ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) – ตอนที่ 38
“ดัดแปลงมนุษย์…ฟังดูน่าสนใจนี่”
อาร์ย่าคิดดู แล้วตอบกลับ
“จะว่าไป นายอยากเปลี่ยนร่างกายของตัวเองเหรอ”
“ฉันเหรอ อย่าล้อเล่นสิ”
ผมรีบส่ายหน้า
“ถึงโลกใบนี้จะเป็นโลกประหลาด แล้วเรายังแค่ดูเหมือนเล่นเกมเท่านั้น แต่ความสมจริงของโลกนี้กลับสูงมาก ฉันไม่อยากทดลองความรู้สึกของการกลายเป็นแฟรงเกนสไตน์หรอกนะ”
“เอ๊ะ ฉันคิดว่านายทำเหมือนโลกใบนี้เป็นบ้านตัวเองแล้วซะอีก”
“ทำไมพูดงั้นล่ะ”
“เพราะนายดูเพลิดเพลินกับชีวิตบนโลกนี้น่ะสิ”
“…”
ผมดูเพลิดเพลินเหรอ
ที่จริง ผมก็รู้สึกเพลิดเพลินกับการคืนชีพ และทำให้ผมได้ทดลองเรื่องที่สามารถพบเจอได้แค่ในเกม
แต่ว่า…
โลกใบนี้ชอบทำให้ผมแปลกชอบกลอยู่เรื่อย
“เธอพูดแบบนี้ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้หรอก แต่เธอก็เหมือนกันไม่ใช่เหรออาร์ย่า”
ผมถามกลับ
“ฉันเหรอ…”
อีกฝ่ายส่ายหน้า
“อันที่จริง ฉันไม่ชอบโลกนี้หรอก”
“ทำไมล่ะ”
“มันปลอมเกินไป”
อาร์ย่าพูดพร้อมกับหยิบดาบออกมาเฉือนตัวเอง
ในพริบตา ก็มีเลือดซึมออกมาจากแขนขาวผ่องของอาร์ย่า
“เฮ้ยๆ เธอทำอะไรเนี่ย!”
ผมคิดจะห้ามเธอ แต่เธอกลับไม่ให้ผมเข้าใกล้
“อย่าเข้ามา ฉันแค่แสดงให้นายเห็นว่าโลกนี้ไม่สมจริงแค่ไหนเท่านั้น ฉันว่านายอยู่ที่นี่มานานก็คงรู้ว่าการโจมตีของตัวเองจะไม่สร้างการบาดเจ็บ”
พูดไป เธอก็ชูแขนที่โดนเฉือนขึ้นมา
“นายดู HP ของฉันสิ ไม่บาดเจ็บใช่ไหมล่ะ มันเป็นแบบนี้บนทุกส่วนในร่างกายของฉันเลย นั่นแปลว่า…”
ขณะที่เธอพูด เลือดบนแขนของเธอก็เริ่มไหลย้อนกลับเข้าไปในบาดแผลอย่างรวดเร็ว จากนั้น บาดแผลก็เริ่มสมานตัวอย่างไม่สมเหตุสมผล!
นี่มัน…
ถึงผมรู้ว่าความเสียหายไม่ส่งผลต่อตัวเอง แต่ผมกลับไม่เคยทดลองด้วยการโจมตีที่ไม่ได้มาจากเวทมนตร์
“เห็นแล้วใช่ไหม มันเป็นความไม่สมจริงของโลกใบนี้”
“จริงด้วย…แต่มันก็อำนวยความสะดวกให้เราเวลาต่อสู้น่ะสิ”
“ดูท่านายคงยังจับใจความที่ฉันอยากบอกไม่ได้…”
อาร์ย่าฟึดฟัดแล้วเล็งดาบในมือมาทางผม
“ถ้าวันหนึ่งนายกลับไปโลกเดิม นายจะปรับตัวกับการใช้ชีวิตในโลกความจริงได้ไหม”
“เอ่อ…”
“ถ้านายหลงระเริงไปจริงๆ แล้ววันหนึ่งนายจะเสียใจ…แต่ว่า ก็จริงที่ตอนนี้พวกเราต้องใช้ความไม่จริงพวกนี้ให้เป็นของจริง แล้วก็ อย่ารู้สึกกับคนในโลกใบนี้เกินไปล่ะ! นายไม่รู้เลยว่าโลกใบนี้มีอยู่จริงหรือเปล่า แต่นายไม่รู้สึกแปลกพอยุ่งเกี่ยวกับคนบนโลกนี้เหรอ”
“แปลกขนาดนั้นเลยเหรอ”
“แน่อยู่แล้ว เขาแค่ให้นายเป็นคู่หมั้นนายก็ดีใจขนาดนี้แล้ว แล้วอนาคตจะเป็นยังไง นายคิดจะใช้ชีวิตธรรมดาบนโลกใบนี้จริงๆ เหรอ มันเป็นไปไม่ได้เลยนายเข้าใจไหม”
“…”
“เฮ้อ ฉันพูดเท่านี้แหละ นายคิดเอาเองแล้วกัน”
อาร์ย่าดูท่าทางเหมือนจนปัญญา ราวกับคิดว่าผมดำดิ่งสู่โลกใบนี้ไปแล้ว
“ขอบใจที่ห่วงฉันขนาดนี้นะ”
ผมยิ้มแล้วพูด
“ฉัน…ฉันไม่ได้ห่วงนาย! ฉันแค่คิดว่าอย่างน้อยก็ควรช่วยเหลือทุกคนที่มาจากโลกเดียวกันเท่านั้นเอง! ฉันไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย!”
ผมลูบศีรษะเธอ
“นี่สิถึงจะถูก นี่สิถึงจะเป็นอาร์ย่าที่ฉันรู้จัก เด็กสาวที่ลมหายใจเต็มไปด้วยความซึน1มาตั้งแต่ต้น”
“ฉันไม่ได้ซึนนะ!”
“โอเคๆๆ ฉันรู้แล้ว ฉันแค่รู้สึกแปลกเวลาเธอใช้หน้าเด็กๆ ทำสีหน้าจริงจังพูดเหตุผลกับฉันก็เท่านั้นเอง เฮ้ๆ อย่าตีฉันสิ! ถึงพลังโจมตีของเธอจะไม่สูงแต่เวลาตีคนอื่นก็เจ็บเหมือนกันนะ!”
ความเสียหาย –200 เด้งขึ้นบนตัวของผมอย่างต่อเนื่อง ผมดื่มยาไปด้วยพร้อมกับอ้อนวอน
“รู้แล้วก็ยังพูดมากอีก!”
“ขอโทษแล้วกันๆ เอาละ หยุดโวยวายได้แล้ว ฉันก็ต้องใช้เงินซื้อยาฟื้นฟู HP นะ”
“ฮึ่ม!”
“เอาละ ฉันขอถามเธอหน่อย เธอก็ดีใจเวลาได้รู้จักคนอื่นไม่ใช่เหรอ การปิดกั้นตัวเองจนเกินไปจะทำให้ยิ่งเจ็บปวดไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่ได้ปิดกั้นซะหน่อย…”
“โอเคๆ สรุปก็คือ ถ้าเราคิดจะมีชีวิตรอดบนโลกนี้ให้นานขึ้น เราก็ต้องทำความรู้จักโลกใบนี้ให้เพียงพอ มันไม่เกี่ยวอะไรกับการสร้างมนุษยสัมพันธ์ ยิ่งกว่านั้น…เรายังไม่รู้เลยว่าเราจะออกไปจากโลกนี้ได้ตอนไหน งั้นก่อนออกไป พวกเราก็ทำได้แค่ปรับตัวแล้วใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
“…แหม คิดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก”
“เอาละ ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งวันก่อนรอบตัดสิน เธออยากไปสืบโครงการประหลาดนั้นไหม”
“แน่อยู่แล้วสิ ไม่งั้นเลเวลของฉันคงตามนายไม่ทันแน่ ไปเถอะ แต่จะว่าไป ต้องเริ่มสืบจากที่ไหนเหรอ”
“…ฉันจะรู้ได้ไง ไม่งั้นฉันจะขอให้เธอช่วยทำไมล่ะ”
ศัพท์แสลงที่หมายถึงคนปากไม่ตรงกับใจ ข้างนอกแสดงออกแบบแข็งกระด้าง แต่ข้างในห่วงใย
คอมเม้นต์