ตอนที่ 251 : อดีตและปัจจุยัน

เหล่ยอู่ฉวนได้ล่าสัตว์อสูรมากมายจนไม่ต่างอะไรจากเฮอร์คิวลิส เขาคู่ควรกับตำแหน่งนี้ อันที่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นหลงจั่วเทียนหรือเหล่ยอู่ฉวนต่างก็มีผลงานที่โดดเด่นไม่น้อยหน้า 4 คนแรกเลย แม้แต่เทียบกับหวังเย่าแล้วก็ไม่ได้แย่กว่านัก แต่เพราะพวกเขาไม่ใช่คนของเมืองหัวเซี่ย มันจึงต้องใช้เวลาอยู่บ้างกว่าที่ผู้คนจะยอมรับทั้งสองคนนี้ ดังนั้นชื่อของทั้งสองจึงถูกใส่ไว้ท้ายสุดเพื่อไม่ให้สร้างความไม่พอใจให้กับ 7 คนแรก

เมื่อผู้เยาว์ทั้ง 10 ขึ้นไปยืนอยู่บนเวที นักข่าวทุกคนก็รีบถ่ายภาพพวกเขา ส่วนฟางฉิงหัวได้ทำการมอบเหรียญให้กับพวกเขา

หวังเย่ารู้สึกว่าเขายังแข็งแกร่งไม่พอ คนมีพรสวรรค์ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่เขาเท่านั้น มันยังมีคนอีกมากมายหลายพันคนที่สู้เคียงข้างเขาได้ แต่ทุกคนก็มีเส้นทางต่างกันออกไป เขาตัดสินใจว่าจะขยันให้มากกว่าเดิมจนกลายเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด

หลังจากที่ผู้เยาว์ทั้ง 10 ลงจากเวที ฟางฉิงหัวก็ทำการประกาศรายชื่ออื่น ๆ ต่อ

หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นไปกับบรรยากาศนี้ เขาเคารพคนพวกนี้จากใจจริง เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนของโลกนี้มากขึ้นไปทุกที

ตั้งแต่ 10.00-12.00 น. การมอบรางวัลก็เสร็จสิ้นตามมาด้วยผลงานของกองทัพ

มันไม่ใช่แค่ภาพของการฝึกของกองทัพแต่ยังรวมไปถึงการต่อสู้ที่น่าเศร้า ภาพเหล่านี้ดูแล้วช่างน่าหดหู่

มีภาพถูกฉายที่กำแพง และวีดีโอนั้นก็นานกว่า 1 ชั่วโมง

ทุกคนทั้งในและนอกลานต่างก็มองดูวีดีโอนั้นด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

หวังเย่าเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เขาไม่ใช่คนใจหินอะไร น้ำตาของเขาถึงกับไหลออกมา

ในวีดีโอนี้มี 5 นาทีแรกนั้นแนะนำประวัติศาสตร์ของหัวเซี่ยก่อนที่โลกจะเปลี่ยนแปลงไป ตั้งแต่ยุคที่มีจักรพรรดิจนถึงช่วงสงครามโลกและการรุกรานของชาติต่าง ๆ จนกระทั่งการก่อตั้งประเทศขึ้นมา

จากนั้น….

อยู่ ๆ วันหนึ่งทั้งโลกก็หม่นแสงลง เมฆดำและสายฟ้าก่อตัวขึ้นราวกับว่านี่คือจุดจบของโลก คลื่นยักษ์และแผ่นดินไหวก่อตัวขึ้นมาพร้อมกับหายนะอื่น ๆ

หายนะพวกนี้คงอยู่กว่า 10 วัน มีคนมากมายต้องล้มตายไป ตอนนั้นผู้คนก็พบว่าสัญญาณของดาวเทียมในอากาศเริ่มใช้งานไม่ได้

คนที่ใจกล้าก็อาสาออกไปสำรวจและพบกับมิติลับ มันมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอยู่

จากนั้นต้นไม้และสัตว์บนโลกก็เริ่มเปลี่ยนไปเพราะก๊าซประหลาดจากมิติลับ พวกมันเปลี่ยนไปคล้ายกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งและกระหายเลือด

ในเวลาสั้น ๆ ก็มีสัตว์อสูรอยู่ทั่วทุกที่ พวกมนุษย์ที่หนีไม่ทันต้องกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรพวกนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

