จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – บทที่ 34 แก้ต่างอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น
บทที่ 34 แก้ต่างอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น
รูปถ่ายลับส่วนตัว?!
ดวงตาของโล่เฉินเบิกกว้าง จากนั้นก็เกิดความโกรธเคืองขึ้นมา
อุณหภูมิด้านในห้องรู้สึกจะเพิ่มขึ้นมาหลายองศา
“ไอ้คนตัณหากลับ!”หลิวเซียงหลันด่าทอต่อว่าสารพัด
หานเจี้ยนเย่ยิ่งตาแดงร้อนเป็นไฟ คว้าไม้กวาดจะกระโจนเข้าใส่ให้ได้
โล่เฉินก็สู้กลับไม่ได้ เพราะยังไงเสียก็เป็นพ่อตาของเขา
“หยู่ถิงเพิ่งกลับมาไม่กี่วัน นายก็กุมรูปถ่ายส่วนตัวของเธอได้แล้วเหรอ หรือว่านายมีตั้งนานแล้วและข่มขู่หยู่ถิงมาโดยตลอด ไอ้บ้าเลวระยำ ไร้คุณธรรม หยู่ถิงอายุยังน้อย ทำไมนายถึงทำได้ลงคอ!”
หลิวเซียงหลันก็พุ่งเข้ามา ทั้งสองร่วมมือกันตีขึ้นมา
“นายมันเนรคุณ กินของพวกเรา ใช้ของพวกเรา อยู่บ้านของพวกเรา ทำลายลูกสาวคนโตของฉันยังไม่พอ ยังคิดจะลงมือกับลูกสาวคนเล็กของฉันอีก”
ด้านในห้องชุลมุนวุ่นวายมาก โล่เฉินเอามือบังหัวแล้วหดตัวอยู่ที่มุมห้อง
หานเจี้ยนเย่หายใจเสียงหอบเหนื่อย หน้าผากปรากฏเส้นเอ็นขึ้นมา“โล่เฉิน ฉันจะแจ้งความ รีบส่งรูปถ่ายของหยู่ถิงมาเดี๋ยวนี้แล้วตามฉันไปที่สถานีตำรวจแต่โดยดี”
“พ่อแม่ พวกท่านอย่าทำอย่างนี้”
หานหยู่ถิงดึงทั้งสองคนออก พูดอย่างกระวนกระวายว่า“พ่อแม่ อย่าตีเขา ถ้าบีบเข้ามากเกินไปจะทำให้เขาเผยแพร่รูปถ่ายส่วนตัวของหนูออกไป มันจะยุ่งกันใหญ่”
“เขากล้าเหรอ!”
มีคำพังเพยที่ว่าลูกสาวเป็นดั่งไข่มุกในมือของผู้เป็นพ่อ
หานเจี้ยนเย่ที่ปกติเกรงกลัวภรรยาเป็นอย่างมาก บัดนี้ราวกับเป็นสิงโตผู้สง่าอย่างนั้น
เขาชึ้ไปยังโล่เฉิน ดุด่าว่ากล่าว“ฉันขอพูดไว้ตรงนี้เลยนะ ถ้านายกล้าเผยแพร่รูปถ่ายของหยู่ถิงหละก็ ถึงฉันจะต้องติดคุกก็จะฆ่านายให้ตายไปเลย!”
“พ่อ ผมไม่มีจริงๆนี่”
“ยังกล้าโต้เถียงอีก หยู่ถิงจะพูดปดได้อย่างไร คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริง เดิมที่คิดว่าเป็นแค่คนไม่เอาถ่าน คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนต่ำช้าที่ไร้ยางอายสิ้นดี”
หลิวเซียงหลันยิ่งพูดยิ่งโกรธแค้น สุดท้ายเอ่ยคำที่สะเทือนฟ้าดินออกมาหนึ่งคำ
“วันนี้เอารูปโป๊ของหยู่ถิงได้ พรุ่งนี้ก็จะกล้าเอารูปของฉันใช่ไหม”
หานหยู่ถิงเกือบหัวเราะออกมา
เธอรีบผลักคู่สามีภรรยาหานเจี้ยนเย่ออก พูดอย่างตั้งใจว่า“พ่อแม่ เรื่องนี้พวกท่านจัดการไม่ได้ หนูจะคุยกับโล่เฉินเอง”
“ลูกรัก จะได้ไง ไอ้สัตว์เดรัจฉานคนนี้……”
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เขาไม่กล้าทำอะไรหนูหรอก พ่อแม่ฟังหนูดีๆนะ อย่าแจ้งความเด็ดขาด หนูจะจัดการทุกอย่างเอง พวกท่านไปทำกับข้าวกันเถอะ หนูหิวแล้ว”
เมื่อผลักทั้งสองคนออกไปแล้วปิดประตู หานหยู่ถิงพิงอยู่ที่ประตูพลางโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
สีหน้าโล่เฉินไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง พูดเสียงเคร่งขรึมว่า“ดูสิ่งที่คุณก่อขึ้นสิ!”
“แหวะ แหวะ แหวะ”
หานหยู่ถิงแลบลิ้นอย่างเกเร“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ แต่วางใจได้ มีฉันอยู่ คุณไม่เข้าคุกหรอก”
“หลีกไป ผมจะออกไปข้างนอก”
“คุณไปไหน หาพี่สาวฉันเหรอ?”หานหยู่ถิงมีใบหน้าที่ระมัดระวัง สั่งการว่า“อย่าพูดเรื่องนี้กับพี่สาวฉันเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะกระทืบคุณแน่”
โล่เฉินรู้สึกหมดคำจะพูด
น้องเมียอย่างนี้ จะด่าก็ไม่ใช่จะตีก็ไม่เชิง แต่ไม่ตีไม่ด่าเธอก็มาก่อเรื่องถึงห้องอีก ช่างปวดหัวจริงแท้
“พอแล้ว พอแล้ว ผมไม่พูด ผมจะไปวิ่งยามเช้า……”
สิ้นเสียง มือถือก็ดังขึ้นมา
โล่เฉินเห็นหานหยู่เยนโทรเข้ามา เพิ่งรับสายก็ได้ยินเสียงกังวลใจส่งเข้ามา“โล่เฉิน เกิดเรื่องแล้ว ทำไงดี”
“เรื่องอะไร?ไม่ต้องรีบ ค่อยๆพูด”
“เมื่อคืนหอพักคนงานก่อสร้างถูกทำลาย ยังมีคนงานหลายคนได้รับบาดเจ็บ ได้ยินว่าเป็นคนอิทธิพลมืดในเขตปินหูมาหาเรื่อง”
สีหน้าโล่เฉินกลัดกลุ้มใจ ครุ่นคิดดูแล้วถามขึ้นมาว่า“คนงานอาการหนักไหม?”
“บาดเจ็บภายนอกเท่านั้น ไม่อันตรายถึงชีวิต”
“แน่ใจว่าเป็นพวกอิทธิพลมืดนะ?”
หานหยู่เยนลากเสียงยาวเหยียบ ไม่อาจตัดสินใจได้“ไม่แน่ใจค่ะ เมื่อกี้ตอนประชุมทุกคนคาดเดาว่าจะเป็นเช่นนี้ เพราะมีความเป็นไปได้สูง”
“ผมเข้าใจแล้ว”
เวลานี้ ในโทรศัพท์มีเสียงของหานหยุนซีส่งมา“หานหยู่เยน มีความคืบหน้าแล้ว หานหยุนเทาได้รับเบาะแสใหม่ คุณย่าจึงเรียกทุกคนมาประชุมด่วน”
“ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”หานหยู่เยนตอบหนึ่งประโยค“โล่เฉิน ฉันไปประชุมก่อน เดี๋ยวค่อยโทรหาคุณนะ”
“ไปเถอะ ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้เรื่องเล็ก”
หลังจากที่วางสาย โล่เฉินรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
เห็นได้ชัดว่ามีคนเล่นตลกอยู่ข้างหลัง เป็นตระกูลที่อิจฉาตระกูลหานได้งานนี้หรือเปล่า?
ไม่ว่าจะตระกูลไหน ไม่ว่าจะอิทธิพลอำนาจใด
หาเรื่องกับผู้หญิงของผม ต้องบรรลัยอย่างแน่นอน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น พี่สาวฉันพูดอะไร?”
“ไม่มีอะไร”
โล่เฉินทำหน้าเย็นชาใส่ หลังจากที่อาบน้ำอาบท่าเสร็จ “ผมจะออกไปข้างนอก”
“รอเดี๋ยว ฉันก็ไปด้วย”
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง ทั้งสองคนก็ปรากฏตัวอยู่ที่ร้านกาแฟตรงข้ามบริษัทตระกูลหาน
นั่งไม่นาน หานหยู่เยนก็มาอย่างเร่งรีบ
“พี่โล่เฉินบอกว่าที่ก่อสร้างมีปัญหา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ รู้ว่าเป็นฝีมือใครไหม?”หานหยู่ถิงให้เป็นห่วงเรื่องนี้มาก
หานหยู่เยนถอนหายใจ พูดด้วยความทุกข์ใจ“เจ้าถิ่นเขตปินหู ฉายาว่าเฮยหนิว”
“ใครเป็นคนสืบข่าวเรื่องนี้?”
“หานหยุนเทา ใช่แล้ว เขาบอกว่าเขาคุยกับเฮยหนิวแล้ว เข้าใจว่าที่เฮยหนิวทำเช่นนี้ก็เพราะไม่พอใจตระกูลหานของพวกเราที่ไม่ส่งของขวัญให้เขา!”
หานหยู่ถิงตบโต๊ะ ตะโกนพูดว่า“ของขวัญ?เดี๋ยวจะเอาเขาให้ตายเลย ถือตัวเองเป็นฮองเต้เหรอ ยังคิดจะให้พวกเราจ่ายส่วยอีก!”
“เขาร้ายกาจจริงๆ อยู่ที่เขตปินหูได้ไม่เลวเลย มีทรัพย์สินมากกว่าตระกูลหานของเรา มีลูกน้องกว่าหนึ่งร้อยนาย รับงานทั้งบนดินและใต้ดินด้วย!”
“หา เก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”เพลิงโกรธของหานหยู่ถิงดับสลายในทันควัน
โล่เฉินรู้สึกผิดแปลก เขาถามว่า“ในที่ประชุม น่าจะสรุปวิธีแก้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
หานหยู่เยนพยักหน้า ตอบว่า“หานหยุนเทาบอกว่า คืนนี้เฮยหนิวจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมเผิงไหลปินหู จำเป็นต้องให้ฉันส่งของขวัญไปให้หนึ่งอย่าง ของขวัญไม่ต้องหรูหรา ประเด็นคือมารยาและความจริงใจ บอกว่าเฮยหนิวรักศักดิ์ศรีมาก!”
“คิกคิก งานเลี้ยงหงเหมินนี่!”(งานเลี้ยงอันตราย)
“ใครว่าไม่ใช่กัน”
หายหยู่เยนจับหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้มใจ“หากฉันคาดเดาไม่ผิด เฮยหนิวกับหานหยุนเทาเป็นพวกเดียวกัน หานหยุนเทาถูกปลดตำแหน่งรู้สึกเคียดแค้นในใจ จึงคิดจะโจมตีคุณ เพียงแต่ผมคิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้”
หานหยู่ถิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไม่มีมาดของคุณหนูหลงเหลืออยู่แล้ว
“หานหยุนเทาคนนี้สติฟั่นเฟือน ร่วมมือคนนอกมาทำร้ายคนในบ้าน พี่สาว พวกเราไปบอกคุณย่ากันเถอะ ขอแค่คุณย่าออกหน้า หานหยุนเทาก็จะไม่กล้าฮึกเหิมอีก”
“หยู่ถิงพวกเราฟังก็คาดได้ออก น้องคิดว่าคุณย่าที่ชาญฉลาดจะคาดเดาไม่ออกเหรอ”โล่เฉินหัวเราะเยาะ
หานหยู่ถิงรู้สึกสงสัยไม่หยุด“ในเมื่อคุณย่ารู้ ทำไมถึงยังไม่ห้าม?”
หานหยู่เยนยิ้มฝืดๆ“อันนี้คือสิ่งที่พี่กังวลที่สุด หานหยุนเทาหาเรื่องพี่ พี่ไม่ค่อยกลัว ประเด็นคือท่าทีของคุณย่า ดูจากเรื่องนี้แล้ว คุณย่ามีความลำเอียงอยู่นะ”
โล่เฉินยื่นนิ้วออกมาสามอัน จัดแจงว่า
“ประการแรก หานหยุนเทาเป็นหลานคนโต คุณเป็นผู้หญิง คุณย่าหัวโบราณอย่างนี้ ไม่มีทางมอบบริษัทตระกูลหานให้คุณหรอก
ประการที่สอง ครั้งการพวกเราวางแผนใส่คุณย่า ให้ท่านปลดตำแหน่งของหานหยุนเทาออก ท่านเป็นคนยโสขนาดนั้นคงต้องไม่พอใจและจำฝังใจแน่ๆ
ประการที่สาม ตระกูลหานสงบมากไม่ได้”
หานหยู่เยนคิดไม่ตก ถามว่า“ทำไมตระกูลหานถึงสงบไม่มีเรื่องไม่ได้?”
โล่เฉินยิ้มอย่างยากจะหยั่งถึงว่า“คุณย่าอายุมากแล้ว หากตระกูลหานสงบจะทำให้ท่านรู้สึกหวาดระแวง อันนี้คือการตอบสนองทางจิตใจที่ปกติที่สุดของคนที่อยู่ตำแหน่งสุงและมีเวลาไม่เยอะแล้ว”
“นอกจากนี้ ตอนนี้คุณรับโครงการใหญ่มา นอกจากคุณย่าแล้วคุณก็เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในตระกูลหาน ถึงแม้ท่านจะให้เวลาคุณหนึ่งปี แต่ไม่มีทางให้คุณผ่านพ้นปีนี้ได้อย่างราบรื่นแน่นอน เธอไม่ลงมือ หานหยุนเทาก็คือดาบเล่มหนึ่งของท่าน”
“อีกอย่าง เฮยหนิวกับหานหยุนเทาเป็นพวกเดียวกัน คุณกับหานหยุนเทาต่อกรกันก็ไม่ส่งผลกระทบกับตระกูลหานมากนัก”
หานหยู่เยนมองไปยังด้านนอกหน้าต่าง
พระอาทิตย์สดใส บนถนนมีรถราวิ่งขวักไขว่ไปมาเยอะแยะ
ตรงข้ามถนนเป็นตึกใหญ่ของบริษัทตระกูลหาน
“อันนี้คือกลยุทธ์อำนาจ”
“ถูกต้อง”โล่เฉินพยักหน้า
หานหยู่ถิงฟังไม่เข้าใจ เธอเอียงคอถาม“แล้วพี่สาว งานเลี้ยงหงเหมินคืนนี้จะไปหรือไม่ไปดี?”
“ไปสิ ทำไมถึงไม่ไป”
โล่เฉินตอบแทนหานหยู่เยน
คอมเม้นต์