ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) – ตอนที่ 40

อ่านนิยายจีนเรื่อง ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) ตอนที่ 40 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

มันเหมือนกับตอนอยู่ที่บ้านตระกูลสมิว อาร์ย่าเดินออกจากห้องสมุดไปก่อน แล้วค่อยเข้ามาทางหน้าต่างด้านข้าง ส่วนผมที่ไม่ได้เข้ามาทางประตูหน้าตั้งแต่แรก จึงไม่ต้องทำเรื่องที่เกินความจำเป็นแบบนั้น

ห้องสมุดไม่ใช่สถานที่ระดับสูง หน้าต่างของชั้นหนึ่งจึงไม่มีกับดักหรือการเสริมความแข็งแรงใดๆ

“เอาละ ตอนนี้เราควรทำไงดี”

มองชุดดำทั้งตัวที่ดูเหมือนกับนักฆ่าของอาร์ย่า ผมก็ถามเสียงเบา

แน่นอน ผมก็เปลี่ยนรูปร่างแล้วเหมือนกัน ถึงจะไม่รู้ว่ามีคนเฝ้าอยู่ที่นั่นหรือเปล่า แต่ในสถานการณ์แบบนี้การปลอมตัวไว้คงจะดีที่สุด

“ปกติแล้ว พอเข้าไปในชั้นอื่น จะมีการตรวจสอบลวดลายเวทมนตร์เอกลักษณ์บนตัวของนาย แล้วตัดสินว่านายมีสิทธิ์เข้าไปหรือเปล่า มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะลวดลายเวทมนตร์ก็เหมือนกับลายนิ้วมือ ที่ทุกคนมีไม่เหมือนกัน ดังนั้นพวกเราเลยเข้าทางประตูหลักไม่ได้”

อาร์ย่าชี้ไปยังบันไดขึ้นไปชั้นบน ทั่วทั้งบันไดเป็นแบบปิด บนนั้นยังมีเครื่องมือโลหะแบบพิเศษ ซึ่งคงเป็นสิ่งที่เอาไว้ตรวจสอบลวดลายเวทมนตร์

“หลอกมันไม่ได้เลยเหรอ”

“อาจจะได้ แต่ฉันไม่มีทักษะแบบนั้น ยังไงซะฉันก็ไม่รู้เรื่องลวดลายเวทมนตร์”

“ถึงรู้ก็คงไม่เข้าใจหรอก ตอนนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าลวดลายเวทมนตร์ใช้การยังไง”

“นั่นสิ”

อาร์ย่ายักไหล่

“งั้นเราคงทำได้แค่เข้าไปจากทางอื่น”

“แผนเดิมก็เป็นงั้นอยู่แล้วนี่”

เราสองคนเลยเริ่มเดินไปทั่วทั้งชั้นหนึ่ง

คนที่ทำหน้าที่ดูแลห้องสมุดมีแค่อาจารย์ที่อยู่ตรงประตู ซึ่งตอนนี้ได้หลับสนิทไปแล้ว จึงเรียกได้ว่าไม่ต้องสนใจเขาเลย

“ตามปกติทางนี้จะมีทางเดินของอาจารย์อยู่ที่ด้านหลังห้องพนักงาน และยังไงซะทางของอาจารย์ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินติดตั้งเครื่องมือแบบนั้น”

“ห้องพนักงานงั้นเหรอ”

ผมมองดูรอบๆ เปรียบเทียบสถานที่ตรงหน้ากับสัญลักษณ์บนมินิแมพ

“น่าจะเป็นห้องนี้แหละ”

ผมชี้ไปที่ห้องตรงหัวมุม

“จริงเหรอ งั้นก็ง่ายเลย”

อาร์ย่าเดินไป หยิบกุญแจประหลาดออกมาเสียบเข้าไปในกลอน เสียงดัง ‘แกร๊ก’ ครั้งหนึ่งประตูก็เปิดออก

“เอาละ ไปกันเถอะ”

หลังเธอพูดจบก็ผลักประตูเดินเข้าไป

ทักษะอันช่ำชองของอาร์ย่าดูเรียบง่ายจริงๆ คราวหน้าคงต้องเรียนรู้ไว้หน่อยแล้ว

เร่งฝีเท้าเข้าไป ก็เห็นห้องที่เละเทะอันคุ้นเคย

ห้องพนักงานอันเละเทะเป็นรูปแบบตามปกติเหรอ ทุกคนเป็นอาจารย์ขี้เกียจแบบอาจารย์แมรี่กันหมดเลยเหรอ

“มองอะไร รีบมาสิ”

อาร์ย่าชี้ไปที่บันไดในห้อง จากนั้นก็เดินไปก่อน

แต่พอขึ้นบันได จู่ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ!

แต่ผมกลับบอกความรู้สึกแบบนี้ไม่ถูก มันเหมือนกับมีบางอย่างเตือนว่าข้างหน้ามีอันตราย

อีกทั้งบันไดนี้ก็เชื่อมไปสู่ชั้นสองเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีบันไดขึ้นไปอีก ผมไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการออกแบบแบบนี้เลยจริงๆ

“อาร์ย่า!”

ผมจับมือเธอไว้

“อ๊า…ทำอะไรเนี่ย”

“ระวังหน่อย!”

“เอ๊ะ”

“เธอไม่เจออะไรตอนที่ขโมยของในห้องสมุดที่สถาบันเธอเลยเหรอ”

“เจออะไร นายหมายถึงมอนสเตอร์เหรอ”

“ใช่สิ…อะไรพวกนั้นนะ”

“อืม…ฉันไม่เจอ แต่ตอนนั้นยังมีคนอยู่ที่ชั้นบน ไม่ว่ายังไงก็คงไม่มีมอนสเตอร์โผล่มาได้หรอก”

“แต่ปัญหาคือ…”

ผมยังพูดไม่ทันจบ อาร์ย่าก็เปิดประตูสู่ชั้นบน แต่จู่ๆ ก็มีแขนสีดำข้างหนึ่งยื่นออกมาจากนอกประตู จากนั้นก็จับอาร์ย่าไป!

“อ๊าๆๆ! นี่มันอะไรเนี่ย!”

อาร์ย่ากรีดร้องพร้อมกับถูกดึงออกไป และแน่นอน เป็นเพราะผมจับมืออาร์ย่าไว้ ผมเลยถูกลากไปด้วย!

“อัญเชิญดาบน้ำแข็ง!”

ผมหยิบดาบออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เสริมเวทมนตร์อัศวินเวทเข้าไป แล้วผมก็กระโดดขึ้นสับท่อนแขนสีดำนั้น

แขนของอีกฝ่ายขาดครึ่งทันที และขณะเดียวกัน ลวดลายสีครามก็ห่อหุ้มแขนของมันในพริบตา

ผมใช้โอกาสนี้เอาดาบเคาะลงไป แขนของอีกฝ่ายก็แตกไปพร้อมกับน้ำแข็ง ส่วนอาร์ย่าก็ถูกปล่อยออกมา

“ไม่เป็นไรนะ ไปกันเถอะ!”

เห็นแขนสีดำหายไปในความมืด ผมก็จับอาร์ย่าวิ่งไปทางบันไดทันที

ล้อกันเล่นแล้ว การสู้กับมอนสเตอร์ที่มองไม่เห็นแม้แต่ชื่อแบบนี้จะชนะได้ยังไง

แต่ว่า ตอนผมพาอาร์ย่าฝ่าไปที่ปากทางบันได กลับพบว่าประตูบานนี้ไม่อาจเปิดได้จากด้านใน!

ก็ถูก ที่นี่เป็นชั้นสอง เป็นพื้นที่ของเวทมนตร์ระดับต้น และอยู่ส่วนในของห้องสมุด เส้นทางที่นักเรียนสามารถแอบขโมยหนังสือไปได้แบบนี้จะให้เปิดจากข้างในได้ไงล่ะ

ดูท่าจะมีการเปิดมาตรการป้องกันประหลาดบางอย่างในกรณีที่ห้องสมุดไม่มีคนอยู่อีกด้วย ช่างวุ่นวายซะจริง!

“เราคงต้องรีบหน่อยแล้ว ดูท่าเราคงกระตุ้นบางอย่างที่ไม่ควรถูกปลุกซะแล้ว”

“นั่นสิ เอวเธอไม่เป็นไรใช่ไหม”

ผมมองเอวของอาร์ย่า ที่บนชุดเกราะยังมีรอยจับอยู่

“ไม่เป็นไร มันเป็นถึงเกราะเบาที่สร้างด้วยวัสดุที่แข็งมาก ฉันขโมยมาได้ไม่ง่ายเลยนะ”

“เฮ้…หรือว่าเธอ…”

“ซื้อไม่ได้ฉันก็ต้องขโมยมาสิ ไม่สิ ควรจะบอกว่าไปหยิบมา”

“มันก็คือขโมยนั่นแหละ”

“นายนี่สมองกลวงจริงๆ นายคิดดูสิ ตอนนายเล่นเกม RPG นายหยิบของของคนอื่นจากกล่องของชาวบ้าน นายต้องจ่ายเงินไหมล่ะ”

“คือ…ฉันก็ไม่ได้จ่ายน่ะสิ”

“ก็นั่นแหละ ฉันก็แค่เข้าไปหยิบของบางอย่างในบ้านพวกเขาเท่านั้นเอง ในเมื่อเอามาได้แล้วทำไมฉันต้องง่ายเงินด้วยล่ะ”

“ทฤษฎีของเธอช่างล้ำลึกจริงๆ ข้าน้อยขอคารวะ”

“ไม่ต้องมากพิธี จะว่าไปที่นายมาเอาหนังสือของสถาบันก็เป็นการขโมยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”

“เอาเถอะ ฉันผิดไปแล้วโอเคไหม เรารีบไปที่ชั้นถัดไปดีกว่า หนังสือชั้นนี้ไม่มีค่าอะไรสำหรับฉันเลย”

“นั่นก็แน่อยู่แล้ว แต่การไปชั้นถัดไปมันไม่ง่าย แผนเดิมคือฉันต้องปีนขึ้นไปที่หน้าต่างชั้นบนหรือหาบันไดอื่นขึ้นไป แต่ตอนนี้คงทำไม่ได้แล้ว”

“…”

ผมมองห้องสมุดที่อยู่ส่วนลึกของความมืด พร้อมกับคิด

“ไม่แน่…เราอาจจะใช้มอนสเตอร์ตัวนั้นได้”

“ฮะ”

“เธอคิดดูสิ มอนสเตอร์ตัวนั้นอาจจะไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเฉยๆ มันต้องออกมาจากสักที่แน่”

“ก็จริง! นายก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย”

“ขอบใจที่ชม”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด