ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) – ตอนที่ 261 : 100 คนที่ผ่านเข้ารอบ

อ่านนิยายจีนเรื่อง ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) ตอนที่ ตอนที่ 261 : 100 คนที่ผ่านเข้ารอบ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 261 : 100 คนที่ผ่านเข้ารอบ

ก่อนที่จะเริ่มงาน หวังเย่าเริ่มเบื่อจึงหยอกแฟนสาวทั้งสองของเขา

จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยได้แต่ยิ้มไม่หยุดและยิ่งทำให้คนรอบ ๆ หันมามองพวกเธอ

“หึหึ อิจฉาฉันล่ะสิ” เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของคนรอบข้าง หวังเย่าก็รู้สึกภูมิใจขึ้นมาและส่งสายตากวนประสาทใส่ทุกคน เขาใช้มือโอบเอวแฟนทั้งสองของเขาเอาไว้ เพื่อให้คนอื่นอิจฉามากเข้าไปอีก

“อย่างกับนางฟ้าและหมาวัด นั่นแฟนแกนี่ แกจะทำอะไรก็ได้ ไม่งั้นแกคงทำตัวหยิ่งทะนงแบบนี้ไม่ได้”

คนส่วนมากต่างก็พากันสบถออกมา

หวังเย่าไม่ได้มีแต่แฟนสวยแค่คนเดียว แต่เขายังมีแฟนสาวที่สวยถึง 2 คน

“พวกแกไปหาแฟนจริง ๆ ให้ได้ก่อนเถอะ ไม่งั้นแล้วแกคงได้แต่มองแฟนคนอื่น และทำได้แค่ด่าฉัน เพราะความอิจฉา” หวังเย่าถอนหายใจออกมา

ยิ่งได้เห็นคนหงุดหงิดและมองมาที่แฟนของเขาก็ยิ่งทำให้หวังเย่ารู้สึกพอใจที่คนอื่นอิจฉาแบบนี้

ความรู้สึกนี้มันยอดเยี่ยมจริง ๆ หวังเย่าไม่คิดเลยว่าเขาจะได้แฟนสวยทั้งสองคนนี้มา

แม้ว่ามือเขาจะโอบเอวพวกเธอ แต่ก็ไม่ได้หยุดสายตาทุกคนให้มองมาที่พวกเธอ

หวังเย่าเองก็แทบจะลืมตัว ตอนนี้เขาไม่อาจจะปล่อยมือจากพวกเธอได้เลย

ตั้งแต่เกิดเรื่องที่โรงแรม สาว ๆ ทั้งสองไม่ยอมปล่อยให้เขาห่างสายตาเลยแม้แต่น้อย

หวังเย่าไม่รู้ตัวเลยว่าด้วยมือเขาที่ลูบไล้พวกเธออยู่นั้นก็ยิ่งทำให้พวกเธอหน้าแดงขึ้นมาเรื่อย ๆ

หยางเสี่ยวหยวนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ก็เผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นแบบนี้

“พอแล้ว” ไม่นานหลังจากนั้น ฟ่านฉิงเหมยก็ได้หยิกมือของหวังเย่าให้ปล่อยเอวเธอ

เมื่อเห็นแบบนั้น จ้าวเมิ่งซีเองก็หยิกมือเขาเช่นกัน

หลังจากนั้นเธอก็ทำการหยิกที่เอวของหวังเย่า “นายนี่กล้าเกินไปแล้ว คนอยู่ที่นี่ตั้งเยอะก็ยังจะทำแบบนี้อีก”

เมื่อพูดจบ เธอก็หยิกเอวของหวังเย่าพร้อมกับบิด

ด้วยสภาพร่างกายของหวังเย่าในตอนนี้แล้วเป็นธรรมดาที่จะทนได้มากกว่าคนทั่วไป แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่รู้สึกเจ็บ แน่นอนว่าเพื่อที่จะแกล้งจ้าวเมิ่งซี หวังเย่าจึงแสร้งทำท่าเจ็บออกมา “โอ๊ย เจ็บจัง ครั้งหน้าฉันไม่กล้าทำแล้ว”

“ลองกล้าดูสิ” จ้าวเมิ่งซีมองค้อน

“ไม่มีแล้ว ไม่มีแล้ว” หวังเย่าร้องออกมา

“สำนึกก็ดีแล้ว” จ้าวเมิ่งซีปล่อยมือด้วยความพอใจ

หวังเย่าเห็นว่าฟ่านฉิงเหมยเองก็อยากจะบิดเขาเหมือนกันจึงรีบพูดขึ้น “ฉันยอมรับผิดแล้ว คืนนี้เธออยากทำอะไรก็ได้ ฉันจะไม่ขัดขืน”

“นายนี่มันหน้าด้านจริง ๆ ” ฟ่านฉิงเหมยหันหน้าหนีทันที

เมื่อเห็นทั้งสามคนหยอกล้อกัน พวกคนโสดที่อยู่รอบ ๆ ก็แทบจะร้องไห้ออกมา

ตอนนั้นเองหวังเย่าก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่น่าขนลุกมองมาที่เขา เมื่อหันกลับไปมองเขาก็พบว่าเจ้าของสายตานั้นคือฟางอี้ที่นั่งอยู่บนที่นั่งแขกพิเศษ

สายตาของเธอที่จับจ้องมาทางพวกเขาแฝงไปด้วยความหมาย จากที่หวังเย่ารับรู้ได้นั้นมันเหมือนกับว่าเธอจะหงุดหงิดนิด ๆ ราวกับหึงเขาอย่างไรอย่างนั้น

“ ฉันคิดไปเองมั้ง ” ตอนนั้นแม้แต่หวังเย่าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ท่าทีที่แปลกประหลาดของเขาทำให้จ้าวเมิ่งซี และฟ่านฉิงเหมยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หันไปมองผู้หญิงที่หวังเย่ามองก่อนหน้านี้

ในพริบตาทั้งสามก็สบตากัน

ตอนนั้นเหมือนกับมีคลื่นพลังอันรุนแรงก่อตัวขึ้นมา ทั้งสองฝ่ายดูไม่ยอมกันเลย

เวลานี้หากฝ่ายไหนเลือกที่จะหลบสายตา ก่อนก็อาจจะหมายถึงความพ่ายแพ้

จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยหันมามองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้า พวกเธอราวกับตกลงกันไว้แล้ว

อีกด้านฟางอี้ก็คิ้วขมวด ผู้หญิงสองคนนี้สวยไม่แพ้เธอเลย

“สองคนนี้คือศัตรูของฉัน” แต่เธอน่ะไม่กลัวหรอกเพราะเธอเป็นถึงลูกสาวของเจ้าเมือง

เป็นธรรมดาที่หวังเย่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงทั้งสามคนนี้เหมือนจะประกาศศึกกัน และนี่คือการต่อสู้แบบ 2 ต่อ 1

ตอนนั้นเขายังมองไปยังตัวแทนของสำนักต่าง ๆ ที่ขึ้นมาบนเวที ตัวแทนของสำนักพวกนี้เขาได้เห็นในวันชาติแล้ว

หลังจากนั้นผู้ตรวจสอบ 4 ดาว 4 คนก็ได้เดินไปยังที่นั่งพิเศษ หวังเย่ารู้ว่าทั้งสี่คนนี้เป็นใคร มีแค่ผู้ตรวจสอบ 5 ดาวที่เปิดงานชาติในวันแรกเท่านั้นที่ไม่ได้มาด้วย ตัวแทนของตระกูลและกลุ่มต่าง ๆ ก็มาถึงเช่นกัน

สุดท้ายฟางฉิงหัวก็ร่อนลงมาจากฟ้าและมายืนอยู่ด้านบนเวที

ทันทีที่เขาปรากฏตัวก็ทำให้ทุกคนเงียบไปทันที

เห็นได้ชัดว่าในสายตาของคนในเมืองแล้วฟางฉิงหัวนั้นมีฐานะสูงส่งแค่ไหน

“ในฐานะคนที่จัดงานชุมนุมศิลปะการต่อสู้นี้ขึ้นมา ฉันรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆที่ทุกคนมาร่วมงาน ฉันขอเริ่มงานชุมนุมศิลปะการต่อสู้ ขอให้ทุกคนต้อนรับผู้ที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 100 คนจากคนหลายหมื่นคน พวกเขายังเด็กและยังแข็งแกร่ง พวกเขาคือพวกระดับสูงของชาวหัวเซี่ย….” เมื่อฟางฉิงหัวพูดจบก็มีช่องทางเดินถูกเปิดออก

ในพริบตาก็มีคนมากมายเดินขึ้นมาบนเวที

ทุกคนล้วนแต่เป็นศิษย์ของสำนักต่าง ๆ อีกทั้งยังมีพวกผู้ตรวจสอบ 1-2 ดาวและคนจากตระกูลใหญ่

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือสองคนที่เป็นผู้เยาว์ที่โดดเด่นประจำปีนี้ซึ่งก็คือหลงจั่วเทียนและเหล่ยอู่ฉวน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด