ทุกอย่างในระยะหลายกิโลเมตรนั้นถูกทำลายย่อยยับจนกลายเป็นพื้นที่ไหม้ไฟรกร้าง

เปลวไฟยังคงติดและลุกโชนอยู่รอบๆบริเวณ ควันสีดำลอยขโมงขึ้นทั่วภูเขาและทุ่งใหญ่ ต้นไม้และพืชพันธ์ทั้งหลายกลายเป็นเถ้าถ่าน ภูเขาทั้งลูกกลายเป็นสีดำ ลำธารแห้งเหือดจากความร้อนมหาศาล

เหมือนกับว่าเกิดไฟป่าครั้งใหญ่ที่เผาไหม้ทุกอย่างรอบๆ

พังพินาศ

ดั่งวันโลกดับ

เหมิงเหล่ยมองภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าแล้วตกใจ นี้คือพลังอันยิ่งใหญ่เกินจะต้านทานของระดับเซียนเทพ พลังที่อยู่ในระดับทลายสวรรค์ได้ สภาพของพื้นที่ในแถบนี้เป็นหลักฐานยืนยันที่ชัดเจนถึงความน่ากลัวของพลังนั้น

“มังกรเพลิงทองหายไปแล้ว”

“จอมเวทระดับเซียนเทพก็หายไปแล้วด้วย”

“อยากรู้จริงๆว่าผลของการต่อสู้รอบนี้ ฝ่ายไหนจะชนะ”

ทุกๆคนที่เห็นสภาพของสมรภูมินั้น ต่างเกิดความรู้สึกขึ้นซัพซ้อนมากมาย

“ติ้ง ค้นพบไอเทมดรอป จะเก็บมารึไม่”

ทันทีที่เสียงระบบดังขึ้นมา ความรู้สึกตื่นเต้นแล่นเข้ามาหาเหมิงเหล่ยทันที เขาเห็นลูกผลึกแสงสีขาว อยู่ท่ามกลางดินแดนรกร้างไหม้ไฟตรงหน้า

เหมิงเหล่ยตื่นเต้นมากๆ เพราะที่ตรงนี้คือจุดที่เกิดการปะทะกันของสิ่งมีชีวิตระดับเซียนเทพ ไอเทมแบบไหนกันนะที่จะดรอปออกมาจากระดับแบบนั้น

พวกนั้นมันระดับเซียนเทพเลยนะ

ถึงแม้ว่าของที่ดรอปจะเป็นแค่ขนขาโง่ๆ แต่มันก็ยังเป็นขนขาโง่ๆของระดับเซียนเทพอยู่ดี ในตอนที่เขาคิดอยู่นั้นเอง เหมิงเหล่ยก็รีบเดินเข้าไปเก็บลูกผลึกนั้นขึ้นมาทันที

“ติ้ง เก็บสำเร็จ ค่าร่างกายเจ้าของเพิ่มขึ้น +250!”

“ติ้งเก็บสำเร็จ ค่าวิญญาณเจ้าของเพิ่มขึ้น +156”

“ติ้งเก็บสำเร็จ ค่าเวทมนตร์เจ้าของเพิ่มขึ้น +104”

“ติ้ง เก็บสำเร็จ ยินดีด้วย คุณได้รับพรสวรรค์เวทมนตร์ธาตุสายฟ้า”

“ติ้งเก็บสำเร็จ ยินดีด้วย คุณได้รับ เวทมนตร์ระดับ 8 พยุหะสายลม”

เสียงแจ้งเตือนการเก็บสำเร็จเด้งขึ้นมารัวๆจนเหมิงเหล่ยตกใจ เขายืนอึ้งอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ก่อนที่จะได้สติกลับมา

“ย… เยอะขนาดนี้เลยเหรอ”

…

บุญหล่นทับครั้งใหญ่

เหมิงเหล่ยรู้สึกเหมือนกับว่าแต้มบุญของตัวเองมันหมดไปแล้วแน่ๆ ไม่งั้นเขาคงไม่ได้ของเจ๋งๆทั้งหมดนี้ภายในการเก็บของแค่ครั้งเดียวหรอก

ค่าร่างกายเพิ่มขึ้น +250

ค่าวิญญาณ +156

ค่าเวทมนตร์ +104

ตัวเลขของค่าความสามารถนั้นพุ่งขึ้นแบบติดจรวด ทำให้ค่าความสามารถโดยรวมของเขานั้นเปลี่ยนแปลงไปลิบลับ

ค่าร่างกาย นักรบระดับ 2 (376/500)

ค่าวิญญาณ นักเวทระดับ 1 (169 / 200)

พลังเวท นักเวทระดับ 1 (130/200)

ค่าร่างกายของเขาตอนนี้กลายไปเป็นนักรบระดับ 2 เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งค่าวิญญาณกับค่าเวทมนตร์ของเขาเองก็เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นจอมเวทระดับ 1 แล้วด้วย เรียกได้ว่าอัพเกรดไปจากเดิมอย่างมหาศาลเลย แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ทำให้เหมิงเหล่ยตื่นเต้นมากที่สุด คือเขาเก็บพรสวรรค์ธาตุสายฟ้ามาได้ด้วย

เขาทึ้งกับการแจ้งเตือนนี้มากที่สุด คนเราสามารถเก็บพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์กันได้ด้วยเหรอ ระบบนี้มันเกินจุดที่เรียกว่าโกงไปแล้วนะเนี่ย

เหมิงเหล่ยหลุดยิ้มออกมา สิ่งที่เขาได้รับมานั้นมันยอดเยี่ยมซะจนเขาเหม่อลอยออกไปปไกล

เขารู้ว่าพรสวรรค์เวทมนตร์ธาตุสายฟ้านั้นดูเหมือนว่าจะดรอปมาจากชายแก่ผ้าคลุมม่วงนั้นแน่นอน การที่เขาไปถึงระดับจอมเวทเซียนเทพได้นั้น แสดงว่าเขาต้องมีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์มหาศาลแน่ๆ

แล้วฉันก็เก็บพรสวรรค์เวทมนตร์ของตาแก่นั้นมาได้ พรสวรรค์ที่ฉันมีก็คงจะ…..

จะลองเลยดีไหมวะเนี่ย

เหมิงเหล่ยอดใจรอที่หาที่ลองของไม่ไหว ผนวกกับจังหวะดีที่ทีมของเอริสันเองก็ตัดสินใจพักเบรกกันเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของพวกเขาเอง

ทั้ง 5 คนจึงออกจากพื้นที่แถวนั้นแล้วหาที่สงบๆพักผ่อน

และในคืนนั้นเอง หลังจากที่พวกเอริสันนอนหลับสนิทกันหมดแล้ว เหมิงเหล่ยก็เริ่มตั้งจิตสมาธิ

เขาหลับตาลงแล้วทำใจให้ว่างเปล่า และหลังจากนั้น วิญญาณของเขาก็เริ่มเข้าญาณไร้ตัวตน จากนั้นเขาก็เริ่มค่อยสัมผัสพลังธาตุของตัวเอง ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้สึกถึงพลังธาตุเวทมนตร์ใดๆทั้งนั้น แต่ถึงอย่างนั้น ในตอนนี้ เหมิงเหล่ยรู้สึกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เขาเห็นประกายแสงสีเงินแวววับลอยอยู่รอบๆตัวของเขาเหมือนหิ่งห้อยที่ส่องประกายแสงอ่อนๆออกมา ตอนแรกมันก็เป็นเพียงแค่แสงเล็กๆเหมือนดวงดาวในช่วยฤดูหนาว แต่หลังจากนั้นไม่นาน มันก็เริ่มขยายตัวและเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น และในที่สุด มันก็เริ่มกลายก่อตัวหนา และรวมกลุ่มกันเป็นก้อนยากที่จะได้ว่ามีกี่ประกายแสง

ในที่สุดก็สัมผัสได้แล้ว

55555 ในที่สุดฉันก็สัมผัสได้ถึงเวทมนตร์เหมิงเหล่ยดีใจมาก เขาแทบจะอยากหัวเราะออกไปดังๆด้วยความสะใจ การที่เขาสัมผัสธาตุเวทมนตร์ได้นั้น นั่นหมายความว่าตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งระบบในการเก็บพลังเวทอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาสามารถฝึกฝนพลังเวทได้ด้วยตัวเองแล้วกลายเป็นจอมเวทได้ด้วยการฝึกเวทมนตร์

ประกายแสงสีเงินพวกนี้ น่าจะเป็นกลุ่มก้อนธาตุสายฟ้านั้นเอง

เอาละสิ่งที่ฉันต้องทำตอนนี้ก็แค่ดูดซัพธาตุเวทมนตร์พวกนี้เข้ามาในตัวฉันซินะ

เหมิงเหล่ยเก็บความตื่นเต้นไว้ในใจก่อนจะเริ่มตั้งจิตสมาธิต่อไป

วิถีจิตสมาธินั้นแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน

ขั้นแรก สัมผัสธาตุเวทมนตร์

ขั้นที่ 2 สกัดธาตุเวทมนตร์

สำหรับคนที่ไม่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์นั้น ขั้นตอนแรกเป็นกำแพงหนาที่ไม่มีทางข้ามผ่านไปได้ เพราะว่าการที่ไม่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์นั้น หมายความว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสัมผัสได้ถึงธาตุเวทมนตร์ ถ้าสัมผัสธาตุเวทมนตร์ยังไม่ได้ จะสกัดเวทมนตร์ออกมาได้ยังไงกัน

เหมิงเหล่ยเองก็เคยอยู่ติดอยู่ในกำแพงนั้นมาก่อน

แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เขาสามารถสัมผัสพลังเวทมนตร์ได้แล้ว

เหมิงเหล่ยริ่มที่จะดูดซัพประกายแสงเหล่านั้น โดยการ “กลืนกิน” ประกายแสงเหล่านั้นเข้าไปทีละดวง เริ่มจากดวงที่ 1 และ 2 และ 3 และ 4

การสกัดธาตุเวทมนตร์นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย

หลลังจากที่กินประกายแสงสีเงินเหล่านั้นไปได้เกือบ 100 ดวง เหมิงเหล่ยก็เลียปากด้วยความพอใจ ตอนนี้เขาอารมณ์ดีสุดๆไปเลย และเขายกความดีความชอบทั้งหมดนั้นให้กับพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ของเขาล้วนๆ

เอริสันเองก็เคยบอกเอาไว้ พรสวรรค์ทางเวทมนตร์เองก็มีแบ่งระดับอีก เป็นพรสวรรค์ที่แกร่งกล้า กับ พรสวรรค์ที่ต่ำ

ถึงแม้ว่าการนำไปใช้นั้นมันแทบจะไม่ได้ต่างกัน แต่พรสวรรค์ที่ดีหรือไม่ดีนั้น จะส่งผลอย่างมากในขั้นตอนของการสัมผัสและสกัดเวทมนตร์เข้าร่างของตัวเอง คนที่มีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ที่แกร่งกล้านั้น จะสามารถสัมผัสธาตุเวทมนตร์ได้ชัดเจนมากกว่า และขั้นตอนในการสกัดธาตุเวทมนตร์ก็ง่ายกว่ามาก เวลาที่ใช้ในการสกัดธาตุเวทมนตร์ก็น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับจำนวนธาตุเวทมนตร์ที่เท่ากัน ด้วยความสามารถที่ลงแรงไปแค่ครึ่งเดียวแต่ได้ผลกลับมา 2 เท่า ความเร็วในการฝึกฝนก็จะเร็วกว่าและผลที่ได้ออกมาก็จะมากกว่าเช่นกัน

ส่วนคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ต่ำนั้นก็จะได้ผลตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

…

คืนนั้นเขาไม่ได้นอนทั้งคืน

ตอนเช้าของวันถัดมา พระอาทิตย์เริ่มปรากฏขึ้นสู่ท้องฟ้า แสงแดดอันอบอุ่นเริ่มสาดส่องไปทั่วยอดไม้ใหญ่ และทอดยาวลงมาเป็นเงามืดใต้ต้นไม้

เหมิงเหล่ยยืนขึ้นแล้วบิดขี้เกียจยืดตัว เขารู้สึกสดชื่นและมีกำลังใจมากๆ ไม่มีวี่แววของความเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย นี้คือผลดีของการตั้งจิตสมาธินั้นเอง

การตั้งจิตสมาธินั้นสามารทดแทนการนอนหลับได้ ไม่เพียงแต่จะสามารถสกัดพลังเวทได้แล้ว มันยังสามารถเพิ่มพลังวิญญาณให้กับเขาอีกด้วย จอมเวทหลายๆคนเลยแทบไม่ได้นอนเลยหลังจากที่เรียนรู้วิธีการตั้งจิตสมาธิแล้ว

อยากรู้จริงๆเลยว่าผลของการตั้งจิตสมาธิของเมื่อคืนเป็นยังไง

เหมิงเหล่ยสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าลึกๆ ก่อนจะเปิดหน้าต่างค่าความสามารถของตัวเองขึ้นมาเพื่อเช็คดู

เจ้าของ เหมิงเหล่ย

เผ่าพันธุ์ มนุษย์

ความมั่งคั่ง 916 เหรียญทอง

ค่าร่างกาย นักรบระดับ 2 (376/500)

ค่าวิญญาณ นักเวทระดับ 1 (173/200)

พลังเวท นักเวทระดับ 1 (140/200)

เวทมนตร์ วิชาลูกไฟ เถาวัลย์หนาม ฟองวารี เขย่าปฐพี เพลงดาบสายลม หมัดเพลิงผลาญ วงแหวนเพลิง พยุหะสายลม

ค่าวิญญาณเพิ่มขึ้นมา 3 ค่าเวทมนตร์เพิ่มขึ้นมา 10 เลยงั้นเหรอ เร็วเหมือนกันนะเนี่ย

เหมิงเหล่ยตกใจพอสมควร ถึงแม้ว่ามันจะเพิ่มขึ้นมาแค่ 3แต้ม กับ 10 แต้ม ซึ่งก็ถือว่าน้อยมากๆเมื่อเทียบกับการ”บุญหล่นทับ”เมื่อวานนี้ แต่ต้องอย่าลืมว่าแต้มบุญนั้นไม่ได้มีกันได้บ่อยๆ มันไม่ใช่ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นทุกวันซักหน่อย

แต่แค่การตั้งจิตสมาธิทั้งคืนแค่คืนเดียวก็สามารถเพิ่มค่าวิญญาณขึ้นมา 3 กับค่าเวทมนตร์อีก 10แต้ม ถ้าเกิดทำแบบนี้ทุกวันตลอดทั้งเดือนหรือปีละ จะเป็นยังไง?

ยิ่งกว่านั้น เหมิงเหล่ยเองก็รู้สึกด้วยว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผลจากการตั้งจิตสมาธินั้นทำให้ทุก ๆ อย่างดีขึ้นในทุก ๆ ด้านจริง ๆ แถมยิ่งทำไปเรื่อยๆ ค่าวิญญาณกับค่าเวทมนตร์ของเขาคงไม่ได้เพิ่มแค่นี้ไปตลอดแน่ๆ อนาคตของเขาต้องสดใสอย่างแน่นอน

แต่พอนึกย้อนกลับไปแล้ว การได้ของดีเมื่อวานนั้นมันเป็นอะไรที่เยี่ยมมากจริง ๆ

การได้ค่าความสามารถและของดีๆมาเยอะแยะขนาดนั้นในเวลาแค่นิดเดียว มันเยอะมากกว่าการที่ฉันต้องมานั่งพยายามเสี่ยงตายตามล่าสัตว์เวทมนตร์มาตลอดหลายวันนี้ซะอีก

ไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนเคยบอกว่า ม้าจะไม่ตัวใหญ่ถ้าไม่กินตอนกลางคืน คนเราก็จะไม่รวยถ้าไม่ถูกหวยซักที

ดูเหมือนว่าฉันคงจะต้องออกไปยื่นหน้าหาเรื่องบ่อยขึ้นแล้วละ….