จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – บทที่ 33 เข้าใจผิดกันใหญ่แล้ว
บทที่ 33 เข้าใจผิดกันใหญ่แล้ว
“คุณพ่อเกิดปัญหานิดหน่อยค่ะ”
เสี้ยงจื้อสงประหลาดใจเล็กน้อย“ทำไมเหรอ?”
จะมาแย่งก็กลับถูกขู่ขวัญจนฉี่ราด เรื่องขายหน้าเช่นนี้ เสี้ยงเหยาเหยาไม่มีทางพูดออกไปเด็ดขาด
เธอพูดอำพรางว่า“มีเถ้าแก่คนหนึ่งใช้เงินสองร้อยล้านซื้อไปแล้ว บอกว่าจะใช้ช่วยชีวิตลูกชายของเขา ช่วยชีวิตหนึ่งคนนั้นดีกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นเสียอีก หนูเลยยอมให้เขา”
“ฮ่าๆๆ ลูกสาวฉันไม่เพียงแต่สวยยังมีจิตใจดีอีก เหยาเหยา ของขวัญนั้นมีมากมาย ยังมีอีกหลายวันกว่าจะถึง 1 กันยายยน
หนูยังมีเวลาเหลือไปเลือกของขวัญอีก”
เสี้ยงจื้อสงหยุดพูด จากนั้นก็พูดอย่างลึกลับขึ้นมาอีก“ลูกรัก ครั้งนี้ลูกกลับมาจากจีนหลิน นอกจากมาอวยพรวันเกิดให้คุณปู่แล้ว พ่อยังเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้ลูกด้วยนะ”
“ใช่เหรอคะ ของขวัญอะไรเหรอคะ?”
“คนคนหนึ่ง”
เสี้ยงเหยาเหยาขมวดคิ้ว กล่าวด้วยความไม่พอใจ“คุณพ่อค่ะ หนูยังไม่อยากแต่งงานนะคะ อีกอย่างในเมืองนี้ไม่มีผู้ชายที่หนูชอบเลยค่ะ พ่ออย่าแนะนำให้หนูนะคะ หนูไม่ตกลงหรอกค่ะ”
“ลูกเอ่ย ใครบอกว่าพ่อจะแนะนำคู่ให้หนูกันล่ะ ถึงแม้จะใช่ คนนั้นก็ไม่แน่ว่าจะชอบหนู เขาเป็นคนใหญ่คนโตที่รักษาโรคของคุณปู่หนูหาย”
“พ่อพูดถึงหมอเทวดาคนนั้นเหรอคะ?”
เสี้ยงจื้อสงตอบ“ใช่ ชือโล่เฉิน พ่อสืบรายละเอียดไม่ได้ เขาเป็นคนลึกลับมาก หนูกลับมาสิ พ่อจะคุยกับลูกหน่อย”
เสี้ยงเหยาเหยารู้สึกคึกคัก นัยน์ตาคู่งามใสสว่างเป็นประกาย“แม้กระทั่งไต้สือในเมืองหลวงก็ยังรักษาคุณปู่ไม่หาย แต่เขากลับรักษาได้ซะงั้น หนูอยากเจอหน้าเขาจังเลยค่ะ จะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์คนไหนกัน”
……
ค่ำคืนดั่งสายน้ำ บนถนนสายหลักของเมืองเจียง
หานหยุนเทาจอดรถ รีบเดินเข้าไปภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง เดินดิ่งไปถึงห้องวีไอพีห้องหนึ่ง
“ท่านหนิว หนูดื่มเคารพท่านค่ะ”
“เสี่ย หนูด้วยค่ะ”
“เสี่ย หอมแก้มหน่อยค่ะ”
ด้านในห้องวีไอพีมีแสงสีเสียงครื้นครึก สาวๆต่างสวมใส่เสื้อผ้าโป๊ๆ บางคนถึงกลับเปลือยท่อนล่างก็มี กลุ่มหญิงสาวมีผู้ชายร่างกำยำคนหนึ่ง ใบหน้าดำคล้ำและมีหน้าตาโหดเหี้ยมยิ่งนัก
“ฮ่าๆๆ มามา มาให้หมด ผมจะดื่มไม่ให้เหลือเลยนะที่รักทั้งหลาย”
หานหยุนเทาเอ่ยขึ้นมาหนึ่งประโยค“พี่หนิว ผมมาแล้วครับ”
เฮยหนิวเงยหน้าขึ้นมาจากอกของผู้หญิง หัวเราะเสียงดังสนั่น“นายมาแล้วเหรอ มานั่งสิ”
“พี่หนิวครับ พูดเรื่องจริงจังครับ”
“ที่รักทั้งหลาย พวกหนูออกไปแป๊ปหนึ่งนะ เดี๋ยวจะเรียก เชื่อฟังนะ”เฮยหนิวตบก้นของเหล่าหญิงสาว เพื่อไล่พวกเธอออกไป
หลังจากที่ออกไปจนหมด เฮยหนิวก็จุดบุหรี่
“ว่ามาสิ”
“พี่หนิว พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว ผมก็จะไม่อ้อมค้อมแล้วนะครับ สวนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเขตปินหูกำลังก่อสร้างอยู่ พี่ช่วยผมไปทำลายหน่อยครับ พี่มีชื่อเสียงและอิทธิพลในปินหู และมีลูกน้องเยอะ เรื่องแค่นี้ถือว่าไม่น่าจะยากอะไร”
ดวงตาของหานหยุนเทาฉายประกายความเย็นยะเยือกขึ้นมา
เฮยหนิวหัวเราะเสียงดัง“สวนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเขตปินหูเป็นงานของบ้านตระกูลหานของคุณ คุณทำลายโครงการของตัวเอง แน่ใจเหรอ?”
“ตอนนี้ผมสนใจอะไรมากไม่ได้แล้วครับ ไอ้สารเลวหานหยู่เยนทำให้ผมถูกปลดออกจากตำแหน่งกลายเป็นตัวตลกของเมืองเจียง ผมทนไม่ไหวแล้ว!”
หานหยุนเทาแสดงความคัดแค้นคั่นฟ้า ระหว่างพูดยังหายใจหยาบกระด้างเลย“ผมจะให้สวนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างไม่สำเร็จ หานหยู่เยนเป็นผู้รับผิดชอบก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ผมไม่ยอมให้เธอได้ใจเด็ดขาด!”
“ทำไมฉันต้องช่วยนายด้วย?”เฮยหนิวเผยความรังเกียจด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกออกมาถาม
“พี่หนิว พวกเราต่างก็รู้แก่นแท้ของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ผมก็จะขอพูดตรงๆเลยนะครับ พี่อยากได้หานหยู่เยนมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ เมื่อก่อนยังเคยสารภาพรักกับหานหยู่เยนเลย ผู้หญิงคนนั้นพูดยังไงกับพี่ พี่ลืมไปแล้วเหรอ?”
หานหยุนเทากล่าวเย้ยหยัน
ทันใดนั้นใบหน้าของเฮยหนิวก็เต็มไปด้วยความเย็นเยียบ ในสมองวนเวียนคำพูดแดกดันของหานหยู่เยนที่มีต่อเขา——
“ไสหัวไป อย่ามาตามตื้อฉัน ฉันเคยพูดหลายครั้งแล้ว พวกเราเป็นไปไม่ได้ คุณดูสารรูปตัวเองเสียบ้าง”
“คุณทำเรื่องอะไรไว้รู้ตัวบ้างไหม เห็นแสงไม่ได้ตลอดชีวิตอย่างนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่ฉันจะไปอยู่กับแมลงในที่มืดมิด”
“ถึงแม้ฉันจะแต่งงานกับคนไร้ค่า แต่ก็จะไม่แต่งงานกับคุณ คุณตายใจเถอะ”
“อย่ามารบกวนฉันอีก ไม่งั้นฉันจะแจ้งความ!”
……
ทุกคำพูดคล้ายกับเป็นมีดคมแหลมที่ทิ่มแทงหัวใจของเฮยหนิว สิ่งที่น่าโมโหมากที่สุดก็คือสามปีก่อน หานหยู่เยนแต่งงานกับสวะจริงๆ
ทำให้เขารู้สึกถูกหยามเกียรติ
สามปีมานี้ เฮยหนิวทำทุกวิถีทางไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็จะเอาด้วยกล เพื่อให้ตนยิ่งใหญ่มากขึ้น และฟ้ามีตาให้เขาพบกับพี่ใหญ่คนหนึ่ง และกลายเป็นลูกน้องได้สำเร็จ
แอบอ้างบารมีผู้อื่นดั่งสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ วันนี้เขากลายเป็นแกนนำของเขตปินหูได้แล้ว
“หานหยู่เยน!”
เฮยหนิวบีบแก้วไวน์จนแตก ดวงตาแดงฉ่ำ“ผมไม่ลืมอยู่แล้ว ตอนนั้นดูถูกผม ตอนนี้ทรัพย์สินของผมมีเยอะกว่าตระกูลหานของพวกนาย เธอนับว่าเป็นตัวอะไร!”
“พี่หนิวพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะครับ”
หานหยุนเทายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“ในสายตาของพี่หานหยู่เยนไม่ถือว่าเป็นอะไร แต่ผู้หญิงคนนั้นหยิ่งมาก พี่หนิวสามารถเอาเธอมาข่มเหงเล่นๆได้สารพัดวิธี ให้เธออยู่ภายใต้การควบคุมของพี่ เพื่อแก้แค้นบัญชีเก่าที่แสนเจ็บปวดใจไงครับ!”
“คิกคิก หานหยุนเทา นายมันต่ำช้าสิ้นดี”
“เออ……”หานหยุนเทาฉายแววตกใจ รีบส่ายหน้าว่า“สังคมสมัยนี้โหดร้ายมากครับ ไม่มีต่ำช้าไม่ต่ำช้า มีแต่คุ้มค่าหรือไม่ต่างหากครับ”
เฮยหนิวก็ส่ายหัวเช่นกัน“แค่หานหยู่เยนตัวเล็กๆไม่จำเป็นต้องให้ฉันออกหน้าหรอก อย่าลืมว่ายังมีบริษัทเฉิงหยู่
ที่มีผู้หนุนหลังอยู่ที่เมืองเอก การทำลายสถานที่ก็ถือว่าเป็นการตบหน้าบริษัทเฉิงหยู่ด้วย ความเสี่ยงนี้ไม่น้อยเลย”
หานหยู่เทากลอกตาไปมา กัดฟันพูด“เอาอย่างนี้ครับ ขอเพียงหานหยู่เยนลงจากตำแหน่ง ผมก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบโครงการแทน ผมจะแบ่งค่าแรงให้ท่านครึ่งหนึ่งครับ พี่หนิวน่าจะรู้กำไรในงานนี้ดีนะครับ!”
“พูดจริงหรือเปล่า?”
“คำพูดของวิญญูชน แม้รถเทียมม้าสี่ตัวก็ยากที่จะตามทัน คำไหนคำนั้นครับ”
“นายไม่ใช่วิญญูชนเสียหน่อย”
หานหยุนเทาหัวเราะด้วยความกระอักกระอ่วน“พี่หนิวคิดว่าผมกล้าหลอกท่านเหรอครับ ไม่เชื่อสามารถร่างสัญญาได้ครับ”
“สัญญาไม่ต้อง คาดว่านายคงไม่กล้าขนาดนั้นหรอก!”
เฮยหนิวพูดเช่นนี้แสดงว่าตกลงแล้ว
หานหยุนเทาดีอกดีใจราวกับเห็นหานหยู่เยนอยู่ในสภาพน่าอนาถแล้ว เขายกเหล้าขึ้นมาหนึ่งแก้ว “พี่หนิว ผมดื่มเคารพให้พี่ครับ”
อึกๆๆๆ
เหล้าหนึ่งแก้วลงท้อง หานหยุนเทาเอ่ยถาม“พี่ครับคิดจะทำยังไงครับ?”
สีหน้าเฮยหนิวเคร่งขรึม มุมปากยกโค้งขึ้นมา หรี่ตาครึ่งหนึ่งพร้อมกับกล่าวว่า “ฉันคิดวิธีเด็ดได้อย่างหนึ่ง ไปทำลายสถานที่ก่อสร้าง ไม่สู้ทำให้หานหยู่เยนยอมสยบจะดีกว่าเสียอีก!”
“อ่อ?”
“พวกเราทำอย่างนี้……”
วันต่อมา
โล่เฉินตื่นขึ้นมาก็ไม่พบหน้าหานหยู่เยน เดินมาถึงห้องรับแขก เขาก็เห็นหานหยู่ถิงนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟา
“หยู่ถิงพี่สาวคุณล่ะ”
“ไปบริษัทแต่เช้าแล้ว ได้ยินว่าสถานที่ก่อสร้างเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย”
โล่เฉินรู้สึกประหลาดใจเตรียมจะโทรหาหานหยู่เยน แต่ก้นกลับถูกถีบซะงั้น
หานหยู่ถิงวิ่งเข้าไปที่ห้องนอนแล้วปิดประตู สองมือวางสองที่เอวพูดดุดันว่า“ใช้ได้นี่ เก่งไม่เบาเนี่ย หลอกพี่สาวฉันซะเนียนเชียว คุณใช้วิธีอะไรกัน!”
“อะโยว คุณพูดอะไรกัน?”
โล่เฉินลูบก้นพลางถามขึ้นมา
“ยังมาเสแสร้งอีก เมื่อคืนฉันบอกเรื่องที่คุณมีชู้กับผู้หญิงแพศยาคนนั้นแล้ว คาดไม่ถึงว่าพี่สาวไม่เพียงแต่ไม่เชื่อ ยังด่าฉันสักยกใหญ่ เตือนฉันไม่ให้พูดเหลวไหล!”
หานหยู่ถิงรู้สึกเสียใจที่ถูกเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก“คุณให้พี่สาวฉันกินยาเสน่ห์อะไร เห็นเป็นผู้ชายท่าทางใสซื่อ แต่อันที่จริงจิตใจกลับเป็นผู้ชายถ่อย พูดออกมาว่าสามปีมานี้แอบสวมเขาให้พี่สาวฉันมากี่ครั้งแล้ว?”
โล่เฉินกระตุกปาก
อะไรกันเนี่ย สมองของน้องเมียเลอะเลือนหรือเปล่า
“พอแล้ว อย่าโวยวายอีกเลย ผมจะออกไปวิ่งยามเช้า”
“อยากไปเหรอ ไม่มีทาง”
หานหยู่ถิงดึงโล่เฉินไว้แน่น ระหว่างที่ทั้งสองคนดึงกระชากอยู่นั้นไม่ทันระวังล้มไปอยู่ที่เตียง
ท่าทางนั้นไปในเชิงหนุ่มสาวที่คลุมเครือ เพราะโล่เฉินกดทับร่างของหานหยู่ถิงเอาไว้
“พวกหนูโวยวายอะไรอยู่ในห้อง?”
ปัง
ประตูเปิดออก
ทันใดนั้น สมองของโล่เฉินจะระเบิดอยู่แล้ว
หลิวเซียงหลันเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าอึ้ง แววตาสับสน แต่หลังจากสามวินาทีก็เกิดบันดาลโทสะขึ้นมาจนทำให้เธอกลายเป็นดั่งแม่ไก่ที่เสียขนไปอย่างนั้น
เอาไม้กวาดกระโจนเข้าใส่ พร้อมกับด่ายกใหญ่ว่า“ไอ้สัตว์เดรัจฉานกล้าล่วงเกินหยู่ถิงเหรอ วันนี้จะตีให้ขาสุนัขหักเลย”
“แม่ครับ เข้าใจผิดแล้ว เพราะหยู่ถิง……”
“ฮือ!”
โล่เฉินยังไม่ทันพูดจบ หานหยู่ถิงก็ร้องห่มร้องไห้ขึ้นมา แล้วยังมีน้ำตาไหลออกมาจริงๆ พร้อมกับทำสีหน้าหวาดกลัวและเสียใจ
“แม่ค่ะ โล่เฉินจะหอมแก้มหนูให้ได้ ยังบอกว่าจะนอนกับหนูอีก ถ้าไม่ใช่แม่มาได้ทันเวลา หนูก็ถูกข่มขืนแล้ว ฮื้อฮือ—”
“ลูกรักไม่ร้องนะ ไม่เป็นอะไรแล้ว มีแม่อยู่นะ”
เวลานี้หานเจี้ยนเย่ก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ทำไมทำไม ทำไมร้องไห้หละ เกิดอะไรขึ้น?”
“เจี้ยนเย่ ไอ้เดรัจฉานโล่เฉินจะข่มขืนหยู่ถิง โชคดีที่ฉันมาทันเวลา ไม่ทนแล้ว คุณไปแจ้งความเลย สัตว์เดรัจฉานอย่างนี้ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด!”
แจ้งความ?
เปลือกตาของหานหยู่ถิงกระตุกรู้ว่าก่อเรื่องใหญ่เสียแล้ว
“แม่ค่ะ ช่างมันเถอะ โล่เฉินก็เพิ่งทำเป็นครั้งแรก ให้โอกาสเขาแก้ตัวใหม่ครั้งหนึ่งนะคะ”
หลิวเซียงหลันกำลังกลัดกลุ้มไม่มีเหตุผลให้หานหยู่เยนหย่าอย่างเชื่อฟัง ตอนนี้โล่เฉินคิดจะข่มขืนหานหยู่ถิง ครั้งนี้เป็นโอกาสทองที่ฟ้าประธานมาให้เลยนะเนี่ย
เธอจะปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปได้อย่างไร
“จะมีครั้งต่อไปแน่ๆ ผู้ชายสวะอย่างนี้ต้องลงโทษด้วยกฎหมาย”
หานหยู่ถิงยิ่งว้าวุ่นไม่รู้จะทำเช่นไรดี หากให้โล่เฉินเข้าคุก หานหยู่ถิงกลับมาคงต้องตีก้นเธอจนเละแน่ๆ
หลิวเซียงหลันด่าไม่หยุดหย่อน หานเจี้ยนเย่ไปเอามือถือแล้ว
โล่เฉินแอบรู้สึกถึงความรันทด อับจนหนทางเสียจริง
สถานการณ์ตอนนี้ได้แต่โทรหาหานหยู่เยนแล้ว ให้เธอคุยกับหลิวเซียงหลันจะดีกว่า แต่จู่ๆเสียงพูดที่ดังสนั่นทำให้ห้องเงียบกริบขึ้นมาฉับพลัน
“พ่อแม่แจ้งความไม่ได้นะ โล่เฉินยังมีรูปถ่ายตอนหนูโป๊ด้วยค่ะ หากเขาจะสู้ให้ตายไปทั้งสองข้าง ชื่อเสียงของหนูก็จะต้องด่างพร้อยแน่นอนเลย!”
คอมเม้นต์