จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – บทที่ 4 การตัดสินใจของหานหยู่เยน
บทที่ 4 การตัดสินใจของหานหยู่เยน
วันที่สอง ข่าวอันน่าตกตะลึงก็ได้ลือกันทั่วเมืองเจียง……
บริษัทเฉิงหยู่ก้าวล้ำไปไกล และกำลังทำโปรเจคชิ้นโมเดลCBD ในเขตปินหู และจะสร้างเมืองเจียงให้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่โด่งดังที่สุดในจังหวัด
เขตปินหูเป็นเขตเมืองที่โด่งดังและเจริญรุ่งเรืองที่สุดของเมืองเจียงในตอนนี้ ที่นั่นเป็นที่ดินราคาสูงมาก โมเดลCBD เหลือแค่ที่เดินแผนนั้นแค่ผืนเดียว พื้นที่ใหญ่และราคาสูงมาก เมืองเจียงไม่มีใครกล้ารับช่วง
ตอนนี้บริษัทเฉิงหยู่ได้ไป เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเบื้องหลังต้องเป็นเศรษฐีร่ำรวยมากแน่ๆ กระทั่งมีคนยังบอกว่า เบื้องหลังของบริษัทเฉิงหยู่คือเจ้านายที่มาจากเมืองเอก
ยังไงตอนนี้เมืองเจียงก็เกิดสถานการณ์ที่ดุเดือดแล้ว
บริษัทตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลต่างก็เร่งมือกัน หวังว่าจะได้ร่วมงานกับบริษัทเฉิงหยู่ และได้เตรียมเอกสารเสนอราคา ถ้าเกิดมาชนะการประมูล นั่นก็แปลว่าจะสามารถหาเงินได้เป็นมหาศาล และยังถือโอกาสใช้โปรเจคนี้ทำให้ตระกูลและบริษัทมีชื่อเสียง
บริษัทตระกูลหาน ในห้องประชุม
“ทุกคนต่างก็ได้ยินแล้วใช่ไหม”
คุณย่าหานทำสีหน้าที่เคร่งขรึม นิ้วมือกำลังเคาะโต๊ะ
“ตระกูลหานของพวกเราได้ทำงานออกแบบไปด้วย และก็ทำการก่อสร้างด้วย หากได้ร่วมงานกับบริษัทเฉิงหยู่ ก็จะได้ถือโอกาสก้าวเข้าไปอยู่ในลำดับของตระกูลชั้นหนึ่งในเมืองเจียง! ”
ตระกูลชั้นหนึ่ง นี่เป็นเกียรติและบารมีอย่างหนึ่ง
ทุกคนในตระกูลหานรู้สึกตื่นเต้นและรอคอยย
หานหยุนเทาที่เป็นบุคคลที่เป็นหัวหน้าของบริษัทขมวดคิ้วพลางพูดขึ้น “คุณย่า ตามที่ผมรู้มา ช่วงเช้าวันนี้มีบริษัทและตระกูลไม่น้อยต่างก็ไปร่วมมือกับบริษัทเฉิงหยู่ ทว่าต่างก็กลับมาโดยไม่ได้ประสบความสำเร็จ พวกเราตระกูลชั้นที่หนึ่ง สอง และสาม บริษัทเฉิงหยู่จะสนใจพวกเราหรอ? ”
“นี่……”
ทุกคนทำสีหน้าที่อึมครึม คุณย่าหานเม้มปากแน่น
สักพัก เธอพูดขึ้น “ไม่ว่ายังไง ก็ต้องลอง เอกสารเสนอราคาวันนี้เตรียมเสร็จแล้ว ช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ไปคุยกับบริษัทเฉิงหยู่ดี หน้าที่นี้มอบให้กับ…….”
“คุณย่า มอบให้กับหานหยู่เยนเถอะ! ”
“อ๊ะ? ” หานหยู่เยนทำสีหน้าตกตะลึง
เธออยู่ในบริษัทมีแค่บทบาทเล็กๆ เท่านั้น ถึงแม้จะมีความสามารถ ทว่าไม่เคยได้รับการให้ความสำคัญ
วันนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมการประชุม นึกไม่ถึงว่าจะมีภารกิจให้เธอ
หานหยุนเทาทำสีหน้าที่จริงจัง แล้วใช้น้ำเสียงที่จริงแท้แน่นอน “หานหยู่เยน เธออยู่ในบริษัทก็ไม่ได้ทำงานอะไรมาตลอด ภารกิจครั้งนี้ก็มอบให้เธอ หวังว่าเธอจะไม่ทรยศความคาดหวังที่พวกเรามีต่อเธอ ต้องชนะการประมูลให้ได้! ”
“ชนะการประมูล? ตลกเกินไปแล้ว เธอกลัวว่าแม้แต่ประตูใหญ่ของบริษัทเฉิงหยู่ก็ยังเข้าไปไม่ได้” ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดคนหนึ่งแสยะยิ้มขึ้น
เธอคือหานหยุนซี ผู้หญิงที่นึกว่าตัวเองสวยที่สุดในตระกูลหาน
จริงๆ แล้วเธอมีสิทธิ์พูดแบบนี้ พูดถึงหุ่นและหน้าตา ถือว่าเป็นถึงขั้นเทพธิดาจริงๆ
“อย่าท้อแท้แบบนี้สิ ฉันเชื่อว่าหยู่เยนต้องเสร็จสิ้นภารกิจ ถูกไหม? ”
หานหยุนเทายิ้มตาหยี เขาได้ข่าวมาอย่างชัดเจนตั้งนานแล้ว พวกนั้นที่ไปเจรจากับบริษัทเฉิงหยู่ต่างก็เป็นตัวแทนของบริษัทของตระกูล ทั้งหมดยังไล่ออกมาอย่างไร้มารยาทเลย ช่างกระอักกระอ่วนใจมาก
เรื่องที่น่าอายแบบนี้ เขาคงไม่ไปทำอยู่แล้ว ดังนั้นจึงโยนให้หานหยู่เยน
“ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ ดูๆ แล้วภายในใจมีความคิดเห็น! ”
“คุณดูสีหน้าของเธอสิ ทำให้ใครดู! ”
หานหยุนซีก็เอ่ยพูดขึ้นอย่างคล้อยตาม “ไปไม่ไปก็ควรพูดออกมา คุณย่ารออยู่ วางมาดอะไรล่ะ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”
“ฉันไปก็ไป ฉันต้องสำหรับภารกิจนี้ให้ได้! ” หานหยู่เยนพูดด้วยความโกรธ ทว่าพอพูดจบเธอก็เสียใจภายหลัง
ดั่งที่คาด ที่ประชุมจึงมีเสียงหัวเราะดังขึ้น
หานหยุนเทาดีดลิ้น แล้วพูดด้วยความแปลกพิลึก “ทุกคนอย่าหัวเราะสิ ผมรู้สึกว่ามีความเชื่อเป็นเรื่องที่ดี หานหยู่เยน คำพูดที่พูดออกมาก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป คุณย่าก็ดูอยู่”
“ไม่งั้นเรามาออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดเถอะ ถ้าเธอไม่สามารถสำเร็จภารกิจ แล้วจะทำยังไง? ”
หานหยู่เยนรู้สึกขมขื่นในใจ
โปรเจคที่แม้แต่ตระกูลชั้นหนึ่งยังเจรจาไม่สำหรับ เธอจะสำเร็จได้ยังไง
ตอนที่ภายในใจกำลังว้าวุ่น มือถือก็สั่นขึ้น
หานหยู่เยนแอบมองไปเพียงชั่วพริบตา โล่เฉินส่งข้อความมา แค่พูดไม่กี่คำ “วางใจเถอะ การประมูลต้องสำเร็จแน่นอน”
คำพูดหนึ่งง่ายๆ เหมือนดั่งยาอัศจรรย์ ทำให้หานหยู่เยนมีความมั่นใจขึ้นมาทันที จึงพูดอย่างยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่
“หากฉันทำงานนี้ไม่สำเร็จ ฉันจะออกจากบริษัท”
ครั้งนี้ เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นกว่าเดิม
“ตลกเกินไปแล้ว ใครให้ความกล้ากับเธอ”
“คนไม่รู้ย่อมไม่รู้จักกลัว! ”
“อย่าทำลายความฝันของเธอสิ เธออาจจะยังไม่รู้ว่าทำการเจรจางานอะไร ยังไงก็แค่พนักงานชั้นต่ำในบริษัท ก็ต้องมีความรู้และประสบการณ์ที่กำจัดอยู่แล้ว”
ทั้งใบหน้าของหานหยุนเทาเคล้าด้วยการดูหมิ่น รู้สึกว่าประเมินความสามารถของหานหยู่เยนสูงเกินไปแล้ว
“หานหยู่เยน นี่เธอพูดเองนะ คุณย่า คุณน้าสามารถเป็นพยาน ถึงเวลาก็อย่าไม่ตุกติกล่ะ”
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หานหยู่เยนรู้สึกว่าตัวเองสุดทางตัน เธอกลับเอ่ยถามขึ้น “แล้วถ้าฉันสำเร็จภารกิจล่ะ คุณจะทำยังไง? ”
“สำเร็จภารกิจ? ก็ช่างสิ ให้ความหวังกับเธอหน่อย ถ้าเธอชนะการประมูล วันข้างหน้าฉันจะเรียกเธอว่าพี่สาว และจะยกชาส่งน้ำ รอฟังคำสั่ง! ”
“พูดคำไหนคำนั้น! ”
“คำไหนคำนั้น! ”
คุณย่าหานไม่ได้พูดมากอะไร จริงๆ แล้วเธอรู้สึกจากใจว่าตระกูลหานไม่มีทางชนะการประมูล จึงได้มอบหมายงานไปไม่กี่คำ หานเจี้ยนเย่ก็ดึงหานหยู่เยนจากไปอย่างเร่งรีบ
ในห้องประชุม มีแค่หนุ่มสาวกลุ่มหนึ่ง
มีวัยรุ่นที่อ้วนเตี้ยพูดอย่างเย้ยหยัน “พี่เทา พี่บอกว่าสมองของหานหยู่เยนมีปัญหาหรือเปล่า พูดจาเกินความสามารถตัวเอง ไม่ใช่ว่ารนหาที่ตายหรอ”
“หรือว่าเธอมีถือไพ่ที่เหนือว่าอะไรอยู่หรือเปล่า? ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
หานหยุนเทาแสยะยิ้ม “เธอสามารถถือไพ่ที่เหนือกว่าอะไรได้ รอให้เหมือนหมาไร้บ้านก่อนเถอะ ทีแรกเธอก็เป็นความอับอายของตระกูลหานของพวกเราอยู่แล้ว ควรที่จะหายตัวไปตั้งนานแล้ว! ”
“หานหยุนซี รอให้หานหยู่เยนออกจากบริษัท เธอก็แทนตำแหน่งของมันได้เลย”
“มีสิทธิ์อะไร! ”
หานหยุนซีทำสีหน้าที่ไม่พอใจ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ “หานหยู่เยนทำงานแผนกที่ต่ำที่สุด ยังไงฉันก็ต้องได้เป็นหัวหน้าสิ หานหยุนเทา อย่านึกว่าจะสามารถตัดตำแหน่งฉันในบริษัทนะ ในทางกลับกัน นายควรจะประจบฉัน”
“ประจบเธอ? เธอกับหานหยู่เยนเหมือนกัน สมองเลอะเลือนไปแล้ว”
“เหอะๆ หานหยุนเทานายอย่ามั่นหน้าเกินไป รอให้ฉันแต่งเข้าตระกูลชั้นสูง หัวหน้าครอบครัวตระกูลหานต้องเปลี่ยนไปแน่นอน พวกนายยังต้องยืมจมูกของฉันหายใจ! ”
ทันใดนั้น หานหยุนเทาทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป “แก! ”
“ฉันอะไร! ” หานหยุนซีทำสีหน้าที่ดูหมิ่น “ภายในใจของพวกเธอรู้ดี ฉันนี่แหละถึงจะเป็นมีความหวังมากที่สุดที่จะได้แต่งเข้าไปในตระกูลชั้นสูง! ”
พูดจบ จึงบิดเอวบางอย่างเย่อหยิ่ง พลางเดินออกจากห้องประชุม
หานหยุนเทาทำสีหน้าที่เขียวคล้ำ ที่เหลือก็มีแต่เพียงชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งแอบมองหน้ากัน ภายในใจกำลังแอบวางแผนอะไรบางอย่าง
…….
เมืองเจียงกำลังเกิดพายุโหมกระหน่ำ โล่เฉินไม่ได้สนใจพวกนี้เลยสักนิด
ตรงประตู สวนสาธารณะหลิงหู
เดินไปหลายชั่วโมง โล่เฉินหยุดลงที่นี่ “เฮ้อ ไม่มีสภาพแวดล้อมการฝึกฝนที่ดีอะไร ที่นี่ยังถือว่าเหมาะสม”
อยากจะกลับมาฟื้นฟูพลังให้อยู่ในชั้นสูงสุด การฝึกฝนไม่สามารถละอาย
ตอนที่หาสถานที่สงบๆ แห่งหนึ่งในสวนสาธารณะหลิงหูเสร็จ โล่เฉินกำลังเตรียมตัวฝึกฝน หญิงสาวคนหนึ่งที่มัดผมหางม้า แล้วสวมใส่เชิ้ตสีขาวกำลังดึงดูดความสนใจของเธอ
หญิงสาวกำลังฝึกมวย ข้างๆ มีผู้เฒ่าใส่เสื้อคอจีนอยู่หนึ่งคน และก็ได้ไอออกมาตลอดเวลา เพื่อที่จะชี้แนะความผิดถูก
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นปู่หลานคู่หนึ่ง ข้างต้นไม้ที่อยู่ห่างสองคนนี้ไปสิบกว่าเมตร มีชายหนุ่มคนหนึ่งสวมใส่ชุดดำไว้
โล่เฉินมองไปสักพัก แล้วรู้สึกสงสัยเล็กน้อย รู้สึกว่าหญิงสาวที่ฝึกฝนมวยนั้นคุ้นเคยเล็กน้อย
“นึกไม่ถึงว่าอยู่นี่ยังได้เจอนักบู๊”
มองไปสักพัก โล่เฉินก็ส่ายหัวเล็กน้อย
นักบู๊ทั่วไปฝึกกำลังภายใน ทว่าเขาคืออมตะแล้ว ได้ประโยชน์ตรงที่ 《วิชาอมตะ》 ฝึกฝนออกมาก็คือพลังทิพย์แล้ว
นี่เป็นความสามารถที่เหนือกว่ากำลังภายในขั้นสูงหลายเท่าจนนับไม่ถ้วน
อีกอย่างทักษะมวยของหญิงสาวถึงแม้จะสวย ทว่าพื้นฐานกลับอ่อนแอ ฝึกฝนกำลังภายในออกมา กลับไม่ได้จดจ่อ อานุภาพไม่เพียงพอ
ต่อให้ตอนนี้โล่เฉินยังอยู่ในช่วงการฟื้นฟู แม้กระทั่งความสามารถหนึ่งในสิบของระดับสูงสุดก็ยังไม่มี ทว่านักบู๊มาหนึ่งกลุ่มแบบนี้ เขาก็สามารถรับมืออย่างง่ายดาย
ทว่า โล่เฉินส่ายหัวแบบนี้ หญิงสาวรู้สึกไม่พอใจ
เธอสังเกตเห็นโล่เฉินมองอยู่ข้างๆ นานแล้ว ภายในใจรู้สึกภูมิใจ ทว่ากลับเห็นว่าโล่เฉินส่ายหัว เหมือนจะทำท่าทางดูหมิ่น จึงไม่พอใจขึ้นมา
“หยุดก่อน! ”
หญิงสาวดึงหมัดกลับ แล้วทำสีหน้าที่เลือดเย็นพลางสาวเท้าโดยเร็ว “นายส่ายหัวทำไม! แกล้งทำเป็นเข้าใจ ใช้วิธีแบบนี้เพื่อที่จะดึงดูดความสนใจของฉัน มันโง่เกินไปหน่อยไหม”
คอมเม้นต์