ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 17 โบนัสสิ้นปีจำนวนมาก
ตอนที่17 โบนัสสิ้นปีจำนวนมาก
เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว จ้าวเฉียนก็แวะมาที่ห้องทำงานของฟางนี่
“คุณชายจ้าว มีอะไรหรือเปล่าค่ะ?”
ฟางนี่รีบลุกขึ้นพร้อมโค้งศีรษะให้ ก่อนจะสลับตำแหน่งที่นั่งให้จ้าวเฉียนโดยไว
จ้าวเฉียนเองก็ไม่เกรงใจเช่นกัน และเดินเข้าไปนั่งตำแหน่งนั้นแทนเธอ
“ฝากคุณบอกหัวหน้าแผนกเทคนิคทีว่า หลังจากนี้จะต้องทำงานล่วงเวลาให้ได้มากที่สุด ต้องเร่งพัฒนาให้ได้ตามแผนของซิงหยวน”
“ทางซิงหยวนรีบเกินไปรึเปล่าค่ะ?”
“ไม่ใช่ว่าทางซิงหยวนกำลังรีบอะไรหรอก แต่ฉันนี่แหละที่กำลังรีบ ในปัจจุบันไม่มีเกมมือถือเกมไหนที่เข้าคู่กับLeague of Legends[1] เวอร์ชั่นมือถือได้เลย ตราบใดที่เปิดตัว ฉันคิดว่าตลาดเกมมือถือต้องลุกเป็นไฟแน่นอน ประธานซิงหยวนกับผมพอรู้จักกันอยู่บ้าง ได้แลกเบอร์กันและกันไว้ล่วงหน้าแล้ว พรุ่งนี้ผมจะเชิญเขาออกไปทานอาหารด้วยกัน จะลองเจรจาดูว่าทางบริษัทของเราจะพอเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับเกมนี้บ้างเหรือไม่ ถ้าได้ขึ้นมา พวกเราสามารถทำกำไรได้แน่นอนภายในค่ำคืน!”
ฟางนี่มีความสุขอย่างมากเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอรีบพยักหน้าบอกทันทีว่าไม่มีปัญหา จากนั้นก็เร่งติดต่อไปหาแผนกพัฒนาเพื่อเร่งทำงานทันที
ที่จริงแล้วเป็นเรื่องปกติมากสำหรับพวกโปรแกรมเมอร์ที่ทำงานล่วงเวลา และนอนดึกเป็นประจำ ทางพนักงานพวกนั้นไม่มีปฏิเสธแน่นอน อย่างไรก็ตาม จ้าวเฉียนก็คำนึงถึงความเสมอภาคเช่นกัน จึงกำชับฟางนี่ฝากบอกกับพวกแผนกพัฒนาไว้ว่า ตราบใดที่เกมสามารถเปิดให้เล่นได้ภายในครึ่งปี โบนัสสิ้นปีของทุกคนไม่น้อยกว่าหกหลักแน่นอน
แต่ในเรื่องนี้ฟางนี่ค่อนข้างกังวลอย่างมาก มีโปรแกรมเมอร์ในแผนกพัฒนาไม่ต่ำกว่า20คน แล้วเธอจะหาเงินหกหลักมาจ่ายกับทุกคนจากที่ไหน?
จ้าวเฉียนเปล่งเสียงหัวเราะเอ่ยขึ้นว่า
“ตอนนี้ผมเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องกังวลเลย แค่ทำตามที่ผมพูดไปเท่านั้นพอ”
ฟางนี่ที่ได้ยินแบบนั้นก็พลันนึกขึ้นได้ว่า ตอนนี้เธอไม่ใช่เจ้าของบริษัทนี้อีกต่อไป
“หุหุ…ฉันลืมไปเลยว่าตอนนี้คุณคือเจ้าของคนใหม่ เอาล่ะ ฉันจะรีบบอกพวกเขาทันที”
ฟางนี่รีบติดต่อกับพนักงานแผนกพัฒนาทันที และพวกเขาที่ได้ยินว่า โบนัสสิ้นปีไม่ต่ำกว่าหกหลักแน่นอน พวกเขาก็ยินดีตอบตกลงในทันใด
เหตุผลที่จ้าวเฉียนยอมจ่ายเงินเป็นจำนวนมากขนาดนี้ เป็นเพราะประการแรก ทัศนคติของเขาต่อเกมนี้ค่อนไปทางบวก ประการที่สองนี่ก็เพื่ออู๋ซินเอง และประการที่สาม สิ่งนี้ถูกเตรียมไว้สำหรับแพลตฟอร์มไลฟ์สตีมในอนาคต
เกมที่ทำรายได้สูงสุดในปัจจุบันบนแพลตฟอร์สตีมมิ่งคือเกมอะไร? ทุกคนที่เป็นสายเมอร์ย่อมรู้ดีเป็นที่สุด รายได้ที่เกี่ยวกับได้จากธุรกิจนี้นับเป็นเม็ดเงินมหาศาลแค่ไหน? แต่ปัญหาคือ เหล่าผู้ชมมีอิสระในการเลือกชมมากเกินไป ดังนั้นหลายต่อหลายค่ายจึงพยายามสร้างคอนเทนต์นี่แปลกใหม่หรือน่าสนใจ เพื่อดึงดูดคนเหล่านี้มา
อย่างไรก็ตาม ไลฟ์สตีมสายร้องเพลงจำพวกอู๋ซิน จะบอกให้มาเล่นเกมแนวนี้ให้เก่งในทันทีทันใดก็ไม่ใช่ ด้วยฝีมือของเธอในตอนนี้ไม่มีใครอยากมาดูไก่ถูกเชือดแน่นอน
เทคนิคการเล่นเกมมันไม่เหมือนกับการเข้าชั้นเรียน ตราบใดที่อู๋ซินมีวินัยฝึกฝนฝีมือจนเล่นดีขึ้น ไม่นานเธอจะกลายเป็นคนดังของแพลตฟอร์มแน่นอน และไม่จำเป็นต้องมานั่งร้องเพลงตามคำขอเพื่อให้ทุกคนจ่ายเงินให้อีกต่อไป
และอีกหนึ่งความโชคดีคือ เกม League of Legends หรือเกมMOBA [2] ชนิดอื่นๆ ภายในคอมพิวเตอร์ เนื่องด้วยระบบการเล่นที่ซับซ้อน แน่นอนว่าผู้คนจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึกเล่นให้ชำนาญ แต่สำหรับเกมMOBAในมือถือแล้วกลับง่ายกว่ามาก ขอเพียงให้เวลาอู๋ซินได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยสักหน่อย เธอจะเก่งได้ในไม่ช้าอย่างแน่นอน
แผนของจ้าวเฉียนคือ เขาต้องการสร้างสตีมเมอร์ดาวเด่นประจำแพลตฟอร์มขึ้นมาสักคนและนั้นก็คืออู๋ซิน เมื่อไหร่ที่กระแสได้รับความนิยม ประกอบกับอุปกรณ์ไลฟ์สตีมและฉากประกอบที่ดีพอ เม็ดเงินจำนวนมหาศาลก็จะหลั่งไหลเข้ามาเองจากการส่งของขวัญ โดเนทเป็นเงิน
ส่วนแผนBคือ หากแพตฟอร์มของเขาไม่ได้รับกระแสความนิยมเท่าที่ควรเฉกเช่นเฟยอวี่ จ้าวเฉียนก็พร้อมที่จะหุบแพลตฟอร์มอื่นเข้ามาบริหารเอง
สุดท้ายนี้ เขาวางแผนจะใช้อู๋ซินเพื่อเป็นตัวชูโรงและผันตัวจากสตีมมิ่งสายร้องเพลง เป็นสตีมมิ่งสายเกมเต็มตัว ดังนั้นแล้วตัวแปรที่สำคัญที่สุด ณ ขณะนี้คือตัวเกม จ้าวเฉียต้องการให้เกมพัฒนาเสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด ทุกอย่างจึงจะสมบูรณ์แบบ ดังนั้นแล้วเขาจึงยินดีที่จะจ่ายโบนัสจำนวนหกหลักให้แก่โปรแกรมเมอร์ทุกคน
สำหรับเขาแล้ว เวลาหรือทามมิ่งคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายมันไม่ใช่ปัญหาเลย
สืบเนื่องด้วยพื้นฐานทางการเงินของตระกูลเขามันมั่นคงยิ่งกว่าอะไร ขอแค่ประสบความสำเร็จ ต่อให้ต้องแลกมาด้วยเงินจำนวนมหาศาลเขาก็พร้อมจ่ายออกไปได้ทุกเมื่อ ปัจจัยพื้นฐานด้านการเงิน มันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรต้องมานั่งกังวลอีกต่อไป
คล้อยหลังไม่นาน ฟางนี่ก็วางสายโทรศัพท์ลงและกล่าวกับจ้าวเฉียนอย่างยิ้มแย้มว่า
“พวกโปรแกรมเมอร์ที่ได้ยินแบบนั้นต่างดีใจอย่างมาก พวกเขาบอกว่า เพื่อโบนัสหกหลักแล้ว ทุกคนขอสู้ตาย!”
“ฮ่าฮ่า…งั้นก็ดีแล้ว ทีแรกผผมก็กังวลว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจกันทำงานล่วงเวลา พอได้ยินแบบนี้ก็สบายใจขึ้นหลายเป๊าะ”
จ้าวเฉียนลุกขึ้นจากที่นั่งขณะกำลังจะจากไป จู่ๆ ฟางนี่ก็รีบเอ่ยปากหยุดเขาโดยเร็ว
“เอ่อ…คุณชายจ้าว คืนนี้คุณพอจะมีเวลาว่างไหม? ฉันอยากช่วยคุณไปทานอาหารค่ำด้วยกัน พอดีต้องการคุยเรื่องแผนการพัฒนาของบริษัทในไตรมาสหน้าด้วย”
จ้าวเฉียนพยักหน้าตอบอย่างมีความสุขและตอบกลับไม่มีลังเลว่า
“ได้เลย! ผมจะรอคุณที่ประตูอาคารด้านหลัง หลังเลิกงานเจอกันครับ”
ฟางนี่พยักหน้าตอบพร้อมภายใจที่เต้นตึกตัก เธอมีความสุขอย่างมากและรีบวิ่งไปเปิดประตูส่งจ้าวเฉียนออกไป ในเวลานี้เธอเฝ้ามองจ้าวเฉียนด้วยแววตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก
ฟางนี่เธออายุสามสิบแล้วก็จริง ทั้งยังโสดมานานกว่าหกปีแล้ว แต่เธอถือเป็นผู้หญิงในช่วงวัยแตะสามสิบที่สวยมาก ใส่ใจกับเรื่องรูปร่างและสุภาพเป็นอย่างดี แต่ก่อนเธอตั้งใจไว้ว่าจะอุทิศตัวให้กับบริษัทและโสดไปจนวันตาย ทว่าตอนนี้บุคคลผู้เปลี่ยนความคิดเหล่านั้นกลับปรากฏขึ้นและอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว นั้นก็คือจ้าวเฉียนนั้นเอง
“นี่พวกนายได้ยินไหม? เมื่อกี้ประธานฟางโทรบอกกับแผนกพัฒนาว่า ต้องการให้พวกเขาทำงานล่วงเวลาเพื่อส่งงานให้กับทางซิงหยวนให้เสร็จโดยเร็ว ตราบใดที่อำสำเร็จได้ในครึ่งปี ทุกคนจะได้โบนัสอย่างน้อยหกหลัก!”
“เยอะอะไรขนาดนั้น! โบนัสสิ้นปีของพวกนั้นแค่ครั้งเดียวก็เทียบเท่ากับเงินเดือนของพวกเขาสองปีเต็ม!”
“เกินสองปีด้วยซ้ำเจ้าบ้า! ไม่น้อยกว่าหกหลักเลยนะ หมายความว่าถ้าผลตอบรับดีเกินคาด อาจจะได้มากกว่าหกหลักด้วยซ้ำ….อาจสูงแตะเจ็ดหลักก็ได้!!”
“นี่…นี่มันมากเกินไปแล้ว! ฉันเคยคิดนะว่าอาชีพโปรแกรมเอร์น่าสงสารมาก แต่ดูตอนนี้สิ! ฉันว่ากลับเป็นพวกเราต่างหากที่น่าสงสาร เห้อออ…ถ้ารู้แบบนี้ฉันคงเลือกเรียนเป็นโปรแกรมเมอร์ตั้งแต่แรกดีกว่า…”
พวกพนักงานแผนกวางแผนและแผนกการตลาดต่างกระซิบกระซาบกันเสียงเบา แน่นอนว่าทุกคนต่างอิจฉาคนของแผนกพัฒนาอย่างมาก
จ้าวงเฉียงที่ได้ยินแบบนั้นก็กังวลว่า เรื่องนี้อาจกระทบไปถึงคุณภาพการทำงานได้ ดังนั้นจึงเดินเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้มขึ้นว่า
“อย่าไปอิจฉาพวกไม่ได้นอนข้ามวันข้ามคืนเลย ดูแต่ละคนสิ อายุเพิ่งจะ30แต่เครียดจนหัวล้านอย่างกับคนอายุ50 ให้พวกเขาได้โบนัสสิ้นปีนี้ไปปลูกผมเถอะ ช่างเถอะ ช่างเถอะ มาคุยเรื่องของพวกเราดีกว่า พวกนายไม่อยากรู้ความลับอะไรดีๆ หน่อยเหรอ?”
เจวียงหยวนได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มเยาะกล่าวขึ้นว่า
“นี่นายเป็นพวกคลั่งลัทธิปลูกฝังเรื่องไร้สาระให้พวกเขาฟังรึไง? ถ้าได้โบนัสสิ้นปีแบบพวกนั้น เอาจริง…ฉันยอมหัวล้านนะ เพราะสุดท้ายแก่ตัวไปก็ต้องหัวล้านอยู่ดีนั้นแหละ นายไม่ได้มีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดูแบบคนอื่นๆ สักหน่อย จะไปเข้าใจอะไรได้?”
จ้าวเฉียนเหลือบมองเขาพลางหัวเราะเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดของเขานัก และเอ่ยต่อขึ้นว่า
“นี่พวกนายลองคิดดูให้ดีนะ บริษัทของเราในปัจจุบันตกอยู่ในสภาวะที่ไม่สู้ดีนัก แต่การที่ประธานฟางยอมเอ่ยปากว่า ยินดีที่จะจ่ายโบนัสให้ในราคาสูงขนาดนี้ พวกนายรู้ไหมว่ามันหมายความว่ายังไง?”
“หมายความว่ายังไงเหรอ?”
เจวียงหยวนเอ่ยถามแทรกขึ้นว่า
“เออ! นั้นสิ หมายความว่ายังไง ไหนมาดูคุณชายจ้าวของเราชี้แจงกันหน่อย?”
จ้าวเฉียนกล่าวต่อว่า
“หากแผนกพัฒนาทำงานล่วงเวลาจนปิดโปรเจคนี้ได้ภายในครึ่งปี นั้นหมายความว่ามันจะสร้างผลกำไรเป็นจำนวนมหาศาลให้กับบริษัทไงล่ะ! ถ้าถึงขนาดบอกว่า ยอมจ่ายโบนัสสิ้นปีเป็นจำนวนหกหลัก แสดงว่าผลกำไรต้องมากกว่านั้นอย่างน้อยสามถึงสี่เท่า!! บางที…ประธานฟางอาจขึ้นเงินเดือนให้พวกเราด้วยก็ได้ พวกนายไม่คิดแบบนั้นเหรอ?”
สิ่งที่จ้าวเฉียนสิเคราะห์ไปทำเอาพวกเพื่อร่วมงานผงกศีรษะเห็นด้วยตามๆ กัน คงไม่มีใครจ่ายเงินโบนัสจนบริษัทต้องขาดทุนเหรอ ในทาตรงข้าม จะต้องมีกำไรเยอะขนาดไหนถึงกล้าจ่ายโบนัสขนาดนี้โดยไม่มีเสียดาย! ไม่ใช่แค่นั้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ยังน่าจะส่งผลไปถึงเงินเดือนของทุกคนในบริษัทอีกด้วยแน่นอน!
พอได้ฟังแบบนั้นทุกคนก็มีกำลังใจขึ้นอีกครั้งมันที แต่ละคนรีบกระจายตัวกลับเข้าโต๊ะทำงาน เริ่มงานต่ออย่างขยันขันแข็ง
จ้าวเฉียนกวาดสายตาเหลือบมองพนักงานที่แสนน่ารักเหล่านี้ พลางอดหัวเราะไม่ได้
พอใกล้จะเลิกงาน พวกพนักงานในแผนกพัฒนาต่างรีบออกไปกินข้าว เพื่อเติมพลังกลับมาทำงานล่วงเวลากันต่อ
จ้าวเฉียนรอฟางนี่อยู่ที่ทางเข้าด้านหลังของอาคาร
“ประธานฟาง คุณอยากกินข้าวที่ไหนเป็นพิเศษไหม?”
“อืม…อะไรก็ได้นะตามที่คุณอยากเลย แต่ฉันขอกลับบ้านก่อนได้ไหม?”
“ได้สิ งั้นไปกันเถอะ”
“ถ้างั้นฉันไม่ขับรถนะ ขอนั่งไปกับคุณได้ไหม?”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและพาฟางนี่ไปที่ลานจอดรถ เพื่อขึ้นรถขึ้นขับพาเธอไปส่งที่บ้าน
ในขณะนั้นเอง หวันซวนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลพลอยเห็นทั้งสองขึ้นรถไปด้วยกันเข้า จึงนึกอะไรได้รีบขับตามไปทันที
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงหน้าประตูบ้านของฟางนี่
“คุณชายจ้าว มาจอดรถข้างในบ้านแล้วนั่งรอฉันก่อนดีกว่าจะได้ไม่ลำบาก”
“ได้เลย”
จ้าวเฉียนขับเข้าไปจอดด้านในบ้านและเดินเข้าไปพร้อมกับฟางนี่
หวันซวนที่เห็นแบบนั้นรีบกดปุ่มกล้องถ่ายรูปบนมือถือและถ่ายภาพทั้งหมดเก็บไว้ทันทีหลายสิบภาพ
“ฉันก็ว่า…ทำไมพักหลังมานี้ประธานฟางถึงสุภาพกับไอ้เจ้าจ้าวเฉียนแปลกๆ ปรากฏว่าเธอคงติดใจลีลาของมันไม่น้อย! จ้าวเฉียน….หลังจากนี้ฉันขอดูหน่อยว่า แกยังมีหน้าอยู่ในบริษัทนี้ต่อยังไง!?”
หวันซวนแสยะยิ้มชั่วเผยออกมาทันที และรีบส่งรูปถ่ายทั้งหมดไปให้ เจวียงหยวน หวังเฉียงและเจียงเสี่ยวปิงทันที
[1] หนึ่งในเกมMOBAที่ฮิตที่สุดในประเทศจีน
[2] เกมแนววางแผน บุกตีป้อมฝ่ายตรงข้าม
คอมเม้นต์