ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 29-1 สลับตัวคุณหนูไฮโซ (จบ)

อ่านนิยายจีนเรื่อง ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก ตอนที่ 29 จบ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

คืนอันหนาวเหน็บของต้นฤดูใบไม้ผลิสายลมยังคงหนาวไปจนถึงกระดูก

ภายในย่านเมืองเก่าทางตอนเหนือของเมือง

D เวลายังไม่ถึงสองทุ่มท้องฟ้าก็มืดตึ๊ดตื๋อ

คนเดินถนนบางตา ร้านค้าสองข้างทางก็ปิดร้านเลิกงานกันไปก่อนแล้ว

โคมไฟส่องถนนที่ดูขมุกขมัวฉายให้เห็นเงายาว ๆ

ที่สะท้อนกลับด้านอยู่ตรงถนนอย่างเดียวดาย

เงาผอมบางเดินเตร็ดเตร่อยู่บนถนนอย่างเงียบงันท่ามกลางความมืดที่เคลื่อนผ่านอย่างรวดเร็ว

จากนั้นก็มีรถส่วนบุคคลแล่นจากมุมถนนเข้ามาอย่างช้า ๆ

พอเห็นรถคันนั้นเงาร่างนั่นก็ดูราวกับจะตกใจกลัวและพุ่งเข้าไปในซอยตันข้าง ๆ

ที่ไม่มีผู้คน

ภายในซอยไม่มีโคมไฟ

ข้างกำแพงกองพูนด้วยขยะที่ทิ้งกันเป็นประจำ และใกล้ ๆ

กองขยะก็เป็นที่พักพิงชั่วคราวของสุนัขจรจัดสองตัว

“โฮ่ง โฮ่ง! โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!”

จู่ๆ

ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญพุ่งเข้ามาในซอยอย่างกะทันหัน

สุนัขจรจัดที่อยู่ในซอยตื่นตระหนกตกใจ พวกมันอดไม่ได้ที่จะเห่าตะโกนเสียงดัง

แล้วเงาร่างที่ดูร้อนรนนั่นก็ยกเท้าเตะส่ง ๆ ออกไปในความมืดสองสามที “อย่าเห่า!

อย่าเห่านะ!”

เป็นเสียงแหบต่ำของผู้หญิงที่จงใจกดเสียงให้เบาลง

สุนัขจรจัดสองตัวดูแล้วไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่

พอโดนเตะถูกก็ล้มลงไปกองกับพื้นพลางร้องเอ๋ง ๆ ออกมา

“ก็บอกพวกเธอแล้วไงว่าอย่าเห่า”

เจี่ยงโยวกระชับเสื้อคลุมบาง

ๆ ตัวนั้นให้แน่นหนาขึ้น เธอขมวดคิ้วรู้สึกเหมือนที่ปลายเท้าจะเหยียบถูกอะไรเข้า

นี่คือ…

พอสายตาของเจี่ยงโยวเริ่มคุ้นชินกับความมืดในซอยแล้ว

เธอก็ก้มศีรษะลงไปมองใต้เท้าของตัวเอง ดวงตาเธอเบิกกว้างขึ้น

เธอ…เหยียบแขนของคนผู้หนึ่งเข้า?

ช่วงที่กำลังสับสนอลหม่าน

เจี่ยงโยวก็หมุนตัวเตรียมจะวิ่งออกไปทันที

การตายของเวินเหวินเฮ่าได้ทิ้งเงามืดที่ไม่อาจลบล้างในใจเธอไปแล้ว

คืนนั้นภายในห้องใต้ดินอันมืดมิดนั่น

เธอถูกเวินเหวินเฮ่าที่กำลังเสียสติทำร้ายสารพัดเป็นเวลาหลายชั่วโมง

ประจวบกับตอนที่เธอกำลังสิ้นหวังและนึกว่าตัวเองจะต้องตายอยู่ในนั่นแล้วนั้น จู่ ๆ

เวินเหวินเฮ่าก็ล้มลงไปกับพื้น ใบหน้าซีดเผือก เขากลิ้งไปมาอย่างเจ็บปวดอยู่บนพื้น

ขณะที่เวินเหวินเฮ่ากำลังดิ้นอยู่กับพื้น

เจี่ยวโยวก็อาศัยจังหวะหยิบมีดที่พื้นขึ้นมาตัดเชือก

เธอในตอนนั้นบาดเจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว แต่เพื่อเอาชีวิตรอดเธอจึงดึงพลังที่ซ่อนเร้นของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่

เพียงแต่ตอนที่เธอกำลังหลบหนีอยู่นั้น จู่ ๆ

เวินเหวินเฮ่าที่มีเลือดไหลไม่หยุดก็เข้ามาสวมกอดเธอเอาไว้

ระหว่างที่คนสองคนกำลังยื้อยุดกันอยู่

เจี่ยงโยวก็ใช้มีดบนมือแทงทะลุหัวใจเวินเหวินเฮ่า

เลือดอุ่นร้อนกระเด็นเข้าหน้าเจี่ยงโยว

เวลานั้นราวกับโลกทั้งใบเป็นสีเลือด

เธอเห็นเวินเหวินเฮ่าเบิกตากว้างจากนั้นก็หมดลมหายใจไปทีละนิด ๆ ต่อหน้าเธอ

เขาตายแล้ว? ฉัน…ฆ่าคนลงไปแล้ว?

ฆ่าคน

เจี่ยงโยวไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะลงมือฆ่าคนได้

แต่ว่า…เธอไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจ

“ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ฉัน”

เจี่ยงโยวลุกลี้ลุกลนโยนมีดทิ้งไป

แล้วเดินโซซัดโซเซออกจากคฤหาสน์ของเวินเหวินเฮ่า

เจี่ยงโยวรู้ว่าตัวเองไม่อาจกลับบ้านได้ เธอจึงกดเงินจำนวนหนึ่งที่ตู้ ATM ของธนาคารเป็นสิ่งแรก จากนั้นค่อยหาทางหลบซ่อนตัว…

ขณะนี้ตำรวจในเมือง

D ได้ออกหมายจับตัวเธอแล้ว

เจี่ยงโยวจึงพยายามใช้เงินก้อนนั้นอย่างประหยัดและเช่าพักอยู่ในห้องใต้ดินที่เก่าโทรมของเมืองเก่า

เธอต้องรอให้เป็นเวลากลางคืนเท่านั้นถึงจะกล้าออกมาเดินรับลม

ซื้อของใช้ประจำวันบางส่วนได้

ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอเรื่องทำนองนี้ในซอยที่ไม่มีใครเอ่ยถึงแห่งนี้ได้

คนผู้นั้นตายหรือยังนะ

ถ้าหากตายแล้วล่ะก็พรุ่งนี้จะมีคนมาพบเข้าหรือเปล่า

ตำรวจจะสาวเรื่องมาเจอเธอถึงที่นี่ไหม

เจี่ยงโยวคิดอะไรไปมากมายอยู่ช่วงหนึ่ง

จากนั้นเธอก็รั้งเท้าที่เตรียมจะจากไปเอาไว้ ไม่

ไม่อาจปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้

เธอเป็นผู้บริสุทธิ์

เธอไม่ได้ฆ่าเวินเหวินเฮ่า เป็นเวินเหวินเฮ่าที่ต้องการจะฆ่าเธอ

เธอป้องกันตัวต่างหาก

เธอไม่อยากติดคุก

เธอไม่อยากถูกจับตัว เธอเป็นผู้บริสุทธิ์นะ

พอคิดได้อย่างนี้เจี่ยงโยวก็กัดฟันหมุนตัวกลับไปยังจุดที่เธอยืนอยู่เมื่อสักครู่นี้

เธอโค้งตัวออกแรงดึงแขนข้างนั้นของคนที่ดูท่าจะตายแล้วคนนั้นออกมา

ผู้ที่อยู่ตรงหน้าเจี่ยงโยวเป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าเด็ดเดี่ยวและดูลึกล้ำคนหนึ่ง

อาจกล่าวได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่หล่อมาก และเวลานี้ร่างกายของเขายังอุ่นอยู่

เขายังมีลมหายใจ!

เขายังมีชีวิตอยู่

ไม่ใช่คนตาย

ในที่สุดเจี่ยงโยวก็ถอนหายใจออกมา

พอเห็นเลือดบนอกชายหนุ่มและเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่เห็นเด่นชัดว่ามีราคานั่นสวมอยู่บนข้อมือเขา

เจี่ยงโยวก็ลังเลไปพักหนึ่ง

หากเอานาฬิกาเรือนนี้ไปขายที่ตลาดมืดคงได้เงินจำนวนไม่น้อย

แต่การหยิบไปโดยไม่ถามไถ่ก็คือการขโมย

ถึงแม้เธอจะถูกหมายจับอยู่

แต่พอคิดไปว่าตัวเองเป็นถึงเจี่ยงโยวผู้ซื่อสัตย์ทั้งคำพูดและการกระทำจึงไม่ยอมให้ตัวเองทำตัวเป็นขโมยในเวลานี้ได้

ลังเลอยู่พักหนึ่งเจี่ยงโยวก็กระพริบตา

สุดท้ายเธอตัดสินใจออกแรงยกชายหนุ่มที่หมดสติอยู่พาดหลังของตัวเอง

จากนั้นก็ขยับเดินพาเขาออกจากซอยไปอย่างยากลำบาก

ในเมื่อคนผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่

เธอก็จะช่วยชีวิตเขา ถ้าหากตัวเขามีมูลค่าสูงจริง ๆ

เธอในฐานะผู้มีพระคุณช่วยชีวิตก็คงไม่ขาดทุน

เกิดเขาเป็นผู้มีอำนาจไม่แน่เขาอาจจะยังช่วยพลิกคดีให้เธอก็เป็นได้?

เจี่ยงโยวโอบกอดความรู้สึกอันซับซ้อนนี้แล้วแบกชายผู้นั้นไปที่บ้านของตัวเอง

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก

เพื่อช่วยชีวิตเขาเจี่ยงโยวก็เลยต้องหาหมอเถื่อนผู้หนึ่งโดยเอาเงินที่ตนมีอยู่ทั้งหมดมาจ่ายเป็นค่ารักษา

หลังการผ่าตัด

ชายหนุ่มยังคงหมดสติดังเดิม แต่สีหน้าเขาดูดีขึ้นเรื่อย ๆ

พอถึงคืนวันที่สามเจี่ยงโยวที่อยู่ในสภาพหมดตัวก็หิวจนทนไม่ไหว

เธอมองชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงไม้ภายในห้องอันมืดมิดและอับชื้น

โดยมีนาฬิกาข้อมือประดับเพชรเรือนนั้นของเขาที่ยังคงส่องประกายระยิบระยับอยู่ในความมืด

เจี่ยงโยวกลืนน้ำลาย

สายตาลังเลเล็กน้อย

“โครกคราก”

ท้องร้องอย่างกลั้นไม่อยู่อีกแล้ว

เจี่ยงโยวที่หิวจนหัวหมุนไม่มีเรี่ยวแรงไปทั้งตัวในที่สุดก็ค่อย ๆ

ลุกขึ้นเดินทีละก้าว ๆ ไปอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม นิ้วเธอแข็งทื่อแต่สุดท้ายก็แตะไปที่นาฬิกาข้อมือมีราคาเรือนนั้น

“ฉัน…ฉันหิวมากจริง ๆ นะคะ ฉันขอเอามันไปจำนำหน่อยนะ แบบนี้ทุกคนก็จะได้มีอะไรทาน

คุณเปลี่ยนยาทานข้าวก็ต้องใช้เงินใช่ไหมล่ะคะ

ถ้าคุณไม่พูดก็แสดงว่าคุณเห็นด้วยแล้วนะคะ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด