Divine Card Creator – ตอนที่ 42 เด็กในวัยเติบโต
Divine Card Creator ตอนที่ 42 เด็กในวัยเติบโต
“สมองนายคิดได้แค่นี้เรอะ?”
ลู่หมิงถอนหายใจ
“ได้เท่านี้แหล่ะ!” จางเสี่ยวปังพูดอย่างเขิน ๆ “เพราะฉันยังเด็ก แถมโสดและซิงไงล่ะ”
ลู่หมิง: “เหอะเหอะ”
“คําพูดพวกนั้นไม่ตรงกับเอ็งสักนิด” ลู่หมิงคิด
“ฉันหมายถึงสกิลต่างหากไอรั่งเอ๊ย…ที่ฉันจะสื่อคือสกิลในสายอาชีพไหนก็ได้ที่สามารถเรียกปลาออกมา” ลู่หมิงกล่าว
การ์ดเกมที่เขาต้องการสร้างในครั้งนี้จะมีความซับซ้อนสูงขึ้นมาก ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมการบางอย่างเป็นพิเศษ
“นายจะสร้างการ์ดใหม่เหรอ?”
ดวงตาของจางเสี่ยวปังเป็นประกายวูบวาบ
เขารู้ดีว่าการ์ดใบแรกที่ลู่หมิงสร้างไว้นั้นมันสั่นสะเทือนวงการนักสร้างการ์ดขนาดไหน
“ใช่” ลู่หมิงยืนยัน
“ฉะ ฉันขอแจมด้วยคนสิ”
จางเสี่ยวปังรู้สึกตื่นเต้น
“แน่นอน”
ลู่หมิงยิ้ม “แต่งานนี้ใช้ภาพลวงตาไม่มากนัก ดังนั้นก่อนอื่นเลยคือนายต้องรีบเชี่ยวชาญสกิลการเปลี่ยนภาพลวงตาตามอารมณ์ และไสตูดไปหาคนที่ฉันต้องการมาให้ได้แล้ว”
“ไม่มีปัญหาเลยขอรับ ขุ่นพรี่” จางเสี่ยวปังตบหน้าอกของตน
“กระผมจะใสตูดไปเดี๋ยวนี้ครับ”
เมื่อจบประโยค…เขาก็วางสายไปทันที หลังฟังจบลู่หมิงก็ได้ แต่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่พูดถึงเรื่องเงิน ไอหมอนี่ก็จะทํางานอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นมาทันที่เสมอ!
หลังจากนั้น 3 นาทีต่อมา จางเสี่ยวปังก็โทรกลับอีกรอบ
“พี่ลู่ เรียบร้อย”
จางเสี่ยวปังกล่าวด้วยความมั่นใจ
“นายนัดเขาไว้แล้วเหรอ?”
ลู่หมิงตกใจ
“อืม เขาเป็นพี่ชายคนที่ 3 ของเพื่อนผมเอง เขาเป็นนักอัญเชิญระดับเทพที่สามารถอัญเชิญปลาออกมาได้ และตอนนี้เขาก็ว่างอยู่พอดี ให้นัดเจอกันตอนนี้เลยมะ พี่ลู่?”
“อยู่ๆ หมอนี่ก็ทําหน้าที่สุดยอดผู้ช่วยออกมาได้อย่างกับผีเข้าซะงั้น!?? มันทําให้ลู่หมิงหมดคําพูด
“โอเค” ลู่หมิงเห็นด้วย
หวืด!
หวืดดด!
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงลากปากกาเบาๆ จากข้างๆ
จากนั้นลู่หมิงก็สังเกตเห็นเสี่ยวไป๋ที่สร้างการ์ดพลังงานออกมาอย่างตั้งอกตั้งใจ พร้อมกับการ์ดกองเบ้อเร่อ
“โอ้ มันเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?” ลู่หมิงประหลาดใจ
เอ้อ ดีแฮะ พวกปีศาจนี่ก็เก่งกันจนเกินบรรยายจริงๆ?
เฮ้ย เดี๋ยวก่อนนะ!
การ์ดพลังงานเหรอ?
ลู่หมิงเอามือทั้ง 2 ข้างมากุมขมับของตน
ตลอดวันมานี้เขาเอาแต่ฝึกฝนทักษะการสร้างการ์ดและไม่ได้ใส่ใจกับการฝึกฝนของเสี่ยวไป๋อีกเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์แล้วตอนนั้นลู่หมิงน้อย ตอนนั้นเจ้าเด็กนั้นใช้เวลาไปต้อง 2-3 เดือนกว่าจะสร้างการ์ดพลังงานใบแรกออกมาได้
แถมการ์ดพลังงานที่เขาสอนเสี่ยวไป๋ตอนนี้ยังยากกว่าการ์ดพลังงานที่ลู่หมิงน้อยเคยฝึกอีกต่างหาก!
และเธอก็ทําสําเร็จแล้วในเวลาแค่นี้!
“เธอเรียนรู้วิธีการวาดเส้นพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ลู่หมิงรู้สึกช็อค
“ก็ตั้งแต่วันแรกที่คุณสอนฉันไง” เสี่ยวไป๋ขมวดคิ้วพร้อมตอบอย่างจริงจัง ”มันง่ายจะตาย”
โอ้ what da f*ck โชคดีจริงๆ ที่วันนั้นเขาไม่ได้ไปโอ้อวดกับปีศาจน้อยตนนี้
ด้วยความสัตย์จริง หลังจากนี้ลู่หมิงคงไม่มีหน้ามาภูมิใจในความสําเร็จของตัวเองอีกต่อไปแล้ว!
“นอกจากพี่สาวสุดเทพที่น่าเกรงขามของตนแล้ว ตอนนี้ยังแถมเสี่ยวไป๋ที่ฝึกได้รวดเร็วราวกับปีศาจมาอีก พระเจ้าคงไม่รักฉันจริงๆ สินะ ฮ่าๆๆๆ”
แม่*ง เอ้ย!
“เธอฝึกฝนไปจนกว่าจะชํานาญนะ” ลู่หมิงพยายามปั้นหน้าให้แลดูเหมือนปรมาจารย์ที่สุดและกล่าวออกมาด้วยเสี่ยงทุ้มต่ำ “หลังจากที่เธอเชี่ยวชาญมันแล้วฉันจะสอนสิ่งใหม่ ๆ ให้”
“อื้อ”
เสี่ยวไป๋พยักหน้า
“ฉันจะออกไปข้างนอกสักพัก ฝากเธอช่วยเฝ้าร้านให้หน่อย ฉันเปิดกล้องวงจรปิดไว้แล้ว แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็อย่าลืมโทรแจ้งตํารวจ”
ลู่หมิงบอกเธอ
“โอเคค่ะ อาจารย์”
เสี่ยวไป๋ตอบด้วยความเชื่อฟัง
หลังจากเธอรับคําสั่งแล้ว ลู่หมิงก็ออกจากร้าน
หลังจากนั้นเขาก็ออกมาพบกับจางเสี่ยวบัง
แต่ว่า
หลังจากลู่หมิงออกมาพบจางเสี่ยวยังได้ครึ่งชั่วโมง หน้าเขาก็ต้องเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทําไม ” พี่ชายคนที่ 3 ของเพื่อนหมอนี่” ถึงมีเวลาว่างขนาดนี้!
นี่…
แม่*ม…
เรียกว่า…
ผู้เชี่ยวชาญ
ด้านการ…
อัญเชิญ
ปลา…
ได้ด้วย…
หรอวะ…?
“ดูนี่!”
สุดยอดพี่ชายผู้เชี่ยวชาญอธิบายอย่างกระตือรือร้น
ชู่ววว !
หลังจากพลังงานพุ่งออกมาจากมือของเขาก็มีปลาปรากฏออกมา เขาดูจริงจังมากขณะที่พยายามใช้ตะขอเหล็กเกี่ยวปลาเพื่อเอาไปแขวนไว้ที่ชั้นวางตรงหน้าพวกมัน
“ปลาชนิดนี้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีรสชาติดีและใช้เวลาย่างสั้นจึงเหมาะสําหรับทําบาร์บีคิว” เขากล่าว
หวืดด!
พลังงานปรากฏบนมือของเขาอีกครั้งและปลาอีกตัวก็ปรากฏขึ้นเหมือนเดิม
“สําหรับปลาชนิดนี้เนื้อจะนุ่ม แต่จะไม่อร่อยเมื่อย่างหรือผัด จึงเหมาะกับการนึ่งมากกว่า”
หวีด!
ปลาอีกตัวโผล่ออกมาอีกครั้ง
“ส่วนปลาตัวนี้ ”
เขาโชว์สกิลให้ลู่หมิงดูอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ พร้อมกับพลิกปลาที่กําลังย่าง
โว้ยยยยยย ไอปัญญาอ่อนนี่พาเขามาหาเจ้าของร้านคนนี้ทําเพื่อ?!
นี่น่ะเหรอ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัญเชิญปลาที่จางเสี่ยวปังพูดถึง….
เออ เหมือนที่ทุกคนคิดกันอยู่นั่นแหล่ะ พี่ชายคนที่ 3 ของเพื่อนคนนี้เป็นเจ้าของร้านบาร์บีคิว! เขามักจะตั้งร้านขายอาหารปิ้งย่างตามโรงอาหารเป็นประจํา!
“ขอเวลาฉันเช็คอะไรแปปนึงนะพี่ลู่”
จางเสี่ยวบังเองก็โกรธมากเช่นกันเพราะรอบนี้เขาไม่ได้ทําตัวปัญญาอ่อนด้วยความตั้งใจจริงๆ
จากนั้นเขาก็ติดต่อไปหาเพื่อนเพื่อเช็คว่าหมอนั่นกวนตีนตนเล่นรึเปล่า
ครูต่อมา
เขาก็กลับมาอีกครั้งและสรุปว่าพี่ชายคนที่ 3 ท่านนี้คือนักอัญเชิญจริงๆ !
แต่บังเอิญว่าในอดีตพี่ชายท่านนี้เคยออกไปผจญภัยแล้วเกิดหลงทางเข้า จึงต้องอัญเชิญปลาซึ่งเป็นสัตว์อัญเชิญของตนมาย่างกินประทั่งความหิว ซึ่งมันก็เลยทําให้พี่ชายท่านนี้เกิดไอเดียที่จะมาลงทุนในอุตสาหกรรมอาหาร และตัดสินใจลาออกจากวิทยาลัยมาทําร้านบาร์บีคิวอย่างทุกวันนี้
“แล้วเราจะเอาไงดี?”
จางเสี่ยวปังก็ทําอะไรไม่ถูกเช่นกัน
“นายพูดว่าอะไรนะ?”
ลู่หมิงยิ้มเยาะ
แม้ความสามารถของเขาก็อาจจะดูไร้ประโยชน์
ไม่สิดูปัญญานิ่มมาก!
อย่างไรก็ตาม…
ลู่หมิงกลับได้คําตอบอะไรบางอย่างในใจ
“ราคาของปลามีค่าเท่ากับพลังงานที่ใช้ไปไหม?”
ลู่หมิงชี้ไปที่กระดานราคาบนป้ายหน้าร้านบาร์บีคิว
ปลาจวดเหลืองเล็กย่าง – 50 หยวน
ปลาช่อนตัวใหญ่ย่าง – 80 หยวน
ปลาตะเพียนแดงย่าง – 98 หยวน
ปลาตะเพียนเขียวย่าง – 99 หยวน
“แน่นอน”
พี่ชายคนที่ 3 ยิ้มและไม่ลืมที่จะพลิกปลาและโรยยี่หร่าพร้อมพูดด้วยเสียงหล่อ ”ปลายิ่งแพงก็ยิ่งต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการอัญเชิญ อะฮ้า”
“งั้นปริมาณพลังงานที่ใช้ในแต่ละครั้งคงที่ไหม?”
ลู่หมิงเริ่มอยากรู้อยากเห็น
“เอิ่ม โดยทั่วไปก็…ใช่”
พี่ชายคนที่ 3 รู้สึกอับอาย “มีคนที่ทําได้โดยไม่ต้องคํานึงถึงพลังงานอยู่ แต่คือฉันไม่ได้อยู่ในระดับนั้น ฉันกลัวว่าจะช่วยนายไม่ได้ในเรื่องนี้”
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก”
ลู่หมิงรู้สึกขอบคุณที่พี่ชายท่านนี้เต็มใจช่วยตอบคําถามของเขาจนหมด
เพียงแต่สําหรับการ์ดเกมในคราวนี้เขาคงไม่มีวิธีการอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว ท้ายที่สุดเขาก็ทําได้แค่ใช้สกิล Fish Leap แม้ว่าผลของมันจะดีนัก แต่ก็ยังนับว่าพอใช้ได้
“ถ้ารู้สึกขอบคุณก็ซื้อปลาย่างสิ”
พี่ชายคนที่ 3 พูดด้วยความอาย “มันอร่อยจะตาย”
หมอนี่มันไม่ทิ้งจริตนักธุรกิจจริงๆ!
“พี่ลู่ ส่วนรางวัลของผม…”
จางเสี่ยวปังเดินมาหาเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน
“บ้านแกสิ!”
ลู่หมิงรู้สึกโกรธเมื่อเห็นหมอนกระดึกระด้าอย่างนี้อีกครั้ง “ไม่ใช่ว่าคราวที่แล้วนายสัญญาว่าจะช่วยฉันฟรีๆ ที่นั่งหรอ?”
ก่อนหน้านี้?
ทันใดนั้นจางเสี่ยวปังก็จําเรื่องที่เต็นท์ได้ทันทีและรู้สึกหดหู่ใจ
ให้ตายเถอะฉันอุส่านึกว่าเขาจะลืมเรื่องนั้นไปแล้ว!
“ยังไงก็ตาม…”
” พรุ่งนี้นายช่วยทําอะไรให้ฉันสักอย่างได้ไหม ฉันจะให้เงินนายเป็นค่าตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ” ลู่หมิงพูดหลังจากที่นึกขึ้นมาได้
” พี่พูดจริงนะ?”
ดวงตาของจางเสี่ยวปังสว่างขึ้น
“แน่นอน”
ลู่หมิงสั่งการสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทําในวันพรุ่งนี้ และจางเสี่ยวปังก็ตกลงอย่างไม่ลังเล
“ฉันจะกลับไปเรียนแล้ว
วันนี้ฉันจะทําการบ้านทั้งหมดให้เสร็จเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้มีเวลาทําตามคําสั่งพี่”
จางเสี่ยวปังรู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันทีที่เอ่ยถึงเงิน
“เยี่ยม”
หลังจากบอกลา ลู่หมิงก็เดินทางกลับเช่นกัน
อ้อเขามีปลาย่างอยู่ในมือด้วย
พี่ชายคนที่ 3 นิสัยดีเกินไป ลู่หมิงปฏิเสธที่จะซื้อปลาย่างจากเขาไม่ลงจริงๆ แม้ว่ามันจะเป็นปลาที่เกิดจากการอัญเชิญ แต่ก็อร่อยมากทีเดียว
“เอากลับไปให้เสียวไป๋ลองกินดูสักไม้ละกัน”
นั่นคือสิ่งที่ลู่หมิงคิดอยู่ในใจ
อย่างไรก็ตามด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกลทําให้เขาเผลอกินปลาย่างจนหมด
“อืมมม…”
ลู่หมิงครุ่นคิดสักครู่และพูดออกมาด้วยความสบายใจ ” เด็กยังอยู่ในวัยเติบโต ปลาย่างมีน้ำมันเยอะเกินไป ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ควรให้กินดีกว่า”
คอมเม้นต์