จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – ตอนที่ 183 บีบคั้นข่มเหง! คนตระกูลหานบ้าไปแล้ว
ใบหน้าของหลิวเซียงหลันเขียวคล้ำ เธอจ้องมองกลับมาอย่างโกรธแค้น “ยายแก่ คุณอยากตายหรือไง!”
“บัดซบ กล้าดียังไงมาพูดกับแม่ฉันแบบนี้!”
หานเจี้ยนกั๋วรีบสาวเท้าเข้าไปทันที จากนั้นจึงยกมือขึ้นคิดจะตบหน้าหลิวเซียงหลัน แต่กลับถูกโล่เฉินจับข้อมือไว้แน่น
“ไอ้ขยะ ปล่อยมือ!”
“คุณไม่เคยเห็นฝีมือของผม คุณย่าคุณคงเคยเห็นมาก่อนสินะ อาศัยคนโง่สองคนอย่างหานหยุนเทาและหานหยาง จะสามารถหยุดผมได้หรือไง!”
หัวใจของหญิงชราเกร็งขึ้นมา สองมือของเธอจับขอบเตียง ริมฝีปากเม้มปิดแน่น
หานหยุนเทาหัวเราะร่าและหยิบแท่งไฟฟ้าออกมา จากนั้นจึงพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “คุณย่า ผมเตรียมเอาไว้แล้ว นี่คือแท่งไฟฟ้าแรงสูง ถ้าเกิดโดนเข้าก็จะถูกช็อต ต่อให้โล่เฉินมีฝีมือแค่ไหน เขาจะสู้แท่งไฟฟ้าได้หรือไง!”
“ดีดีดี สมที่เป็นลูกชายฉันเอง” หานเจี้ยนกั๋วสีหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ในใจของเขาเองก็ตื่นเต้นมาก
หญิงชราเองก็ยิ้มขึ้นมา จากนั้นจึงพูดอย่างน่ากลัว “พวกนายไม่มีทางถอยหนีแล้ว เซ็นซะเถอะ ล้วนเป็นคนในครอบครัว หากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นก็คงจะไม่ดีแน่”
“ครอบครัวเดียวกัน? น่าขัน คุณเคยถือว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันหรือไง!” หลิวเซียงหลันโมโห
หานหยุนเทาใจร้อนอยู่บ้าง เขาเอ่ยแนะ “คุณย่า ดูเหมือนว่าครอบครัวนี้ไม่คิดจะทำตัวว่าง่ายแล้ว ทำไมไม่ให้ช็อตพวกเขาให้สลบไปซะ จากนั้นเรื่องเซ็นชื่อประทับตราให้ผมเป็นคนจัดการโล่เฉินก็เป็นอันเรียบร้อย”
ดวงตาของหญิงชราเป็นประกาย ในที่สุดก็พยักหน้า
หานเจี้ยนเย่สูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว คล้ายว่าเขาไม่ได้ยินและไม่ตอบสนองต่ออะไรทั้งสิ้น
หลิวเซียงหลันตื่นตระหนก
“คุณย่า คุณใจร้ายได้ขนาดนี้เชียวเหรอ!”
น้ำตาของหานหยู่เยนแห้งผาก ดวงตาของเธอบวมเป่ง
หญิงชราถอนหายใจ “หยู่เยน ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจย่า ย่าไปเข้าคุกแทนเธอนะ หานเจียนกั๋วเป็นลุงใหญ่ของเธอ เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ถ้าเธอหย่ากับโล่เฉิน มอบบริษัทให้เขา ผู้ชายคนนั้นจะต้องหักหลังทำเป็นไม่รู้จักกันแน่”
“ไม่มีทาง โล่เฉินเขาไม่ทำอย่างนั้น”
“หยู่เยนไม่ต้องพูดแล้ว ฟังคำของย่า โอนบริษัทให้ลุงใหญ่ของเธอซะ นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ตระกูลหานตกต่ำลงได้ แต่จะล่มสลายไปไม่ได้ ครอบครัวของเธอทำไม่ได้ มีเพียงครอบครัวของลุงใหญ่เท่านั้นที่จะช่วยประคองให้มันกลับมายืนหยัดได้!”
โล่เฉินหัวเราะขึ้นมา
เป็นครั้งแรกที่เขาพบว่า หญิงชราหน้าด้านได้ขนาดนี้
“อาศัยพวกเขาสองพ่อลูก จะช่วงทำให้ตระกูลหานกลับมายืนหยัดได้?” โล่เฉินเอ่ยหยอก จากนั้นจึงสั่นศีรษะและถอนหายใจ “สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดก็คือเมื่อชายชราจากไป เขาไม่ได้ตั้งเจ้าบ้านตระกูลหานเอาไว้ก่อน ถ้าหากเป็นหานหยู่เยน ตระกูลหานป่านนี้คงฟื้นฟูได้ไปแล้ว”
“นายกำลังพูดเรื่องอะไร!”
ใบหน้าของหญิงชราเปลี่ยนทันที
คำพูดของโล่เฉิน สำหรับเธอแล้วคือการดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างสุดขีด
“คุณย่า น่าจะต้องเรียกคุณแบบนี้ล่ะมั้ง ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงได้ลำเอียงขนาดนี้ แต่เมื่อคิดอยากให้ตระกูลหานกลับมายืนหยัดอีกครั้ง แค่หยูเยนคงทำไม่ได้ แต่หานหยุนเทาพ่อลูกนั่น เป็นเพียงหมูโง่”
“ไอ้ขยะ รนหาที่ตาย!”
หานหยุนเทาโกรธจัด เขาเปิดแท่งไฟฟ้าในมือทันที
“เปรี๊ยะเปรี๊ยะ”
แท่งไฟฟ้าระเบิดเสียงขึ้นมา
เขาแทงมันไปที่คอของโล่เฉินโดยตรงอย่างไม่ลังเลใดๆ
“ระวัง” หานหยู่เยนตกใจจนหน้าซีดไป
สิ่งที่กระตุ้นโล่เฉินมากที่สุดคือ——
หานหยู่เยนรีบพุ่งเข้ามา คิดจะขวางทางแท่งไฟฟ้าให้เขา
หัวใจของโล่เฉินสั่นสะท้าน
เขาตบหานหยุนเทากระเด็นด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือชั้นกว่า จากนั้นจึงทุบแท่งไฟฟ้าทิ้ง
“อะไรกัน!”
หานเจี้ยนกั๋วตกใจ ส่วนหญิงชราก็สีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน
หานหยางตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาถือเก้าอี้พุ่งเข้าทุบใส่หัวของโล่เฉิน แต่วินาทีถัดมาหานหยางก็ต้องตกใจกลัวจนนิ่งไป
มือใหญ่ของโล่เฉินกวาดลงมา เก้าอี้ไม้เนื้อแข็งก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน
มือราวกับมีดพร้า
“กรี๊ด!” หานหยุนซีหดตัวอยู่ในมุมหนึ่ง
หานหยางตัวสั่น ริมฝีปากสั่นเทา “แก แกมันครึ่งผีครึ่งคน!”
โล่เฉินไม่สนใจ เขากอดหานหยู่เยนและปลอบโยนด้วยเสียงต่ำเบา
หลิวเซียงหลันฉลาดอย่างยิ่ง เธอรีบเปิดประตูและตะโกนออกไปด้านนอก “พี่น้องทั้งหลาย พวกคุณเข้ามาเร็วเข้า ยายแก่บังคับให้โล่เฉินโอนย้ายบริษัทไปให้หานเจี้ยนกั๋ว พวกคุณจะไม่ได้รับเงินแม้แต่แดงเดียว”
แย่แล้ว
หานเจียนกั๋วและหญิงชราตกตะลึง
วินาทีถัดมา
ข้างนอกก็จ้าละหวั่นขึ้นมา
“ยายแก่คนนี้!”
“เร็วเข้า ทุกคนรีบเข้าไปหยุดไว้”
“ฆ่ายายแก่นั่นซะ เงินเป็นของเรา”
ชายหญิงหลายสิบคนรีบเข้าไปในห้อง ท่าทางดุดัน ในที่สุดหานเจียนกั๋วสองพ่อลูกและหญิงชราก็ค่อยมีสีหน้าความกลัวขึ้นมา
มาถึงช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแล้ว
ทุกคนล้วนกำลังบ้าคลั่ง
ทุกคนล้วนมีจุดประสงค์เดียวกันก็คือเอาเงินและหนีไป
ในขณะนี้การกระทำของหญิงชราได้ตัดความหวังของพวกเขาลง จะไม่ให้พวกเขาระเบิดความโกรธได้ยังไง พวกเขาแทบจะยากลงมือฆ่าคนแล้วจริงๆ
“ทุกคนใจเย็นๆ อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของหลิวเซียงหลัน” หานเจี้ยนกั๋วตะโกน
อย่างไรก็ตาม คำโกหกของเขาถูกเปิดโปงในทันที
“ทุกคนดูเร็วเข้า ที่พื้นมีสัญญาอยู่”
“เวรเอ๊ย บังคับโล่เฉินให้เซ็นจริงๆด้วย ยายแก่หนังเหนียว ทำไมเธอถึงได้น่ารังเกียจขนาดนี้”
“บริษัทเป็นของตระกูลหาน หานเจี้ยนกั๋วถูกไล่ออกจากตระกูลหานไปแล้ว นี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยสักนิด แต่ใจของเธอกลับลำเอียงไปถึงขนาดไหนก็ไม่อยากพูดแล้ว”
……
มีผู้ชายบางคนฉีกสัญญาด้วยความโกรธ หลิวเซียงหลันหัวเราะอย่างสะใจ
“ยายแก่ เป็นยังไง คุณแพ้แล้ว!”
หญิงชราตัวสั่นไปทั้งตัว ทันใดนั้นก็มีเลือดก็พุ่งออกมาเต็มปาก จนเกือบจะล้มลง
“คุณย่า!”
“แม่”
หานเจี้ยนกั๋วประคองเธอ ส่วนหานหยู่เยนก็รีบไปที่ข้างเตียง
หญิงชราไร้เรี่ยวแรง เธอจับมือของหานหยู่เยนและพูดว่า “หยู่เยน ย่าเองก็ลำบากใจเช่นกัน รับปากย่า โอนย้ายบริษัทไปให้ลุงใหญ่ของเธอซะ ไม่อย่างนั้น ย่าคงตายไม่สงบ”
“ทุกคนฟังฉัน”
หานหยุนเทาใช้โอกาสนี้ลุกขึ้นยืนและตะโกนว่า “พวกคุณถูกหลิวเซียงหลันหลอกแล้ว เธอต้องการให้โล่เฉินและหานหยู่เยนหย่าร้างกัน แบบนั้นบริษัทก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลหานของเราอีกต่อไป”
“ฉันสามารถสัญญากับทุกคนได้”
“หลังจากบริษัทถูกโอนให้พ่อของฉัน ทุกคนล้วนมาทำงานในบริษัทได้ ถ้าไม่มาก็สามารถแบ่งเงินไปได้ หากยังเอะอะกันต่อไปแบบนี้ เวลาผ่านไป ตำรวจก็จะมายึดบริษัทโล่เฉินไปตรวจสอบแล้ว”
“ถึงตอนนั้น พวกเราก็จะไม่เหลืออะไรเลย!”
คำพูดนี้ ทำให้ทั้งฉากเงียบลง
โล่เฉินยืนมองอย่างเย็นชา เขาคิดว่าหานหยุนเทาถือว่ายังมีสมองอยู่บ้าง
เมื่อพบว่าบรรยากาศไม่ถูกต้อง หลิวเซียงหลันก็กังวลขึ้นมา เธอร้องลั่น “ญาติๆ หานเจี้ยนกั๋วสองพ่อลูกเป็นยังไงพวกคุณรู้ดีอยู่แก่ใจ หานเจี้ยนกั๋วเองก็ไม่ใช่คนตระกูลหาน เขารับบริษัทไปแล้ว ก็จะเตะพวกคุณออกไปทันที”
“ตอนนี้ งานแรกที่พวกเราจะต้องทำก็คือ การกำหนดเจ้าบ้านของคนใหม่ของตระกูลหาน”
“กลุ่มหนึ่งถ้าไม่มีผู้นำ ก็เป็นแค่ที่ไร้เรื่องเหมือนกับทรายที่กระจัดกระจาย ต่อให้ได้เงินมาแล้วจะแบ่งยังไง แย่งมาตรงๆหรือไง? ไม่กลัวเป็นการดึงตำรวจเข้ามาหรือไงกัน!”
“ยายแก่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นเจ้าบ้านตระกูลหานแล้ว หานเจี้ยนกั๋วก็ไม่ได้ ใครที่มีคุณสมบัติพอ เหลือเพียงหานเจี้ยนเย่สามีของฉันเท่านั้น เขาชัดเจนต่อทุกคน เข้าถึงได้ จิตใจดี เขาจะไม่มีวันปฏิบัติต่อทุกคนไม่ดีเป็นอันขาด”
“คนฉลาดย่อมรู้ว่าควรเลือกอะไร คนหนึ่งเจ้าเล่ห์เพทุบาย อีกคนคือคนมีคุณธรรม หากเลือกผิดคุณจะไม่ได้รับอะไรเลย หากคุณเลือกสิ่งที่ถูกต้อง คุณอาจได้ท้องฟ้าวันใหม่”
คำพูดของหลิวเซียงหลัน ทำให้ทุกคนคิดอย่างลึกซึ้งขึ้นอีกครั้ง
พรูด
หญิงชรากระอักเลือดออกมาเต็มปากอีกครั้ง เธอจ้องไปที่หลิวเซียงหลันอย่างเอาเป็นเอาตาย แทบอยากจะเข้าไปฆ่าเธอ
“ทรยศ!”
“ทรยศ!”
“ทรยศ!”
เสียงตะโกนดังขึ้นสามครั้ง จากนั้นหญิงชราก็เป็นลมไป
เมื่อเห็นดังนี้ หานเจี้ยนกั๋วก็ไม่อยากจะเสแสร้งอีกต่อไปเช่นกัน เขาโยนหญิงชราไว้บนเตียง จากนั้นจึงวิ่งไปรวมกับหานหยุนเทาเพื่อเอ่ยสุนทรพจน์ แข่งขันกับหลิวเซียงหลัน
“หยู่เยน อย่าร้องไห้”
โล่เฉินเดินไปที่เตียง รู้สึกเยาะเย้ยอย่างยิ่ง
หญิงชราร่างกายอ่อนแอ แต่ในสายตากลับมีแค่เงิน ไม่ว่าเธอจะเป็นหรือตาย คนที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบของเธอกลับเป็นคนที่ห่วงใยเธอมากที่สุด
“โล่เฉิน พวกเราพาคุณย่าไปโรงพยาบาลกันเถอะ คุณย่าจะตายไม่ได้ ฉันไม่อยากให้คุณย่าตาย” หานหยู่เยนดุจดอกสาลี่ต้องหยาดฝน จนทำให้โล่เฉินรู้สึกปวดใจ
“โล่ โล่เฉิน”
ในเวลานี้ หานเจี้ยนเย่ก็เดินเข้ามา ใบหน้าของเขาเป็นสีเทา เขาถอนหายใจ “ยังไงก็เป็นแม่ของฉัน นายมีทักษะทางการแพทย์ที่สูงส่ง เห็นแก่พ่อตาของนาย นายจะช่วย… รักษาได้ไหม”
“พ่อ คุณแน่ใจนะ?”
“อย่างที่บอก เธอคือแม่ของฉัน ถึงเธอจะไม่ชอบฉันมากแค่ไหน ความสัมพันธ์นี้ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ฉันเป็นลูกของเธอ แน่นอน ว่าใจฉันมันตายไปแล้ว จากนี้ไป ไม่มีตระกูลหาน มีเพียงครอบครัวของพวกเราเท่านั้น” หานเจี้ยนเย่พูดจบ แววตาของเขาก็ฟื้นคืนกลับมาบ้าง
หานหยู่เยนไม่เข้าใจ เธอไม่รู้ว่าโล่เฉินมีทักษะการแพทย์ด้วย
“ก็ได้ครับ”
โล่เฉินได้แต่ส่งพลังทิพย์สายหนึ่งออกมาอย่างไม่เต็มใจเพื่อทำให้อาการป่วยของหญิงชราพ้นขีดอันตรายและเพื่อที่เธอจะได้ไม่ถึงกับตายไป
“ไม่เป็นอะไรมากแล้ว ไม่ตาย”
หานเจี้ยนเย่พยักหน้า “ขอบคุณมาก”
โล่เฉินพูดอย่างอ่อนโยน “หยู่เยน คุณย่าไม่เป็นไรแล้ว เชื่อผม หยุดร้องไห้ได้ไหม คุณดูสิ ใบหน้าสวยๆมีแต่น้ำตานองเต็มไปหมด”
หานหยู่เยนตอบรับ “อืม” อย่างว่าง่าย จากนั้นจึงมองดูญาติๆที่ทะเลาะกัน สายตาเศร้าโศก ใบหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“โล่เฉิน ตระกูลหานกำลังจะล่มสลายแล้วจริงหรือ?”
“มาถึงตอนนี้แล้วคุณยังไม่ยอมแพ้หรือ ยังไม่อยากออกจากตระกูลหาน คิดอยากเป็นผู้นำการฟื้นฟูตระกูลขึ้นมาอีก?”
โล่เฉินรู้สึกประหลาดใจมาก หานเจี้ยนเย่ก็ตกตะลึงเช่นกัน
หานหยู่เยนกัดริมฝีปากของเธอและเอ่ยความลับอย่างหนึ่งออกมา
“คืนก่อนที่คุณปู่เสียชีวิต เขาพูดคุยกับฉันมากมายเกี่ยวกับอดีตของเขา ประวัติของตระกูลหาน ภัยที่ซ่อนอยู่ของตระกูลและอื่น ๆ จนสุดท้าย คุณปู่ขอให้ฉันฟื้นฟูตระกูลหาน อีกทั้งยังบอกว่ามีเพียงฉันเท่านั้นที่สามารถนำตระกูลหานไปสู่ความรุ่งโรจน์ ”
คอมเม้นต์