ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – ตอนที่ 371 ปิ่นหยกดำ
บทที่ 371 ปิ่นหยกดำ
บทที่ 371 ปิ่นหยกดำ
อวี้ฮ่าวหรานเหลือบมองสำรวจ เหตุการณ์ในตอนนี้ดูแปลกประหลาดไม่น้อย!
ไม่สงสัยว่าเหตุใดซูหว่านเอ๋อถึงได้บอกว่าชวนพิศวง
“หนอย! ไอ้เด็กนี่! แกไม่น่ามาลองดีกับนายน้อยอู๋ของเราเลย!” เสียงของหลี่เหอพลันดังขึ้น
ดูท่าอีกฝ่ายจะกำลังพูดถึงเขาอยู่ อวี้ฮ่าวหรานจึงรู้ทันทีว่าเป็นโลกมายา เนื่องจากอู๋เส้าฮัวตายไปตั้งนานแล้ว
ภาพหลอนนี้ไม่อาจล่อลวงเขาได้ แม้ตอนนี้เขาจะอยู่ในสภาพนี้ แต่ยังรับรู้ถึงสัมผัสที่แท้จริงได้อย่างชัดเจน
“ยังจะมาไขสืออีกเหรอ? ไอ้เวรนี่! ไม่รู้ซะแล้วว่าคู่ปรับของแกคือใคร!”
“พี่เขย! ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย!”
สุ่มเสียงคุ้นหูดังมาจากปากหลี่หรง เธอถูกมัดเอาไว้แน่นหนา แม้จะดิ้นรนเพียงไหนแต่ก็ไม่อาจเป็นอิสระได้
“เฮ้อ…อวี้ฮ่าวหราน คิดไม่ถึงล่ะสิว่าตัวเองก็ถูกฉันจับตัวได้เข้าสักวัน?”
เป็นอู๋เส้าฮัวซึ่งเสียชีวิตไปแล้วที่เอ่ยขึ้นอย่างถือดี
“เดี๋ยวฉันจะขอลิ้มรสชาติของหรงเอ๋อร์ต่อหน้าแกแล้วกัน หึหึ จะต้องอร่อยมากแน่”
“ฮ่า ๆ หัวหน้าจะให้พวกเราได้มีความสุขด้วยได้ไหมครับ?”
ลูกน้องคนหนึ่งโพล่งขึ้น
“ได้สิ! ไอ้ขยะนี่มันกระดูกหักไปแล้ว ไม่ว่าตอนนี้เราจะทำอะไร มันก็ทำได้แค่มองอย่างน่าสมเพช!”
ลูกพี่อย่างอู๋เส้าฮัวรับปาก เผยสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องเดินตรงไปหาหญิงสาวที่ถูกจับตัวเอาไว้
หลี่หรงหน้าตาตื่นเมื่อเห็นเช่นนี้
“ไม่…ขอร้อง…อย่า…”
“นี่ ผู้ชายที่เป็นห่วงเธอมันกลายเป็นขยะไปแล้ว ตอนนี้มันทำได้แค่มองดูเท่านั้นแหละ”
น้ำเสียงหนึ่งลอยเข้าหูอวี้ฮ่าวหราน ทำให้เขาสงบใจลงได้ ชายหนุ่มลืมตาเทวะกราดมองไปทั่วโกดัง และพบว่าไม่มีสิ่งใดอยู่ที่นี่
“ฮึ่ม ต่อให้เป็นแค่ภาพหลอน แต่แกก็ต้องไม่ตายดี!”
เมื่อเห็นภาพนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็เข้าใจว่าภาพหลอนจะแสดงสิ่งที่หวาดกลัวในใจที่สุดในอดีต
น่าเสียดายที่ใช้ไม่ได้ผลกับเขา!
มหาจักรพรรดิแห่งมวลเทพผู้ทรงพลังอย่างอวี้ฮ่าวหรานจะตกเป็นเหยื่อของคนธรรมดาได้อย่างไร?
พลังวิญญาณเคลื่อนขยับ เชือกที่มัดอยู่ขาดสะบั้น เขาลุกขึ้นสะบัดมือ คู่ต่อสู้อย่างอู๋เส้าฮัวกระอักเลือดตามทันที
โลกมายาพังทลายลงในทันใด!
เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด พบว่าตนเองยังอยู่ในชั้นใต้ดิน ซูหว่านเอ๋อซึ่งเดินตามเข้ามาก็อยู่ข้างกาย
เธอหลับตาปี๋ ท่าทีดูอึดอัด เธอคงกำลังเห็นภาพหลอนอยู่
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานจึงใช้พลังวิญญาณเข้าแทรกร่างกายของเธอเพื่อขับไล่พลังชั่วร้าย
“ไม่…ไม่ ฉันไม่อยากแต่งงานกับหลี่จิงเทียน…”
ทันทีที่ได้สติ ซูหว่านเอ๋อก็อดตะโกนออกมาไม่ได้…เธอคงกลัวเรื่องนี้มากที่สุด
นึกไม่ถึงว่าหญิงสาวผู้นี้จะหวาดกลัวเรื่องนี้
“โอ๋ แค่ภาพหลอนน่ะครับ” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยเตือนสติเธอ
“หืม? ฉันได้สติแล้วเหรอคะ?”
สายตาของเธอค่อย ๆ แปรเปลี่ยนจากเหม่อลอย ก่อนมองไปรอบตัวอย่างไม่อยากเชื่อ
“ภาพลวงตามันจบลงแล้วหรือยังคะ?”
คราวก่อนที่เธอมาที่นี่ เธอไม่รู้จะทำเช่นไร ก่อนรู้สึกตัวหลังถูกบีบบังคับให้แต่งงาน…
มันน่ากลัว…น่ากลัวเหลือเกิน!
“ผมจัดการให้มันจบลงแล้วครับ” เขาว่าด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“อวี้ฮ่าวหราน คุณน่าทึ่งมากเลยค่ะ!”
ซูหว่านเอ๋อกลับมามีสติ เร่งฝีเท้าไปข้างหน้า แน่นอนว่าครั้งนี้เธอไม่ได้รับผลกระทบจากภาพหลอนอีก
“ดีจังเลยค่ะ! ฉันจะได้เห็นปิ่นหยกดำนั้นซะที!”
เมื่อพบว่าทุกอย่างเป็นปกติแล้ว เธอก็ไม่อาจเก็บอาการตื่นเต้นได้อีกต่อไป อวี้ฮ่าวหรานนึกเอ็นดูเมื่อเห็นภาพนี้ เธอคงจะหลงใหลโบราณวัตถุมากทีเดียว
เพียงแค่เห็นท่าทีหวาดระแวงของชายชรา เขาก็รู้ได้ว่าคนธรรมดาไม่พ้นหลีกหนีให้ไกลเมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องเช่นนี้
หากแต่ตอนนี้เขากลับสนใจปิ่นนี้
หลังจากลงมาสู่โลกมนุษย์ และได้พบพลังจักรวาลโบราณมานับไม่ถ้วน เขาก็ไม่เคยเจอสิ่งใดที่มีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน
ชายหนุ่มก้าวเดินไปสองก้าว เปิดไฟฉายซึ่งเผยให้เห็นทุกอย่างภายในชั้นใต้ดินแห่งนี้
“น่าจะมีโต๊ะตั้งอยู่ตรงกลาง แต่น่าจะรูปร่างสะดุดตาอยู่บ้าง”
อวี้ฮ่าวหรานกวาดสายตามอง เห็นปิ่นหยกดำที่ฝังอยู่ในแท่นหินดำราวกับมันอยู่ที่นี่มานาน
ดูไม่น่าใช่มรดกตกทอดของครอบครัวอย่างที่ชายชราว่าไว้ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา
จากนั้นก็ก้าวไปหาแท่นหิน หยิบปิ่นหยกขึ้นมา
ปิ่นในมือส่งสัมผัสเย็นเยียบในมือ สีดำภายนอกดูแปลกตา คล้ายทำมาจากหยกดำหายาก
“ของชิ้นนี้…มีค่ามาก”
ไม่ต้องใช้ดวงตาเทวะ อวี้ฮ่าวหรานก็สามารถรับรู้ได้ถึงความพิเศษของมัน
“ขอฉันดูบ้างสิคะ…ขอฉันดูหน่อย…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูหว่านเอ๋อก็ต้องการเห็นบ้าง เนื่องด้วยเธอเพิ่งมีโอกาสได้เห็นในการมาเยือนครั้งที่สอง
อวี้ฮ่าวหรานส่งปิ่นหยกดำให้เธอเมื่อมั่นใจว่าไม่มีสิ่งผิดปกติ
เขาเปิดดวงตาเทวะตรวจสอบ จึงพบว่ามีพลังซ่อนอยู่จริง อีกทั้งยังมหาศาลเสียด้วย!
มากยิ่งกว่าจี้หยกครั้งก่อนด้วยซ้ำ!
ดูเหมือนปิ่นหยกนี้จะมีการลงวิชาเพื่อเชื่อมโยงกับแท่นหินดำ
หลังตรวจสอบจนแน่ชัดแล้ว อวี้ฮ่าวหรานพลันเข้าใจได้ว่าพวกมันเป็นตัวการที่ทำให้เกิดภาพหลอนก่อนหน้านี้
พวกมันสร้างโลกมายาขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง พลังวิญญาณในตัวพวกมันช่วยขยายอาณาเขตภาพหลอน…
ถึงจุดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอีกต่อไป
“เย็นจังเลยค่ะ!”
ซูหว่านเอ๋อรับมาถือไว้ในมือ รู้สึกราวมีน้ำแข็งวางอยู่ เย็นจนอดอุทานออกมาไม่ได้
“หยกอะไรกันคะ สวยจัง ทำไมฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย?”
เธอจ้องมองปิ่นหยกดำแวววาวอย่างละเอียด สายตาเต็มเปี่ยมความสุข
“ฮ่า ๆ ผมเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนครับ น่าจะหายากพอสมควรเลย คุณเก็บเอาไว้ดีกว่านะครับ”
อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะ เขารู้ดีว่าต้นกำเนิดของหยกชิ้นนี้ลึกลับเพียงไหน
“คะ? คุณ…ไม่ได้อยากเก็บเอาไว้เหรอคะ?”
เธอได้ยินคำเขาจึงหันไปมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ
ครั้งนี้เขาต้องการมาที่นี่ ถึงขั้นเป็นฝ่ายลากเธอออกมาเอง เขาน่าจะต้องการปิ่นหยกดำนี้มากทีเดียว
แต่ตอนนี้กลับยอมยกให้เธอเสียอย่างนั้น
“ผมไม่อยากได้หรอกครับ แค่ให้ผมได้เห็นแค่คืนเดียวก็พอแล้ว จากนั้นคุณเอาไปเก็บสะสมได้เลยครับ”
อวี้ฮ่าวหรานว่าอย่างไม่คิดมาก เขาต้องการเพียงพลังของหยกนี้เท่านั้น ถึงอย่างไรก็เป็นหยกที่เขาไม่ได้เห็นมาหลายร้อยปีสวรรค์ไม่ใช่หรือ?
เธอจ้องมองชายตรงหน้าตาปริบ ๆ
“ฉันไม่เคยเห็นคนที่ชอบโบราณวัตถุที่ขอเชยชมแค่คืนเดียวมาก่อนอย่างคุณ…”
พูดถึงจุดนี้ ดูเหมือนเธอจะกำลังหาถ้อยคำอธิบาย
“อื้ม! คุณเป็นคนที่ประหลาดมากเลยค่ะ”
เธอเอ่ยออกมาในท้ายที่สุด
“เอาละครับ ออกไปกันเถอะ”
อวี้ฮ่าวหรานลำบากใจอยู่บ้าง เรื่องที่มีพลังวิญญาณแฝงอยู่ เขาไม่อาจอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจได้
ถึงต้องเป็นคนประหลาดก็ต้องยอม
ถึงอย่างไรหลังจากซึมซับพลังวิญญาณครั้งนี้ กำลังของชายหนุ่มเองคงจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นโดยสมบูรณ์
ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของเขา!
ทั้งคู่หันเดินออกไปจากชั้นใต้ดิน อวี้ฮ่าวหรานก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติทันทีที่ก้าวออกมา
เขารู้ว่าเวลาผ่านพ้นไปเพียงสิบนาทีเท่านั้น หากแต่ตอนนี้ท้องฟ้าด้านนอกกลับมืดสนิท!
คอมเม้นต์