God of illusions – ตอนที่ 1 เจ้าคล้ายจะมีพรสวรรค์

อ่านนิยายจีนเรื่อง God of illusions ตอนที่ 1 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เทือกเขาไร้ขอบเขตคือตัวตนที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวหากมีใครเอ่ยถึงมัน คือสถานที่ที่คนธรรมดาไม่ควรเข้าใกล้ หากแต่ในวันนี้ เทือกเขาอันน่าเกรงขามกลับไม่ได้เงียบสงบอย่างเคย

 

มี ‘มนุษย์วิหค’ คนหนึ่งกำลังพยายามกระพือปีกอย่างยากลำบากในกลางอากาศ แต่มันกลับเป็นความพยายามที่ไร้ผล เพราะเขาได้กระแทกเข้ากับต้นไม้เสียแล้ว

 

”บัดซบ! ลืมเรื่องการลงจอดไปเลย ยังดีที่สวรรค์เมตตาให้ข้าเกิดมาพร้อมกับโชคอันยิ่งใหญ่”

 

ป๋ายเสี่ยวเฟยอดทนต่อความเจ็บปวดในขณะที่เขากำลังหมอบอยู่บนพื้น เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยินดี

 

”ในที่สุดข้าก็เป็นอิสระ!!! ” เขากล่าว จากนั้นก็มีหัวเล็กๆ ที่มีสีขาวและดำปะปนโผล่ออกมาจากเสื้อหลวมๆ ของเขา มันเลียใบหน้าของเขาอย่างตะกละตะกลาม

 

อย่างน่าตกใจ สิ่งมีชีวิตนั้นก็คือลูกสุนัขฮัสกี้!

 

ดูเหมือนว่ามันสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของเจ้านาย มันจึงหอนออกมา ”โบร๋ววววว!!! ”

 

”เสี่ยวเอ้อ รีบไปสำรวจรอบๆ ดูว่ามีอาหารไหม พวกเรายุ่งมาทั้งวัน ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าแล้วเนี่ย” ป๋ายเสี่ยวเฟยลูบหัวเสี่ยวเอ้อ และดึงมันออกมาจากเสื้อของเขาจากนั้นจึงวางมันไว้กับพื้น หลังจากปล่อยมือ เสี่ยวเอ้อเริ่มปฏิบัติตามคำสั่งทันที มันหายตัวเข้าไปในพุ่มไม้ภายในพริบตา

 

หากแต่ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่มีท่าทีจะเป็นกังวลเลยสักนิด เขาเพียงเฝ้ารอเสี่ยวเอ้อกลับมาด้วยท่าทีสบายๆ

 

”อ๊า”

 

”บัดซบ! หมาใครวะ!! ?? ”

 

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนของผู้ชายและผู้หญิงออกมาจากพุ่มไม้ จากนั้นก็มีชายชราคนหนึ่งยืนขึ้น เขาใส่เสื้ออย่างเร่งรีบ

 

ด้วยความตกใจ เสี่ยวเอ้อรีบวิ่งกลับเข้าไปในอ้อมแขนของป๋ายเสี่ยวเฟย

 

ป๋ายเสี่ยวเฟยกับชายชราจ้องตากันด้วยความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

ป๋ายเสี่ยวเฟยพยายามทำสีหน้าปกติ แต่ข้างในเต็มไปด้วยพายุคลั่งที่โหมกระหน่ำอยู่ในใจ

 

เจ้าเสี่ยวเอ้อที่ราดตระเวนไปทั่วอย่างกล้าหาญในหุวเหวบรรพบุรุษซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายแต่ต่อหน้าชายชราคนนี้ มันกลับวิ่งหากจุกตูดกลับมาหาเขาอย่างขี้ขลาด

 

”เจ้ารู้ไหมว่าข้าคือใคร! ? ” ชายชราเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบ เขาพูดอย่างดุร้ายด้วยน้ำเสียงเย็นชาราวกับว่าจะกลืนกินป๋ายเสี่ยวเฟยทั้งเป็น

 

ป๋ายเสี่ยวเฟยกลืนน้ำลายลงไป ปั้นหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วจึงพูดจาสรรเสริญชายชราในรวดเดียว ”ผู้อาวุโส ข้าเพิ่งเดินทางจากบ้านเกิดของข้าที่อยู่ห่างไกลข้าไม่รู้จริงๆ ว่าท่านคือใคร แต่เพียงแค่มองข้าก็สามารถบอกได้ว่าท่านเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสง่าราศี ไม่ว่าอยู่ที่ใดท่านจะเป็นดั่งดวงดาวที่ทอประกายท่ามกลางผู้คน! ”

 

ชายชราถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ ‘ในเมื่อมันไม่รู้ว่าข้าคือใคร ปัญหานี้จะแก้ไขได้โดยไม่ยาก’

 

”แค่กๆ ตะกี้… นั่นคือ…” ใบหน้าของชายชราผ่อนคลายและถูกแทนด้วยความเขินอายจากนั้นเขาจึงพูดอย่างตะกุกตะกัก ในระหว่างที่เขากำลังคิดว่าจะอธิบายเช่นไรดีป๋ายเสี่ยวเฟยก็เป็นฝ่ายให้ความช่วยเหลือเขาด้วยการพูดว่า ”เมื่อครู่ข้าเห็นท่านกำลังตั้งใจฝึกวิชาอยู่ ทุกๆ การเคลื่อนไหวก่อให้เกิดการสะเทือนของท้องฟ้าและผืนดิน ทำให้สัตว์อสูรระดับสูงแถวนี้ล้วนต้องหมอบศิโรราบ”

 

‘ข้าเคยพบเจอคนที่โกหกมาก็มาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เจอคนที่สามารถพูดโกหกได้ราวกับว่าสิ่งที่ตนเองพูดนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง โดยไม่มีความกระดากปากสักนิด’

 

‘เป็นชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์นัก! ‘ ชายชราตัดสินใจเล่นไปตามน้ำ ”จะ… เจ้าพูดถูกแล้ว! แต่มันอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่หากมีคนรู้ว่าข้าฝึกวิชานี้…”

 

”ข้าเข้าใจ! ข้าเพียงนอนกลางวันที่นี่และฝันเห็นปรมาจารย์เท่านั้น! ”

 

”ใช่แล้ว เป็นอย่างที่เจ้าพูด! ” ชายชราอดไม่ได้ที่จะปรบมือยินดีราวกับเด็ก แต่หลังจากรู้ว่าตนเสียกิริยาไปเขาก็กลับมาทำหน้าตาเคร่งเครียด

 

”แค่กๆ เอ่อ… การพบกันของพวกเราต้องเป็นลิขิตจากสวรรค์ จากที่ข้าเห็นเจ้านั้นเป็นคนมีพรสวรรค์ ดังนั้นข้าจะให้โชคลาภเล็กน้อยแก่เจ้า” หลังจากชายชราพูดจบ ก็มีแสงส่องสว่างบนมือของเขา จานโออ่าหลากสีที่ประดับไว้ด้วยลวดลายต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นเมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยเห็นสิ่งนั้น เขาก็ทำหน้าเคร่งเครียดทันที

 

‘หุ่นเชิดทองคำม่วง!!! ‘

 

แม้ว่าเจ้าจะอ่อนต่อโลก ไร้ความรู้เพียงใดก็ตาม เจ้ามิอาจไม่รู้จักสิ่งนี้!

 

‘หุ่นเชิดทองคำม่วง! สมบัติล้ำค่าในตำนาน! ‘

 

‘อย่าบอกนะว่าไอ้แก่นี่ตั้งใจจะปิดปากข้า! ? ‘

 

‘ไม่น่าจะใช่! หากเขาต้องการทำอย่างนั้นข้าตายไปนานแล้ว! ‘

 

‘ถ้างั้นนี่หมายความว่าอะไร? ‘ ในชั่วพริบตาเขาก็คิดได้ถึงความเป็นไปได้หลายอย่างจนนับไม่ถ้วน แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่คิดว่าจะมีอันใดที่สามารถเป็นจริงได้

 

”ผู้อาวุโส ท่านหมายความว่า…? ” เขาถามด้วยเสียงอ่อน รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาได้ขยับขึ้นมาถึงหลอดลม หากชายชรามีทีท่าข่มขู่ป๋ายเสี่ยวเฟยอีกสักนิด เขาคงได้หัวใจวายตายเป็นแน่

 

”ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ใช่พวกชอบท้าตีท้าต่อยเพียงเพราะปัญหาเล็กน้อย ข้าชอบวิธีที่ทั้งสองฝ่ายได้ผลประโยชน์มากกว่า” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ไม่เหมาะกับอายุปรากฏบนหน้าของชายชรา เขาใส่แรงลงไปในข้อมือแล้วโยนจานไปบนอากาศ มันขยายใหญ่ขึ้นอย่างน้อยห้าเมตร

 

”หุ่นเชิดตัวนี้มีชื่อว่า หุ่นเชิดสวรรค์ล่วงลับ มันมีความสามารถล่วงรู้ความลับของสวรรค์ มันยังสามารถทำนายสิ่งต่างๆ บนโลกได้อีกด้วย ปกติข้าไม่ใจดีเช่นนี้แต่ข้ารู้สึกชื่นชมในตัวเจ้า เพราะงั้นข้าจะทำนายโชคชะตาเพื่อเจ้า! ” ชายชรามีท่าทีพอใจในขณะที่เขาพูด หัวเชิดสูงขึ้นเล็กน้อย รอให้ป๋ายเสี่ยวเฟยกล่าวคำสรรเสริญ

 

แต่ชายชรากลับต้องผิดหวัง

 

‘บัดซบ! ไอ้แก่นี่ตั้งใจจะจ่ายค่าปิดปากให้ข้า! ‘

 

‘แค่ทำนายโชคชะตาเนี่ยนะ? อย่างน้อยให้สิ่งของที่มีประโยชน์หน่อยไม่ได้รึไง! ‘

 

ถึงป๋ายเสี่ยวเฟยจะสาปแช่งชายชราอยู่ในใจ แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากปั้นหน้ายิ้ม

 

เขายังจะทำอะไรได้อีกในเมื่อชีวิตของเขาอยู่ในมือชายชรา?

 

”ผะ ผู้อาวุโส… จริงๆ แล้วข้าไม่เชื่อในเรื่องโชคชะตา เพราะงั้นท่านไม่จำเป็นต้องทำนายให้ข้า…”

 

”เจ้าหมายความว่าอย่างไร!? เจ้ารู้ไหมว่ามีคนมากมายเพียงใดต่อแถวรอให้ข้าทำนายให้พวกเขาสักครั้ง! ? กิริยาไร้มารยาทไม่เคารพข้านั่นอะไร! ? ” ชายชราตะโกนด่าทอราวกับมีใครทำร้ายเกียรติยศของเขา ใบหน้าพึงพอใจถูกแทนที่ด้วยความโกรธพร้อมจะสู้รบได้ทุกเมื่อ

 

”ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ข้าก็จะทำนายดวงชะตาให้เจ้า! ” หลังจากชายชราพูดจบ แสงเจ็ดสีก็ส่องประกายเข้าใส่หุ่นเชิดสวรรค์ล่วงลับ จานที่ลอยอยู่นิ่งบนอากาศก็พลันหมุนวนด้วยความเร็วสูงทันที

 

ไม่นานนักมันก็หยุด พร้อมกับสีหน้าของชายชราที่เปลี่ยนจากโกรธเกรี้ยวไปเป็นประหลาดใจแล้วก็ตกใจอย่างสุดขีด เขาจ้องหุ่นเชิดสวรรค์ล่วงลับอยู่นาน

 

ผ่านไปสักพัก แสงเจ็ดสีก็พุ่งเข้าสู่จานอีกครั้ง

 

หลังจากชายชราทำแบบนี้ไปเจ็ดรอบ เขาก็เหนื่อยจนถึงขั้นกระอักเลือดออกมา ทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยตกใจจนถึงขั้นกระโดดเหยง

 

‘อย่างที่ข้าคิด ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ! ถึงขนาดต้องเหนื่อยขนาดนี้ ข้าไม่สงสัยเลยว่าทำไมต้าซืออี้รูปร่างอัปลักษณ์เช่นนั้น’

 

ในหัวป๋ายเสี่ยวเฟยคิดเช่นนี้ แต่ปากเขาพูดอีกอย่าง”ผู้อาวุโส ท่านเป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมเราไม่ลืมเรื่องนี้ไปเสีย? ช้ารู้ว่าท่านทำเพื่อข้าและข้าก็รู้สึกซาบซึ้ง…”

 

ป๋ายเสี่ยวเฟยยังไม่ทันพูดจบ ชายชราก็กระโดดเข้ามาจับมือเขาทั้งๆ ที่มีเลือดเปื้อนปากอยู่และพูดว่า ”เจ้ายังไม่มีอาจารย์ใช่หรือไม่! ??? ”

 

การกระทำที่กะทันหันของชายชราทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยตกใจ เขาตอบกลับโดยไม่ทันคิด”ข้ามีเพียงพ่อและแม่ ข้าไม่มีอาจารย์…”

 

เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยพูดจบ ใบหน้าของชายชราก็เต็มไปด้วยความปลื้มปีติ ผิดจากป๋ายเสี่ยวเฟยที่ตอนนี้ในใจมีแต่ความรังเกียจ

 

‘เจ้าบอกข้าว่าเจ้าสามารถล่วงรู้ความลับของสวรรค์ได้ แต่เรื่องแค่นี้เจ้ากลับต้องถาม แบบนี้อี้ต้าซือก็ทำได้’

 

ชายชราปล่อยมือป๋ายเสี่ยวเฟยและยืนตรงหน้าเขา

 

”คุกเข่า!! ” ชายชรากล่าว ส่งผลให้ป๋ายเสี่ยวเฟยเหม่อมองเป็นเวลานาน เขาจึงกล่าวด้วยเสียงแข็งกร้าว”อะไร? เจ้าไม่อยากนับข้าเป็นอาจารย์รึ? นี่เป็นโอกาสที่ต่อให้คนอื่นสู้กันให้ตายก็ไม่มีวันได้! ”

 

ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้มพลางส่ายมืออย่างช่วยไม่ได้ เขากล่าวในสิ่งที่เป็นความจริงซึ่งปะปนไว้ด้วยข้ออ้าง”ผู้อาวุโส ท่านเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยาก เพียงแต่ข้าไม่คู่ควรเป็นศิษย์ของต้าเหรินอย่างท่านต่างหาก ข้าเป็นแค่ขยะที่ไม่สามารถควบคุมแม้แต่หุ่นเชิด”

 

ลองคิดดู หากชายชราคนหนึ่งกำลัง…เอ่อ ‘ละเล่น’ อยู่ในพุ่มไม้กลางวันแสกๆ ในเทือกเขาไร้ขอบเขตแถมยังกระอักเลือดออกมาหลังจากทำนาย และบอกกับเจ้าว่าจะรับเจ้าเป็นศิษย์ เจ้าจะทำอย่างไร?

 

ใครอยากเป็นก็เป็นไป ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่เป็น!

 

”เจ้าหมายความว่าอย่างไร? สุนัขนั่นไม่ใช่หุ่นเชิดของเจ้ารึ! ? ” ชายชราทำสีหน้าราวกับว่าป๋ายเสี่ยวเฟยกำลังหลอกเขาอยู่ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธพร้อมจะสู้รบได้ทุกเมื่อ

 

”หากท่านไม่เชื่อ งั้นดูข้างในร่างข้าสิ พลังของข้าถูกปิดผนึกไว้และข้าก็ไม่ได้ใช้เป็นเวลานานแล้วด้วย”

 

ป๋ายเสี่ยวเฟยยื่นมือขวาออกไปอย่างมั่นใจ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกว่าการควบคุมหุ่นเชิดไม่ได้คือสิ่งที่ดี!

 

ชายชรายื่นมือไปจับข้อมือของป๋ายเสี่ยวเฟยโดยสีหน้าฉงน แต่เพียงไม่นานทั้งหน้าก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดี

 

”ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!! สวรรค์เป็นใจให้ข้า! สวรรค์เป็นใจให้ข้า! ”

 

เสียงหัวเราะของชายชราดังกังวานไปทั่วเทือกเขาไร้ขอบเขต ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันใด

 

‘จบกัน! ชีวิตน้อยๆ ของข้า! ‘

 

ไอ้แก่วิกลจริต…

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด