ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) – ตอนที่ 285 : การต่อสู้ของทั้งหก
ตอนที่ 285 : การต่อสู้ของทั้งหก
หลังจากงานชุมนุมเมื่อวานจบลง ก็มีบทวิเคราะห์ของทั้ง 6 คนที่ผ่านเข้ารอบถูกเผยแพร่ออกมาในอินเตอร์เน็ต
มันบอกถึงโอกาสชนะของแต่ละคนด้วย และคนที่มีโอกาสเป็นแชมป์มากที่สุดก็คือเจิ้นเหลิ่งเทียน
ตัดสินจากความแข็งแกร่งเมื่อวานนี้ของเจิ้นเหลิ่งเทียน ที่ยังไม่ได้ลงมือจริงจังก็เอาชนะได้ในทันทีแล้ว เขาดูลึกลับอย่างมาก
มันพอเข้าใจได้ว่าทำไมหลายคนจึงพากันโหวตว่าเขาจะชนะการชุมนุมนี้
แฟนคลับของเจิ้นเหลิ่งเทียนมีจำนวนมาก ส่วนมากแล้วเป็นคนในอินเตอร์เน็ต
หลายคนพากันค้นหาข้อมูลของเขาแต่ก็พบว่านอกจากชื่อและเพศแล้ว เจิ้นเหลิ่งเทียนไม่มีข้อมูลอย่างอื่นเลยราวกับว่าอยู่ ๆ เขาก็โผล่มา
อยู่ ๆ เขาก็โผล่มาในงานชุมนุมและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว
เขาน่าจะเป็นอัจฉริยะจากกองกำลังลึกลับ
นี่คือสิ่งที่คนส่วนมากคิด
หวังเย่าเองก็ได้ค้นหาข้อมูลของเจิ้นเหลิ่งเทียนเช่นกัน แต่ก็ได้คำตอบที่ไม่ต่างกันกลับมา
บอกได้ว่าเจิ้นเหลิ่งเทียนนั้นเป็นคนที่ลึกลับอย่างมาก
หวังเย่าเดาว่าเฉี่ยนเจินเฉียนและผู้ตรวจสอบ 4 ดาวคนอื่น ๆ น่าจะรู้บางอย่างบ้าง แต่เขาไม่ได้ถามพวกนั้น
เขารอจนกว่าจะได้เข้าไปที่มิติลับป่าครั้งต่อไป ตอนนี้เขาแค่ต้องจับตาดูการต่อสู้ของทั้ง 6 คนก่อน
เมื่อเวลาผ่านไปตอนที่ผู้ชมส่วนมากเข้ามาในสนามแล้ว สุดท้ายก็มีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาบนเวที
ถ้าไม่ใช่ฟางฉิงหัวแล้วจะเป็นใครไปได้ ?
เขายืนอยู่บนเวทีที่ได้รับการซ่อมแซมพร้อมกับแผ่พลังออกมาจนทำให้ทุกคนพากันเงียบ
“หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดเมื่อวานนี้ สุดท้ายก็ได้ผู้เข้ารอบทั้ง 6 คน พวกเขาจะสู้ตัดสินในวันนี้เพื่อหาว่าใครจะเป็นแชมป์”
“ตอนนี้ขอเชิญทั้ง 6 คนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 100 คนที่ผ่านรอบคัดเลือกมาได้
เมื่อฟางฉิงหัวพูดจบ เจิ้นเหลิ่งเทียน, ลู่หาน, เซี่ยงหยาง, หยวนจิ่ว, เหยียนจือและลั่วสิงก็เดินขึ้นมาบนเวที
“ตอนนี้ฉันขอประกาศเริ่มการชุมนุมศิลปะการต่อสู้ในวันสุดท้าย”
เมื่อฟางฉิงหัวพูดจบ เขาก็หายตัวไปทันที
ไม่นานก็มีชายแก่คนเดิมปรากฏตัวขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ
“ฉันขอเริ่มการจับฉลากในวันสุดท้าย”
เมื่อชายแก่พูดจบรายชื่อของทั้ง 6 คนก็ปรากฏขึ้นมาบนจอก่อนจะเริ่มสลับไปมาอย่างรวดเร็ว
ไม่ถึง 1 นาทีชื่อนั้นก็หยุดพร้อมกับการจับคู่ที่ถูกประกาศออกมา
คู่ที่ 1 เซี่ยงหยาง Vs หยวนจิ่ว
คู่ที่ 2 ลู่หาน Vs ลั่วสิง
คู่ที่ 3 เจิ้นเหลิ่งเทียน Vs เหยียนจือ
ทันทีที่ที่เห็นรายชื่อ ทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้นออกมา ผู้เยาว์ที่โดดเด่นของเมืองทั้ง 2 คนไม่ได้สู้กันเอง พวกเขาไม่ต้องเจอกับคนที่โดดเด่นที่สุดอย่างเจิ้นเหลิ่งเทียนด้วย
เมื่อเห็นแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันโล่งอก
บอกได้ว่าการจับคู่นี้ถือว่าดีแล้ว โอกาสชนะพอมองเห็นได้ชัดขึ้นมาบ้าง
หากมองไปที่รายชื่อนี้แล้วก็จะเห็นได้ว่าใครที่มีโอกาสเข้ารอบต่อไป
เจิ้นเหลิ่งเทียนผ่านเข้ารอบได้แน่ ๆ โดยไม่ต้องสนว่าใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา
ลู่หานเองก็น่าจะผ่านเข้ารอบเช่นกัน เขาดูเหนือกว่าลั่วสิง
หยวนจิ่วนั้นอาจจะแข็งแกร่งแต่คงไม่ได้หนักหนาอะไรสำหรับเซี่ยงหยาง
เหยียนจือปะทะกับเจิ้นเหลิ่งเทียน ถึงจะดูแข็งแกร่งแต่ก็คงไม่อาจจะทำอะไรได้มาก
เหยียนจือมองไปที่เจิ้นเหลิ่งเทียนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แม้ว่าเขาจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่เมื่อผลการจับคู่ออกมาแบบนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหนักใจ
“สมแล้วที่มาจากที่นั่น ความกดดันไม่ใช่น้อย ๆ เลย ” เมื่อเห็นแบบนั้นเหยียนจือก็เอาแต่คิดว่าต้องสู้ยังไง
จากความคิดของเขาแล้วเขาเหมือนจะรู้ถึงที่มาและข้อมูลของเจิ้นเหลิ่งเทียน
“การต่อสู้คู่ที่ 1 เริ่มได้ ” เมื่อชายแก่พูดจบ เซี่ยงหยางและหยวนจิ่วก็ยังยืนอยู่บนเวที คนอื่น ๆ ทั้ง 4 คนได้เดินออกไปรอด้านนอกเพื่อชมการต่อสู้
เซี่ยงหยาง Vs หยวนจิ่ว
คนหนึ่งคืออัจฉริยะจากตระกูลเซี่ยง หนึ่งในห้าตระกูลชั้นนำของเมือง เขาใช้ทักษะขั้นที่ 8 ทักษะผันผวน
อีกฝ่ายคือคนจากสำนักวัดเส้าหลิน เขาเองก็โด่งดังอย่างมาก
สำหรับทักษะขั้นที่ 8 ของวัดเส้าหลินแล้ว มันคือทักษะมังกรฟ้าไร้ปรานี ซึ่งหยวนจิ่วยังไม่เคยใช้มันออกมา
แต่วันนี้ก็จะรู้เองว่าเขาจะใช้มันออกมารึไม่
ยังไงซะ คู่ต่อสู้ของเขาตอนนี้ก็ใช่ว่าจะเอาชนะได้ง่าย ๆ
“เพิ่มพลัง 3 เท่า ! ”
เซี่ยงหยางทำการใช้ทักษะของตัวเองออกมา ร่างกายเขาเพิ่มพลังขึ้นมาถึง 3 เท่าพร้อมกับพลังที่มองไม่เห็นแผ่ออกมารอบตัว
เขากำหมัดทั้งสองข้างพร้อมกับสายลมที่พัดกระพือออกมา เขามองไปที่หยวนจิ่วพร้อมกับพูดขึ้น “ใช้ทักษะของนายออกมา ไม่งั้นนายจะไม่มีโอกาส”
หยวนจิ่วไม่ได้พูดอะไรออกมา เขายังคงตั้งท่าเช่นเดิม
“ถ้านายไม่คิดจะใช้ทักษะออกมา งั้นฉันคงต้องบอกว่านายคงต้องแพ้”
เมื่อพูดจบ เซี่ยงหยางก็ได้พุ่งเข้าใส่หยวนจิ่วพร้อมกับต่อยออกไป
นี่มันไม่ใช่การโจมตีที่พิเศษ มันแค่การโจมตีที่เรียบง่าย
หยวนจิ่วเลือกที่จะไม่ใช้ทักษะออกมา เขายกแขนตัวเองขึ้นเพื่อรับมือกับหมัดนี้ แต่มันไม่ได้จบแค่นั้น หยวนจิ่วกลับยกเท้าขึ้นแล้วถีบเข้าใส่เซี่ยงหยางเต็มแรง
แต่มีมือข้างหนึ่งจับที่เท้าเขาเอาไว้ ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นมา 3 เท่าของเซี่ยงหยาง เขาก็ยกตัวหยวนจิ่วขึ้นก่อนจะจับฟาดใส่เวที
ตูมมมม !
เสียงระเบิดดังก้องขึ้นมาพร้อมกับเวทีที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่กลับแตกออก
หยวนจิ่วนอนหมอบอยู่กับพื้น ที่ปากเขามีเลือดไหลออกมา ตาของเขาหลับอยู่ไม่รู้ว่าจะรอดรึไม่
ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในพริบตาหยวนจิ่วกลับนอนหมอบอยู่กับพื้นแบบนี้ได้
“ตัดสินแพ้ชนะแล้วหรือ ? ”
“ไม่ …ไม่มีทาง หยวนจิ่วไม่ได้อ่อนแอแบบนั้น”
“ใช่ มันไม่น่าจะจบลงเร็วแบบนี้ได้”
คอมเม้นต์