บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] – บทที่ 97 ชดใช้ด้วยเลือด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! (2)

อ่านนิยายจีนเรื่อง บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน ตอนที่ 97 ชดใช้ด้วยเลือด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! (2) อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 97 ชดใช้ด้วยเลือด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! (2)
ตอนที่ 97 ชดใช้ด้วยเลือด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! (2)

การต่อสู้ในเทือกเขาดินแดนรกร้างใต้พิภพอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในปีนี้ ทำให้เฉินซีระลึกถึงหลักการที่สำคัญ นั่นคืออย่าประมาทเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู อีกทั้งยังต้องลงมือสังหารด้วยวิธีที่กระชับฉับไว สิ่งนี้เป็นกฎเหล็กเพียงข้อเดียวที่จะนำไปสู่ชัยชนะ!

แต่ในวันนี้ ชายหนุ่มไม่อาจหักห้ามใจได้จริง ๆ

บ้านทั้งหลังพังทลายและผู้คนต่างถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมภายในระยะสามีร้อยลี้ อีกทั้งชายหนุ่มยังมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ร้านค้าของตระกูลจางกับร้านอาหารนทีกระจ่างกลายเป็นซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วยคราบเลือด แม้แต่ซากศพยังไม่หลงเหลือเลยแม้แต่น้อย

ฉากโศกนาฏกรรมครั้งนี้เปรียบเสมือนใบมีดแหลมคมเหลือคณานับทิ่มแทงหัวใจ แม้แต่จิตวิญญาณของเขายังสั่นสะท้านไปด้วยความเจ็บปวด

ตั้งแต่เฉินซีเกิดมาก็ไม่เคยรู้สึกเคียดแค้นเท่าวันนี้ มันอัดอั้นสะสมอยู่ในอกจนแทบปะทุ และได้มาถึงจุดที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาวะกระหายเลือด!

‘หากวันนี้เลือดไม่เจิ่งนองย้อมแผ่นดิน แล้วเหตุนี้จะระบายความแค้นในใจข้าได้อย่างไร?’

สิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากเปลวเพลิงแห่งโทสะที่แผดเผาในแววตาแล้ว ยังมีร่องรอยของความไม่แยแสปราศจากอารมณ์ใด

เฉินซีคือผู้รอดชีวิตจากการรบรันฟันแทงมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ แต่ยังมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ไม่มีผู้ใดทัดเทียม

ความไม่แยแสและความเกรี้ยวกราดของเขา ไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการต่อสู้ ตรงกันข้าม มันกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ลูกดอกหนึ่งพันเก้าร้อยลูกถูกยิงออกไป พุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยพลังรุนแรง ปลายลูกดอกแข็งและเย็นยะเยือก พวกมันส่งเสียงหวีดหวิวแสบหูขณะที่พุ่งเข้ามาทำร้ายเขา

ลูกดอกเหล่านี้เป็นเหมือนมวลเมฆทมิฬที่เคลื่อนตัวไปข้างหน้า ปกคลุมผืนฟ้าและแผ่นดิน ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหมดหนทางและไม่อาจหลบเลี่ยง

อย่างไรก็ตาม การโจมตีเช่นนี้เต็มไปด้วยข้อบกพร่อง และไม่อาจหยุดยั้งเฉินซีเลยแม้แต่น้อย

เมื่อบ่มเพาะเคล็ดวิชาแปดก้าวมังกรสวรรค์บรรลุถึงขั้นเอกภาพ เขาก็สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของลูกดอกมหาศาลได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งในตอนนี้ยังได้บ่มเพาะเคล็ดวิชาวาตะเหินทะยาน และวิชาตัวเบาของเขาก็มีเศษเสี้ยวของเต๋าแห่งสายลม ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่จำเป็นต้องกังวลกับการโจมตีของลูกดอกที่มากกว่าสองพันลูกเลย ถึงแม้จะมีอีกสิบหรืออีกหลายร้อยเท่าก็ยังไม่อาจสัมผัสแม้แต่ชายเสื้อ แล้วจะนับประสาอะไรที่จะทำร้ายร่างกายเขาได้

ฟิ้ว!

ในเวลาต่อมา เฉินซีหายไปจากบริเวณนั้นแล้ว

ลูกดอกที่ยิงออกไปราวกับสายฝนต่างพลาดเป้า ทว่าร่างขององค์รักษ์อาชาสวรรค์ที่พุ่งเข้ามาก่อนหน้านี้มีรูพรุนมากมาย พวกมันตายอย่างน่าอนาถยิ่งนัก

“ตั้งค่ายกล!” ผู้ดูแลอู๋คาดว่าเฉินซีจะต้องหลบเลี่ยงการโจมตีของลูกดอกได้อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นทันทีที่หน้าไม้หนักวิญญาณเหินถูกยิงออกไป เขาก็ตะโกนออกคำสั่งเสียงดังในทันที และล่าถอยไปทางด้านหลังของกลุ่มคนอย่างเงียบงัน

ชิ้ง!

องค์รักษ์หนึ่งพันเก้าร้อยคนต่างชักดาบออกมาอย่างพร้อมเพรียง ก่อให้เกิดเสียงดังกังวานอยู่ในหู ขณะเดียวกัน องค์รักษ์อาชาสวรรค์เก้าร้อยคนกับองค์รักษ์เกราะขาวหนึ่งพันคนก็เคลื่อนไหวในทันที และสลับไปมาเพื่อผสานในแนวนอนและแนวตั้ง

เพียงชั่วพริบตา พวกเขาก็สร้างค่ายกลกระบี่ที่เปี่ยมด้วยจิตสังหารขึ้นมา พวกมันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ดาบแทงพยัคฆ์ที่แวววาวและแหลมคมมากมายชี้ไปยังท้องฟ้า และภายใต้ดวงอาทิตย์อัสดง ประกายสีเลือดก็ปรากฏบนใบมีดดาบ

“เฉินซี หากไม่อาจเอาชนะค่ายกลหยินหยางพันดาบ เจ้าก็จะไม่มีวันที่บุกเข้าสู่ตระกูลหลี่ของข้าได้ ! ฮ่า ๆๆ…” ผู้ดูแลอู๋ซ่อนอยู่หลังประตูที่ปิดสนิทและหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง แต่เขากลับต้องชะงักไป

ในขณะนี้เอง ราวกับมีใครบางคนกำลังบีบคอผู้ดูแลอู๋ ดวงตาของเขาเบิกโพลง ขณะที่มองดูร่างที่ยืนอยู่ข้างหน้าอย่างหวาดกลัว ตัวเขาก็ถูกความกลัวเข้าครอบงำเสียแล้ว!

เจ้าคนนี้… เข้ามาตั้งแต่เมื่อใด? ความเร็วของเขาจะรวดเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?

ฟิ้ว!

ประกายแสงเย็นเยียบปรากฏขึ้นฉับพลัน ผู้ดูแลอู๋ไม่มีเวลาแม้แต่จะร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ ก่อนที่จะเกิดรูเลือดเจาะตรงลำคอ และแม้กระทั่งก่อนตาย เขาก็ไม่รู้ว่าเฉินซีปรากฏตัวต่อหน้าได้อย่างไร

“เฮ้ย! เฉินซีมันเข้ามาได้แล้ว!”

“ผู้ดูแลอู๋ตายแล้ว เขาตายภายใต้คมกระบี่ของเฉินซี!”

“ใครก็ได้ เร็วเข้า! เฉินซีบุกเข้ามาแล้ว!”

ด้านหลังประตูเป็นลานโล่งที่มีพื้นที่ราว ๆ สี่หมื่นจั้ง พื้นดินถูกปูด้วยหินปูนที่แข็งและเรียบ ด้านหลังเป็นเส้นทางมากมายที่นำไปสู่จวนของตระกูลหลี่

ในเวลานี้ เหลือข้ารับใช้ไม่กี่สิบคนอยู่ในลานโล่ง เมื่อเห็นเฉินซีคร่าชีวิตผู้ดูแลอู๋ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี

ฟึบ!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะหนีอย่างหัวซุกหันซุน กระบี่ท่องปรภพก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรุนแรง ราวกับว่าพวกมันมีดวงตาและปลิดชีพผู้คนได้

พวกข้ารับใช้ที่น่ารังเกียจที่คอยช่วยเหลือผู้กระทำความผิดนั้นสมควรตาย!

เฉินซีไม่ได้หันหลังกลับไปมอง ทว่าพุ่งเข้าไปข้างใน

“ทุกคนจู่โจมพร้อมกัน เพื่อฆ่าเจ้าตัวอัปมงคลนี่ซะ!”

“ถูกต้อง! ถึงมันผู้นั้นจะน่าเกรงขามเพียงใด แต่ก็มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น!”

“ฆ่ามัน!”

ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง เหล่าศิษย์ตระกูลหลี่ที่มีท่าทางดุร้ายพุ่งทะยานเข้าหาเฉินซีจากทุกทิศราวกับกระแสน้ำ

องค์รักษ์อาชาสวรรค์กับองค์รักษ์เกราะขาวที่สร้างค่ายกลหยินหยางพันดาบ ขนาดอยู่ด้านนอกประตูยังได้ยินเสียงโห่ร้องตะโกน พวกเขาจึงพุ่งไปยังประตู แต่ไม่ว่าจะเค้นสมองหาอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าเฉินซีเข้าประตูไปอย่างเงียบ ๆ ได้อย่างไร

แต่ด้วยสายตากับขอบเขตการบ่มเพาะ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับรู้ความเร็วของเต๋าแห่งสายลมที่สมบูรณ์ เมื่อผนวกรวมกับเคล็ดวาตะเหินทะยานนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวจริง ๆ

ฝูงชนหลั่งไหลเข้ามามากมายราวกับกระแสคลื่น สมาชิกตระกูลหลี่เหล่านี้ล้วนมีท่าทางที่ดุร้าย เผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมและกระหายเลือด ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้คนหวาดกลัวตัวสั่น

เมื่อสมาชิกตระกูลหลี่ที่นำหน้าอยู่เห็นเฉินซี ก็ยังคงนิ่งเฉยด้วยรู้สึกตกตะลึง เมื่อได้สติก็โห่ร้องด้วยปีติ “พี่น้อง! ฆ่ามัน! นายน้อยหลี่หมิงจะให้รางวัลมากมายแก่พวกเราอย่างแน่นอน!”

“ฆ่ามัน!”

“ฆ่ามัน!”

ผู้คนสิ้นชีพเพราะเงินตรา และนกตายเพียงเพื่ออาหาร เพื่อให้ได้เงินรางวัลตามที่ใฝ่ฝัน เหล่าสมาชิกตระกูลหลี่ตัวสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น พวกเขาทั้งหมดตะโกนเสียงดังขณะพุ่งเข้าใส่เฉินซี

ชายหนุ่มไม่ได้หลีกหนี อีกทั้งใบหน้ายังคงเรียบนิ่ง เช่นเดียวกับกระบี่ท่องปรภพที่อยู่ในมือก็ไม่แม้จะสั่นไหว

ทันใดนั้น ข้อมือของเขาสั่นสะท้านเบา ๆ ไม่นานกระบี่ก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว

ฟิ้ว!

ประกายกระบี่ที่ปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็งปรากฏขึ้นกลางอากาศ และทำให้ความเย็นยะเยือกพลันแผ่กระจายออกไปโดยรอบ!

“อ๊ากกกกกก! อ๊ากกกก! อ๊ากกกกก!” เสียงร้องโหยหวนสามครั้งดังขึ้น สมาชิกสามคนของตระกูลหลี่ถูกผ่าครึ่ง เลือดและอวัยวะภายในต่าง ๆ กระจัดกระจาย ทั้งสามยังไม่ตายสนิทดี เพราะร่างกายส่วนบนยังคงดิ้นรนอย่างสิ้นหวังอยู่บนพื้น อีกทั้งเสียงร้องอันน่าสังเวชยังคงดังไม่จบสิ้น

แม้แต่สมาชิกตระกูลหลี่ที่เลือดเย็นเหล่านี้ยังอดไม่ได้ที่นิ่งงัน ยามเผชิญกับฉากนองเลือดเช่นนี้!

ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงกับเฉินซีต่างถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว

จากนั้น ประกายกระบี่มากมายที่ดูเหมือนผลึกน้ำแข็งนับไม่ถ้วนแปรเปลี่ยนลำแสงที่ไหลผ่านอย่างงดงาม ฟันเป็นเส้นโค้งอย่างรวดเร็วเพื่อสังหารผู้คนรอบตัว

เมื่อสมาชิกของตระกูลหลี่สังเกตเห็นต่างก็ตกตะลึง กระบี่ในมือของเฉินซีนั้นว่องไวจนเหมือนกับสายฟ้า ส่วนประกายกระบี่พุ่งขึ้นทีละดวงราวกับหมอก กลิ่นอายแห่งความตายเสียดแทงเข้ากระดูก พวกมันแหลมคมอย่างเหลือเชื่อ สิ่งใดก็ตามที่สัมผัสกับประกายกระบี่จะถูกมันผ่าออกเป็นสองส่วน

บรรดาสมาชิกตระกูลหลี่กลุ่มแล้วกลุ่มเล่าต่างเสียชีวิตอย่างน่าสังเวช ทั้งซี่โครงหัก ลำคอถูกแทงทะลุ หรือถูกผ่าเป็นสองท่อน เลือดสีแดงก่ำเข้มข้นสาดกระเซ็น และซากศพจำนวนมากที่ช่องท้องฉีกขาดเหมือนกับภาพวาดแห่งความตาย

ดวงตาของเฉินซียังคงเป็นสีแดง ท่าทางยังคงนิ่งเฉย ตัวเขาเป็นเหมือนหุ่นเชิดไร้จิตวิญญาณ ทว่าการเคลื่อนไหวกลับรวดเร็วจนมองไม่เห็น กระบี่ของเขาทั้งแม่นยำและไร้ความปรานี ระดับการบ่มเพาะที่เหนือกว่าทำให้ทุกการโจมตีเปี่ยมด้วยอานุภาพ

การต่อสู้ย่อมเป็นหินลับคมที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

เกิดการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ตลอดในดินแดนนรกร้างใต้พิภพและส่วนลึกของเทือกเขาแดนเถื่อนตอนใต้ ทำให้ความแข็งแกร่งของเฉินซีได้รับการขัดเกลาจนไปถึงจุดที่รวดเร็วและรุนแรง

ภายใต้การผสมผสานของเต๋าแห่งสายลมที่สมบูรณ์และเคล็ดวาตะเหินทะยาน ทำให้เงาร่างของเขาคลุมเครือจนยากจะมองเห็นและหยั่งรู้ได้

ฆ่า!

ฆ่า!

ฆ่า!

เฉินซีเปรียบเสมือนเทพแห่งความตายที่เคลื่อนไหวรวดเร็วจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง กระบี่แหลมคมในมือได้คร่าชีวิตของบรรดาสมาชิกตระกูลหลี่กลุ่มแล้วกลุ่มเล่า และจำนวนผู้คนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ลดลงไปอย่างรวดเร็ว

ในการต่อสู้ครั้งนี้ที่เกือบจะเป็นการลงมือฝ่ายเดียว เพียงไม่กี่อึดใจก็มีคนเหลือไม่กี่สิบคน พวกเขาสูญสิ้นความหวังและหลงเหลือไว้เพียงความหวาดหวั่นบนใบหน้า

ว่ากันว่าก่อนหน้านี้พวกเขาถูกชักจูงด้วยเงินรางวัลก้อนโต แต่ตอนนี้กลับเห็นแต่เลือดและความตายเท่านั้น ในขณะที่เฉินซีกลายเป็นปีศาจร้ายโหดเหี้ยมไร้ความรู้สึกไปแล้ว!

ปุ!

ประกายกระบี่ส่องวาบราวกับสายฟ้า ทำให้เกิดรอยเลือดสีแดงเข้ม และผู้คนที่อยู่ห่างจาก เฉินซีในระยะสิบสองจั้งก็ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น

“หนีเร็ว!”

เหล่าสมาชิกตระกูลหลี่ที่เหลืออยู่ต่างยอมแพ้ พวกเขาหันหลังกลับเพื่อหลบหนีเอาตัวรอด

“ช่างเป็นพวกเศษสวะเสียจริงแท้จริง!” ในตอนนี้ เสียงอันเย็นชาระคนเกรี้ยวกราดดังขึ้น และต้นตอของเสียงนี้เป็นชายหนุ่มที่มีผมสีดำปลิวไสว อีกทั้งท่าทางที่ดุร้ายและมืดมนยังพุ่งทะยานไปทางเฉินซี

เฉินซีเงยหน้าขึ้นและรับรู้ได้ว่าร่างนี้คือ หลี่หมิง บุตรชายคนที่สองของผู้นำตระกูลหลี่ หลี่อี้เจิ้น

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

กระบี่บินทั้งแปดเล่มถูกซัดออกไปราวกับระเบิด พวกมันเป็นดั่งแร้งได้กลิ่นเลือดและพุ่งเข้าใส่สมาชิกตระกูลหลี่ที่หลบหนีอย่างหมดท่า

“บังอาจ! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงฆ่าสมาชิกตระกูลหลี่ต่อหน้าข้า…” เมื่อหันไปเห็นเลือดที่กำลังไหลนอง เสียงตะโกนของหลี่หมิงก็ขาดห้วงไป ความเร็วของเขาไม่อาจเทียบกับความเร็วของกระบี่บินได้อย่างสิ้นเชิง

ในชั่วพริบตา สมาชิกตระกูลหลี่ที่หลบหนีไปทุกทิศทางต่างล้มตายหมดสิ้น

พื้นดินเต็มไปด้วยซากศพ เศษเนื้อ เลือด และอวัยวะภายใน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ยามที่สูดดมยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกถึงความคลื่นไส้

เส้นเลือดบนหน้าผากหลี่หมิงปูดบวม ขณะที่กลิ่นอายอันโหดเหี้ยมพุ่งทะยานและแผ่กระจายออกจากร่างกายของเขา

เขาเคยฆ่าผู้คนมาแล้ว และมากกว่าจำนวนคนที่เฉินซีฆ่าในตอนนี้ แต่เมื่อคนที่เสียชีวิตเป็นคนในตระกูลของเขาเอง หัวใจที่ชุ่มไปด้วยเลือดก็กระตุกอย่างรุนแรง ไฟโทสะลุกโชนขึ้นอยู่ที่ก้นบึ้งหัวใจ มันเหมือนกับหินหลอมเหลวพวยพุ่งไปทั่วร่างจนถึงจุดที่เขาเกือบจะเป็นบ้า

“เฉินซี ความแข็งแกร่งของเจ้าเกินความคาดหมายยิ่งนัก แต่เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงสังหารคนในตระกูลของข้าไปมากมาย ดังนั้นข้าจะสับเจ้าเป็นชิ้น ๆ และจะทรมานจนกว่าจะตาย!” ท่าทางของหลี่หมิงดุดันโหดเหี้ยม ผมยาวของเขาปลิวไสวขณะที่เปลวไฟสีเขียวหยกพวยพุ่งออกมาจากร่างเขาเหมือนมังกรคำรามอย่างเย่อหยิ่ง ทันทีที่เขาปรากฏกายขึ้นในอากาศ เปลวไฟที่แผดเผาและน่าสะพรึงกลัวทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนจนบิดเบี้ยว

“เคล็ดวิชาร่างแปลงมังกรหยกอัคคี!” ภายใต้เสียงโห่ร้อง มังกรหยกอัคคีก็ส่งเสียงคำรามก้อง จากนั้นมันก็เคลื่อนตัวผ่านท้องฟ้า ก่อนที่จะเงื้อกรงเล็บไปทางเฉินซีที่อยู่บนพื้นดิน

มังกรที่ก่อตัวขึ้นจากเปลวไฟนี้มีความยาวราว ๆ ร้อยจั้ง มันตะครุบลงมาจากกลางอากาศ หนำซ้ำกรงเล็บนั้นยังมีขนาดเท่ากับตัวเฉินซี!

กรงเล็บของเจ้ามังกรมีกลิ่นอายชั่วร้ายหนาแน่นปกคลุมอยู่ ท้องฟ้าถูกแผดเผาจนก่อเกิดเสียง ‘ฟู่’ และระเหยกลายเป็นไอสีขาว พื้นหินปูนที่แข็งแกร่งอ่อนยวบจนกลายเป็นบึงโคลนก่อนที่จะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ความองอาจของมันช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

เฉินซีไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ เมื่อกรงเล็บของมังกรอยู่ห่างจากศีรษะไปประมาณสี่ฉื่อ ทันใดนั้น เขาก็ยกมือขวาขึ้นและระเบิดหมัดถล่มทลายที่เรียบง่ายออกไป

ตู้ม!

เสียงระเบิดราวกับเสียงฟ้าร้องดังขึ้น และกรงเล็บอันแหลมคมของร่างแปลงมังกรหยกอัคคี ถูกระเบิดในทันทีกลายเป็นสะเก็ดไฟจำนวนนับไม่ถ้วน จากนั้นพวกมันก็กระจัดกระจายและตกลงสู่พื้น

แคร้ง! แคร้ง!

หลังจากที่กรงเล็บแหลมคมแตกเป็นเสี่ยง ๆ ร่างของมังกรหยกอัคคีทั้งหมดก็แข็งทื่ออยู่ท่ามกลางอากาศ จากนั้นรอยแตกจำนวนมากปรากฏบนเงาร่างของมัน ก่อนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ

เพียงหมัดเดียวก็รุนแรงถึงเพียงนี้!

“บัดซบ! สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เยี่ยงไร? เคล็ดร่างแปลงมังกรหยกอัคคีของข้าไร้ผู้ต้าน มันจะพ่ายแพ้หมดท่าภายในหมัดเดียวของไอ้เศษสวะนั่นได้อย่างไร?” หลี่หมิงเบิกตากว้างและดูเหมือนว่าเขาได้เห็นฉากที่ไม่น่าเชื่อ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด