ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) – ตอนที่ 34

อ่านนิยายจีนเรื่อง ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) ตอนที่ 34 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 34 วันฝึกฝนอันโชคร้าย

 

เอาเถอะ แม้ว่าการเกิดเรื่องแบบนี้จะอยู่ในการคาดการณ์ของผม แต่ว่า กลับไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีอะไร

 

จะมาเป็นไกด์ให้ผมรึไง! แก๊งองค์หญิงสองคนคิดอะไรอยู่เนี่ย! ถ้าเป็นแบบนี้ผมจะทําเควสต์ยัง ง! แม้ว่าข้างหลังทั้งสองคนจะมีผู้คุ้มกัน แล้วยังมีอาจารย์ติดตาม แต่ผมเล็งไปที่รางวัลที่ไม่รู้ จักนั่น!แบบนี้ผมจะทํายังไง!

 

แต่ผมไม่ได้ต้องการฆ่าฆาตกรคนนั้นเพราะดูถูกชีวิตเขา ยังไงซะอีกฝ่ายก็เป็นคนที่ฆ่าคนไปสิบสองคนถ้าไม่พกความคิดที่ฆ่าอีกฝ่ายด้วย ก็คงถูกอีกฝ่ายฆ่า

 

แน่นอน ถ้าอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป งั้นก็คงทําได้แค่หนี ผมไม่ได้อยากตายนะ

 

แต่ข้างกายมีองค์หญิงเยอะแบบนี้…อยากหนีก็คงไม่ได้

 

“องค์หญิงแอน”

 

ผมขมวดคิ้วทัก

 

“มีอะไรเหรอ”

 

“ทําไมคุณถึงตามมาล่ะ?”

 

อีกฝ่ายทําท่าทางตกใจ จากนั้นตอบด้วยรอยยิ้ม

 

“ทําไมล่ะ เจ้าชอบอยู่กับนังปีศาจที่ผมยังขึ้นไม่เป็นระเบียบคนนั้นมากกว่าข้าเหรอ?”

องค์หญิงสโนว์ก็บ้าคลั่ง พุ่งไปตรงหน้าองค์หญิงแอนแล้วตะโกนเสียงดังทันที

 

“นี่! ข้ายังไม่ว่าอะไรคนที่ไม่ตัดผมอย่างเจ้าเลย! เจ้าชอบหาเรื่องนักเหรอ!”

 

“ฮีม ข้าใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงจัดการผมของข้าทุกวัน ใครจะทําผมทรงช็อคโกแลตโรลอย่างเจ้าถ้าเจอสัตว์ป่า มันคงกินผมของเจ้าแน่”

 

“กินผมของเจ้าล่ะสิ! มวลส่วนมากของร่างกายเจ้าคงไปอยู่ที่ผมหมดแล้วมั้ง!”

 

“ใครบอกกัน หน้าอกเป็นส่วนสําคัญของข้าต่างหาก!”

 

“เอาล่ะ! องค์หญิงทั้งสองท่านหยุดเถอะ!”

 

ผมกลั้นยิ้มเข้าไปแยกใบหน้าที่แทบจะติดกันอยู่ของพวกเธอ แล้วพูดขึ้น

 

“ผมว่า พวกคุณพูดเรื่องแบบนี้เสียงดังขนาดนี้จะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ? ลูกน้องพวกคุณก็ได้ยิน… แล้วก็ยังมีอาจารย์แย่ๆ คนนั้นอีก”

 

ผมชี้ไปทางข้างหลังพวกเรา ดูเหมือนไม่มีใคร แต่หลังจากผมพูดจบก็มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากหลังต้นไม้ ชูนิ้วโป้งให้

 

นี่คือการบอกผมว่าได้ยินชัดเจนสินะ…

 

“ชิกซ์หมิง ลืมคําพูดของข้าเมื่อครู่ซะ!”

 

องค์หญิงสองคนสั่งผู้คุ้มกันของตัวเองพร้อมกัน แต่เวลานี้แล้ว ถึงจะพูดแบบนี้ก็ไร้ความหมายแล้วสิ? หรือว่าพวกเขาปล่อยเวทมนตร์ลบความทรงจําตัวเองได้?

 

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

 

ซิกซ์ตอบรับ แต่อีกคนในพงหญ้ากลับไม่ได้พูด แต่ชื่อของเขาเปลี่ยนจาก ??? เป็น “หมิง” ทันที่ แม้ว่ายังคงมองไม่เห็นข้อมูลข้างหลัง แต่เป็นแบบนี้กลับทําให้ผมยืนยันเรื่องหนึ่งได้

 

ขอเพียงรู้ชื่อที่ตรงกับชื่อจริง ก็จะไม่ปรากฏเป็นเครื่องหมายคําถาม

 

ถ้าเป็นแบบนี้

 

ผมมองทางซิกซ์ ใบหน้ายัยนี่ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม รู้สึกเหมือนกับสวมหน้ากาก

 

แล้วจนถึงตอนนี้ชื่อของยัยนี่ก็ยังเป็นเครื่องหมายคําถาม ยัยนี่เป็นใครกันแน่?

 

แม้ว่าองค์หญิงแอนจะบอกว่าเธออยู่กับซิกซ์มานานแล้ว แต่ว่า ความนานนี้มันแค่ไหนกัน

 

“แล้วก็เจ้า!”

 

ทันใดนั้น องค์หญิงสองคนก็เข้ามาใกล้จากทั้งซ้ายและขวา

 

เดี๋ยวก่อน พวกเธอจะเข้ามาก็เข้ามา จะถือไม้คทาไว้ในมือทําไม?

 

ยิ่งไปกว่านั้น…ทําไมรู้สึกว่าไม้คทาในมือของสองคนนี้เริ่มดูดธาตุเวทมนตร์แล้ว?

 

“คือว่า…พวกคุณทําอะไร”

 

“ได้ยินว่ากระแทกที่ศีรษะสามารถทําให้คนเสียความจําได้ เลยอยากลองดูน่ะ”

 

“ใช่แล้ว ต้องลองดู”

 

“เฮ้ๆ! พวกคุณใจเย็นหน่อย ทําเรื่องแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก!”

 

ตอนที่ผมกําลังคิดฟุ้งซ้านอยู่สองคนนี้ก็กลายเป็นพวกเดียวกันแล้ว! นี่คิดจะทุบหัวผมเหรอ? ไม่ใช่สิถ้าเวทมนตร์ปะทะเข้ามา สิ่งที่หายไม่น่าจะใช่แค่ความทรงจํา

 

“แบบนี้สิ่งที่หายไม่น่าใช่ความทรงจําของผมนะ แต่เป็นชีวิตผมมากกว่า!”

 

“ไม่เป็นไร ของแบบนั้นถึงจะหายไปก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

 

“พวกคุณไม่เป็นไรแต่ผมเป็นไง!”

 

“ไม่เป็นไร ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็จะพาเจ้ากลับสถาบัน เพราะงั้นวางใจเถอะ”

 

“นี่คิดจะช่วยผมเก็บศพเหรอ?”

 

“หรือเจ้าอยากทิ้งศพไว้ในปา?”

 

“ทําไมเงื่อนไขของผมคือต้องตายล่ะ?”

 

“เพราะว่า…”

 

รัศมีเวทมนตร์บนยอดไม้คทาขององค์หญิงทั้งสองสว่างยิ่งขึ้น แถมยังรู้สึกถึงอานุภาพที่ แข็งแกร่งด้วย

 

ลวดลายเวทมนตร์นี้ เป็นเวทมนตร์ที่ผมไม่เคยเห็น!

 

เวทมนตร์ระดับกลาง? หรือว่าเป็นเวทมนตร์ระดับสูง? แม้ว่าผมไม่มีทางสัมผัสเวทมนตร์เหล่านั้นได้ แต่พวกองค์หญิงสองคนนี้น่าจะมีโอกาสใช่ไหม?

 

ผมรู้สึกถึงเหงื่อเย็นที่เริ่มไหลบนศีรษะ

 

“พวกคุณใจเย็นหน่อย พวกเรามาคุยปัญหานี้กันได้ อย่าหุนหันสิ”

 

ปากพูดแบบนี้ แต่ผมเริ่มก้าวถอยหลัง

 

โดนการโจมตีแบบนี้สักครั้งคงตายแน่นอน แน่นอน! แน่นอนเลย!

 

อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว!

 

“ปราสาทน้ําแข็ง!”

 

ผมใช้เวทมนตร์ระหว่างพวกเธอกับผมอย่างรวดเร็ว แล้วเร่งความเร็วหนีไปข้างหลัง

 

แต่ว่า…

 

หลังจากผมหมุนตัวไป ก็ปะทะเข้ากับของนุ่มๆ ทันที แม้ว่านุ่มมาก แต่อีกฝ่ายที่ถูกผมปะทะไม่ได้ถอยหลังไปแม้แต่น้อย แต่กลับอาศัยแรงสะท้อนผลักผมไปที่พื้น

 

นี่คือ

 

“ขอโทษด้วย เพราะองค์หญิงไม่อยากให้เจ้าหนี เพราะงั้นจึงเสียมารยาท”

 

หันไปมองเป็นซิกซ์!

 

หรือว่าของนุ่มๆ ที่ปะทะเมื่อกี้นี้คือ…ไม่ใช่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้ เลเวลของยัยนี่ไม่ใช่แค่สูงธรรมดา เมื่อกี้ผมเร่งความเร็วพุ่งไป อีกฝ่ายก็ขวางผมได้โดยไม่ต้องทําอะไร!

 

“เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องหนีแล้ว วางใจเถอะ เจ็บไม่นานหรอก!”

 

“ใช่แล้ว…”

 

องค์หญิงสองคนดูเหมือนพอใจมาก

 

“ในฐานะที่เป็นอารยชน พวกเราวางอาวุธคุยกันดีๆ ได้ไหม?”

 

“นี่พวกเราก็ไม่ได้คุยกันดีๆ หรอกเหรอ? ขอเพียงเจ้าเสียความทรงจําไป..ก็ไม่เป็นไรแล้วแม้เจ้าจะลืมทุกสิ่งพวกเราก็จะช่วยเจ้า เลี้ยงดูคนบ้าคนเดียวสําหรับพวกเราแล้วง่ายดายมาก เจ้าส บายใจได้”

 

“ผมไม่สบายใจ!”

 

ชักช้าไม่ได้แล้ว นี่เป็นการบีบให้ผมใช้สกิลพิเศษ!

 

“สุ่ม บลิงค์!”

 

ไม่รู้ว่าจะหนีไปที่ไหน ให้โชคชะตาเป็นคนสุ่มแล้วกัน

 

แล้วหลังจากตั้งค่าว่าเมื่อใช้ MP หมดแล้วจะไม่มีนงง ใช้สิ่งนี้ก็น่าจะไม่มีผลข้างเคียงใช่ไหม?

 

MP ของผมอยู่ก้นหลอดในพริบตาเดียว และในขณะเดียวกันตรงหน้าผมก็กะพริบ เมื่อตั้งสติได้แล้วมองคนที่อยู่รอบด้านก็หายไปแล้ว บริเวณใกล้เคียงเป็นฉากที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

 

“ที่นี่คือที่ไหน?”

 

ลุกขึ้นมองดูรอบด้าน ผมบอกไม่ได้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ภูเขาที่เห็นก่อนหน้าก็ไม่อยู่แล้ว และบริเวณใกล้เคียงก็ไม่มีแม่น้ํา

 

ยิ่งไปกว่านั้น

 

ดูเหมือนภูมิประเทศจะเอียงเล็กน้อย?

 

“หรือว่าฉันถูกส่งมาบนภูเขา?”

 

สถานการณ์แย่มาก ผมมาตกในพื้นที่ระดับสูงโดยปราศจากเพื่อนร่วมทีม?

 

นี่มันคือการยอมไปแจกเลยไม่ใช่เหรอ?

 

เนื่องจากระยะทางที่จํากัด โหมดทีมจึงถูกยกเลิก

 

จู่ๆ ก็มองเห็นข้อความบนกระดานแจ้งเตือน ตอนนี้ถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า จริงๆ แล้วผมกับ พวกเธออยู่ในโหมดทีม

 

โหมดทีมหมายความว่าอะไร?

 

ที่จริงแล้วยัยพวกนั้นโจมตีผมก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ!

 

“ลืมซะได้สกิลฉันเสียเปล่าเลย”

 

ผมเปิดช่องเก็บของมาดื่มยาฟื้นฟู พลางมองดูสถานการณ์รอบด้านต่ออย่างจําใจ

 

โธ่เวีย ลืมเรื่องสําคัญแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย ตอนที่ถูกโจมตีก่อนหน้าก็ติดนิสัยวิ่งหนี ยากมากที่จะได้รับสกิลพิเศษสําหรับหนี สุดท้ายก็เลยอดใช้มันไม่ได้

 

เสียงหนึ่งดังขึ้นมา หันกลับไปมอง ในพงหญ้าไม่ไกลมีบางอย่างลอยออกมา

 

ข้างหลังเป็นสิ่งของสีแดงยาวเป็นชุด นี่ทําให้ผมมีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างยิ่ง

 

หรือว่าจะเป็นการส่งตัวเองไปแจกจริงๆ?

 

จากนั้น เงาร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากพงหญ้า มองดูของบนพื้นแล้วมองดูผม

 

“เอ๊ะ? ยังมีเหลืออีกเหรอ?”

 

อีกฝ่ายพูดแบบนี้

 

เดี๋ยวก่อน…นี่มันคนรู้จักกัน!

 

“คุณเอลฟ์?”

 

นี่มันเอลฟ์พบกันก่อนหน้านี้ คามิโอชิ ยูอน!

 

หรือว่าเอลฟ์นี่คือฆาตกร?

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด