จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – บทที่ 77 ขับไล่ออกจากตระกูล
บทที่ 77 ขับไล่ออกจากตระกูล
หลุมศพอยู่ในสภาพไร้ระเบียบโดยผู้ดูแลสุสานเข้ามาจัดการกับมัน
พวกโล่เฉินสามคนกลับมาบ้าน เวลาก็ปาเข้าไปตีสองกว่าแล้ว
หานหยู่ถิงง่วงนอนอย่างยิ่ง ส่วนหานหยู่เยนก็สะลึมสะลือ
เนื่องจากวันนี้หลุมศพของคุณปู่หานถูกขุดจนอัฐิกระจายไปทั่ว หานหยู่ถิงขี้ขลาดหานหยู่เยนจึงได้แต่ต้องไปนอนกับเธอ
ในห้อง
โล่เฉินหยิบเหล็กหมาดออกมา ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน เหล็กหมาดเล่มนี้สวยงามอย่างยิ่ง ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องอื่นใด แต่วัสดุที่ใช้ทำหากขายออกไปก็มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าสามถึงห้าหมื่น
หลังจากตรวจสอบดูสักพัก โล่เฉินก็ใช้พลังทิพย์ส่งเข้าไป
ทันใดนั้น เหล็กหมาดก็ส่องแสงสว่าง
เป็นสีแดงเลือด
มันทั้งน่าแปลกและสวยงามอย่างยิ่ง แต่กลับแฝงความรู้สึกหดหู่
“อาวุธวิเศษ?”
โล่เฉินหยิบกระดานหินห้าเหลี่ยมที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงขึ้นมา ซึ่งก็เป็นอาวุธวิเศษด้วยเช่นกัน หลายพันปีก่อนเขาทำมันขึ้นมากับมือให้แก่เซี่ยหยู
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พลังของเขายังคงอ่อนแรง กระดานหินที่ตนทำขึ้นมาเองนี้เขายังไม่สามารถใช้งานได้
ตอนนี้ เขามีอาวุธวิเศษสองอย่าง
“น่าแปลก ถึงกับมองไม่เห็นความเร้นลับของเหล็กหมาดนี่ ที่แท้มันใช้สำหรับอะไรกันแน่” หลังจากลองเล่นมันอยู่นาน โล่เฉินก็ต้องยอมแพ้ในที่สุด
เขาคาดเดา
เหล็กหมาดนี้ไม่ธรรมดาแน่ และมันอาจจะเป็นอาวุธวิเศษที่ทรงพลัง ตอนนี้ด้วยพลังของเขาทำให้ไม่สามารถรู้ความลับของมันได้ ได้แต่รอให้พลังของเขาฟื้นคืนกลับมาก่อน
“ไปโผล่ที่หลุมศพของคุณปู่หานได้ยังไงกัน?”
แต่เดิมก็อยู่ตรงนั้น หรือว่ามีใครฝังไว้ที่นั่น?
โล่เฉินคิดไม่ออก
“ช่างเถอะ ไม่คิดแล้ว ฉันเรียกแกว่าเหล็กหมาดหยกเลือดแล้วกัน”
โล่เฉินมีความสุขอย่างยิ่ง
ครั้งนี้เขาเก็บเกี่ยวได้ครั้งใหญ่ ได้แต่ขอโทษคุณปู่หานแล้ว
หลุมศพถูกขุด อัฐิสาดกระจาย
บาปกรรม บาปกรรม
“คุณปู่ อย่าโทษฉันเลย วันหน้าหากมีโอกาสจะจัดงานไว้ทุกข์อันยิ่งใหญ่ให้คุณเพื่อเป็นการขอขมา คุณอยู่เบื้องล่างอย่าได้โกรธเคือง”
โล่เฉินพึมพำ เขาวางกระดานหินห้าแฉกและเหล็กหมาดหยกเลือด
วันถัดมา
ยามเช้า โล่เฉินถูกปลุกด้วยเสียงหัวเราะในห้องนั่งเล่น
หลังจากซักผ้าเสร็จ เขาก็เดินออกมาและเอ่ยถาม “แม่ มีเรื่องอะไรน่ายินดีหรือ?”
หลิวเซียงหลันหน้าแดงก่ำ เธอเอ่ยชมเชย: “หยู่เยนหยู่ถิงบอกกับฉันแล้ว นายเจ้าเล่ห์ไม่น้อย ครั้งนี้หานหยุนเทาถึงคราวแล้วความรักของคุณย่าที่มีต่อคุณปู่ ไม่ใช่แค่พื้นผิว หานหยุนเทาขุดหลุมศพของคุณปู่ ไม่ถูกฆ่าตายก็เป็นบุญแล้ว! ”
“แม่ หานหยุนเทามักจะตั้งเป้าใส่พวกเรา ทำให้พี่สาวต้องอับอาย ครั้งนี้พวกเราถือว่าแก้ปัญหาได้อย่างหมดจด เขาถูกขับออกจากตระกูล กลายเป็นสุนัขหลงทาง เกรงว่าจากนี้ไปแม้แต่ตัวเองยังยากจะดูแล” หานหยู่ถิงมีความสุขบนความทุกข์ของหานหยุนเทา
หานหยู่เยนรู้สึกราวกับฝันอยู่บ้าง
กาลครั้งหนึ่ง หานหยุนเทาเป็นถึงคุณชายตระกูลหานที่ยอดเยี่ยมเก่งกาจ หลานชายคนโต บุคคลอันดับสามของตระกูลหาน
ตอนนี้ กำลังจะถูกไล่ออกจากตระกูล!
โชคชะตาช่างเล่นตลกกับคนเรา
หานหยู่เยนมองไปที่โล่เฉิน ในใจรู้สึกถึงความหนาวเหน็บขึ้นมาสายหนึ่ง
ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรก็สามารถเล่นงานหานหยุนเทาให้ตายได้ ยอดเยี่ยมเสียจนไม่มีใครเชื่อว่าเขาเป็นคนสร้างเรื่อง
“มีอะไร ผมล้างหน้าไม่สะอาดหรือ?”
“เอ่อ ไม่ใช่” หานหยู่เยนถาม “หานหยุนเทาเป็นหลานชายคนโตของคุณย่า เขาเป็นที่รักใครเอ็นดูมาตลอด คุณย่าจะขับไล่เขาออกจากตระกูลจริงๆ หรือ? ”
หานหยู่ถิงแค่นเสียง “แน่นอน คุณย่าพูดออกมาต่อหน้าทุกคนไปแล้วเมื่อคืนนี้ ด้วยนิสัยเย่อหยิ่งของคุณย่า เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับคำ!”
“เอาเป็นว่า อีกเดี๋ยวเมื่อไปบ้านเก่าแก่ของตระกูลหานก็รู้เอง”
เก้าโมงเช้า ทั้งครอบครัวก็ไห่ถังหัวฝู่
เมื่อมาถึงบ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน บรรดาญาติๆ ส่วนใหญ่ก็มาถึงแล้ว
บรรยากาศดูหนักอึ้ง ได้ยินมาว่าเมื่อคืนหานหยุนเทากระอักเลือดและถูกส่งตัวไปห้องฉุกเฉินรักษา ตอนนี้ยังคงอยู่ในโรงพยาบาล
“ใช้วิธีน่ารังเกียจดีนี่ ซ่อนตัวอยู่ในโรงพยาบาล” หานหยู่ถิงไม่พอใจ
บรรดาญาติยังคงซุบซิบกัน
ในเวลานี้เอง หานหยุนซีเดินออกมาจากห้องโถงและพูดเสียงแผ่วเบา “วางใจเถอะ คุณย่าเอ่ยปากแล้ว ให้หานเจี้ยนกั๋วพาหานหยุนเทากลับมา เวลาสิบโมงการลงโทษในห้องโถงบรรพบุรุษจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง”
ฟืด.
ทุกคนสูดอากาศ คราวนี้คุณย่าหานโกรธแล้วจริงๆ ไม่เหลือความเมตตาใด ๆ
น้ำเสียงถกเถียงกันดังขึ้น
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้พูดถึงหานหยุนเทาแต่อย่างใด แต่กำลังพูดถึงลำดับตระกูลหาน
หากปราศจากหานหยุนเทา หานเจี้ยนกั๋วก็ไม่ได้มีค่ายิ่งใหญ่อะไรอีกต่อไป อย่างนั้นนอกจากคุณย่าหานแล้ว คนที่อำนาจ มีบารมีมากที่สุด ก็คือหานหยู่เยน
นอกจากนี้ สถานะของครอบครัวของหานหยุนซีเองก็อยู่ในระดับที่สูงขึ้นเช่นกัน
ไหลตามพลังอำนาจ นี่คือธรรมชาติของมนุษย์
ในไม่ช้าหลิวเซียงหลันก็เข้าไปรวมตัวกับบรรดาสาวๆ ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
“พี่หลัน ช่วงนี้สวยขึ้นอีกแล้ว”
“ฉันเองก็คิดอย่างนั้น ผิวพรรณแดงก่ำขนาดนี้ บอกมาตามตรง เป็นเพราะพี่เจี้ยนเย่ดูแลเดิมความชุ่มฉ่ำใช่ไหม”
“พี่สาว หุ่นดีขนาดนี้ พี่ฝึกโยคะรึเปล่า?”
หลิวเซียงหลันมีความสุข
ครั้งนี้ ทั้งครอบครัวล้วนไม่มีใครสนใจเธอ แถมยังต้องทนรับการเยาะเย้ย ตอนนี้ ตนเองนั่งอยู่นิ่งๆ ก็มีคนเข้ามาประจบประแจง
ต่างกันราวฟ้ากับเหว
หลิวเซียงหลันชำเลืองมอง นอกจากตนเองแล้ว รอบๆ ตัวหานเจี้ยนเย่เองก็ถูกรุมล้อมไปด้วยชายวัยกลางคนชายหนุ่ม และมีหนุ่มสาวกลานคนกำลังพูดคุยอยู่กับหานหยู่เยน
ภาพนี้ หากเป็นเมื่อก่อนเธอไม่กล้าแม้แค่จะคิดถึงมัน
เหตุผลนี้ล้วนเป็นเพราะหานหยุนเทากำลังจะถูกไล่ออก และสถานะครอบครัวของเธอก็กำลังจะเพิ่มสูงขึ้น
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หลิวเซียงหลันก็มองไปที่โล่เฉินที่กำลังดื่มชาอยู่มุมหนึ่ง
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนของเด็กคนนั้น
อ้อใช่ ยังมีครั้งที่แล้วที่หานหยู่เยนถูกปลดออกจากตำแหน่งหัวหน้าโครงการ ก็เป็นแผนของเด็กคนนั้นเช่นกันที่บีบบังคับให้คุณย่าหานยอมถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
เป็นครั้งแรกที่หลิวเซียงหลันพบว่า ลูกเขยของเธอคนนี้มีสมองอยู่บ้าง อีกทั้งยังหน้าตาหล่อเหลา อุปลักษณ์สงบเหนือความวุ่นวาย
ความรู้สึกดีเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ อีกทั้งยังเพิ่มมากขึ้นอีกส่วน
ราวเก้าโมงห้าสิบ
หานเจี้ยนกั๋วพาหานหยุนเทามาที่บ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน ไม่มีใครเข้าไปต้อนรับพวกเขา มีเพียงเสียงกระซิบกระซาบไปที่
“นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
มีเพียงหานหยุนซีเท่านั้นที่เอ่ยปากถาม เพราะตอนนี้ใบหน้าของหานหยุนเทาขาวซีดราวกับกระดาษ ดูเหมือนว่าสภาพร่างกายของเขาจะไม่ค่อยดีนัก
“ไม่เป็นไร”
เสียงของหานหยุนเทาเย็นชา
หานเจี้ยนกั๋วพยุงเขาไปยังห้องโถงบรรพบุรุษ
ขณะเดินผ่านพวกหานหยู่เยนทั้งสามคน เขาก็เหล่ตามอง
สายตานี้ ทำให้ในใจของโล่เฉินเกร็งแน่นขึ้นมา
เขามองตามด้านหลังของหานหยุนเทาไป โล่เฉินจมอยู่ในความคิด
สายตาเมื่อครู่ เกรี้ยวกราดล้ำลึก
“หยู่เยน ลิขิตฟ้าไม่สู้ชะตาคน แต่เดิมคิดว่าสามารถจัดการหานหยุนเทาได้แล้ว คิดไม่ถึงว่า เขากลับได้เกิดใหม่อีกรอบ! ”
หานหยู่เยนได้สติกลับมาจากสายตาคู่นั้น เธอเอ่ยด้วยความกังวล “ถ้าเขาถูกไล่ออกไปจริงๆ ก็ดี แต่ถ้าไม่ อย่างนั้นฉันคงต้องสู้กับความท้าทายครั้งใหญ่แล้ว”
โล่เฉินไม่มีคำพูดใด ๆ
อันที่จริง สิ่งที่เขาเป็นกังวลที่สุดก็คือความปลอดภัยของหานหยู่เยนสองพี่น้อง ความรู้สึกกังวลแบบนี้โล่เฉินไม่ชอบอย่างยิ่ง
ตั้งแต่สมัยโบราณมา รูปแบบการกระทำของเขาคือการตัดรากถอนโคน ไม่ปล่อยให้เสือกลับภูเขาอีก
ให้หงเหลยถิงจัดการเขาดีหรือไม่?
โล่เฉินกำลังคิด
“มาเถอะ ได้เวลาแล้ว”
หานหยู่เยนดึงโล่เฉินและเดินตามทุกคนไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษ
สำหรับตระกูลหนึ่งแล้ว ห้องโถงบรรพบุรุษทั้งน่าเกรงขาม ทั้งศักดิ์สิทธิ์ และไม่อาจละเมิดได้
หานหยุนเทาคุกเข่าลงบนพื้น แต่เอวกลับยังตั้งตรง
คุณย่าหานจุดธูปไหว้บรรพบุรุษก่อน จากนั้นจึงนั่งลงและเอ่ยขึ้น “หานหยุนเทา นายรู้ความคิดของตัวเองหรือไม่! ”
“รู้ครับ”
คุณย่าหานถามอีกครั้ง “สำนึกเสียใจหรือไม่? ”
หานหยุนเทาเงียบไป
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคำพูดสองสามคำหลุดออกมาจากไรฟัน “ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับคุณย่าจะจัดการ”
ว้าว!
เหล่าญาติๆ อ้าปากค้าง คำพูดนี้เห็นชัดว่าความหมายว่า เขาไม่สำนึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย
หานหยุนเทาบ้าไปแล้วหรือ?
เห็นได้ชัดว่าคุณย่าหานใจไม่แข็งขนาดนั้น หากเขาเอ่ยร้องฟูมฟายสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะได้รับแค่โทษสถานเบา อย่างน้อยๆ ก็คงไม่ถูกไล่ออกจากตระกูลแน่
แต่ตอนนี้….
บนที่นั่ง สีหน้าของคุณย่าหานเขี้ยวคล้ำ
แต่เดินคิดอยากจะช่วยเขา แต่ตอนนี้หานหยุนเทากลับตัดลู่ทางไปจนสนิท
คุณย่าหานคำรามในใจ
คนโง่ คิดจะออกไปจากตระกูลหานจริงๆ หรืออย่างไร
เป็นเวลาเนิ่นนาน คุณย่าหานสูดลมหายใจเข้าลึก ราวกับว่าตัดสินใจได้แล้ว
ทุกคนกำลังเฝ้าดู เธอไม่สามารถเล่นพรรคเล่นพวกได้
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นก็จัดการตามกฎตระกูล นับจากวันนี้ไป หานหยุนเทา …”
“เดี๋ยวก่อน! ”
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้เอง หานเจี้ยนกั๋วลุกขึ้นยืน
คุณย่าหานรู้สึกโล่งใจ ในที่สุดก็มีคนออกมาหยุดยั้ง เธอมองไปที่หานเจี้ยนกั๋วด้วยใบหน้าที่จริงจังและถามว่า “หานเจี้ยนกั๋ว นายต้องการคัดค้านกฎตระกูล? ”
“ไม่คัดค้าน”
“ไม่คัดค้าน?” คุณย่าหานตะลึง
หานเจี้ยนกั๋วคุกเข่าลง ศีรษะเชิดขึ้นและเอ่ย “หยุนเทาได้ทำเรื่องเนรคุณผิดศีลธรรม ถูกไล่ออกจากตระกูลถือเป็นเรื่องสมควร แต่ว่า หากลูกจำไม่ผิด กฎตระกูลมีอยู่ข้อหนึ่งบอกไว้ว่า หากได้รับการลงโทษที่ร้ายแรง สมาชิกในครอบครัวสามารถรับผิดแทนได้”
ทันใดนั้น บรรยากาศก็แปลกไป
“ในฐานะพ่อของหานหยุนเทา ลูกสั่งสอนบุตรไม่ดี ทำให้เขากลายเป็นคนบาปของตระกูลหาน อย่างไรก็ตาม หยุนเทายังเด็ก ยังมีศักยภาพในการพัฒนาอีกมากมาย สามารถทำประโยชน์ให้กับตระกูลหานได้มากกว่า ลูกอายุปูนนี้ ไร้มูลค่าราคา ยิ่งกว่านั้น เลี้ยงดูบุตรไม่ดีถือเป็นความผิดของบิดา”
“ดังนั้น ลูกหานเจี้ยนกั๋ว ขอให้รับโทษแทนหานหยุนเทา ถูกขับไล่ออกจากตระกูล”
บูม
ทุกคนอ้าปากค้าง ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดผลลัพธ์แบบนี้
คุณย่าหานเองก็ตัวแข็งกลายเป็นหิน
“ได้โปรดแม่ช่วยทำให้ลูกสมปรารถนา”
หานเจี้ยนกั๋วคำนับสามครั้ง
พิธีการก็ทำไปแล้ว คุณย่าหานยังจะพูดอะไรได้อีก
หน้าอกของเธอสั่นกระเพื่อม น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง “ฉันถามแกอีกครั้ง แน่ใจหรือว่าต้องการรับโทษแทน”
“แน่ใจครับ”
“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หานเจี้ยนกั๋วถูกขับไล่ตระกูลหาน ชื่อของเขาจะถูกลบออกจากลำดับวงศ์ตระกูลและไม่มีบุคคลเช่นนี้ในตระกูลหานอีกต่อไป”
คำประกาศิตสุดท้ายเอ่ยขึ้น
พูดจบ คนรับใช้ก็ประคองคุณย่าหานออกจากห้องโถงบรรพบุรุษไปอย่างสั่นเทา
หานเจี้ยนกั๋วลุกขึ้นและยกมือคำนับทุกคนอย่างสงบ
ทุกคนเฝ้ามองเขาเดินออกจากบ้านเก่าแก่ของตระกูลหานไป ในใจรู้สึกนับถือขึ้นมา
ในฝูงชน โล่เฉินถอนหายใจ
สุดท้ายหานหยุนเทาก็ยังคงอยู่ต่อ
เพียงแต่ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
หากเขาทำตัวเป็นปรปักษ์กับหานหยูเยนในเรื่องธุรกิจของบริษัทนี่ไม่ใช่ปัญหา แต่หากเขาคิดจะทำร้ายสองพี่น้อง เขาเองก็จะไม่เมตตาเช่นกัน และได้แต่ต้องเพียงปล่อยให้หานหยุนเทาหายไปจากโลก
คอมเม้นต์