ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) – ตอนที่ 43 : เขตลับภูเขาเขาวัว
ตอนที่ 43 : เขตลับภูเขาเขาวัว
ธนู, กระสุน, มีดสั้นและไฟ….การโจมตีระยะไกลทั้งหมดถูกใช้กับหอยพวกนั้น
การโจมตีที่ดูโดดเด่นที่สุดคือการยิงของจ้าวเมิ่งซี มันถึงกับทำให้เปลือกของหอยที่อยู่ไม่ไกลนักแตกออกจากกันเป็นชิ้น ๆ
หวังเย่าถึงกับอ้าปากค้างด้วยความแปลกใจ
จ้าวเมิ่งซีลดปืนลงและยิ้มออกมา “พลังของมันไม่ได้มาก ใช้กำจัดสัตว์อสูรระดับต่ำได้อยู่”
หวังเย่าได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ออกมา “มันคงทำให้สัตว์อสูรที่ซ่อนอยู่หันมาสนใจที่นี่”
เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรง ทำให้พวกเขาต้องรีบอพยพออกจากที่นี่โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นที่แห่งนี้คงถูกโอบล้อมไปด้วยสัตว์อสูร พวกเขาเร่งฝีเท้าขึ้นรีบเดินมุ่งหน้าไป สิบนาทีต่อมา พวกเขาก็มาถึงลานกว้างที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังแห่งหนึ่ง
ทุกคนเงยหน้ามองกลุ่มแสงสีเงินที่ส่องขึ้นไปบนท้องฟ้ากว่า 10 ฟุต นั่นคือทางเข้าที่เชื่อมต่อกับมิติภายนอก
กลุ่มแสงสีเงินนี้กินพื้นที่ราว ๆ ครึ่งเอเคอร์ มันเหมือนกลุ่มเมฆขาวที่ลอยเอื่อย ๆ ไม่หยุดนิ่ง และมีช่องประตูขนาดหนึ่งฟุตอยู่ตรงกลาง มันเหมือนกับมีหลุมดำที่ไม่อาจจะมองรายละเอียดด้านในออกได้
ที่ประตูมีผู้ใช้อสูรพร้อมอาวุธหลายคนยืนประจำการอยู่ มันมีลิงตัวสูงกว่า 10 เมตรคอยดึงคนขึ้นไปด้านบน
ครูประจำชั้นสั่งการให้เด็กเดินหน้าไปที่นั่นพร้อมกับสั่งให้มัดเชือกที่เอวของตัวเอง ก่อนจะให้ลิงดึงพวกเขาขึ้นไป
หวังเย่าตรวจสอบลิงนั่นและพบว่าเป็นลิงภูเขาที่เลเวลมากกว่า 30 และอยู่ระดับทอง มันมีแรงเยอะจนสามารถยกของที่หนักหลายหมื่นปอนด์ได้อย่างง่ายดาย
ตอนนั้นอสูรของพวกเด็ก ๆ ถูกเก็บเข้ากำไลไปหมดแล้ว พวกที่ไม่มีกำไลอสูรก็ได้แต่ใช้เชือกมัดอสูรตัวเองเอาไว้รึไม่ก็อุ้มมันขึ้นไป
ไม่นานทุกคนก็ถูกดึงขึ้นไปจนหมด ภายใต้การนำทางของทหารที่นั่น ไม่นานพวกเขาก็ได้เข้ามาในภูเขาเขาวัว
หวังเย่าคือกลุ่มที่สี่ที่ถูกดึงขึ้นไป เขาได้เดินเข้าไปในหลุมดำ…เมื่อก้าวเข้าไปแล้ว ก็เหมือนกับตกลงไปในหลุม ตัวของเขาได้ตกลงไปสู่ความมืดมิด ก่อนที่จะรับรู้ได้ถึงแรงลมที่พัดอัดเข้าใส่ตัวเขาอย่างแรง
ครึ่งนาทีต่อมาเขาก็หลุดออกจากความมืดมิดและพบกับแสงสว่างตรงหน้า เขายังยืนอยู่หน้าประตูมิติดังเดิม แต่ฉากตรงหน้าเขานั้นกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
มันมีบันไดที่ทอดยาวไปถึงพื้นเพื่อความสะดวกสำหรับผู้คน
หวังเย่าและนักเรียนคนอื่น ๆ เดินลงบันไดไป ทั้งที่ในหัวพวกเขายังคงสับสนอยู่ไม่น้อย จนพวกเขาเดินไปจนถึงพื้นพวกเขาถึงจะพอทำใจกันได้
มิติด้านนี้ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก มันเป็นพื้นที่วงกลม
ภูเขาแห่งนี้ราวกับเขาที่งอกขึ้นมาจากพื้นสูงหลายหมื่นเมตร มันพุ่งทะลุเมฆขึ้นไปจนไปถึงชั้นบรรยากาศ
ชั้นบรรยากาศของที่นี่เป็นแสงราวกับแสงเหนือที่ส่องประกายระยิบระยับออกมา
ชั้นพลังที่พื้นนั้นราวกับชั้นพลังสีดำที่มีความสามารถดูดซับแสงเอาไว้ ตอนที่หวังเย่ามองลงไปด้านล่าง เขาก็พบว่ายิ่งลงไปต่ำเท่าไหร่ก็ยิ่งมืดมากขึ้นเท่านั้น
ภูเขาเขาวัวนี้เป็นภูเขาลูกเดียวโดยไม่มีภูเขาล้อมรอบ มันมีแม่น้ำไหลอ้อมผ่านภูเขาแห่งนี้ ซึ่งมีชื่อว่าแม่น้ำหยก
หวังเย่าเดาว่าเขตลับนี้ไม่ได้ใหญ่นัก มันอาจจะมีรัศมีประมาณ 20,000 เมตร หรือ 40 ไมล์
สัตว์อสูรที่อยู่ด้านในนั้นมีแค่ประมาณ 20 สายพันธุ์อย่างวัวหิมะ, นกสี, เต่าปลา, ต้นไม้ภูเขาและอื่น ๆ
ตอนนี้จ้าวเมิ่งซีเองก็อดไม่ได้ที่จะทึ่งเมื่อมองไปโดยรอบ
นักเรียนคนอื่น ๆ ก็อึ้งเช่นกัน พวกเขารู้สึกว่าที่นี่นั้นสวยงามจนหลายคนอยากจะย้ายมาอยู่ที่นี่
ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่นั้นมีบ้าน, รถและพื้นที่เพาะปลูกที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์
ที่นี่คือฐานที่พักที่ผู้ใช้อสูรได้สร้างขึ้นมา
กองกำลังต่าง ๆ จะส่งทหารของตัวเองออกมาล่าสัตว์อสูรนอกเมืองเพื่อหาวัตถุดิบต่าง ๆ พร้อมกับยึดครองมิติต่าง ๆ ด้วย พวกเขาถึงกับส่งทีมวิจัยมายังมิติภายนอก เพื่อทำการค้นคว้า
สำหรับว่าศึกษาวิจัยอะไรนั้น เท่าที่หวังเย่ารู้มา เรื่องที่ศึกษาน่าจะเป็นโครงสร้างมิติ, มันโผล่มาได้ยังไง, มันเชื่อมต่อกับโลกได้ยังไง, มันมั่นคงแค่ไหน, มิตินี้คือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมารึไม่ อะไรทำนองนี้
รวมถึงอากาศที่นี่ เพราะอากาศที่นี่มีการรั่วไหลออกไปภายนอกแต่ก็ยังมีอากาศส่วนหนึ่งที่ยังอยู่ที่นี่ ซึ่งถูกต้นไม้และสัตว์ดูดซับเข้าไป ก่อนจะทำให้พวกมันกลายพันธุ์ขึ้นมา แต่มันแค่ไม่ได้ส่งผลกับมนุษย์
บอกได้ว่าหลังจากที่ทำการวิจัยค้นคว้ามาหลายปีและเก็บอากาศตัวอย่างออกไปจำนวนหนึ่ง แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้ข้อสรุปอะไร พวกเขาได้แต่ตั้งชื่อมันว่าแก๊ส X
โปรดเจ็ควิจัยเรื่องนี้ถูกเรียกว่าวิจัย X
พวกเขายังทำการศึกษาสารอื่น ๆ ในมิติที่ต่างกันไปอย่างน้ำ, อากาศ, ดิน, แสง, คลื่นเสียง, ต้นไม้, สัตว์และอื่น ๆ
ในอีกความหมายคือการศึกษาวิจัยเรื่องนี้มีผลต่อการพัฒนาและการเป็นอยู่ของมนุษย์อย่างมาก
ตอนนี้มีการค้นพบและการประดิษฐ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกปี ผลลัพธ์เหล่านี้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงยีนส์ของร่างกายมนุษย์ไม่มากก็น้อย และมันยังคงมีการศึกษาเรื่องนี้ต่อไปเรื่อย ๆ
หวังเย่าที่เป็นคนที่เดินทางมาจากโลกอื่น ซึ่งมักจะได้ดูข่าวในเน็ต เขาเคยเห็นงานวิจัยมาหลายอย่าง เช่น การพัฒนาสมองของคนและอื่น ๆ
หลังจากที่ยึดมิติภายนอกได้ มนุษย์ก็จะใช้มันเป็นสถานที่วิจัย พวกเขาจึงต้องประจำการอยู่ที่นี่ไปสักพัก และมีมิตินอกบางส่วนสำคัญจนถึงขั้นต้องส่งทหารมาดูแล
แน่นอนว่ามิติภายนอกก็มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่มนุษย์ไม่อาจจะจัดการได้อยู่ แต่หากพวกเขาสามารถจัดการได้ก็อาจจะได้รับความเสียหายจากมันอย่างหนัก
เขตลับของอำเภอไนลอนนั้นเป็นแค่เขตลับเล็ก ๆ ไม่ได้มีอันตรายใด ๆ ดังนั้นทางเมืองจึงส่งทหารระดับ 2 มาประจำการที่นี่ มันถึงกับมีบางคนพักอาศัยอยู่ที่นี่เป็นกิจลักษณะ คนพวกนี้มาเพื่อล่าสัตว์อสูรเพื่อนำไปแลกเป็นเครดิตในการเลี้ยงชีพของตน
ทหารในโลกนี้ได้รับความเคารพอย่างสูง เพราะพวกเขาคือกลุ่มที่คอยล่าสัตว์อสูร
เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ
ยังไงซะพวกเขาก็คอยต่อสู้แทนคนอื่น
โลกนี้ให้ความสำคัญกับการต่อสู้ พวกทหารไม่คิดจะซ่อนตัวอยู่ในเมือง เหมือนเต่าที่หดหัวอยู่ในกระดอง
ในอดีตพวกมนุษย์มักจะรบกันเอง แต่ตอนนี้เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ พวกเขาจะต้องคอยวิวัฒนาการและก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้นพวกทหารจึงต้องคอยสู้อยู่ที่แนวหน้า
หวังเย่ามองไปยังโลกอีกด้านที่งดงามนี้และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เขารู้สึกว่าการทะลุมิมิติมายังโลกนี้นั้น คุ้มค่าจริง ๆ
เขาถึงกับอยากอยู่พักที่เขตลับนี้ไปสักพักเพราะเขตลับนี้คือโลกที่วิเศษสำหรับเขา
คอมเม้นต์