไกลนัก
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหราน เมื่อเห็นเช่นนี้รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาทันที จากนั้นจึงส่งคำสั่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“อ…อ…เอ่อ…แขกผู้มีเกียรติห้อง VIP หมายเลข 4 สู้ราคาเป็น 70 ล้าน!”
ในตอนนี้ ผู้ดำเนินการประมูลเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อกับตัวเลขที่ตัวเองเห็น เธอเป็นผู้ดำเนินการประมูลมาหลายปีแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ราคาประมูลกระโดดมาถึงจุดนี้
แน่นอนว่าเมื่อราคากระโดดมาถึงขนาดนี้ พวกผู้คนที่ยังคงมีใจที่อยากจะสู้อยู่ต่างถอนหายใจและล้มเลิกความคิดทันที
เฮ้อ…คนบางคนก็รวยจนน่าอิจฉาจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผู้คนในห้องประมูลจะทันได้ปรับอารมณ์เป็นปกติ ห้อง VIP หมายเลข 5 ก็สู้ราคาอีกครั้ง!
“80 ล้านจากแขกผู้มีเกียรติห้อง VIP หมายเลข 5!”
คราวนี้ราคาพุ่งขึ้นมาอีก 10 ล้าน!
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนต่างลงความเห็นเดียวกันว่าห้อง VIP หมายเลข 5 ก็มุ่งมั่นที่จะได้เสื้อคลุมมังกรนี้เช่นกัน!
“หะ? ห…ห้อง VIP หมายเลข 4… 90 ล้านค่ะ!”
อวี้ฮ่าวหรานเหลือบมองห้อง VIP หมายเลข 5 ก่อนที่จะตัดสินใจส่งราคาที่น่าตกตะลึงเพื่อดับฝันอีกฝ่าย
“น…นี่มันบ้าเกินไปแล้ว!”
“ราคานี้มันพอที่จะซื้อบริษัทของฉันได้สองรอบด้วยซ้ำ!”
“…”
ผู้คนในห้องประมูลต่างวิจารณ์กันเสียงดังลั่นห้อง
แม้แต่กัวหย่งซินที่อยู่ในห้อง VIP หมายเลข 5 ก็ยังตกตะลึงและตัวสั่นกับราคาที่เขากำลังเห็น
แต่ท้ายที่สุดชายร่างอ้วนก็กัดฟันสู้อีกครั้งและกดราคาเพิ่ม!
“ข…แขกผู้มีเกียรติห้อง VIP หมายเลข 5 เพิ่มราคาเป็น 95 ล้าน!”
กัวหย่งซินคาดหวังเป็นอย่างมากว่าอีกฝ่ายควรจะมีทุนอยู่แค่ 90 ล้านเท่านั้น ไม่งั้นเขาเองก็ไม่รู้จะสู้ยังไงไหว
แต่ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานกดส่งราคาออกไปอีก
“1…105 ล้านจากแขกผู้มีเกียรติห้อง VIP หมายเลข 4!!!”
ผู้ดำเนินการประมูลตัวสั่นไปหมดหลังจากเห็นราคาประมูลนี้ นี่มันเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้าจนเธอไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เห็น!
อวี้ฮ่าวหรานตั้งใจแน่วแน่ว่าเขาต้องได้มันมาให้ได้ เขาไม่มีทางยอมแน่นอน เนื่องจากเสื้อคลุมมังกรนี้มีพลังวิญญาณแฝงอยู่หนาแน่นมากจนเท่าไหร่เขาก็ยอมจ่าย!
และนี่คือเหตุผลที่ชายหนุ่มทำงานอย่างหนักกับบริษัทของเขา เงินที่หามาได้ก็เพื่อเอามาซื้อของพวกนี้!
ราคานี้ที่อวี้ฮ่าวหรานยอมจ่ายทำให้ไม่มีใครต้องการจะประมูลสู้อีก รวมไปถึงกัวหย่งซินเองก็ถอดใจ
ท้ายที่สุด อวี้ฮ่าวหรานก็ได้เสื้อคลุมมังกรไปด้วยราคาที่สูงลิบลิ่ว
ในห้อง VIP หมายเลข 5 กัวหย่งซินเดือดดาลจนทุบโต๊ะเสียงดังลั่น เขาไม่นึกเลยว่าของที่เขาอยากได้จะถูกคนตัดหน้าไปแบบนี้
“อาเว่ย! แกไปตรวจสอบให้ฉันเดี๋ยวนี้ว่าไอ้คนที่อยู่ในห้อง VIP หมายเลข 4 มันเป็นใคร! ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นใครกันที่กล้าขัดใจฉันแบบนี้!”
อีกด้านหนึ่ง
“น้องอวี้ นายนี่ใจกล้ามากจริง ๆ ที่ลงทุนซื้อของเพียงชิ้นเดียวด้วยเงินที่มหาศาลขนาดนี้!”
หวังเหยียนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเชิดชูพลางมองไปที่กล่องอันงดงามที่เพิ่งถูกส่งเข้ามาในห้อง
ของภายในกล่องนี้มีมูลค่าถึง 105 ล้านหยวน!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดอีกที จำนวนเงินขนาดนี้มันไม่ใช่จำนวนที่ใครสักคนสามารถจ่ายออกมาได้ในทันทีใช่หรือเปล่า นี่มันเป็นจำนวนมากเกินไป อวี้ฮ่าวหรานจะสามารถจ่ายมันได้งั้นเหรอ?
“เอ่อ…น้องอวี้ อย่าหาว่าฉันล่วงเกินนายเลยนะ แต่ว่าเงินจำนวน 105 ล้านนี้มันเป็นจำนวนที่มากมายมหาศาลและบ้านประมูลจะต้องให้นายชำระเงินก่อนที่จะออกไป ฉัน…ถ้านายมีเงินในบัญชีไม่พอนายสามารถยืมจากแก๊งเราก่อนก็ได้นะ ฉันจะรีบให้หัวหน้าโจวโอนเงินให้นายทันที”
หวังเหยียนใช้โอกาสนี้พยายามสร้างความพึงพอใจให้กับอวี้ฮ่าวหราน หากอีกฝ่ายรับน้ำใจนี้ไว้ มันจะง่ายขึ้นมากหากในอนาคตแก๊งของเขาจะขอความช่วยเหลือจากชายที่แข็งแกร่งคนนี้
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเหยียน อวี้ฮ่าวหรานก็เพิ่งนึกถึงเรื่องเงินในบัญชีได้ เขารีบเปิดโทรศัพท์ขึ้นดูจำนวนเงินในบัญชี และจากนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขามีเงินพอจะจ่าย!
“คราวนี้ไม่จำเป็นหรอกฉันมีเงินพอ เอาไว้คราวหน้าหากจำเป็นฉันจะขอความช่วยเหลือก็แล้วกัน”
อวี้ฮ่าวหรานปฏิเสธอีกฝ่ายไปอย่างสุภาพ ถึงแม้ว่าเงินจำนวน 105 ล้านจะไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ สำหรับบริษัทของเขา แต่ก็ยังพอควักออกมาจ่ายได้โดยที่ยังไม่กระทบกับเงินหมุนเวียนในบริษัท
ในทางกลับกัน หวังเหยียนเมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขาถึงกับเปลี่ยนสีและอดไม่ได้ที่จะอุทานในใจ
ชายคนนี้รวยเกินไปหน่อยไหม?
ต้องรู้ว่าคนที่สามารถเอาเงิน 105 ล้านมาผลาญกับการซื้อวัตถุโบราณได้แบบนี้อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะมีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 1 พันล้าน!
นี่อวี้ฮ่าวหรานเป็นชนชั้นสูงของเมืองฮ่วยอันงั้นเหรอ?
หวังเหยียนได้แต่รู้สึกสงสัย เนื่องจากโจวเฟยหู่สั่งเอาไว้ว่าห้ามขุดคุ้ยประวัติของอวี้ฮ่าวหราน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ข้อมูลของอีกฝ่ายมากนัก
หลังจากการประมูลจบลง อวี้ฮ่าวหรานและหวังเหยียนก็พากันเดินออกจากห้อง
“น้องอวี้ ให้ฉันพาคนไปส่งนายจะดีกว่า การเดินทางกลับคนเดียวพร้อมกับของที่มีมูลค่ามากขนาดนี้มันจะทำให้นายตกเป็นเป้าได้อย่างง่ายดาย”
หวังเหยียนได้เรียกคนของเขามาเกือบสามสิบคนเพื่อรอที่จะไปส่งอวี้ฮ่าวหรานให้ถึงปลายทางอยู่แล้ว
แต่อวี้ฮ่าวหรานกลับปฏิเสธทันทีด้วยสีหน้าขบขัน
“หึหึ นายคิดว่ามันจะมีใครสามารถปล้นฉันได้งั้นเหรอ?”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็เดินออกจากบ้านประมูลไปแบบไม่แยแส
ทางด้านของหวังเหยียน เมื่อได้ยินคำพูดนี้เขาก็ได้แต่ขบขันกับคำพูดของตัวเอง คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะมีใครปล้นของไปสำเร็จได้ยังไง?
คนที่น่าเป็นห่วงคือพวกคนที่พยายามจะปล้นชายคนนี้มากกว่า!
เมื่อคิดได้เช่นนี้แล้ว หวังเหยียนจึงกลับไปพร้อมกับคนของเขา
อย่างไรก็ตามหลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานและหวังเหยียนจากไปเพียงครู่เดียว กัวหย่งซินก็เดินออกมาจากห้อง VIP หมายเลข 5
“อาเว่ย แกมั่นใจใช่ไหมว่าเป็นไอ้หนุ่มนั่น?”
“ผมมั่นใจครับท่านประธานกัว!”
“ดีมาก! ฮึ่ม! ในเมื่อมันกล้าที่จะแย่งของจากฉัน งั้นฉันจะสั่งสอนมันสักหน่อย! ไป! ตามมันไป ฉันจะเล่นงานมันให้หนัก!”
บุคลิกของกัวหย่งซินเป็นคนที่ไม่ยอมใครและโหดเหี้ยมอยู่แล้วทั้งทางด้านการทำธุรกิจและกับคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ดังนั้นเมื่อเจอกับคนที่กล้าขัดใจเขา เขาจึงตัดสินใจที่จะจัดการขั้นเด็ดขาดทันที
…
หลังจากขับรถออกจากบ้านประมูลได้ไม่นาน อวี้ฮ่าวหรานก็สังเกตเห็นว่าที่กระจกมองหลังของเขามีรถหลายคันกำลังขับตามมาอยู่
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานยิ้มอย่างเยาะเย้ย
“หึหึ พวกมดแมลงนี่มันไร้สมองจริง ๆ”
อวี้ฮ่าวหรานจงใจขับไปยังเส้นทางที่เปลี่ยวและไร้ผู้คน จากนั้นเมื่อสังเกตว่าบริเวณโดยรอบไม่น่าจะมีผู้คนอาศัยอยู่และไม่ค่อยมีคนสัญจรผ่าน เขาพลันเหยียบเบรคอย่างแรงทันที!
ทางด้านขบวนรถที่ติดตามอวี้ฮ่าวหราน เมื่อเห็นว่าเป้าหมายจู่ ๆ ก็หยุดรถ พวกเขาเองก็หยุดรถเช่นกันและรีบลงจากรถอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าคนที่ลงมาจากขบวนรถด้วยคือ… กัวหย่งซิน!
“ฮ่าฮ่า ไอ้หนุ่ม! แกนี่แสนรู้ดีเหมือนกันนี่หว่า รู้ว่าเวลาไหนควรจะหยุดรถให้กับฉันผู้นี้!”
คอมเม้นต์