ด้วยความช่วยเหลือจากอาวุธรวมไปถึงการที่สัตว์อสูรในช่วงแรก ๆ ไม่ได้แข็งแกร่งนัก สุดท้ายมนุษย์ก็ประคองสถานการณ์ได้ นักวิทยาศาสตร์ได้นำซากสัตว์อสูรมาทำการวิจัย….หลังจากที่ทำการศึกษาอยู่นาน สุดท้ายก็มีผู้ใช้อสูรเกิดขึ้น พวกเขาทำสัญญากับสัตว์อสูรและสามารถใช้สกิลของสัตว์อสูรได้ พวกเขามีความแข็งแกร่งที่โดดเด่น และสามารถพึ่งความสามารถเหล่านี้ในการต้านทานสัตว์อสูร สุดท้ายพวกเขาก็สามารถสร้างกำแพงขึ้นมาได้

ไม่ว่าใครที่ได้ดูวีดีโอนี้ก็ต้องถอนหายใจออกมา ความยากลำบากในการสร้างเมืองขึ้นมา, ความรุ่งโรจน์ของมนุษย์ในอดีตก่อนที่สัตว์อสูรจะเข้าโจมตี

หลังจากนั้นในส่วนหลังของวีดีโอก็เป็นข้อมูลที่ถูกสรุปมา

ยกตัวอย่างเช่นตอนเริ่มต้นมีทหารรับจ้างในเมืองหัวเซี่ย 1,000 คน ในปีที่แล้วมีทหารรับจ้าง 328,900 คน และมีกลุ่มทหารรับจ้างระดับ 5 ถึง 498 กลุ่ม ปีนี้มีทหารรับจ้าง 356,200 คน โดยมีกลุ่มทหารรับจ้างระดับ 5 ถึง 543 กลุ่ม

ในปีที่แล้วพวกเขาได้ทำการสำรวจมิติลับ 27 แห่ง พวกเขายึดมิติลับได้ 4 แห่ง ในปีนี้พวกเขาได้ทำการสำรวจมิติลับ 32 แห่งและยึดมาได้ 5 แห่ง

…

สถิติเหล่านี้แสดงถึงความก้าวหน้าของเมืองหัวเซี่ยในด้านต่าง ๆ ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา มันสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน มันแสดงถึงการเติบโตของพวกเขาในแต่ละปี รวมไปถึงผลกำไรในด้านต่าง ๆ ด้วย

หลังจากนั้นก็มีงานเดินพาเหรดของกองทัพทั้งสี่ ตามมาด้วยการประกาศผลวิจัยอย่างการสร้างยาพิเศษขึ้นมาได้, การก่อตั้งกองทัพพิเศษรวมไปถึงการสร้างค่ายกลเคลื่อนย้าย

สามนาทีสุดท้ายของวีดีโอนั้นคือบทพูดของเจ้าเมือง เขาสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้และบอกถึงเป้าหมายในปีต่อไปเพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้กับผู้คน

เมื่อวีดีโอจบลง การฉายภาพก็สิ้นสุดไปด้วย ผู้คนต่างก็พากันฮึกเหิมเมื่อได้ดูจนจบ นี่คือประเทศและบ้านเกิดของพวกเขา ทุกคนต้องสู้ร่วมกันเพื่อเป้าหมายเดียว พวกเขาไม่ควรจะมีปัญหากันเอง พวกเขาควรร่วมมือกันในการยกระดับเมือง

เป้าหมายนั้นไม่ใช่การร่วมมือกันในหมู่คนกลุ่มเล็ก ๆ แต่เป็นการร่วมมือกันของคนทั้งชาติ

บรรพบุรุษในอดีตได้ดิ้นรนและทุ่มเทในการสร้างชาติขึ้นมา พวกเขาเองก็พร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อชาติ แม้จะต้องตายแต่พวกเขาก็ไม่เสียดาย

หวังเย่าเองก็หวั่นไหวไปด้วย เมื่อหันไปมองคนอื่น ๆ ก็พบว่ามีหลายคนที่ยังอินไปกับวีดีโอก่อนหน้านี้ไม่หาย

แม้แต่กลุ่มคนจากสำนักลับเองก็ยังตาแดงก่ำด้วยความตื้นตัน

ฝึกฝน ทำไมต้องฝึกฝน ?

เพื่อความแข็งแกร่งของตัวเอง ? เพื่อมีชีวิตที่ยาวนานขึ้น ? เพื่อให้ชีวิตสบายขึ้น ?

สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อได้ดูวีดีโอนี้แล้ว พวกเขาถึงกับเกิดความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกพลุ่งพล่านอยู่ในหัวใจ

คนจากสำนักลับหลายคนไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสหรือศิษย์เองก็เริ่มใคร่ครวญบางอย่าง

บางทีเป้าหมายในการฝึกฝนของพวกเขาอาจจะเป็นการใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองเปลี่ยนแปลงโลกและสร้างอนาคตขึ้นมา