Divine Card Creator – ตอนที่ 38 นายน่ะเอาตัวรอดเก่ง
Divine Card Creator ตอนที่ 38 นายน่ะเอาตัวรอดเก่ง
“เธอรู้จักคนที่ชื่อว่าเจียงหยุนจ้านรึเปล่า?”
ลู่หมิงมองไปยังเสี่ยวไป๋
“รู้สิ”
เสี่ยวไป๋กระพริบตาโตๆ ของเธอ “เขาคือลุงของฉันเอง”
“ลุง…”
ลู่หมิงยิ้มอย่างบิดเบี้ยว
ในกรณีหมายความว่าอาจารย์ใหญ่ถึงกับระดมกลุ่มนักแสดงมหาศาลมหาตบตาเขาเลยหรอ? … ถ้าอย่างนั้นแรงจูงใจของเขาคืออะไรกัน? ถึงกับต้องให้ลูกสาวตนเองมาลําบากในร้านของลู่หมิงแบบนี้เลยเหรอ?
“หรือเป็นเพราะว่าฉันหล่อเกินห้ามจริงใจๆ!?”
“พี่ลู่ ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะ ผมต้องบ่มเพาะอีกเยอะ แถมยังต้องไปเรียนอีกต่างหาก”
จากนั้นจางเสี่ยวปังก็ชิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
จางเสี่ยวปังรู้สึกผิดอย่างมากหลังจากถูกอาจารย์ใหญ่ทําโทษไปครานั้น ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทําให้สุดท้ายแล้วก็เหลือเพียงลู่หมิงและเสี่ยวไป๋ถูกทิ้งให้มองกันอย่างงุนงง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่?
“ทําไมพ่อของเธอถึงทําแบบนี้กัน?”
ลู่หมิงถอนหายใจ
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เสี่ยวไป๋ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
“เขาไม่กลัวว่าฉันจะทําเรื่องไม่ดีกับเธอเหรอ”
ลู่หมิงถอนหายใจอีกครั้ง
“ไม่” เสี่ยวไป๋กล่าวอย่างจริงจัง “คุณเอาชนะฉันในการต่อสู้ไม่ได้หรอก”
นี่เธอกําลังดูถูกความสามารถในการต่อสู้ของฉันรึเปล่าเนี่ย?
“พ่อของเธอคงรู้สึกมั่นใจในตัวเธอมาก”
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งเสี่ยวไป๋ก็พูดด้วยท่าที่จริงจังว่า “พ่อก็เอาชนะฉันในการต่อสู้ไม่ได้เหมือนกัน”
ตลกละ! พ่อที่ไหนจะทุบตีลูกลงต่อให้เธอตีเขาก่อนก็ตาม?
“ตั้งใจเรียนต่อเถอะ”
ลู่หมิงถอนหายใจ ” ฉันจะไปคุยกับพ่อเธอหน่อย”
“อื้อ”
เสี่ยวไป๋กลับไปเรียนรู้วิธีสร้างการ์ดอีกครั้ง
ลู่หมิงยังคงอยากรู้ว่าอาจารย์ท่านนี้ ท่านกําลังคิดห่านอะไรอยู่ มันคงดีมากถ้าเขาได้ลองคุยกับพ่อของเธอสักหน่อย ดังนั้นเขาจึงขอเบอร์ติดต่อจากเสี่ยวไปและโทรหาอาจารย์ใหญ่เจียงโดยตรง
“ฮัลโหล นั่นเจียงเฟิงใช่ไหม” ” ลู่หมิงพูดด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ
“ลูกสาวของแกอยู่ในมือฉันแล้ว โอนเงิน 3 แสนหยวนมาให้ฉันซะ มิฉะนั้นฉันจะฆ่าตัวประกัน”
จริงๆ เขาแค่อยากจะกวนตีนคนที่ทําให้ชีวิตเขาปั่นปวนสักหน่อย
แต่ลู่หมิงก็นึกขึ้นได้ว่า ยังไงซะ หมอนี่ก็เป็นถึงอาจารย์ใหญ่! เขาเป็นอาจารย์ใหญ่ในวิทยาลัย
ในขณะที่เขา…
เขาเป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาๆ
“ลู่หมิง?”
เจียงเฟิงรู้สึกขบขันเล็กน้อย
“คุณจะมารับลูกสาวกลับเมื่อไหร่”
ลู่หมิงยอมจํานน
“ลูกสาวฉันไม่เชื่อฟังเธอหรือ?”เจียงเฟิงถาม
“ไม่”
ลู่หมิงมองไปที่เสี่ยวไป๋ เธอช่างเป็นเด็กดีและเชื่อฟังอย่างมาก
“ลูกสาวของฉันไม่น่ารักเหรอ”
“ลูกสาวของฉันไม่สวยเหรอ”
“แล้วเธอไม่พอใจอะไร”
เจียงเฟิงถามเขากลับ
แต่ลู่หมิงกลับไร้หนทางจะตอบโต้
“ฮิฮิ” เจียงเฟิงพึงพอใจมาก
อันที่จริงกลยุทธ์ที่เขาเรียนรู้จากเฒ่าเจียงนั้นใช้ได้ผลเป็นอย่างมาก
“ไม่ แต่คุณกําลังทําให้ผมลําบาก แถมพวกเรายังแทบจะไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ”
ลู่หมิงรู้สึกกังวลมาก
“ฮิฮิ
เจียงเฟิงยิ้ม “เมื่อไม่นานมานี้ตํารวจได้เปิดโปงคดีเงินกู้ผิดกฎหมายที่ใช้รูปนู้ดค้ำประกัน ฉันเผลอไปเจอสิ่งที่น่าสนใจข้างในนั้นด้วยล่ะ”
“แถมที่วิทยาลัยเอกกะ ลู่หยานก็ยังได้การ์ดมรดกเงาจันทราจากที่ไหนไม่รู้อีกต่างหาก”
“นอกจากนี้ เมื่อวานทางสมาคมนักสร้างการ์ดก็โทรมาหาฉันและบอกว่ามีนักเรียนคนหนึ่งไปถล่มพื้นที่ทดสอบของพวกเขา เราพวกเขาโทรมายืนยันว่าคนๆ นั้นมาจากวิทยาลัยของเรารึเปล่า”
“โอ้ ใช่ๆ ตอนที่เธอยังเด็ก เธอชอบที่จะฉี่ด้วยท่าแปลกๆ ดังนั้นพ่อของเธอจึงวาดกากบาทตรงกลางโถปัสสาวะ เพื่อให้เธอเล็งไปที่จุดนั้น แต่สุดท้ายเธอกลับตัดสินใจจะไม่ใส่โถอีกต่อไป”
“อ่า จริงด้วย ตอนเธอเด็กๆ เธอชอบไปแอบมองพี่สาวอาบน้ำนี่หน่า พ่อของเธอเลยต้องจับเธอไปขึ้นราวตากผ้าเป็นการลงโทษ ฮ่าๆๆ”
“ฉันรู้จักเธอมากพอรึยัง?”
เจียงเฟิงหัวเราะไม่หยุด
“คุณมียางอายบ้างมั้ยเนี่ย?”
ลู่หมิงถอนหายใจ ” คุณควรจะทําตัวให้สมกับตําแหน่งอาจารย์ใหญ่ที่น่ายกย่องนับถือ แต่คุณกลับแอบสืบเรื่องส่วนตัวของผมเนี่ยนะ?!”
อันที่จริงแล้วจากตําแหน่งของเจียงเฟิง เขาสามารถตรวจสอบชีวิตของนักเรียนโดยละเอียดก็ได้ถ้าเขาต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพิจารณาจากสิ่งนี้ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักพ่อแม่ของลู่หมิงน้อยอีกด้วย!
เขาเป็นคนที่รู้จักกับครอบครัวของลู่หมิงน้อยอยู่แล้วแน่ๆ!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะลงมือ “โหดเหี้ยม” ขนาดนี้!
ในยุคนี้ มีเพียงคนรู้จักเท่านั้นที่จะสืบความลับน่าอาย เช่นนี้ขึ้นมาได้
“เพ้ย!” เจียงเฟิงอุทานอย่างเซ็งๆ
ก่อนหน้านี้ตอนที่พ่อแม่ของลู่หมิงฝากเด็กคนนี้เข้ามา พวกเขาบอกว่าเด็กคนนี้เป็นคนเก็บตัว ขี้อายและระมัดระวังตัวมากไปหน่อย ดังนั้นเขาควรถูกปล่อยให้เรียนรู้อย่างอิสระ
แต่ที่กําลังคุยกับเขานี่มัน?
ขี้อาย เก็บตัว ไม่กล้าแสดงออก?
ล้อกันเล่นแล้วแน่ๆ!
“คุณไม่เป็นห่วงเธอจริงๆ เหรอ?”
ลู่หมิงทําอะไรไม่ถูก
ลู่หมิงรู้สึกว่าความคิดของเขากับจารใหญ่ท่านนี้ช่างต่างกันเหลือเกิน เธอคือลูกสาวที่ “ยังสดใหม่และชุ่มฉ่ำ” แต่คุณกลับปล่อยเธอไว้ในบ้านของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยพลังงานอย่างเขาเนี่ยนะ?
“มีอะไรต้องกังวล?”
เจียงเฟิงไม่ยี่หระ “ฉันมีเรื่องพิเศษบางอย่างที่ต้องจัดการในตอนนี้ มันค่อนข้างอันตราย ฉันจะปล่อยให้ลูกสาวฉันอยู่กับเธอไปก่อนก็ไม่แปลกนี้นะ เพราะยังไงเธอก็มีทักษะการเอาตัวรอดที่สุดยอดมาก เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่กังวลหรอก”
นี่มันทัศนคติของพ่อคนจริงๆ เหรอเนี้ย!
เฮ้อ ชายคนนี้ช่างพูดจาไร้สาระไปเรื่อยจริงๆ แล้วข้ออ้างว่าฉันเอาตัวรอดเก่งนี่มันอะไรกันฟะ!?
“คุณไม่กังวล แต่ผมกังวล”
ลู่หมิงพูดอย่างเคร่งขรึมมาก ”ผมหน้าตาดีมาก ฉะนั้น ผมก็ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวเองอยู่แล้ว ไม่ใช่หรอ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเสียวไปห้ามใจไม่ไหว แล้วมาชอบผมเข้า”
เจียงเฟิงเบิกตากว้างพร้อมพยายามจะด่ากลับไป แต่ราวกับน้ำท่วมปาก – เขาพูดอะไรไม่ออก
โลกนี้ มีคนหน้าด้านขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมคงปกป้องเธอไม่ได้หรอก”
ลู่หมิงพูดอย่างจริงจังและจริงใจด้วยรอยยิ้มที่ดูใสสะอาดที่สุดเท่าที่เขาเคยทํามา
การที่เสี่ยวไป๋อยู่ที่นี่นั้นอันตรายเกินไป
ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เสี่ยวไป๋ก็จะปลอดภัยและสบายดี อย่างไรก็ตามหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอจริงๆ เขาจะต้องเป็นคนรับผิดชอบปัญหาที่ตามมาทั้งหมด! นอกจากนี้ลู่หมิงยังมั่นใจมากว่า เขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเธอในยามวิกฤติอีกด้วย!
“คุณทําไม่ได้จริงๆ เหรอ”
เจียงเฟิงถอนหายใจ
“ใช่ ผมทําไม่ได้จริงๆ”
น้ำเสียงของลู่หมิงหนักแน่นเป็นอย่างมาก
“แลกกับเทคนิคการเข้ารหัสอันนึ่ง” เจียงเฟิงพูดอย่างใจเย็น
“ตกลง ทําๆ ผมจะทํา!” ลู่หมิงตอบด้วยความเด็ดขาด
ไอเด็กนี่ต่อความยาวสาวความยืดขนาดนี้เพราะเขาอยากได้ของตอบแทน? เขาต้มตุ๋นลู่หมิงด้วยวิธีการของเฒ่าเจียง แต่กลับถูกเด็กหนุ่มคนนี้หลอกเข้าให้แล้ว!
“คุณจะปล่อยให้เธอเรียนรู้ทักษะการสร้างการ์ดต่อไปจริงหรอ?”
ในตอนนี้ลู่หมิงจะไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ยังไง เขากระจ่างแจ้งมาสักพักแล้วด้วยซ้ำ
เจียงเฟิงส่งเสี่ยวไป๋มาที่นี่เพื่อให้เธอเรียนรู้พื้นฐานการสร้างการ์ด
ไม่แน่ว่า บางที …
อาจารย์พิเศษนอกคอกอย่างลู่หมิงอาจมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าอาจารย์ทั่วๆ ไปอีกตั้งเยอะ
“ใช่”
น้ำเสียงของเจียงเฟิงนั้นต่ําลงเล็กน้อย “ฉันคิดว่ามันดีมากที่เด็กคนนี้ได้เป็นนักสร้างการ์ด เธอจะมีความสามารถในการป้องกันและจะปลอดภัยจากอันตราย แถมเธอยังไม่จําเป็นต้องสัมผัสกับการต่อสู้และการสังหารไปตลอดและเธอจะไม่ลงเอยเหมือนกับแม่ของเธอ…”
“ผมเข้าใจแล้ว”
ลู่หมิงถอนหายใจ
พ่อแม่ทุกคนในโลกยินดีที่จะทําทุกอย่างเพื่อลูกโดยไม่มีเงื่อนไข
หลังจากวางสายแล้ว ลู่หมิงก็มองไปที่เสี่ยวไป๋ซึ่งกําลังสร้า การ์ดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงลู่หมิงน้อย และพ่อแม่ของเขา ทําไมพวกเขาถึงส่งตนมาที่นี่กันนะ?
เขามีพี่สาวที่แข็งแกร่ง
เขามีพ่อแม่ที่ดีที่ทุ่มเทให้กับครอบครัว!
ตามเหตุผลแล้วพวกเขาไม่ควรส่งลู่หมิงน้อยมาที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาแบบนี้
เอิ่ม..
“ซีซซซ”
ทันใดนั้นลู่หมิงก็นึกถึงเรื่องที่น่ากลัวได้อย่างนึง
ไม่แน่ว่าพวกเขา …
มันอาจจะเป็น
หรือว่าพวกเขารู้แล้วว่าลู่หมิงน้อยแอบหวังเกินเลยกับพี่สาวตัวเอง?
อาจจะเป็นไปได้
ลู่หมิงพิจารณาถึงหนังสือใต้เตียงของลู่หมิงน้อย หนุ่มน้อยคงคิดว่าการแอบพวกมันไว้ใต้เสื่อหรือที่นอน เป็นที่ๆ ปลอดภัย แต่เขาหารู้ไม่ว่านั่นแหล่ะคือจุดที่อันตราย และง่ายต่อการค้นหาของผู้ปกครองอย่างยิ่ง!
ยิ่งลู่หมิงคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันอาจเป็นไปได้
ต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ
ดังนั้นพวกเขาเลยหวังว่าลู่หมิงน้อยจะเปลี่ยนความคิดได้จากสถานที่แห่งนี้ และลดความรู้สึกพิเศษที่เขามีให้กับพี่สาวได้ โดยไม่คาดคิดว่าลู่หมิงน้อยจะกลับกลายเป็นเย็นชา
“เฮ้อ เส้นทางชีวิตช่างเต็มไปด้วยความยากลําบาก”
ลู่หมิงถอนหายใจ
โชคดี…
ที่เขาไม่ได้รับผลกระทบทางความคิดจากลู่หมิงน้อยต่อพี่สาวคนนี้ เขามีเพียงความต้องการที่จะทําให้เธอสบายใจ เพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากเธอ เพราะท้ายที่สุดแล้วเธอคือตัวตนที่แข็งแกร่งราวกับสิ่งมีชีวิตติดโปรแกรมโกง!
“ลืมมันไปซะ
ฉันไม่ควรจะคิดมาก”
ลู่หมิงสายหัว
เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีกต่อไปแล้ว
ในที่สุดเขาก็พบพ่อแม่ของเสี่ยวไปสักที จากสาวน้อยที่เขาไม่รู้จัก ตอนนี้เธอกลายเป็นโลลิถูกกฎหมายไปซะแล้ว[1. ใน ญี่ปุ่น Loli หมายถึงเด็กผู้หญิงอายุระหว่าง 10-14 ปี] ทําให้เขาไม่จําเป็นต้องกังวลอีกต่อไปและในที่สุด เขาก็จะสามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาขีดความสามารถของตนเองได้!”
“เสี่ยวไป๋มานี่หน่อย”
ลู่หมิงเรียกให้เสี่ยวไป๋มาหา ” พ่อของเธอพูดอะไรเกี่ยวกับฉันให้เธอฟังอีกไหม?”
“ไม่”
“โอ้ใช่”
จู่ๆ เสี่ยวไป๋ก็นึกถึงบางอย่างได้ เธอพูดด้วยท่าทางตื่นเต้น และมีความสุขแบบสุด “พ่อของฉันบอกว่า ลู่หยานเป็นพี่สาวของคุณ”
“เธอรู้จักพี่สาวฉันหรอ?”
ลู่หมิงรู้สึกประหลาดใจ
“แน่นอน”
ดวงตาของเสี่ยวไป๋เต็มไปด้วยความหวัง “เธอเป็นไอดอลสำหรับพวกเราเหล่าผู้ที่ฝันจะเป็นนักดาบ! ในอนาคตฉันก็อยากเป็นนักดาบเหมือนเธอเหมือนกัน!”
นักดาบ…
จู่ๆ ลู่หมิงก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
ในวันนี้
ดูเหมือนว่าสาวน้อยจะยังไม่ได้ตระหนักถึงความจริง
อย่างไรก็ตามจากพัฒนาการของเธอ ไม่นานก็คงจะสามารถผนึกสกิลนักดาบได้บ้างแหละ ใช่มะ?
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องชี้แนะเธออย่างเหมาะสมจริงๆ สินะ
ลู่หมิงถอนหายใจ
นอกจากนี้ด้วยพรสวรรค์และอํานาจของพ่อเธอ ในอนาคตอย่างน้อยเขาจะมีบุคคลทรงพลัง 2 คนให้พึ่งพาแล้ว!
“นับต่อจากนี้ไป เธอจะเป็นศิษย์ของฉันอย่างเป็นทางการ”
ลู่หมิงพูดอย่างจริงจัง
“รับทราบค่ะอาจารย์”
เสี่ยวไป๋ตอบรับอย่างว่านอนสอนง่าย
“ดีมาก…”
ลู่หมิงพึงพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก จู่ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “โอ้ใช่ เอาการ์ดที่ฉันวาดให้เธอก่อนหน้านี้มาด้วย”
“ฮะ?”
เสี่ยวไป๋ส่งไปให้เขาด้วยความงุนงง
ลู่หมิงแก้ไขลายเส้นสองสามครั้งก่อนที่จะส่งกลับไปให้เธอ “วาดแบบนี้แทน”
“อาจารย์คุณไม่ได้บอกว่าลายเส้นบนการ์ดเมื่อกี้เกือบจะสมบูรณ์แบบแล้วหรอ?”
เสี่ยวไป๋รู้สึกงุนงง
“สาวน้อยเธอเข้าใจความหมายของคําว่า “เกือบ” รึปาวเนี่ย?”
ลู่หมิงตอบอย่างจริงจัง
ถ้าพวกมันเกือบจะสมบูรณ์แบบ ก็แสดงว่าพวกมันยังไม่สมบูรณ์แบบไง!
จะให้เขาพูดอะไรอีก?
ทุกอย่างในการ์ดใบนี้นั้นยอดเยี่ยม ตัวลายเส้นนั้นถูกต้องทุกบรรทัด อย่างไรก็ตามหากลายเส้นทั้งหมดเชื่อมต่อกันการ์ดใบนี้จะยังถือว่าไม่สมบูรณ์และใช้ออกมาไม่ได้ เนื่องจากตอนแรกเขาวาดไปให้เสี่ยวไปแค่เพียง 100 เส้นเท่านั้นจากทั้งหมด 300 ลายเส้นพื้นฐาน ถ้าใครใช้มันสร้างการ์ดออกมาได้ก็เป็นพระเจ้าแล้ว!
“อาจารย์คุณซุกซนมาก ถึงขั้นรังแกฉันเลยนี่น่า”
เสี่ยวไป๋เองก็ไม่ได้โง่ ไม่น่าแปลกใจที่ว่าทําไมเธอถึงยังไม่สามารถสร้างการ์ดออกมาได้ซะที ไม่ว่าจะแก้ไขยังไงก็ตาม
“น่ารําคาญ!” ลู่หมิงรู้สึกอาย “เธอนั้นแหล่ะที่ซุกซน”
เสี่ยวไป๋ทําไม่รู้ไม่ชี้ “แต่ฉันยังเด็กอยู่นะอาจารย์”
“แค่กๆ” ลู่หมิงไอกลบเกลื่อน 2 ครั้ง พร้อมสั่งว่า “เธอรีบไปศึกษามันต่อเถอะ”
“อื้อ” จากนั้นเสี่ยวไป๋ก็จากไปอย่างรวดเร็ว
ลู่หมิงยังคงค้นคว้าเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสต่อ
จนกระทั่งช่วงบ่าย
เทคนิคการเข้ารหัสที่อาจารย์ใหญ่สัญญาไว้มาถึงแล้ว
ลู่หมิงเหลือบมองและตาของเขาก็หรี่ลงทันทีเมื่อพบว่า “เทคนิคการเข้ารหัส D” ถูกเขียนไว้ข้างบน
เหอะๆ
อาจารย์ใหญ่คนนี้ขี้เหนียวจริงๆ!
เขากล้าส่งเทคนิคขยะแบบนี้มาได้ยังไง?
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีมูลค่าถึง 6 หมื่นหยวน ลู่หมิงจึงได้แต่ยอมรับอย่างไม่เต็มใจนัก
ถือเป็นค่าตอบแทนสาหรับการดูแลลูกสาวและค่าเสียหายในร้านของเขาก็แล้วกัน”
แม้ว่าของในร้านค้าทั้งหมดของเขาจะมีมูลค่าแค่ 1 หมื่นหยวนก็ตาม …
คอมเม้นต์