Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 789 โกลาหล
ขณะที่ชูฮันและกลุ่มนักฆ่ากำลังฟาดฟันกันอยู่บนถนนในค่ายหนานตู้จงคุยที่ได้เข้าไปเยี่ยมลูกชายเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาที่โถงทางเดิน
”ฉางกวนหลงอยู่ไหน?!”ทันทีหลังจากออกมาห้องพักของจงไค จงคุยก็ถามขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด
”ท่าานพลเอกจงคุยท่านพลเอกของเราตอนนี้กำลังอยู่ในห้องประชุมครับ ท่านต้องการพบท่านฉางกวนหลงตอนนี้เลยมั้ยครับ?” ฮวงชูเจิ้นคือคนที่ถามจงคุย
หลังจากความยุ่งเหยิงที่ลากยาวมาทั้งวันทั้งคืนในที่สุดฮวงชูเจิ้นก็หลุดพ้น เขาได้พักจากเรื่องพวกนี้สักที แม้จะยังคิดไม่ตกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ใหม่ให้มาดูแลรับผิดชอบจงคุยแทนการรับมือกับเรื่องวุ่นวายภายในค่าย
และตอนนี้เมื่อได้เห็นพลเอกจงคุยเดินออกมาจากห้องพักลูกชายด้วยจิตสังหารรุนแรง ตะคอกลั่นอย่างเดือดาล ฮวงชูเจิ้นก็รับรู้ได้ว่าสถานการณ์ของตัวเองมันไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยสักนิด ทุกอย่างวนเข้าสู่วงจรเดิมอีกครั้ง
จงคุยจ้องหน้าฮวงชูเจิ้นเขม็งเขารู้สึกว่าทหารคนนี้กำลังยั่วโมโหเขาอยู่
”พลตรี!คุณคงไม่อยากจะมีชีวิตแล้วสิะ?!” จงคุยไม่ลังเลที่จะระบายความโกรธของตัวเองใส่หน้าฮวงชูเจิ้น “พาฉันไปพบฉางกวนหลงเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะเลาะหนังแกออก!”
ตัวของฮวงชูเจิ้นสั่นขึ้นมาทันทีเขารีบหมุนตัวออกเดินนำทางพลเอกจงคุยไปทันที หัวใจแทบวายด้วยความกลัวและก็มีความไม่พอใจเล็กน้อย ตัวเขามียศระดับพลตรี ตำแหน่งไม่ใช่น้อยๆ การที่พลเอกจงคุยมาไล่กวดเขาแบบนี้มันเกินไปรึเปล่า?
ความสงสัยและความไม่พอใจที่มีทำให้ฮวงชูเจิ้นพาพลเอกจงคุยมาถึงห้องประชุมโดยไม่พูดอะไรออกมาอีกสักคำและพอพาพลเอกจงคุยเข้าไปในห้องประชุมที่มีเหล่านายพลมากมายรวมถึงพลเอกฉางกวนหลงอยู่ด้วย หลังจากนั้นฮวงชูเจิ้นก็ออกไปจากห้องประชุมทันที
หลังจากเข้ามาในห้องประชุมจงคุยไม่คิดจะมองหน้าคนไหนทั้งนั้น เขาเดินหน้าตรงเข้าไปหาฉางกวนหลงและแหกปากใส่ทันที “ฉางกวนหลง คุณมานั่งเสียเวลาบ้าบออะไรอยู่ที่นี่ รีบไปจับตัวไอ้ชูฮันมาเร็วสิ!”
”พึมพำๆ~” ไอลีนโนเวล
ทันใดนั้นห้องประชุมที่เดิมเคยเงียบสงบก็มีเสียงดังระงมขึ้นมาทันทีเหล่านายพลมองหน้ากันและกัน บางคนก็พูดคุยถกเพียง
ตอนนี้ค่ายหนานตู้กำลังเดือดปุดๆสถานการณ์มันย่ำแย่มาก คนร้ายที่โจมตีจงไคยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคือใคร ทำได้แค่เพียงสอบสวนและคาดเดา
และแน่นอนว่าจงคุยเชื่อสิ่งที่จงไคพูดทันทีอย่างไม่คิดสงสัยเขาเชื่อว่าเป็นฝีมือของชูฮันอย่างที่ลูกชายบอก แต่ชูฮันใช้วิธีไหน?
”พลเอกจงคุย!”น้ำเสียงไม่พอใจของฉางกวนหลงดังขึ้น หากฉางกวนหลงไม่แม้แต่จะลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ แววตาที่จ้องไปที่พลเอกจงคุยนั้นแสดงความไม่เป็นมิตรออกมาอย่างชัดเจน “ชูฮันก็เป็นพลเอกเหมือนกัน ฉันไม่มีสิทธิที่จะไปจับกุมเขา แม้แต่ท่านพลเอกจงคุยที่มีอำนาจมาก ท่านก็ไม่มีเหตุผลที่จะกุมตัวพลเอกชูฮันได้?”
”มันทำให้ลูกชายฉันเป็นหมัน!”จงคุยเดือดดาลสุดๆ “เหตุผลแค่นี้พอมั้ย?”
ฉางกวนหลงแสยะยิ้ม”ข้อแรกมันไม่มีหลักฐานว่าเป็นฝีมือชูฮัน ฉันจะไม่จับเขา ข้อสองถึงคุณจะเชื่อในสิ่งที่ลูกชายที่เป็นบ้าของคุณบอก และฉันคงไม่สามารถห้ามคุณไม่ให้ไปจัดการกับชูฮันได้ แต่ฉันจำเป็นต้องเตือนคุณเอาไว้ ว่าถ้ามันเป็นฝีมือชูฮันขึ้นมาจริงๆ แต่ด้วยสิทธิพิเศษที่ชูฮันมี คุณก็ยังไม่มีสิทธิจะจับกุมเขาอยู่ดี”
ตาของจงคุยแทบจะถลนออกมาจากเบ้าความโกรธที่สุมอกจนแทบระเบิด หากก็ยังไม่ยอมต่อฉางกวนหลง “อืม ที่พูดมาทั้งหมดนี่คือคุณกำลังเข้าข้างชูฮันสินะ? แล้วลูกชายฉันล่ะ?!”
”ฉันแค่ต้องการให้มีการเสียเลือดน้อยที่สุด”ฉางกวนหลงยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้เหมือนเดิม “คุณต้องจัดการกับชูฮันเอง ได้โปรดอย่าลากฉันเข้าไปเกี่ยว ฉันไม่สนใจเรื่องของคุณ!”
ฉางกวนหลงจงใจแสดงเจตนาของตัวเองออกมาให้ชัดเจนคำพูดของชูฮันทำให้เหล่านายพลทั้งหลายในห้องประชุมนึกถึงฉายา ‘จิ้งจอกเฒ่า’ ของฉางกวนหลง
”แสดงว่าคุณจงใจแจ้งเรื่องให้ฉันทราบเพื่อให้ฉันมาจัดการด้วยตัวเอง?” จงคุยไม่คิดเลยว่าพอมาถึง ฉางกวนหลงจะไม่ให้ความร่วมมือมากขนาดนี้ “นี่เป็นค่ายของคุณ คุณต้องจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นภายในค่ายของคุณ ถ้าคุณปล่อยเรื่องนี้ แม้แต่ปล่อยให้ชูฮันเดินรอบไปทั่วค่ายของคุณ ทั้งๆที่ก็รู้ว่ามันคือคนที่มีแรงจูงใจมากที่สุด! จากคนทั้งค่าย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับชูฮัน แต่ลูกชายของฉันโดนทำลายแบบนี้ ฉันไม่สนว่ามันคือใคร?!”
ฉางกวนหลงเม้มปาก”แล้วไง? ถึงเขาจะเป็นคนทำร้ายลูกชายคุณจริง แล้วฉันล่ะ? มันมีไฟไหม้เกิดขึ้นที่สถาบันวิจัยในค่ายฉัน ฉันไม่มีเวลามาจัดการปัญหาให้คุณหรอกนะ!”
”แก!กูจะฆ่ามึง!” จงคุยโกรธมาก เขาคว้าปืนขึ้นชี้หน้าฉางกวนหลงทันที—–
”เรื่องด่วนครับ!”มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านนอกห้องประชุม ซึ่งก็คือมู๋หรงยู่เฉิงที่รีบเกินกว่าจะเสียเวลาเคาะประตู เขาเตะประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว “พลท่านครับ พลเอกชูฮันถูกลอบสังหารในพื้นที่พลเรือนครับ!”
”@#$%#$%!”
เสียงอุทานตกใจของทุกคนในห้องระเบิดออกมาพร้อมกันทันที!
”ชูฮัน?ถูกลอบสังหาร?”
”สถานการณ์มันเป็นยังไง?”
”เกี่ยวอะไรกับค่ายหนานตู้มั้ย?แล้วมันเป็นฝีมือใคร ตอนนี้ทุกอย่างมันพังไปหมดแล้ว!”
”แม้แต่ชูฮันก็โดนลอบสังหารฉันควรจะดีใจที่ไม่ใช่คนเด่นดัง ไม่มีใครรู้จัก แถมค่ายฉันก็ธรรมดา ไม่ได้ทำให้ใครเกลียดสินะ?”
จงคุยที่มุ่งมั่นจะจับตัวชูฮันให้ได้ก็ประหลาดใจเช่นกันในความคิดของเขาชูฮันเป็นคนแรกที่มาถึงค่ายหนานตู้ น่าจะมีเวลาแอบวางแผนจัดการอะไรไว้ล่วงหน้าก่อนเพราะฉะนั้นจะต้องเป็นชูฮันแน่ที่คิดจะฆ่าลูกชายเขา และประกอบกับอารมณ์ของจงไคที่จงคุยก็รู้จักลูกชายตัวเองดีว่าคงจะไปสร้างความไม่พอใจให้ชูฮันแน่ๆจนคิดจะฆ่าทิ้ง แม้จะไม่มีหลักฐานแต่จงคุยก็มั่นใจ
อย่างไรก็ตามข่าวที่พึ่งได้รับรู้ทำให้ความเชื่อทุกอย่างพังทลายหมด สิ่งที่คิดไว้มันไม่ใช่สักอย่าง ถ้าชูฮันสามารถฆ่าจงไคซึ่งเป็นลูกชายของค่ายอันดับต้นๆของจีนได้ แล้วทำไมตัวชูฮันยังเองถึงถูกลอบสังหาร?
”มันต้องเป็นแผนที่ชูฮันวางไว้เองแน่ต้องใช่แน่ๆ!” ทันใดนั้นจงคุยก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ “คนอย่างชูฮันจะถูกลอบสังหารได้ง่ายๆอย่างนั้นเลยเหรอ? แถมถึงงั้นได้รับบาดเจ็บด้วย? ฉันไม่เชื่อว่าคนที่มีภาพลักษณ์อันแสนจะเก่งกาจและโด่งดังอย่างชูฮันจะถูกลอบทำร้ายได้ง่ายแบบนี้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของจงคุยหลายคนในห้องก็เริ่มคล้อยตาม บางคนก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
โชคร้ายที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่คิดมู๋หรงยู่เฉิงรีบปฏิเสธคำกล่าวหาของจงคุยทันที “ไม่ใช่ครับ พลเอกชูฮันได้รับบาดเจ็บ! และตอนนี้ทุกอย่างกำลังวุ่นวายมาก ที่เกิดเหตุก็อยู่ไม่ไกลจากประตูค่าย พลเอกชูฮันพึ่งกลับจากการไปส่งทีมกุ้งเสือดำกลับค่ายเขี้ยวหมาป่าและไม่นานหลังจากนั้นก็โดนจู่โจมครับ มันกระทันหันมาก กลุ่มนักฆ่าจู่โจมพลเอกชูฮันกลางถนนต่อหน้าชาวบ้าน มีชาวบ้านจำนวนมากมุงดูกันล้อมหลายชั้นจนคนของเราไม่สามารถแทรกเข้าไปได้เลยครับ จนหน่วยลาดตระเวนของเราไปได้ยินข่าวมาจากการพูดคุยขอบชาวบ้านถึงได้มาแจ้งผมครับ!”
มู๋หรงยู่เฉิงพูดทั้งหมดโดยไม่หยุดพักหายใจไม่เพียงแค่จะละเลยต่อการคาดเดาของพลเอกจงคุยอย่างสิ้นเชิงแล้ว แต่ยังเสริมอีกประโยคในตอนท้ายเข้าไปอีก “และคนที่ลอบสังหารพลเอกชูฮันก็เป็นกลุ่มนักฆ่าที่มีทั้งหมด 15 คนครับ มีวิวัฒนาการระยะ 5 ทั้งหมด 14 คนและวิวัฒนาการระยะ 6 อีก 1 คนครับ!”
คอมเม้นต์