ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – ตอนที่ 125 เจ้าลูกกวาดป่วย
แม้ว่าอาหารมื้อนี้จะเลิศรสเป็นอย่างมาก แต่ถวนถวนกลับดูผิดปกติไปไม่เหมือนทุกวัน เธอกินแค่ไม่กี่คำก็เอ่ยว่าอิ่มซะแล้วและไม่อยากกินอะไรอีกต่อไป
“ทำไมวันนี้ถวนถวนกินน้อยจัง แม่หรงทำอาหารไม่อร่อยเหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ อาหารของแม่หรงอร่อยมาก แต่ถวนถวนอิ่มจริง ๆ”
เด็กน้อยตอบกลับพร้อมกับลูบท้องตัวเองเลียนแบบผู้ใหญ่
“ทำไมวันนี้ถวนถวนกินได้น้อยแบบนี้?”
หลี่หรงแปลกใจ แม้ว่าถวนถวนจะไม่ใช่เด็กตัวใหญ่ แต่ปกติแล้วเธอเป็นเด็กที่กินได้ค่อนข้างเยอะ แถมยังเป็นเด็กที่ไม่เลือกกินมากสักเท่าไหร่อีกต่างหาก
“เมื่อตอนเที่ยง ครูสวีทำอาหารมาให้หนูกินเยอะแยะเลย พวกมันอร่อยมากหนูก็เลยกินไปเยอะจนตอนนี้หนูยังอิ่มอยู่เลย”
หลี่หรงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยทันทีเมื่อเธอได้ยินชื่อของสวีรุ่ย เธอยังคงจำได้ว่าครูคนนี้เคยส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับพี่เขยของเธอ
“พี่ได้ยินมาว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้พ่อของครูสวีเพิ่งกลับมาหาเธอ ดังนั้นช่วงนี้ครูสวีจึงน่าจะกำลังอารมณ์ดี เธอก็เลยทำอาหารมาเลี้ยงนักเรียนรวมไปถึงถวนถวนด้วยล่ะมั้ง?”
อวี้ฮ่าวหรานพยายามพูดจากลบเกลื่อนกลัวว่าน้องภรรยาของเขาจะถามถึงรายละเอียดต่อ ว่าทำไมสวีรุ่ยจู่ ๆ ถึงใจดีกับถวนถวนมากกว่าปกติแบบนี้ เขาขี้เกียจอธิบายเรื่องต่าง ๆ ออกไปเพราะมันค่อนข้างซับซ้อนและเป็นสิ่งที่หลี่หรงคงจะไม่เข้าใจแน่
หลี่หรงพยักหน้าเมื่อเขาได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน จากนั้นเธอก็ไม่ได้คิดอะไรต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องดีที่ครูในโรงเรียนดูแลถวนถวนจริงไหม?
แต่แล้วหลังจากพยายามกินอาหารไปได้อีก 2-3 คำ ถวนถวน ก็หันความสนใจไปที่เจ้าลูกกวาดที่นอนซึมอยู่บนพื้น
หลังจากเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วบนใบหน้าเล็ก ๆ นั้นก็ขมวดเป็นปมอย่างช่วยไม่ได้
เธอพบว่าตอนนี้ลูกกวาดนอนซึมอยู่บนพื้นไม่แตะข้าวในชามด้วยเหตุผลบางอย่าง
“ทำไมเจ้าลูกกวาดไม่ยอมกินข้าวล่ะ?”
ถวนถวนพึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัย จากนั้นเด็กน้อยวางตะเกียบลงและลุกออกเจ้าเก้าอี้ลงไปนั่งคุกเข่ามองดูเจ้าลูกกวาดใกล้ ๆ
“ถวนถวน ทำไมลูกถึงลงไปนั่งกับพื้นแบบนั้นล่ะ?”
หลี่หรงเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าจู่ ๆ เด็กน้อยลงไปนั่งกับพื้น
“พ่อ แม่หรง มาดูสิ เจ้าลูกกวาดไม่ยอมกินข้าวเลย… มันไม่สบายหรือเปล่า?”
ถวนถวนเงยหน้าขึ้นมองอวี้ฮ่าวหรานและหลี่หรง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
“หืม? มันไม่ยอมกินข้าวเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาวตัวเอง อวี้ฮ่าวหรานก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วไปนั่งลงข้าง ๆ เจ้าลูกกวาดพร้อมกับมองสำรวจมัน ซึ่งเขาก็พบว่ามันดูไม่ปกติจริง ๆ
ดูเหมือนว่ามันน่าจะป่วย แต่ก่อนหน้านี้เขาก็ให้มันดูดซับพลังวิญญาณของเขาไปแล้ว ร่างกายของมันควรจะแข็งแรงกว่าสุนัขธรรมดาซึ่งมันไม่ควรจะป่วยได้ง่าย ๆ นี่นา?
“อืม เจ้าลูกกวาดดูเหมือนจะไม่สบายจริง ๆ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้หลังจากถวนถวนเลิกเรียน พ่อกับแม่หรงจะพามันไปโรงพยาบาลสัตว์ก็แล้วกัน”
เด็กน้อยยิ่งแสดงสีหน้าวิตกเมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน เธอรีบเอ่ยถามกลับอย่างรวดเร็ว
“พ่อจ๋า พรุ่งนี้พ่อจะพาเจ้าลูกกวาดไปหาหมอจริง ๆ นะ?”
“อืม พ่อสัญญา”
ก่อนเข้านอน
“แม่หรง วันนี้หนูขอนอนกับลูกกวาดได้ไหม วันนี้ลูกกวาดไม่สบาย หนูอยากอยู่กับมัน”
ถวนถวนที่สวมชุดนอนเรียบร้อยแล้ว มองดูเจ้าลูกกวาดที่กำลังนอนซึมด้วยสายตาเวทนา
“ไม่ใช่คืนนี้!”
หลี่หรงส่ายหัวทันทีเมื่อได้ยินคำขอนี้
แม้ว่าที่ผ่านมาถวนถวนจะสุขภาพแข็งแรงดีและไม่ค่อยป่วย แต่ถ้าลูกกวาดป่วยจริง ๆ ก็มีโอกาสสูงที่เจ้าลูกกวาดอาจแพร่เชื้อให้กับถวนถวนได้หากใกล้ชิดกันมากเกินไป
“อือ…”
ถวนถวนทำหน้ามุ่ยทันทีเมื่อไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตามเด็กน้อยก็ไม่ได้ดื้อดึงเอาแต่ใจตัวเอง เธอพยักหน้าก่อนที่จะเดินคอตกเข้าไปในห้องของตัวเอง
บ่ายของวันถัดมา
ทันทีที่อวี้ฮ่าวหรานรับถวนถวนเสร็จ เขาก็นำลูกกวาดไปที่โรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้เคียง
“ช่างน่ารักอะไรแบบนี้!”
ในโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง สัตวแพทย์สาวสวยอุ้มลูกกวาดขึ้นมามองใกล้ ๆ ด้วยแววตาเป็นประกาย
“พี่สาว ดูให้หน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกกวาดของหนู”
ถวนถวนเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเอ่ยข้อร้องอย่างอ่อนหวาน
“อืม…จากที่พี่สาวดูผ่าน ๆ แล้ว เจ้าลูกกวาดของหนูคงไม่น่าจะเป็นโรคร้ายแรงอะไรเพราะจากภายนอกของมันไม่มีอาการบ่งชี้อะไรเลย…. มันน่าจะซึมเพราะเหตุผลทางด้านอารมณ์มากกว่า”
แพทย์คนสวยมองสำรวจไปทั่วตัวของลูกกวาดอย่างละเอียด ซึ่งท้ายที่สุดเธอก็พบแค่ว่ามันดูเซื่องซึมเกินไป
“แต่ว่า… พี่ขอตรวจอย่างละเอียดก่อนดีกว่าเพื่อความปลอดภัย”
เมื่อพูดจบ สัตวแพทย์สาวสวยอุ้มลูกกวาดไปอีกห้องหนึ่งเพื่อตรวจอาการมันอย่างละเอียดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย และหลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง เธอก็เดินอุ้มลูกกวาดกลับมาหาอวี้ฮ่าวหรานและถวนถวนที่กำลังนั่งรออยู่
“จากการตรวจอย่างละเอียดเมื่อครู่ เจ้าลูกกวาดไม่มีปัญหาในทุกด้านของร่างกาย อุณหภูมิทุกอย่างปกติ อืม… นี่มันค่อนข้างแปลกจริง ๆ”
เมื่อครู่นี้สัตวแพทย์คนสวยตรวจเจ้าลูกกวาดอย่างละเอียดอยู่ถึง 2 รอบแต่เธอก็ไม่พบว่าลูกสุนัขตัวนี้ป่วยอะไรเลย
“คุณช่วยพามันไปตรวจอย่างละเอียดอีกรอบได้ไหม เรื่องเงินสำหรับผมไม่ใช่ปัญหา”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วและสั่งเธอตรวจอย่างละเอียดอีกรอบ ซึ่งทางด้านของสัตวแพทย์คนสวยก็พยักหน้าตอบรับด้วยความเต็มใจเพราะเธอเองก็สงสัยเหมือนกัน
ในไม่ช้า เธอก็เดินอุ้มเจ้าลูกกวาดกลับมาหาอวี้ฮ่าวหรานและถวนถวนอีกรอบ ซึ่งคราวนี้เธอได้ถือผลตรวจออกมาด้วยเพื่อยืนยัน
รอบนี้เธอทำถึงขนาดที่เรียกเพื่อนของเธอซึ่งเป็นสัตวแพทย์มากประสบการณ์เข้าไปในห้องตรวจเพื่อช่วยร่วมกันตรวจด้วยอีกแรงเพื่อความแน่นอนในผลตรวจ
“พี่สาว เป็นยังไงบ้าง เจ้าลูกกวาดของหนูเป็นอะไรไป มันจะตายไหม?”
ถวนถวนถามอย่างกังวลทันทีเมื่อเธอเห็นสัตวแพทย์คนสวยเดินออกมาหาอีกรอบด้วยสีหน้าที่งุนงงเหมือนเดิม
“พี่สาวตรวจเจ้าลูกกวาดแล้วถึง 3 รอบ แต่พี่สาวไม่พบว่ามันจะมีปัญหาอะไรเลย ชเนาเซอร์ตัวน้อยตัวนี้สุขภาพแข็งแรงดีมาก มันแข็งแรงมากกว่าลูกสุนัขปกติทั่วไปด้วยซ้ำ”
ระหว่างที่พูด เธอก็จับหูฟังแพทย์แปะลงไปที่ตัวของลูกกวาดอีกทีเพื่อยืนยันผลตรวจของเธอ ซึ่งเธอเองก็ยังคาใจอยู่เพราะเจ้าลูกสุนัขตัวนี้มันดูซึมอย่างเห็นได้ชัด
“อืม… เจ้าลูกกวาดของหนูไม่มีปัญหาหรอกจ้ะพี่สาวมั่นใจ”
สัตวแพทย์คนสวยหันไปพูดกับถวนถวนแล้วเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ามั่นใจ
“แต่เมื่อคืนลูกกวาดไม่ยอมกินอะไรเลย และมันก็เอาแต่นอนซึมไม่ยอมเล่นกับหนูเลย”
ถวนถวนเอ่ยขึ้นพร้อมกับลูบขนสีดำขาวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
“บางที… อาการแบบนี้มันอาจเป็นไปได้ว่ามันกำลังคิดถึงคู่ของมันที่มันเพิ่งไปเจอมาก็ได้ ก่อนหน้านี้คุณได้พามันออกไปไหนมารึเปล่า?”
ทันใดนั้น สัตวแพทย์คนสวยดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออกและถามอวี้ฮ่าวหราน
“หืม? คู่ของมัน?”
“คือบางครั้งสุนัขที่ฉลาดมาก ๆ เมื่อมันเจอกับตัวเมียที่มันถูกใจ มันจะเอาแต่เฝ้าคิดถึงและถ้าหากมันไม่ได้เจอฝั่งตรงข้ามเป็นเวลานาน ๆ มันก็จะมีอาการเซื่องซึมแบบนี้เกิดขึ้นได้หรือถ้าเรียกตามภาษาทั่วไปมันก็คืออาการ ‘ติดสัด[1]’ นั่นเอง”
อวี้ฮ่าวหรานอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำวินิจฉัยนี้
แต่เมื่อเขาคิดดูดี ๆ มันก็เป็นไปได้เพราะตอนนี้เจ้าลูกกวาดมันฉลาดพอ ๆ กับมนุษย์แล้ว
“คุณกำลังบอกว่าลูกกวาดต้องการตัวเมียงั้นเหรอ”
สัตวแพทย์สาวพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “ถูกต้อง มันน่าจะเป็นแบบนั้นนั่นแหละ คุณพอจะนึกออกไหมว่าเร็ว ๆ นี้มันได้ไปเจอตัวเมียที่ไหนมาบ้าง?”
“ออกไปเจอตัวเมียมางั้นเหรอ…”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าครุ่นคิด ปกติแล้วเขาเลี้ยงเจ้าลูกกวาดแบบระบบปิด ไม่ได้ให้มันออกไปนอกบ้านเลยแล้วมันจะไปเจอตัวเมียที่อื่นได้ยังไง นอกซะจากว่า…
[1] ติดสัด ความหมาย อาการสืบพันธุ์ของสัตว์ที่เป็นไปตามฤดูกาล
คอมเม้นต์