ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) – ตอนที่ 48 : หยุดการทดสอบ
ตอนที่ 48 : หยุดการทดสอบ
การประเมินระดับดาวของทหารรับจ้างนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งของทหารรับจ้างแต่เป็นจำนวนคนมากกว่า
ดังนั้นแม้ว่าทหารที่ประจำอยู่ที่นี่จะเป็นแค่กลุ่มทหารระดับ 2 ดาวและมีแค่ 50 คน แต่ก็ไม่อาจจะประเมินความแข็งแกร่งของพวกเขาได้
แม้เขาจะไม่รู้ว่าทหารพวกนั้นจะจัดการกับงูเลือดนี้ได้รึเปล่า แต่ตอนนี้เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น เขาได้แต่ต้องให้พวกทหารจัดการมันเท่านั้น
หวังเย่าวิ่งลงจากเขาพร้อมกับใช้สกิลของหงอคงพุ่งผ่านป่าออกไป เขาไม่เปิดโอกาสให้งูเลือดตามเขาได้ทันเลยแม้แต่น้อย
อย่างที่บอกไปการขึ้นเขาน่ะยาก แต่การลงเขาน่ะง่ายกว่า
ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่นานก่อนที่หวังเย่าจะไปถึงตีนเขา
ตอนนั้นงูเลือดเองก็พุ่งตามมาอย่างรวดเร็ว
แต่ตอนที่หวังเย่าออกจากป่าไปแล้ว งูเลือดก็เหมือนจะได้สติและเลิกคิดจะไล่ตาม มันหันกลับและพุ่งกลับเข้าไปในป่าแทน
“งูเลือดรู้ว่าเมื่อโผล่ออกมาแล้วมันจะโดนพวกทหารล่า” หวังเย่าเข้าใจว่ามันฉลาดไม่ใช่น้อย เพราะมันรู้ว่าควรจะหลีกเลี่ยงอันตรายยังไง
เขารออยู่สักพัก ไม่นานครูประจำชั้นก็มาถึง เมื่อเห็นหวังเย่าในสภาพนั้น ครูก็ถามขึ้นมา “หวังเย่า เกิดอะไรขึ้น ? ”
ครูได้พกพลุสัญญาณมาด้วย
ถ้าครูพบว่าตนเองไม่สามารถรับมือได้ ก็จะจุดพลุสีแดงเพื่อเรียกครูคนอื่น ๆ มาช่วย
ถ้าเป็นพลุสีเหลือง งั้นครูคนอื่น ๆ ก็จะพานักเรียนถอยกลับไปที่แคมป์ทันที
หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยว “อาจารย์ ผมเจอกับงูเลือด มันมี 3 หัว 6 เท้า มันเลเวล 45 โชคดีที่ผมหนีมาได้ ไม่งั้นผมคงตายไปแล้ว”
ครูอึ้งไปทันที งูเลือดเลเวล 45 ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะรับมือได้ แม้ว่าจะมีครูถึง 10 คน แต่ก็ไม่อาจจะจัดการมันได้
“มันอยู่ที่ไหน ? ” ครูมองไปรอบ ๆ ด้วยความกังวล
“มันหายไปทางนั้น เหมือนมันไม่คิดจะออกมาจากป่า” หวังเย่าชี้ออกไป
ครูประจำชั้นมองตามพร้อมกับกัดฟันแน่น ก่อนจะดึงพลุออกมาแล้วยิงพลุสีเหลืองขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอันตรายบนภูเขาและบอกให้ครูพาเด็กทุกคนลงจากเขาทันที
ตอนนั้นทหารก็เห็นพลุเช่นกัน พวกเขาได้ส่งขี่มอเตอร์ไซค์ 2 คันออกมาตรวจสอบ
5 นาทีต่อมาเมื่อได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น ทหารสองคนที่มาตรวจสอบก็ต้องหน้าถอดสี
“ ถ้าเป็นแบบนั้นคุณก็ต้องหยุดการทดสอบเอาไว้และแจ้งให้หัวหน้ากลุ่มพาเด็ก ๆ กลับ”
งูเลือดทั่วไปเป็นสัตว์อสูรระดับสูง มันเลเวลตั้งแต่ 30-39 ส่วนงูเลือดที่หวังเย่าพบนั้นเป็นงูเลือดระดับลอร์ด มันไม่เกินไปที่จะบอกว่านี่คือราชาของงูเลือด
โลกกับเขตลับนั้นไม่ได้อยู่มิติเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่อาจจะใช้สัญญาณดาวเทียมที่นี่ได้และไม่อาจจะใช้เครื่องมือสื่อสารใด ๆ ได้ พวกเขาต้องออกจากเขตลับนี้ไปก่อนถึงจะติดต่อกับหัวหน้าได้
ทหารคนหนึ่งรีบเดินทางกลับไป ส่วนทหารคนที่เหลือได้ทำการพาเด็ก ๆ กลับมายังลานกว้าง
ไม่นานหลังจากนั้นครูก็ได้เรียกรวมเด็กทุกคน ก่อนจะบอกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วพาเด็ก ๆ เดินทางข้ามสะพานเพื่อออกจากภูเขาทันที
จ้าวเมิ่งซีและคนอื่น ๆ อยู่ในกลุ่มที่สอง เมื่อเห็นว่าหวังเย่าไม่เป็นอะไร จ้าวเมิ่งซีก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่เธอก็ยังไม่คิดจะยกโทษให้กับความปากหมาของเขา
เมื่อครูและเด็กทุกคนมารวมกันที่ลาน ก็เห็นหัวหน้ากลุ่มทหารเรียกรวมพลทหารคนอื่น ๆ ที่ประจำอยู่ที่นั่น พร้อมกับคนที่มาสมทบกว่าอีก 20 คน
พวกทหารรับจ้างดูเหมือนจะเป็นงาน เมื่อเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว พวกเขาก็ได้แบ่งทีมออกเป็น 4 ทีม แต่ละทีมมี 9 คน ทั้งสี่ทีมจะแยกตัวออกไปตามทิศทางต่าง ๆ เพื่อไล่ล่างูเลือด
แต่แม้ว่าที่นี่จะมีภูเขาแค่ลูกเดียวแต่มันก็สูงอย่างมาก และมีพื้นที่ขนาดใหญ่ แม้ว่าจะมีทหารถึง 4 ทีม แต่ก็ไม่ต่างอะไรจากการงมเข็มในมหาสมุทรในการหาตัวงูเลือด
เมื่อรวมกับการที่งูเลือดสามารถบินได้ในระยะทางสั้น ๆ และการปกปิดร่องรอยของมัน มันก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะหาตัวมันพบ
หวังเย่าคิดแบบนั้นก็รู้สึกว่าเขาน่าจะช่วยได้
ตอนที่เขาตรวจสอบสถานะของงูเลือดนั้น เขาก็รู้จุดอ่อนของมันไปด้วย
****
จุดอ่อน : งูตัวนี้ชอบอากาศปลอดโปร่ง หัวทางซ้ายและขวาจะไม่กินอะไรนอกจากสูบลม, งูตัวนี้ไม่ชอบที่อากาศแปรปรวน เพราะมันไม่สามารถรับรู้กลิ่นได้
****
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็รู้สึกว่าเขาน่าจะหางูตัวนี่พบและอาจจะเป็นไปได้ที่จะฆ่ามัน
ตอนที่เขารับภารกิจในตลาดมืดมานั้น นอกจากน้ำยาพลังขั้นสูงและน้ำยาวิวัฒนาการขั้นสูงแล้ว เขาก็ยังได้ยากล่อมประสาทมา 5 ขวดด้วย ถ้ามันจำเป็นจริง ๆ เขาอาจจะต้องใช้มัน
เมื่อคิดแบบนั้น หวังเย่าก็ลุกขึ้นและตะโกนบอกกับหัวหน้าทหาร “รอก่อน”
ทุกคนต่างก็หันไปมองที่เขาและพากันสงสัยว่าเขาคิดจะทำอะไร
หัวหน้าทหารหันกลับไปมองพร้อมกับคิ้วที่ขมวดแน่น “มีอะไร ? ”
“ผมคิดว่าผมน่าจะช่วยได้” หวังเย่าพูดขึ้น
หัวหน้าทหารได้มองไปที่ครูประจำชั้นทันที
“เขาชื่อหวังเย่า เขาเป็นคนเจองูนั่น เขาหนีจากมันมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ”
หัวหน้าทหารมองไปที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้น “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเด็ก ถึงจะเป็นพวกเรา แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะฆ่ามันได้ไหม หากนายไป นายจะช่วยอะไรได้”
“ผมช่วยคุณหางูนั่นได้และมีทางฆ่ามันด้วย ให้ผมช่วยเถอะ” หวังเย่าพูดขึ้น
หัวหน้าทหารเห็นว่าหวังเย่าพูดออกมาด้วยท่าทีที่จริงจัง แต่เขาก็ยังไม่ยอมเชื่อ “นายบอกมาแล้วฉันจะทบทวนดู ถ้าฉันรู้สึกว่ามันไม่ได้ผล งั้นฉันคงได้แต่ขอบคุณที่คิดช่วย ชีวิตน่ะมีค่า ถ้านายร่วมมือกับเรา นายอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้”
หวังเย่าขมวดคิ้วและพูดขึ้นด้วยสีหน้าผิดหวัง “ในเมื่อคุณไม่เชื่อก็ไปเถอะ”
ท่าทีของอีกฝ่ายทำให้เขาผิดหวัง เขาเองก็มีจุดยืนของตัวเอง เมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะเชื่อเขา งั้นทำไมเขาต้องรบเร้าอีกฝ่ายด้วย ?
หัวหน้าทหารมองมาที่เขาด้วยสีหน้าเย็นชาก่อนจะพาทหารของตัวเองเดินทางออกไป
ครูและเด็ก ๆ ได้แต่รออยู่เงียบ ๆ แม้ว่าการทดสอบจะหยุดลง แต่ก็ยังมีหวังที่จะจัดการทดสอบต่อได้ เพราะการกลับไปตอนนี้ก็เท่ากับทิ้งโอกาสเสียเปล่าๆ
แต่ถ้ายังจัดการทดสอบต่อ หากเกิดอันตรายขึ้น ครูทั้งสิบคนนี้จะรับผิดชอบยังไง ?
โชคดีที่วิวที่นี่น่ะสวยและมีลมพัดเย็นสบายทำให้พวกเขารอที่นั่นฆ่าเวลาได้
คอมเม้นต์