ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 144 อย่าไปยุ่งกับเขา

อ่านนิยายจีนเรื่อง ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี ตอนที่ 144 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่144 อย่าไปยุ่งกับเขา

บรรดาทายาทเศรษฐีทั้งหลายต่างคิดแค่ว่า จ้าวเฉียนกำลังเล่นตลกฉากใหญ่ และพวกเขาก็เตรียมซ้ำเติมหวังทำให้อีกฝ่ายอับอาย แต่ใครจะไปคิดว่า หยางหมิงกลับสั่งให้อวู่เฉียนขอโทษเขาจริงๆ

อวู่เฉียนโกรธจัด ตวาดเสียงดังลั่นว่า

“นี่ฉันได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่า? ให้ฉันขอโทษมัน? คุณคิดว่าฉันเป็นตัวอะไร?!”

หยางหมิงรีบแย้งขึ้นทันที

“ดูผู้คนรอบตัวสิ พวกเขากำลังจับตาดูเราอยู่ เลิกทำตัวให้ดูน่าอายได้แล้ว รีบขอโทษจะได้จบๆ หรืออยากกลายเป็นกระแสดังในอินเตอร์เน็ตกัน?”

จ้าวเฉียนอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นหยางหมิงพยายามหาเหตุผลแถสุดกำลัง

ไม่รู้เลยว่าอวู่เฉียนเป็นเด็กไอคิวต่ำหรือเธอไร้เดียงสาจริงๆ กลับเชื่อเรื่องไร้สาระของหยางหมิงเข้าอย่างจัง และกลัวตกเป็นข่าวบนโลกอินเตอร์เน็ต

“ถูกต้องแล้ว พวกเราเป็นชนชั้นสูง จะให้มีข่าวว่าเกลือกกลั้วกับพวกชั้นต่ำไม่ได้เด็ดขาด ถ้าทุกคนเห็นภาพถ่ายที่พวกเรามาเที่ยวกับไอ้ขยะแบบนี้ขึ้นมา จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน? จงภูมิใจซะนะที่คนต้ำต้อยอย่างนายได้รับเกียรติฟังคำขอโทษจากฉัน ขอโทษพวกเธอทั้งคู่แล้วกัน”

อวู่เฉียนเหลือบหางตามองจ้าวเฉียนด้วยความรังเกียจ

ไม่ว่าอวู่เฉียนจะขอโทษจากใจจริงหรือไม่เต็มใจขอโทษ ถึงอย่างนั้น ถือว่าคำขอของจ้าวเฉียนได้สิ้นสุดลงแล้ว

จ้าวเฉียนหันมาพูดกับเหลียวเซียวหยุนว่า

“พอใจแล้วรึยัง?”

“ฉันไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ชั่งมันเถอะ ฉันเองก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล รีบเข้าไปข้างในกันเถอะ”

เหลียวเซียวหยุนกล่าวตอบออกไปอย่างเฉยเมย

จ้าวเฉียนนึกไม่ออกเลยว่า แท้จริงแล้วเหลียวเซียวหยุนเป็นคนแบบไหนกันแน่ ทีแรกก็ดูน่ารักไร้เดียงสา แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ซ่อนความเจ้าเล่ห์อยู่ไม่น้อย

กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวตรงเข้าสู่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เพื่อเยี่ยมชมบรรดาสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล พวกเขากำลังมุ่นอยู่กับการถ่ายรูป ซึ่งสถานที่แบบนี้จ้าวเฉียนมาแทบทุกเดือนตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก และค่อนข้างคุ้นชินกับสัตว์ชนิดต่างๆในทะเลเป็นอย่างดี

แต่กลุ่มคนพวกนี้คิดว่า จ้าวเฉียนเป็นคนจน คงไม่มีโอกาสมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้แน่นอน เรื่องชนิดสัตว์น้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาไม่มีความรู้แน่นอน ดังนั้นจำต้องใช้โอกาสนี้อวดเบ่งต่อหน้าเขา

“แฟนของเซียวหยุน รู้ไหมว่าสัตว์ชนิดนี้คืออะไร?”

เจียงหลี่หลินเอ่ยถามพร้อมชี้นิ้วออกไป จ้าวเฉียนมองไปยังแมงกะพรุนตัวหนึ่งมีชั้นใยแก้วสีใสขนาดใหญ่ก็อดหัวเราะไม่ได้ เขาส่ายหน้าและตอบไปแค่ว่า

“ไม่รู้ครับ คุณทราบหรอว่ามันคืออะไร?”

“ฮ่าฮ่าๆๆ…”

ทุกคนต่างระเบิดหัวเราะเยาะ

“ไม่แปลกหรอกที่คนจนอย่างนายจะไม่รู้ คงเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกสินะ? ช่างน่าสงสารจริงๆ!”

อวู่เฉียนพยายามกลั้นขำจนเนื้อตัวสั่นเทา

จ้าวเฉียนไม่ได้สนใจเธอหรือคนอื่นใดแม้แต่น้อย และเดินไปดูปลาอีกฝั่งหนึ่งอย่างสนอกสนใจ ทุกคนที่เห็นแบบนั้นต่างแห่กันเดินติดตามเข้าไปเช่นกัน

“หยางหมิง คุณรู้ไหมว่าปลาตัวนั้นมีชื่ว่าอะไร?”

อวู่เฉียนเอ่ยถามขึ้นพร้อมชี้ปลาตัวที่จ้าวเฉียนกำลังดูอยู่

หยางหมิงคลี่ยิ้มเล็กน้อยและตอบไปว่า

“มันคือปลา แอลเจิ้ลฟิช อาศัยอยู่ในน้ำลึกบริเวณเขตร้อน ต้นกำเนิดสายพันธุ์มาจากมหาสมุทรอินเดีย”

อวู่เฉียนปรบมือชื่นชมและกล่าวขึ้นว่า

“ว้าว! สุดยอดจริงๆ! ฉันไม่ยักรู้เลยว่าคุณจะมีความรู้รอบตัวขนาดนี้!”

ในเวลาเดียวกัน เจียงหลี่หลินก็ชี้ไปที่ปลาหลากสีสันตัวหนึ่งที่แวกว่ายอยู่ เธอเอ่ยถามแฟนหนุ่มขึ้นว่า

“ปลาตัวนั้นสีสวยจังเลย มันมีชื่อว่าอะไรเหรอที่รัก?”

แฟนหนุ่มปั้นหน้าเคร่งขรึมกล่าวตอบไปว่าสุขุมว่า

“มีชื่อภาษาถิ่นว่า ปลาเทวดา เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในตรักูลเกียวกับปลาหมอ โดยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในเขตน้ำอุ่น ถ้าจับมาเลี้ยงดูให้ดี อาจเพาะพันธุ์เป็นสีน้ำเงิน หรือทองก็ได้”

“เก่งจัง นายไม่เพียงหาเงินเก่งเท่านั้นนะ แม้แต่ความรู้รอบตัวก็ยังมีมาก เวลาว่างหลังจากทำงานแฟนฉันชอบอ่านหนังสือน่ะ”

ครึ่งแรกเจียงหลี่หลินเอ่ยชื่นชมแฟนหนุ่มของตน ก่อนที่ประโยคสุดท้ายจะหันมาบอกกับเพื่อนๆ

“เวลาว่างผมชอบอ่านหนังสือเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอน่ะครับ ถ้าเป็นคนทั่วๆไปคงเอาแต่เล่นเกมหรือไปเที่ยวจีบสาว แต่สำหรับผมการอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้สำคัญที่สุดครับ”

เจียงหลี่หลินกอดแขนแฟนหนุ่มแน่นอย่างมีความสุข พร้อมกล่าวว่า

“ฉันโชคดีจริงๆที่มีแฟนอย่างนาย หุหุ…”

……

จ้าวเฉียนและเหลียวเซียวหยุนดูพวกนั้นอวดแฟนกันใหญ่ หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนต่างมุ่งความสนใจไปที่จ้าวเฉียนอีกครั้ง

‘เป็นยังไงล่ะ? แฟนของพวกฉันสุดยอดไปเลยใช่ไหม? ไอ้แฟนขยะของเธอมันเทียบชั้นไม่ติด!’

นี่คือความคิดของกลุ่นวัยรุ่นหนุ่มสาวเหล่านั้นที่สอดคล้องกันอย่างน่าประหลาด

อวู่เฉียนเป็นพวกคุณหนูขี้แต่ใจตัวเอง เธอต้องสร้างความอับอายให้จ้าวเฉียนมากกว่านี้ ดังนั้นจึงชี้นิ้วไปที่ปลาอีกตัวและเอ่ยถามว่า

“แฟนของเซียวหยุน รู้ไหมว่าปลาตัวนั้นชื่ออะไร?”

ทันใดนั้นทุกคนต่างระเบิดหัวเราะเยาะลั่นทันที

“อวู่เฉียน หาปลาธรรมดาๆให้เขาทายหน่อยสิ ปลาหายากแบบนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วจะไปรู้ได้ยังไง?”

“ถูกต้อง อย่างน้อยๆก็เกรงใจเซียวหยุนหน่อยจะตีสุนัขต่อหน้าเธอไม่ได้นะ”

“ใช่แล้วๆ เปลี่ยนคำถามเถอะ เขาไม่รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว”

…….

จ้าวเฉียนจำได้ในทันทีว่านั้นคือ ปลาปักเป้าหกแฉก แต่เขาไม่คิดที่จะอยากอวดอ้างกับกลุ่มคนไร้สาระพวกนี้ ขณะที่กำลังจะส่ายหัวและตอบไม่รู้นั้น เหลียวเซียวหยุนก็กล่าวแทรกขึ้นทันควันว่า

“เรื่องง่ายๆแบบนี้เขาจะไม่รู้ได้ยังไง จ้าวเฉียนบอกพวกเขาไปสิว่า ปลาตัวนี้ชื่ออะไร คิดซะว่าเพิ่มพูนความรู้ใส่สมองพวกนั้น”

ทัศนคติของเหลียวเซียวหยุนค่อนข้างชัดแจ้งอย่างยิ่ง เธอต้องการให้จ้าวเฉียนแข่งกับพวกเขา

จ้าวเฉียนพยักหน้าและตอบไปว่า

“ปลาชนิดนี้ชื่อว่า ปลาปักเป้าหกแฉก จุดเด่นของปลาชนิดนี้คือ ส่วนครีบและหางจะสั้นประมาณ2-3เซนติเมตร หนามของมันมีพิษร้ายแรง เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในเขตน้ำแน บริเสณแนวปะการังน้ำจืด…”

จ้าวเฉียนแนะนำปลาชนิดนี้อย่างละเอียด รายยาวจนไปถึงวงจรการวิวัฒนาการของมันในรอบ100ปีภายในอึดใจเดียว ทุกคนรอบข้างได้อ้าปากค้าง แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

อวู่เฉียนกล่าวน้ำเสียงรวนเรดูไม่ค่อยมั่นใจว่า

“พูดมัวๆออกมาแบบนี้ใครก็พูดได้! ใครจะไปรู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือแต่งขึ้น? คำพูดของไอ้หมอนี่ไร้สาระจริงๆ”

เหลียวเซียวหยุนเหลือบมองอีกฝ่ายเจือสีหน้ารังเกียจ และกล่าวสวนไปว่า

“อวู่เฉียน ถ้าหุบปากไปบ้างก็ไม่มีใครว่าเธอโง่หรอกนะ เธอจงใจขัดขาแฟนฉัน ที่จ้าวเฉียนพูดไปเป็นความจริงหรือไม่ก็ลองค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตดูสิ ไม่ใช่พูดจาไร้สาระกล่าวหาคนอื่นส่งเดช”

บรรยากาศเย็นยะเยือกลงในชั่วอึดใจ ทุกคนกังวลอย่างหนักว่า เหลียวเซียวหยุนจะเปิดฉากทะเลาะกับอวู่เฉียน ดังนั้นพวกเขาจึงรีบชักชวนพาทั้งคู่ออกไปดูสัตว์น้ำชนิดอื่นๆแทน

จ้าวเฉียนจงใจชะลอความเร็วลงอย่างชัดเจน เดินห้อยท้ายกลุ่มคล้ายว่ากำลังรอใครบางคน

ไม่นานนัก หยางหมิงเองก็ชะลอความเร็วลงเช่นกันเพื่อรอจ้าวเฉียน

“วันนี้พวกเราถือซะว่ามาเดินเล่นแล้วกัน พยายามอย่าก่อเรื่องแล้วกัน แล้วไอ้มือถือเครื่องนั้นเก็บได้เก็บไปเดี๋ยวนี้เลย ฉันเสียวภาพหลุด!”

หยางหมิงกระซิบกระสากข้างหู่จ้าวเฉียน

จ้าวเฉียนไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ เขาตอบไปว่า

“ผมยังไม่ได้ก่อปัญหาอะไรเลยด้วยซ้ำ นายน้อยหยางควรเฝ้าอวู่เฉียนให้สงบปากสงบคำหน่อยนะครับ เห่าไม่เลิกแบบนี้ ถ้าผมเหลืออดขึ้นมาก็อย่าหาว่าไม่สุภาพดลยนะครับ บางทีทั้งไฟล์คลิปกับไฟล์ภาพทั้งหมดอาจจะหลุดวอนอินเตอร์เน็ตในชั่วอึดใจ!”

หยางหมิงทั้งกลัวและโกรธจัดในเวลาเดียวกัน แต่ต่อหน้าจ้าวเฉียนที่ถือไพ่ในมือเหนือกว่า เขาจำใจกล่าวเสียงอ่อนว่า

“เข้าใจแล้วน่า ไม่ต้องห่วง”

คล้อยหลังพูดจบ หยางหมิงก็รีบวิ่งตามกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวไปติดๆ เขาจะต้องทำให้อวู่เฉียนอารมณ์ดีและไม่ให้ไปก่อปัญหาแก่จ้าวเฉียนอีกเด็ดขาด

“คุณไปคุยอะไรกับมัน?”

อวู่เฉียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย

หยางหมิงยิ้มหวานให้โดยปราศจากร่องรอยความน่าสงสัย

“ไม่มีอะไร แค่ไปเตือนให้เขาหยุดก่อปัญหาเฉยๆ ระดับชนชั้นของพวกเรากับมันห่างกันเกินไป ทางที่ดีเธอไม่ควรไปยุ่งกับเขาแล้วดีกว่านะ”

อวู่เฉียนจับจ้องหยางหมิงด้วยความหลงใหล เธอยิ้มตอบไปว่า

“คุณเป็นคนใจกว้างจริงๆ ให้ความเมตตากับพวกเดนมนุษย์ได้ แต่มันบังอาจทำให้ฉันต้องขุ่นเคือง คุณต้องเอาคืนให้ฉันนะ”

หยางหมิงโอบกอดอวู่เฉียนแน่นพร้อมปลอบโยนไปว่า

“โอเค โอเค แต่ตอนนี้เราออกมาเดทกัน ดังนั้นปล่อยวางเรื่องพวกนี้ไปก่อนดีกว่าจริงไหม? โลกใต้ท้องทะเลยังรอเราอยู่ตรงหน้า ไปเดินต่อกันเถอะ”

“ค่ะ”

อวู่เฉียนยิ้มตอบอย่างมีความสุข

จากนั้นทั้งสองก็ควงคู่เดินเที่ยวชมสัตว์น้ำกันต่อ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด