Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 767 อัจฉริยะปราสาทวิทยา?

อ่านนิยายจีนเรื่อง Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย ตอนที่ ตอนที่ 767 อัจฉริยะปราสาทวิทยา? อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 767 อัจฉริยะปราสาทวิทยา?

 

ฮูเหมิงฮาว!

 

ชูฮันเกือบจะหลุดเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาหากเขาก็ปฏิเสธกับตัวเอง…ไม่! ไม่ใช่ฮูเหมิงฮาว มันตายไปแล้ว!

 

ฮูเหมิงฮาวร่วมมือกับลูกผสมสมรู้ร่วมคิดในการฆ่ามนุษย์เพื่อการทดลองและตอนนั้นมันบังเอิญกับที่ชูฮันไปตามหาพ่อแม่ของเขา ชูฮันได้เจอกับฮูเหมิงฮาวและรู้ถึงความชั่ว เขาใช้ขวานซิ่วโหลฆ่าอีกฝ่ายไปแล้ว แต่คนตรงหน้าชูฮันตอนนี้กลับมีใบหน้าเดียวกันกับฮูเหมิงฮาวเลย ยกเว้นแค่ขาสองข้างที่หายไป

 

เป็นเพราะเกี่ยวข้องกับสถาบันวิจัยของซาวชุนฮุยซึ่งมีสองคนที่เกี่ยวข้องนั้นก็คือฮูเหมิงฮาวที่ทำหน้าที่ดูแลสถาบันวิจัยของซาวชุนฮุย

 

ตอนนี้เมื่อชูฮันได้เจอกับฮูเหมิงฮานชูฮันก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมากับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและวิธีการที่มาพบเจอกันแบบนี้!

 

ฮูเหมิงฮานเองก็ปิดปากเงียบเมื่อชูฮันหันมามองหน้าตัวเองหากก็พยายามสังเกตสีหน้าแปลกๆของอีกฝ่ายไม่วางตาย

 

หรือกลายเป็นว่าฮูเหมิงฮานเป็นสมาชิกหลักของMensa?!

 

ชูฮันไม่อาจเข้าใจความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงนี่ได้ข้อมูลที่เขารู้จากชาติที่แล้วนั้นก็ไม่ได้ระบุถึงความสัมพันธ์ระหว่างฮูเหมิงฮานและMensaเลย และฮูเหมิงฮานก็ไม่น่าจะถูกขังเพราะขัดขวางการทดลองมนุษย์ ไม่ใช่ว่าฮูเหมิงฮานคือตัวตั้งตัวดีสำหรับการทดลองมนุษย์หรือยังไง?

 

ฮูเหมิงฮานในชาติที่แล้วเป็นคนชั่วร้ายที่ฆ่าอาจารย์ของตัวเองเพื่อชิงตำแหน่งสถาบันวิจัยที่ใหญ่ที่สุดในจีน!

 

”คุณคือชูฮัน?”ขณะที่ชูฮันกำลังใช้ความคิด ฮูเหมิงฮานก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน น้ำเสียงที่ใช้นั้นเป็นมิตรและไม่ได้มีเจตนาร้ายแฝงอยู่

 

ชูฮันพยักหน้ารับและมองอีกฝ่ายไม่วางตัวสายตากวาดมองไปทั่วฮูเหมิงฮานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น

 

เหนือความคาดหมายฮูเหมิงฮานไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจออกมาเลย เพียงแค่ยิ้มออกมาซึ่งมันยิ่งทำให้ชูฮันสับสน “นี่เป็นอุบัติจากรถในยุคศิวิไลซ์ ฉันพิการมาได้หลายปีแล้วล่ะ”

 

”น่าเสียดายจริงๆ”ชูฮันพูดโดยไม่มีอารมณ์ และจังหวะที่เขาไม่ทันคิด—–

 

”คุณรู้จักฉัน?”ฮูเหมิงฮานตะลึง

 

ทันใดนั้นแววตาของชูฮันก็ดิ่งลึก หากเขาก็เปลี่ยนกลับมาได้ภายในเสี้ยววินาที ส่ายหัวพร้อมกับเล่นละครอย่างสุดฝีมือ “ฉันไม่รู้”

 

แต่สิ่งที่ทำให้ชูฮันไม่ทันได้ตั้งแต่เลยก็คือประโยคต่อไปที่ฮูเหมิงฮานพูดออกมา”ถ้างั้นคุณก็รู้จักคนที่หน้าเหมือนฉัน”

 

นัยน์ตาดำของชูฮันหดตัววูบทันทีแขนสั่นๆ แทบจะห้ามตัวเองไม่ให้คว้าขวานซิ่วโหลออกมาฆ่าคนไม่ไหว!

 

เขาไม่เคยต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์อย่างนี้มาก่อนไม่เพียงแค่ในชาตินี้แต่ชาติที่แล้วชูฮันไม่เคยได้เจอกับฮูเหมิงฮาน เขาเคยได้ยินเพียงแต่ชื่อของอีกฝ่าย แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีสภาพเป็นแบบนี้

 

แล้วฮูเหมิงฮานรู้ได้ยังไงว่าเขาเคยเจอฮูเหมิงฮาวมาก่อน?

 

เดางั้นเหรอ?ชูฮันนิ่วหน้า เมื่อตอนที่เขาเจอกับฮูเหมิงฮาว มันมีคนมากมายรายล้อมอยู่ในตอนนั้นและเขาก็ฆ่าฮูเหมิงฮาวต่อหน้าผู้รอดชีวิตหลายคน

 

หรือคนพวกนั้นเอาไปพูดต่อ?

 

ไม่!

 

มันไม่มีเหตุผลเลยสักนิดและมันก็ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงด้วยนี้มันโลกาวินาศและยิ่งในกรณีที่การสื่อสารบกพร่องแบบนี้ มันจะมีคนที่วิ่งจากข้ามเมืองไกลมากขนาดนั้นเพื่อมาบอกฮูเหมิงฮานว่าพี่ชายตัวเองถูกฆ่าเหรอ?

 

อะไรคือเหตุผลล่ะ?อะไรคือแรงจูงใจ?

 

ที่มากกว่า…ในเวลานั้นมีกี่คนกันที่รู้ว่าแต่ละคนคือใคร?

 

”ไม่ต้องเป็นกังวลฉันไม่รู้ล่วงหน้าหรอก ก็แค่สังเกตจากสีหน้าของคุณ” ฮูเหมิงฮานพูดเสียงแผ่ว

 

ยิ่งอธิบายยิ่งทำให้ชูฮันตกใจกว่าเดิม อีกฝ่ายสามารถสังเกตสีหน้าท่าทางของคนอื่นได้ภายในระยะเวลาสั้นๆแบบนี้ได้ยังไง?

 

นี้มันเทพชัดๆ!

 

แน่นอนว่าชูฮันไม่สามารถแสดงอารมณ์ต่อหน้าฮูเหมิงฮานคนแปลกหน้าได้ดังนั้นชูฮันจึงพยายามพูดกับอีกฝ่ายด้วยเสียงเรียบๆ “ไหนบอกสิว่าสังเกตยังไง ฉันสงสัยน่ะ”

 

”คุณพึ่งตะโกนใส่ฉันในใจ”ประโยคต่อมาของฮูเหมินฮานทำให้ชูฮันประหลาดใจอีกครั้ง จากนั้นอีกฝ่ายก็ยิ้มและขยับเก้าอี้รถเข็นสบายๆ ไม่มีการรักษาระยะห่างจากชูฮันต่ออีก จนระยะห่างระหว่างชูฮันกับฮูเหมิงฮานเหลือเพียงแค่ห้าก้าว

 

คิ้วของชูฮันขมวดเข้าหากันสัมผัสของความรู้สึกไม่สบายใจตีขึ้นมาในอก ราวกับว่าชูฮันตกอยู่ในสายตาของอีกฝ่ายตลอดเวลา ซึ่งมันทำให้ชูฮันที่มักทำแบบนี้กับคนอื่นรู้สึกอึดอัดอย่างมาก!

 

ฮูเหมิงฮานที่อยู่ไม่ห่างจากชูฮันเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง”คุณต้องการฆ่าฉัน แต่ตอนนี้กำลังสงสัยเกี่ยวกับตัวฉัน แต่ถึงอย่างไรแล้วฉันก็ไม่มีพละกำลังอะไรมาต่อสู้ ถ้าคุณอยากจะฆ่าฉัน มันง่ายมาก”

 

”เป็นพรสวรรค์?อ่านความคิดได้? ฉลาดทางด้านอารมณ์?” ชูฮันไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่กลับคิดถึงความสามารถของอีกฝ่าย

 

”ไม่ใช่”ฮูเหมิงฮานยิ้มและพูดสิ่งที่ทำให้บางคนไม่สบายใจ “การรับรู้ทางด้านอารมณ์ของฉันต่ำมาก เพราะอัจฉริยะมักจะมีข้อบกพร่องด้านในด้านหนึ่งเสมอ ฉันเองก็เหมือนกันเพราะมีIQสูงเกินไป EQจึงต่ำ”

 

”ฉันไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรแต่เพราะการรับรู้ทางด้านอารมณ์ที่ต่ำทำให้ฉันเป็นอันตรายในยุคศิวิไลซ์ รวมถึงสาเหตุของการสูญเสียขาทั้งสองข้างของฉันด้วย เพราะงั้นฉันเลยตัดสินใจที่ใช้เวลาศึกษาในการพัฒนาทางด้านนี้” ฮูเหมิงฮานค่อยๆเล่าให้ฟัง

 

ชูฮันคิ้วกระตุกเมื่อฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้”เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่าเราสามารถพัฒนาอารมณ์ได้ด้วยวิธีนี้?”

 

ชูฮันบอกอย่างไม่เชื่อแต่ที่เขาไม่คิดก็คือฮูเหมิงฮานกลับพยักหน้ารับทันที

 

”ใช่แค่ใช้สมองอันชาญฉลาดของฉัน” ฮูเหมิงฮานยกยิ้มมุมปาก ชี้นิ้วที่ขมับตัวเอง “ฉันค้นพบว่าการรับส่งอารมณ์ไม่ใช่แค่เรื่องความรู้สึกเท่านั้น แต่มันสามารถผ่านการสังเกต การเปรียบเทียบ หรือแม้แต่การเลียนแบบ”

 

ชูฮันเบิกตากว้างนี้มันอะไรกัน? แสดงว่าฮูเหมิงฮานก็กำลังทำการวิจัยอยู่?

 

”อย่าดูถูกการวิจัยหรือให้ฉันคาดเดาอารมณ์ของคุณหรือแม้แต่คำนวณสภาพจิตใจความคิดของคุณตอนนี้ล่ะ?” ฮูเหมิงฮานไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ยังคงพูดต่อ ราวกับว่ามันยากที่เขาจะได้แสดงฝีมือให้ใครเห็น

 

”ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาสิ่งเหล่านี้นอกเหนือไปจากดวงตาที่เปิดเผยทุกอย่างแล้วมันยังมีจุดหนึ่งที่ทุกคนละเลยกัน นั่นก็คือการเคลื่อนไหวผ่านจิตใต้สำนึกของกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่เป็นไปตามอารมณ์ที่มีมากกว่าสี่สิบใบหน้า สามารถรวมชุดค่าผสมต่างกันได้กว่า 5,000 ชุดของการแสดงอารมณ์!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของชูฮันก็ตึงเครียด แววตาดำสนิทดิ่งล้ำลึกอย่างใช้ความคิด

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด