จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – บทที่ 61 ทำร้ายและช่วยเหลือ
บทที่ 61 ทำร้ายและช่วยเหลือ
คฤหาสน์ตระกูลโจว ห้องใต้ดิน
ในบ่อน้ำพุร้อน.
โล่เฉิงและโจวไท่เพลิดเพลินกับการรับใช้ของสาวสวย ดนตรีไพเราะดังล่องลอย อบอวลไปด้วยบรรยากาศอันคลุมเครือ
“คุณชาย”
ทันใด หญิงรับใช้ก็เข้ามาและคุกเข่าลงกับพื้น จากนั้นจึงโน้มตัวลงมายังข้างหูของโจวไท่แล้วพูดว่า “คุณชาย หานหยุนเทาคุณชายใหญ่ตระกูลหานมาแล้ว บอกว่าต้องการพบคุณ”
“เขามาทำไม?”
“ไม่ทราบ แต่ท่าทางเกรี้ยวกราด ได้ยินเขาพึมพำว่าจะต้องจัดการกับหานหยู่เยนอะไรสักอย่าง รายละเอียดไม่ทราบแน่ชัด”
ดวงตาของโจวไท่สว่างวาบ เขาเหลือบมองโล่เฉิงและเอ่ย “ให้เขาเข้ามาเถอะ”
ในไม่ช้า หานหยุนเทาก็ปรากฏตัวที่ห้องใต้ดิน
“โล่ คุณชายโล่”
เมื่อเขาเห็นว่าโล่เฉินเองก็อยู่ที่นี่ หานหยุนเทาก็ตกใจจนแทบสิ้นสติ จากนั้นจึงมองไปที่โจวไท่ ในใจหวาดหวั่นอย่างยิ่ง
ตระกูลโจว ถึงกับมีความสัมพันธ์กับตระกูลโล่ของจินหลิง ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่ง่ายดาย!
“หานหยุนเทา ลงมาเล่นสักหน่อย”
ได้ฟังคำทักทายของโจวไท่และเมื่อหันไปมองดูสาวสวยในสระน้ำพุร้อน หานหยุนเทาก็ไม่พูดพร่ำอีก เขาถอดเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าแล้วกระโดดลงไปทันที
แต่เดิมตัวเขาก็มีกองไฟสุมอยู่ที่ท้อง ในเมื่อตอนนี้ค้นพบเป้าหมาย ทั้งตัวก็เริ่มพุ่งเข้าใส่ทันที
สองสามนาทีผ่านไป การต่อสู้ก็จบลง
“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณชายหาน ความสามารถในการต่อสู้ของคุณดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อ่อนแอไปหน่อยแล้ว ดื่มยาบำรุงสักหน่อยเถอะ” โจวไท่พูดอย่างสนุกสนาน
ในสระน้ำ เหล่าสาวสวยเองก็หัวเราะคิกคักขึ้นมา
หานหยุนเทาหน้าแดงซ่าน เขาโบกมือ “อย่ามาล้อผมเล่น เข้าเรื่องจริงจัง เดิมทีผมคิดอยากจะมาร่วมมือกันจัดการกับหานหยู่เยน”
“เธอไปทำอะไรให้คุณโมโห?”
“นังสารเลวนั่นถึงกับกล้าตีผม อีกทั้งตอนนี้นับวันยิ่งหยิ่งผยองมากขึ้นเรื่อยๆ กล้าปีนขึ้นมาบนหัวผมแล้ว จะให้ผมทนได้ยังไง!”
หานหยุนเทาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม นัยน์ตาคมกริบราวกับมีด
“คุณชายโล่ คุณเองก็สมควรคิดอยากจัดการหานหยู่เยนเหมือนกันสินะ”
โล่เฉิงหรี่ตาลง มุมปากเผยยิ้มดูถูกเหยียดหยาม “นายคงไม่คิดว่า ฉันอยากแต่งกับเธอจริงๆ หรอกนะ?”
ในใจของหานหยุนเทาเกร็งแน่น เขาพยักหน้าเอ่ย “สมควรแล้ว ด้วยสถานะของคุณชายโล่ ไหนเลยจะมาถูกตาต้องในหญิงสาวในตระกูลเราได้ เห็นทีคุณชายโล่คงคิดอยากเล่นสนุกเพียงเท่านั้น เล่นจนเบื่อแล้วก็ค่อยเตะเธอทิ้ง”
“รู้ก็ดี!”
“คุณชายโล่ เรียนตามตรง หานหยู่เย่นเธอก็เป็นเพียงรถสาธารณะไปแล้ว เธอถูกเฮยหนิวเจ้าถิ่นของปินหูจัดการไปแล้ว อีกทั้งยังมีภาพถ่ายและวิดีโอด้วย”
วูบ!
ทันใดนั้นดวงตาของโล่เฉิงก็สว่างวาบขึ้นมา
โจวไท่เองก็ประหลาดใจเช่นกัน “ที่นายพูดเป็นเรื่องนี้จริงเหรอ?”
“แน่นอนว่าเป็นความจริง นี่เป็นแผนของผมกับเฮยหนิว เพื่อที่จะควบคุมหานหยู่เยน แต่น่าเสียดาย นังสารเลวนั่นใจเด็ดนัก ไม่หวาดหลัวสักเท่าไหร่แถมรูปถ่ายเปลือยเปล่านั่นก็อยู่แค่ที่เฮยหนิวเท่านั้น เฮยหนิวได้ตัวเธอแล้ว เขาก็ไม่ยอมช่วยผมจัดการเธอต่อ ดังนั้นผมเลยต้องมาหาพวกคุณ”
“นายมานี่”
โล่เฉิงจู่ๆ ก็เอ่ยปากขา
หานหยุนเทาดีใจอย่างยิ่ง เขาเข้าไปข้างๆ โล่เฉิงอย่างว่าง่าย ยังไม่ทันได้เปิดปาก ฝ่ามือหนึ่งก็สะบัดลงบนใบหน้าเขาเสียก่อน
“คุณชายโล่ คุณ คุณทำอะไร?” หานหยุนเทางุนงงไป
โจวไท่เอ่ยเสียงเย็น “ไอโง่ หานหยู่เยนยังคงบริสุทธิ์ดี คุณชายโล่กำลังรอสนุกอยู่ แต่นายกลับวางแผนการทำให้หานหยู่เยนเสียตัว ไม่ตีนายแล้วให้ไปตีใคร!”
“เป็นไปไม่ได้ บริสุทธิ์งั้นหรือ เธอกับไอ้ขยะนั่นแต่งงานกันมาตั้งสามปีแล้ว ได้ยินมาว่านอนร่วมห้องเดียวกัน จะยังบริสุทธิ์ได้ยังไง”
โล่เฉิงโกรธจัดและใช้เท้าเตะหานหยุนเทา “หลิวเซียงหลันบอกฉัน ผิดพลาดหรือไง?”
“นี่..”
หานหยุนเทาตาสว่างขึ้นมา หานหยู่เยนจะไปมีความสัมพันธ์กับไอ้ขยะได้อย่างไรกัน เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาก็กลืนน้ำลายลงเอื้อกหนึ่งในใจเป็นกังวลว่าโล่เฉิงจะมาเอาเรื่อง
โจวไท่เอ่ยปาก “พี่เฉิง เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว พูดไปก็ไร้ประโยชน์ คุณไม่สนใจหานหยู่เยนแล้ว?”
“ทำไมจะไม่”
โล่เฉิงเอนกายพิงสระอย่างเกียจคร้าน เขากอดสาวใช้แล้วพูดด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ “ภาพเปลือย ดีมาก ฉันกำลังกังวลว่าจะควบคุมผู้หญิงที่หยิ่งผยองคนนั้นไม่ได้อยู่พอดี นายกลับให้เบาะแสที่ดีกับฉัน”
หานหยุนเทาตะลึง เขาหัวเราะดังลั่นและพูดว่า “คุณชายโล่ คุณต้องการหาเฮยหนิวหรือไม่ ผมนำทางไปได้ เพียงแต่เขาเป็นเจ้าถิ่นของปินหู มีนักเลงในมืออยู่ไม่น้อย คุณจะจัดการอย่างไร?”
“ก็แค่งูเจ้าถิ่นตัวเล็กๆ สู้กับมังกรตัวจริง เขากล้าหรือไง?”
โล่เฉิงลุกขึ้น
หญิงรับใช้สองคนเข้าไปเช็ดตัวให้เขา
“อย่ามัวแต่เสียเวลาเลย ไปปินหู เจอเฮยหนิวนั่นสักหน่อย”
โจวไท่เอ่ย “ไปตอนนี้หรือ? ฟ้าก็มืดแล้ว ไปหลังอาหารเย็นก็ยังไม่สาย”
“ไปที่ตึกเผิงไหลปินหู ฉันเลี้ยง เฮยหนิวเองก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของตึกเผิงไหล ฉันจะให้เขาไปเจอที่นั่น”
หานหยุนเทาในใจตั้งหน้าตั้งตารอขึ้นมา
ก่อนหน้านี้เฮยหนิวไม่ไว้หน้าเขา ไม่ชายตามองเขา เขาอยากจะดูนัก ว่าอีกเดี๋ยวเฮยหนิวจะศิโรราบต่อหน้าโล่เฉิงยังไง นอกจากนี้ยังมีรูปภาพที่อยู่ในมือของเฮยหนิว
หน้าตาของหานหยู่เยนไม่จำเป็นต้องเอ่ย อีกทั้งรูปร่างก็ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับหานหยุนซีที่แต่งหน้าหนาจัดแล้ว หานหยู่เยนนั้นดูบริสุทธิ์งดงามน่าดึงดูดมากกว่า
หากจะบอกว่าไม่มีความคิดใดๆ เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องโกหก
หานหยุนเทารู้สึกตื่นเต้น หากอีกเดี๋ยวเขาสามารถชื่นชมร่างกายที่ละเอียดงดงามของหานหยู่เยนได้ อีกทั้งยังอาจมีโอกาสได้ลิ้มรสชาติของหานหยู่เยนอีกด้วย นั่นไม่ใช่ความสุขกันหรอกหรือ
…
ไห่ถังหัวฝู่
BMW 540 ขับออกไปอย่างช้าๆ โล่เฉินมาถึงตึกซิงหยุน
“อาจารย์ คุณมาแล้ว”
“รากยู่หลงอยู่ไหน?”
ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง ฟ่านหงชางส่งข่าวบอกมาว่า หนึ่งในสามสมุนไพรล้ำค่านี้มีเบาะแสแล้ว โล่เฉินจึงมีความอย่างยิ่งและรีบมาในทันที
รากยู่หลง คือหนึ่งในสามของวัสดุยา
ฟ่านหงชางเอ่ย “อาจารย์ เป็นแบบนี้ ตามที่คุณได้อธิบายถึงรูปร่างของรากยู่หลงเอาไว้ มีคนที่เชื่อถือได้คนหนึ่งติดต่อผมเข้ามา บอกว่าในมือของพวกเขามีรากยู่หลง แต่ว่าพวกเขาจะขายให้กับผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น”
“หมายความว่ายังไง?”
“ผมเองก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ชายคนนั้นจะมาที่ตึกซิงหยุนทันที”
ทันทีที่สิ้นเสียง ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา”
เอี๊ยด
ประตูเปิดออก ชายวัยกลางคนในชุดสูทอย่างเป็นทางการ ท่าทีเต็มไปด้วยลักษณะของความเป็นทางการปรากฏตัวขึ้น
“ฟ่านหงชาง สวัสดี”
“เลขาจ้าว ท่านนี้คือหมอเทวดาที่ผมบอกกับคุณ คุณโล่” ฟ่านหงชางแนะนำ
ชายคนนั้นเดินเข้ามาและมองไปที่โล่เฉินอย่างประเมิน ดวงตาเปล่งประกายความเคลือบแคลง
ฟ่านหงชางยิ้มเอ่ย “เลขาจ้าวสบายใจได้ ผมจะขอพูดตรงนี้ หากหมอเทพโล่ไม่สามารถรักษาอาการลูกสาวของคุณได้ อย่างนั้นผมก็ยินดีที่จะบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดรวมถึงศีรษะนี้ของผมก็ไม่เอาแล้วเช่นกัน”
เลขาจ้าวตะลึงไปเล็กน้อยและพยักหน้าทันที “ในเมื่อหงชางรับรองถึงขนาดนี้ เห็นทีจะต้องมีมูลแน่ หมอเทพ เวลากระชั้นชิด พวกเราค่อยพูดระหว่างทาง เป็นอย่างไร?”
“ได้”
ระหว่างทาง โล่เฉินและฟ่านหงชางค่อยเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้
ผู้ป่วยไม่ใช่ลูกสาวของเลขาจ้าว แต่เป็นลูกสาวของหลินหยุนเซียว อัยการสูงสุดเมืองเจียง ซึ่งมีชื่อว่า หลินชิงอี๋
หลินชิงอี๋เป็นพวกประหลาด ไม่ชอบอาชีพทางการแต่กลับชอบเรื่องโบราณคดี เรื่องอันตรายตื่นเต้นผจญภัย
เมื่อสามเดือนก่อน เธอและเพื่อน ๆ หลายคนไปผจญภัยที่ภูเขานอกจังหวัด หลังจากกลับมาก็ผิดปกติไป บางครั้งหมดสติบางครั้งก็คลุ้มคลั่ง
สิ่งเดียวที่หลินชิงอี๋นำกลับมาก็คือตัวยาตัวหนึ่ง หลินหยุนเซียวไม่รู้จักมาก่อน รากยู่หลงเป็นตัวยาหายากย่างยิ่ง มีคนเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะระบุมันได้
อย่างไรก็ตาม ฟ่านหงชางฉลาดอย่างยิ่ง เขาให้คนอธิบายภาพออกมา จากนั้นจึงนำไปเปรียบเทียบกับของหลินหยุนเซียว ดังนั้นจึงหามันมาได้
บนถนนจงหนาน ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองเจียง
การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด
เลขาจ้าวจอดรถที่หน้าอาคารสองชั้นขนาดเล็ก จากนั้นจึงพาโล่เฉินและฟ่านหงชางเข้าไปด้านใน
“เอ๋?”
“หมอเทพ เป็นอะไรไปครับ?” ฟ่านหงชางเปลี่ยนคำเรียก
โล่เฉินขมวดคิ้ว จากนั้นจึงส่ายหัวเล็กน้อยโดยไม่มีคำอธิบาย
เมื่อเข้าไปในห้อง เสียงกรีดร้องแหลมก็ดังลั่นขึ้น
“ไม่ได้การแล้ว คุณหนูป่วยอีกแล้ว”
เลขาจ้าวหน้าเปลี่ยนสีทันทีและรีบวิ่งขึ้นชั้นสอง
พวกโล่เฉินเองก็ติดตามไปด้วยอย่างใกล้ชิด
“เสี่ยวอี๋ เสี่ยวอี๋ลูกใจเย็น ๆ หน่อย เป็นแม่ เป็นแม่เอง ลูกไม่รู้จักแม่แล้วหรือ”
“ฮือฮือฮืออ ลูกสาวผู้น่าสงสารของฉัน”
“เสี่ยวอี๋ เกิดอะไรขึ้นกับลูกกันแน่…ระวังหน่อย อย่าล้มลงไป…”
ในห้อง มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังร้องไห้ ตรงหน้าของเธอมีหญิงสาวสีหน้าขาวซีด ราวกับหญิงสาวเสียสติคนหนึ่ง
แม้ว่าหลินชิงอี๋จะป่วยหนักมาก แต่ก็ยังสามารถเห็นได้ว่าเธอเป็นหญิงสาวหน้าตางดงามผู้หนึ่ง อายุยังไม่มากประมาณยี่สิบปี
นอกจากทั้งสองคนแล้ว ยังมีชายหนุ่มท่าทางยำเกรงอยู่อีกคน
“ท่านอัยการสูงสุด”
“เหล่าจ้าว คุณมาแล้ว”
หลินหยุนเซียวมีสีหน้าซูบเซียว ดวงตาที่จ้องมองมามีรอยคล้ำรอบ เมื่อเห็นพวกโล่เฉิน จึงค่อยๆ มีสติกลับมาเล็กน้อย “ฟ่านหงชาง สวัสดีดี ท่านนี้คือ…”
“นี่คือหมอเทพโล่”
หลินหยุนเซียวเอ่ยปาก “หมอเทพ ลูกสาวผม…”
โล่เฉินไม่ได้สนใจ เขาก้าวไปเล็กน้อย ฝีเท้าเบาราวกับนกนางแอ่น
พริบตาเขาก็ปรากฏตรงหน้าของหลินชิงอี๋ และชี้นิ้วไปที่หว่างคิ้วของเธอ และทำให้พวกหลินหยุนเซียวทั้งสาวคนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลินชิงอี๋ค่อยๆ กลับมาสงบลงและเป็นลมไป
“เสี่ยวอี๋”
หญิงสาวรีบพุ่งเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่น
“ท่านผู้หญิง บุตรสาวของคุณไม่ได้เป็นอะไร เพียงแค่หลับไปเท่านั้น”
“หมอเทพ เป็นหมอเทพจริงๆ”
หลินหยุนเซียวราวกับมองเห็นความหวัง เขารักลูกสาวของเขายิ่งกว่าชีวิต เมื่อเห็นวิชาวิเศษของโล่เฉินก็แทบจะคุกเข่าลง
“หมอเทพ ได้โปรดช่วยลูกสาวผมด้วย ไม่ว่าจะมีข้อแม้ยังไงผมก็ยอม”
“ท่านอัยการสูงสุด ท่านผู้หญิง พวกคุณไม่ต้องตื่นตกใจไป ผมรักษาคุณหลินได้ จุดนี้พวกคุณได้โปรดวางใจ”
หลินหยุนเซียวและภรรยาสบตากัน ในใจเต็มปริ่มด้วยความยินดี
“พวกคุณลงไปชั้นล่างและรอที่ห้องนั่งเล่นก่อนเถอะ”
หลังจากผู้คนจากไป โล่เฉินก็เดินมาที่เตียง สีหน้าของเขาหนักอึ้ง “คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอกับวิธีการแบบนี้ น่าสนใจ”
เข็มมังกรเก้าหางตกลงบนร่างกายที่บอบบางของหลินชิงอี๋ จากนั้นเขาก็ปล่อยพลังทิพย์ออกมาสายหนึ่ง
ตึง
เข็มเงินสั่นไหวอย่างรุนแรง จนแผ่นโลหะสั่นจนเกิดเสียงขึ้น
สิบห้านาทีต่อไป โล่เฉินก็ลงไปชั้นล่าง
“หมอเทพ เป็นอย่างไรบ้าง?”
โล่เฉินไม่พูดจา บังเอิญกับที่บนโต๊ะมีปากกาและกระดาษอยู่พอดี
เขาเขียนใบสั่งยาและเอ่ยกำชับ “บุตรสาวของท่านไม่เป็นอะไรแล้วชั่วคราว แต่หลังจากนี้อีกครึ่งเดือนผมยังต้องลงมืออีกครั้ง ภายในครึ่งเดือนนี้ คุณหลินไม่มีอาการป่วยกำเริบ แต่ต้องให้เธออยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน”
“ขอบคุณหมอเทพอย่างยิ่ง พวกเราจะจำบุญคุณนี้ไว้”
“ไปร้านยาจัดตัวยาห้าตัวตามใบสั่งนี้ ยาชุดหนึ่งสามารถใช้ได้สามวัน ต้มให้เดือด รับประทานก่อนเข้านอนทุกวัน ผมจะทิ้งเบอร์เอาไว้ หากมีปัญหาให้ติดต่อผมได้โดยตรง”
พูดจบ โล่เฉินก็เรียกฟ่านหงชาง
“หากไม่มีอะไรแล้วพวกเรากลับก่อน”
“หมอเทพ ชีวิตของลูกสาวก็คือแก้วตาดวงใจของท่านผู้หญิงของเรา คุณเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลหลินเรา จากนี้ไปหากมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยเหลือ ขอแค่ไม่ผิดกฎหมาย ฉันจะไม่ปฏิเสธแน่”
โล่เฉินยิ้มและจากไปกับฟ่านหงชาง
ทั้งสองไม่ได้ขอให้เลขาจ้าวไปส่งพวกเขาแต่อย่างใด
ไม่นาน รถเบนท์ลีย์สุดหรูก็ปรากฏตัวขึ้น
ฟ่านหงชางที่รู้สึกสงสัยมาตั้งนานแล้ว พอเข้าไปนั่งในรถก็เปิดปากถามขึ้นมาอย่างรอไม่ไหวทันที “อาจารย์ ผมมองหน้าคุณ อาการป่วยของคุณหลินไม่ง่ายดายแน่”
“ไม่ได้ป่วย แต่โดนคาถา”
คอมเม้นต์