ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – ตอนที่ 361 เข้าปะทะอย่างจัง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ ตอนที่ ตอนที่ 361 เข้าปะทะอย่างจัง อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 361 เข้าปะทะอย่างจัง

บทที่ 361 เข้าปะทะอย่างจัง

“อาจารย์หลิว… คุณ…. ลูกศิษย์คุณน่าทึ่งมาก! เด็กคนนี้เก่งมากเลย!”

ทุกคนต่างหันขวับมองอาจารย์สาวซึ่งนั่งเงียบอยู่ที่นั่งด้านหลัง

“ไม่ใช่แค่เก่งแล้ว! แต่เข้าขั้นอัจฉริยะเลยต่างหาก! อาจารย์หลิว! ลูกศิษย์คุณมีพรสวรรค์มาก!”

“ใช่ ฉันสอนมาหลายปี ไม่เคยเห็นเด็กคนไหนฉายแววตั้งแต่เด็กขนาดนี้เลย!”

“…”

อาจารย์หลิวเริ่มมีปฏิกิริยา ทั้งที่ผู้คนชื่นชมเธอมากมาย เธอกลับรู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้าง

เธอโดนดูแคลนมานานตั้งแต่เข้ามาเป็นอาจารย์ มีหรือจะเคยเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้?

“เพราะว่าเด็กฉลาดอยู่แล้วต่างหากค่ะ ฉันแค่สอนไปตามปกติ”

อาจารย์สาวรีบบอกอย่างถ่อมตัว

อาจารย์หวังรีบโพล่งขึ้นทันที

“ใช่แล้ว ครั้งนี้เธอแค่โชคดีได้ลูกศิษย์อัจฉริยะเท่านั้นแหละ”

ประโยคนี้ชวนปวดใจ ช่างบาดหูหลิวว่านชิงไม่น้อย และเมื่อได้ยินเช่นนี้ เธอก็อดตอกกลับไม่ได้

“ถ้าคุณเก่งนัก เจอลูกศิษย์แบบนี้สักคนไหมคะ? มาพูดจาแดกดันอะไรอยู่ได้”

คำพูดแฝงแววเหยียดหยาม เธอไม่พอใจอีกฝ่ายมานานแล้ว

“เธอ!”

อาจารย์หวังถึงกับสีหน้าเปลี่ยนเมื่อได้ยินคำตอกกลับจากอาจารย์หลิว หากแต่ไม่อาจเถียงได้

ถึงอย่างไรลูกศิษย์ตนอย่างเสี่ยวเสวี่ยก็กำลังถูกเปรียบเทียบกับศิษย์ของอีกฝ่าย

ผู้คนไม่สนใจเธอ และหันไปคุยกับหลิวว่านชิง

เสียงดนตรีจากบนเวทีค่อย ๆ แผ่วลง ถวนถวนทำการแสดงจบแล้ว!

“น่าทึ่งมาก! เด็กคนนี้เก่งสุด ๆ เลยครับ!”

ไม่ทันที่คณะกรรมการจะให้คะแนน พิธีกรออกอาการตกตะลึงอย่างหนัก ถึงกับอุ้มถวนถวนขึ้นมาพร้อมกับออกปากชมไม่หยุด

ผ่านไปเพียงครู่เดียว ไม่ต้องลุ้นแต่อย่างใด คณะกรรมการทั้งหมดให้คะแนน 10 เต็ม!

สำหรับการแข่งขันระดับเด็กแบบนี้ ฝีมือขั้นนี้ถือว่าเกินความคาดหมายไปมาก!

ต้องได้คะแนนเต็ม 10 อย่างแน่นอน!

“10 คะแนนครับ! อวี้ซินถวนได้คะแนนเต็ม 10 ไปเลยครับ!”

เสียงประกาศจากพิธีกรดังขึ้น ผู้ชมหน้าเวทีตกอยู่ในความฮือฮา ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นอัจฉริยะในการแข่งขันระดับเยาวชนเช่นนี้!

ถวนถวนอยู่ในอ้อมแขนพิธีกร หางตาสังเกตเห็นบางคนจ้องมองตนเองจากด้านหลัง

เมื่อหันมองพบว่าเป็นเสี่ยวเสวี่ย แน่นอนว่าเด็กน้อยก็อดส่งสีหน้าเยาะเย้ยตอกกลับอีกฝ่ายไม่ได้

เสี่ยวเสวี่ยเม้มปากแน่น สีหน้าตะลึงงันกลับกลายเป็นงอง้ำ มิน่า…เด็กคนนี้ถึงได้มั่นอกมั่นใจนักหนา เก่งกาจเสียขนาดนี้!

ความคิดในตอนนี้หลงเหลือเพียงตนไม่อาจเอาชนะได้

ไม่นานการแข่งขันระดับเยาวชนก็สิ้นสุดลง

เวลา 11 โมงเช้า

อวี้ฮ่าวหรานกับหลี่หรงเดินออกจากห้องโถงด้วยกัน

“มาถวนถวน…ไปฉลองกัน!”

ชายหนุ่มอุ้มถวนถวนไว้แขนหนึ่งขณะเอ่ยชวน แน่นอนว่าตั้งแต่ลูกของเขาปรากฏตัวขึ้น เธอก็เอาชนะผู้เข้าแข่งขันคนอื่นได้อย่างขาดลอย

หลี่หรงเผยสีหน้าโล่งใจ

ครั้งหนึ่งเธอเคยเข้าแข่งขันเช่นกัน คิดว่าตนเองจะคว้าชัยชนะมาให้ได้ น่าเสียดายที่ความสามารถของเธอไม่ถึง

หญิงสาวไม่คาดคิดว่าถวนถวนที่เรียนเปียโนได้เพียงเดือนกว่าจะฝีมือก้าวหน้าขนาดนี้

เรียกได้ว่าอัจฉริยะอย่างไรก็เป็นอัจฉริยะอยู่วันยังค่ำ…

เธอมีความสุขมาก เอ่ยขึ้น “วันนี้อยากกินอะไร ตามใจถวนถวนเลยจ้ะ!”

“ได้สิ แน่นอนอยู่แล้ว! ได้ที่หนึ่งทั้งที!”

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าเห็นด้วย

สวีรุ่ยเห็นครอบครัวอยู่ด้วยกัน พลันนึกได้ว่าตนเองควรขอตัวออกมา

“อวี้ฮ่าวหราน ฉันหมดธุระแล้ว ขอตัวก่อนแล้วกันนะคะ”

สถานการณ์แบบนี้ไม่อยู่รบกวนคงดีกว่า

“หืม? อย่าเพิ่งไปสิคะ ช่วงนี้ถวนถวนอยู่แต่บ้าน บอกว่าคิดถึงคุณตลอดเลย ไปกินข้าวด้วยกันสิคะ”

หลี่หรงหันไปเรียกรั้งเธอไว้ อวี้ฮ่าวหรานก็พยักหน้ารับน้อย ๆ เช่นกัน

“ใช่ครับ ไปกินข้าวด้วยกันนะครับ เรารู้จักกันมานานไม่ใช่คนอื่นคนไกลสักหน่อย”

สวีรุ่ยจึงไม่ปฏิเสธ

ถวนถวนเลือกอาหารทะเลเป็นมื้อเย็น!

ดูท่าจะเป็นของโปรดของเด็กคนนี้

พวกเขาขับรถมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารทะเลที่ใกล้ที่สุดเพื่อเฉลิมฉลองกัน

ในขณะเดียวกันหลังจากศิษย์สำนักเมฆาเขียวสามคนพ่ายแพ้กลับมา พวกเขากลับไปตั้งหลัก

เที่ยงตรงวันรุ่งขึ้นจึงกลับไปบ้านสกุลอู๋

“ไปมีเรื่องกับใครมากัน?”

ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในโถงกลาง อู๋ชิงก็ตะโกนถามลั่น

ผู้อาวุโสตระกูลอู๋ที่ได้ยินคำเขาต่างพากันนิ่งอึ้ง

“ก็แค่…แค่อวี้ฮ่าวหราน ผมจำได้ว่าประมุขตระกูลบอกว่าเขาเป็นเขยขยะของตระกูลหลี่”

“ใช่ เป็นแค่ขยะ”

สมาชิกตระกูลอู๋ข้าง ๆ กล่าวสำทับ

ผู้อาวุโสหลินหลุดขำเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“พวกนายเรียกเขาว่าขยะอย่างนั้นเหรอ?”

อยู่ในขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูง ไม่แน่อาจแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้!

ทั้งที่อายุเพียงต้นยี่สิบเท่านั้น!

ผู้ที่มีฝืมือเพียงพอให้สวรรค์ริษยาจนสร้างความอับอายขายหน้าแก่สำนักเมฆาเขียว

มนุษย์น่าขันเหล่านี้กลับเรียกอีกฝ่ายว่าขยะอย่างนั้นหรือ?

“พวกนายดีนักเหรอ?”

แม้จะเป็นคนใจเย็น ทว่าครั้งนี้ต้องออกปากต่อว่า เขายิ่งส่งสีหน้าทะมึนอยู่ข้างกายอู๋ชิง

“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกนายเป็นคนตระกูลอู๋ ฉันได้ฆ่าตายไปนานแล้ว! ผู้อาวุโสอู๋ลั่นตายเสียเปล่าจริง ๆ ! พวกนายไปสร้างศัตรูตัวฉกาจให้สำนักเมฆาเขียวแล้ว!”

พลังวิญญาณของเขาสั่นไหว คล้ายหมายจะสั่งสอนคนเหล่านี้

หากแต่เหล่าผู้อาวุโสตระกูลอู๋ไม่เข้าใจ ท้วงขึ้นอย่างไม่รู้ความ “ผิดตรงไหน ทุกคนเรียกเขาว่าเขยขยะมาตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว”

“พวกนายมันตาบอดกันไง!”

อู๋ชิงโกรธมาก ครั้งนี้เขาถูกเล่นงานรุนแรง จึงออกอาการเคร่งเครียดไม่น้อย

ทั้งหมดเป็นเพราะคนไร้หัวคิดพวกนี้!

เขารวบรวมพลังวิญญาณไว้ที่มือ ก่อนปลดปล่อยออกไปเต็มแรง!

“เดี๋ยวก่อน!”

ผู้อาวุโสหลินเห็นเช่นนั้นจึงรีบยกมือสยบพลังวิญญาณนั้น

“ตู้ม!”

พลังทั้ง 2 เข้าปะทะกันอย่างจัง โต๊ะเก้าอี้รอบข้างพลันแตกกระจาย!

ผู้อาวุโสตระกูลอู๋ตกอยู่ในอาการสั่นกลัว

พวกเขารีบคุกเข่าลงทันที

“ไว้ชีวิตฉันด้วย! ไว้ชีวิตฉันด้วย! ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฝีมืออู๋หมิ่นที่เป็นผู้นำตระกูลอู๋ก่อนหน้านี้ต่างหาก”

ตอนนี้เขานึกเสียใจขึ้นมา การเป็นผู้นำตระกูลไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป ในยามที่เอาชีวิตแทบไม่รอด

“เอาเถอะ ลุกขึ้นซะ”

ผู้อาวุโสหลินยกมือขึ้น ส่งพลังวิญญาณไปประคองอีกฝ่ายขึ้น

แม้เหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นความผิดของตระกูลอู๋ หากแต่ประมุขก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว การโทษคนอื่นคงไม่สมควรนัก

หลังถูกสกัดกั้นพลัง อู๋ชิงจึงไม่อาจอดกลั้นความไม่พอใจ

“ผู้อาวุโสหลิน ลืมความแค้นตอนที่อู๋ลั่นตายแล้วเหรอ?”

เขาไม่คิดผ่อนปรน อู๋ลั่นเป็นเพื่อนคนสนิทของเขา!

“ฉันตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้หรอก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้อาวุโสหลินก็ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนส่ายหน้า

หากมองในภาพรวมเรื่องนี้ควรยุติเสียที…

หากแต่ยังมีญาติมิตรร่วมสำนักของอู๋ลั่นอยู่ พวกเขาย่อมไม่มีทางปล่อยให้การตายของเขาไร้ค่า

“นี่… กลับไปให้เจ้าสำนักตัดสินใจเถอะ”

เขาบอกปัดใส่คนตระกูลอู๋

“ไปกันเถอะ ถึงเวลาที่เราต้องกลับไปรายงานแล้ว อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าอู๋ลั่นอยู่ที่ไหน”

พวกเขาทั้งสามคนรีบออกจากบ้านสกุลอู๋

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด